Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา
2. Aññavādakasikkhāpadavaṇṇanā
๙๔-๙๘. ทุติเย อญฺญํ วจนนฺติ ยํ โจทเกน จุทิตกสฺส โทสวิภาวนวจนํ วุตฺตํ, ตํ ตโต อเญฺญเนว วจเนน ปฎิจรติฯ อถ วา อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรตีติ อเญฺญน การเณน อญฺญํ การณํ ปฎิจรตีติ เอวเมตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพ, ยํ โจทเกน จุทิตกสฺส โทสวิภาวนการณํ วุตฺตํ, ตโต อเญฺญน โจทนาย อมูลกภาวทีปเกน การเณน ปฎิจรตีติ วุตฺตํ โหติฯ ปฎิจรตีติ จ ปฎิจฺฉาทนวเสน จรติ, ปวตฺตตีติ อโตฺถฯ ปฎิจฺฉาทนโตฺถ เอว วา จรติ-สโทฺท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํฯ เตนาห ‘‘ปฎิจฺฉาเทตี’’ติฯ โก อาปโนฺนติอาทินา ปาฬิยํ โจทนํ อวิสฺสเชฺชตฺวา วิเกฺขปาปชฺชนวเสน อเญฺญน อญฺญํ ปฎิจรณํ ทสฺสิตํฯ อปรมฺปิ ปน โจทนํ วิสฺสเชฺชตฺวา พหิทฺธา กถาอปนามวเสน ปวตฺตํ ปาฬิมุตฺตกํ อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรณํ เวทิตพฺพํฯ ‘‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺติํ อาปโนฺนสี’’ติ ปุโฎฺฐ ‘‘ปาฎลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น ตว ปาฎลิปุตฺตคมนํ ปุจฺฉาม, อาปตฺติํ ปุจฺฉามา’’ติ วุเตฺต ‘‘ตโต ราชคหํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ‘‘ราชคหํ วา ยาหิ พฺราหฺมณคหํ วา, อาปตฺติํ อาปโนฺนสี’’ติ วุเตฺต ‘‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’’นฺติอาทีนิ วตฺวาว กถํ พหิทฺธา วิกฺขิปโนฺตปิ หิ ‘‘อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติ’’เจฺจว สงฺขํ คจฺฉติฯ
94-98. Dutiye aññaṃ vacananti yaṃ codakena cuditakassa dosavibhāvanavacanaṃ vuttaṃ, taṃ tato aññeneva vacanena paṭicarati. Atha vā aññenaññaṃ paṭicaratīti aññena kāraṇena aññaṃ kāraṇaṃ paṭicaratīti evamettha attho veditabbo, yaṃ codakena cuditakassa dosavibhāvanakāraṇaṃ vuttaṃ, tato aññena codanāya amūlakabhāvadīpakena kāraṇena paṭicaratīti vuttaṃ hoti. Paṭicaratīti ca paṭicchādanavasena carati, pavattatīti attho. Paṭicchādanattho eva vā carati-saddo anekatthattā dhātūnaṃ. Tenāha ‘‘paṭicchādetī’’ti. Ko āpannotiādinā pāḷiyaṃ codanaṃ avissajjetvā vikkhepāpajjanavasena aññena aññaṃ paṭicaraṇaṃ dassitaṃ. Aparampi pana codanaṃ vissajjetvā bahiddhā kathāapanāmavasena pavattaṃ pāḷimuttakaṃ aññenaññaṃ paṭicaraṇaṃ veditabbaṃ. ‘‘Itthannāmaṃ āpattiṃ āpannosī’’ti puṭṭho ‘‘pāṭaliputtaṃ gatomhī’’ti vatvā puna ‘‘na tava pāṭaliputtagamanaṃ pucchāma, āpattiṃ pucchāmā’’ti vutte ‘‘tato rājagahaṃ gatomhī’’ti vatvā ‘‘rājagahaṃ vā yāhi brāhmaṇagahaṃ vā, āpattiṃ āpannosī’’ti vutte ‘‘tattha me sūkaramaṃsaṃ laddha’’ntiādīni vatvāva kathaṃ bahiddhā vikkhipantopi hi ‘‘aññenaññaṃ paṭicarati’’cceva saṅkhaṃ gacchati.
ยเทตํ อเญฺญน อญฺญํ ปฎิจรณวเสน ปวตฺตวจนํ, ตเทว ปุจฺฉิตมตฺถํ ฐเปตฺวา อญฺญํ วทตีติ อญฺญวาทกนฺติ อาห ‘‘อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรณเสฺสตํ นาม’’นฺติฯ ตุณฺหีภูตเสฺสตํ นามนฺติ ตุณฺหีภาวเสฺสตํ นามํ, อยเมว วา ปาโฐฯ อญฺญวาทกํ อาโรเปตูติ อญฺญวาทกกมฺมํ อาโรเปตุ, อญฺญวาทกตฺตํ วา อิทานิ กริยมาเนน กเมฺมน อาโรเปตูติ อโตฺถฯ วิเหสกํ อาโรเปตูติ เอตฺถาปิ วิเหสกกมฺมํ วิเหสกภาวํ วา อาโรเปตูติ เอวมโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ
Yadetaṃ aññena aññaṃ paṭicaraṇavasena pavattavacanaṃ, tadeva pucchitamatthaṃ ṭhapetvā aññaṃ vadatīti aññavādakanti āha ‘‘aññenaññaṃ paṭicaraṇassetaṃ nāma’’nti. Tuṇhībhūtassetaṃ nāmanti tuṇhībhāvassetaṃ nāmaṃ, ayameva vā pāṭho. Aññavādakaṃ āropetūti aññavādakakammaṃ āropetu, aññavādakattaṃ vā idāni kariyamānena kammena āropetūti attho. Vihesakaṃ āropetūti etthāpi vihesakakammaṃ vihesakabhāvaṃ vā āropetūti evamattho daṭṭhabbo.
อนาโรปิเต อญฺญวาทเก วุตฺตทุกฺกฎํ ปาฬิยํ อาคตอเญฺญนญฺญํปฎิจรณวเสน ยุชฺชติ ฯ อฎฺฐกถายํ อาคเตน ปน ปาฬิมุตฺตกอเญฺญนญฺญํปฎิจรณวเสน อนาโรปิเต อญฺญวาทเก มุสาวาเทน ปาจิตฺติยํ, อาโรปิเต อิมินาว ปาจิตฺติยนฺติ เวทิตพฺพํฯ เกจิ ปน ‘‘อาโรปิเต อญฺญวาทเก มุสาวาเทน อิมินา จ ปาจิตฺติยทฺวยํ โหตี’’ติ วทนฺติ, ตํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํฯ ยา สา อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติ วุตฺตา, สาปิ ปาฬิยํ อาคตอเญฺญนญฺญํปฎิจรณวเสน วุตฺตาติ ทฎฺฐพฺพา, อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ วาฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ ธมฺมกเมฺมน อาโรปิตตา, อาปตฺติยา วา วตฺถุนา วา อนุยุญฺชิยมานตา, ฉาเทตุกามตาย อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรณํ วา ตุณฺหีภาโว วาติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ
Anāropite aññavādake vuttadukkaṭaṃ pāḷiyaṃ āgataaññenaññaṃpaṭicaraṇavasena yujjati . Aṭṭhakathāyaṃ āgatena pana pāḷimuttakaaññenaññaṃpaṭicaraṇavasena anāropite aññavādake musāvādena pācittiyaṃ, āropite imināva pācittiyanti veditabbaṃ. Keci pana ‘‘āropite aññavādake musāvādena iminā ca pācittiyadvayaṃ hotī’’ti vadanti, taṃ vīmaṃsitvā gahetabbaṃ. Yā sā ādikammikassa anāpatti vuttā, sāpi pāḷiyaṃ āgataaññenaññaṃpaṭicaraṇavasena vuttāti daṭṭhabbā, iminā sikkhāpadena anāpattidassanatthaṃ vā. Sesaṃ uttānameva. Dhammakammena āropitatā, āpattiyā vā vatthunā vā anuyuñjiyamānatā, chādetukāmatāya aññenaññaṃ paṭicaraṇaṃ vā tuṇhībhāvo vāti imāni panettha tīṇi aṅgāni.
อญฺญวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Aññavādakasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๒. ภูตคามวโคฺค • 2. Bhūtagāmavaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Aññavādakasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Aññavādakasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Aññavādakasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒. อญฺญวาทกสิกฺขาปทํ • 2. Aññavādakasikkhāpadaṃ