Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๒. อโนตฺตปฺปีสุตฺตํ

    2. Anottappīsuttaṃ

    ๑๔๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา จ มหากสฺสโป อายสฺมา จ สาริปุโตฺต พาราณสิยํ วิหรนฺติ อิสิปตเน มิคทาเยฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยนายสฺมา มหากสฺสโป เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากสฺสเปน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา สาริปุโตฺต อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจ – ‘‘วุจฺจติ หิทํ, อาวุโส กสฺสป, อนาตาปี อโนตฺตปฺปี อภโพฺพ สโมฺพธาย อภโพฺพ นิพฺพานาย อภโพฺพ อนุตฺตรสฺส โยคเกฺขมสฺส อธิคมาย; อาตาปี จ โข โอตฺตปฺปี ภโพฺพ สโมฺพธาย ภโพฺพ นิพฺพานาย ภโพฺพ อนุตฺตรสฺส โยคเกฺขมสฺส อธิคมายา’’ติฯ

    145. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ āyasmā ca mahākassapo āyasmā ca sāriputto bārāṇasiyaṃ viharanti isipatane migadāye. Atha kho āyasmā sāriputto sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yenāyasmā mahākassapo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmatā mahākassapena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā sāriputto āyasmantaṃ mahākassapaṃ etadavoca – ‘‘vuccati hidaṃ, āvuso kassapa, anātāpī anottappī abhabbo sambodhāya abhabbo nibbānāya abhabbo anuttarassa yogakkhemassa adhigamāya; ātāpī ca kho ottappī bhabbo sambodhāya bhabbo nibbānāya bhabbo anuttarassa yogakkhemassa adhigamāyā’’ti.

    ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, อนาตาปี โหติ อโนตฺตปฺปี อภโพฺพ สโมฺพธาย อภโพฺพ นิพฺพานาย อภโพฺพ อนุตฺตรสฺส โยคเกฺขมสฺส อธิคมาย; กิตฺตาวตา จ ปนาวุโส, อาตาปี โหติ โอตฺตปฺปี ภโพฺพ สโมฺพธาย ภโพฺพ นิพฺพานาย ภโพฺพ อนุตฺตรสฺส โยคเกฺขมสฺส อธิคมายา’’ติ? ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ ‘อนุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ น อาตปฺปํ กโรติ, ‘อุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหียมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ น อาตปฺปํ กโรติ, ‘อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมานุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ น อาตปฺปํ กโรติ, ‘อุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ น อาตปฺปํ กโรติฯ เอวํ โข, อาวุโส, อนาตาปี โหติ’’ฯ

    ‘‘Kittāvatā nu kho, āvuso, anātāpī hoti anottappī abhabbo sambodhāya abhabbo nibbānāya abhabbo anuttarassa yogakkhemassa adhigamāya; kittāvatā ca panāvuso, ātāpī hoti ottappī bhabbo sambodhāya bhabbo nibbānāya bhabbo anuttarassa yogakkhemassa adhigamāyā’’ti? ‘‘Idhāvuso, bhikkhu ‘anuppannā me pāpakā akusalā dhammā uppajjamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti na ātappaṃ karoti, ‘uppannā me pāpakā akusalā dhammā appahīyamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti na ātappaṃ karoti, ‘anuppannā me kusalā dhammānuppajjamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti na ātappaṃ karoti, ‘uppannā me kusalā dhammā nirujjhamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti na ātappaṃ karoti. Evaṃ kho, āvuso, anātāpī hoti’’.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, อโนตฺตปฺปี โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ‘อนุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ น โอตฺตปฺปติ, ‘อุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหียมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ น โอตฺตปฺปติ, ‘อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมานุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ น โอตฺตปฺปติ, ‘อุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ น โอตฺตปฺปติฯ เอวํ โข, อาวุโส, อโนตฺตปฺปี โหติฯ เอวํ โข, อาวุโส, อนาตาปี อโนตฺตปฺปี อภโพฺพ สโมฺพธาย อภโพฺพ นิพฺพานาย อภโพฺพ อนุตฺตรสฺส โยคเกฺขมสฺส อธิคมายฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, anottappī hoti? Idhāvuso, bhikkhu ‘anuppannā me pāpakā akusalā dhammā uppajjamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti na ottappati, ‘uppannā me pāpakā akusalā dhammā appahīyamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti na ottappati, ‘anuppannā me kusalā dhammānuppajjamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti na ottappati, ‘uppannā me kusalā dhammā nirujjhamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti na ottappati. Evaṃ kho, āvuso, anottappī hoti. Evaṃ kho, āvuso, anātāpī anottappī abhabbo sambodhāya abhabbo nibbānāya abhabbo anuttarassa yogakkhemassa adhigamāya.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, อาตาปี โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ‘อนุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ อาตปฺปํ กโรติ, ‘อุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหียมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ อาตปฺปํ กโรติ, อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา…เป.… อาตปฺปํ กโรติฯ เอวํ โข, อาวุโส, อาตาปี โหติฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, ātāpī hoti? Idhāvuso, bhikkhu ‘anuppannā me pāpakā akusalā dhammā uppajjamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti ātappaṃ karoti, ‘uppannā me pāpakā akusalā dhammā appahīyamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti ātappaṃ karoti, anuppannā me kusalā dhammā…pe… ātappaṃ karoti. Evaṃ kho, āvuso, ātāpī hoti.

    ‘‘กถญฺจาวุโส, โอตฺตปฺปี โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ‘อนุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ โอตฺตปฺปติ, ‘อุปฺปนฺนา เม ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปฺปหียมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ โอตฺตปฺปติ, ‘อนุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา อนุปฺปชฺชมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺตฺนฺตฺติ โอตฺตปฺปติ, ‘อุปฺปนฺนา เม กุสลา ธมฺมา นิรุชฺฌมานา อนตฺถาย สํวเตฺตยฺยุ’นฺติ โอตฺตปฺปติฯ เอวํ โข, อาวุโส, โอตฺตปฺปี โหติฯ เอวํ โข, อาวุโส, อาตาปี โอตฺตปฺปี ภโพฺพ สโมฺพธาย ภโพฺพ นิพฺพานาย ภโพฺพ อนุตฺตรสฺส โยคเกฺขมสฺส อธิคมายา’’ติฯ ทุติยํฯ

    ‘‘Kathañcāvuso, ottappī hoti? Idhāvuso, bhikkhu ‘anuppannā me pāpakā akusalā dhammā uppajjamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti ottappati, ‘uppannā me pāpakā akusalā dhammā appahīyamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti ottappati, ‘anuppannā me kusalā dhammā anuppajjamānā anatthāya saṃvatteyyu’ntntti ottappati, ‘uppannā me kusalā dhammā nirujjhamānā anatthāya saṃvatteyyu’nti ottappati. Evaṃ kho, āvuso, ottappī hoti. Evaṃ kho, āvuso, ātāpī ottappī bhabbo sambodhāya bhabbo nibbānāya bhabbo anuttarassa yogakkhemassa adhigamāyā’’ti. Dutiyaṃ.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. อโนตฺตปฺปีสุตฺตวณฺณนา • 2. Anottappīsuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. อโนตฺตปฺปีสุตฺตวณฺณนา • 2. Anottappīsuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact