Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā |
๗. อนฺตคฺคาหิกาทิฎฺฐินิเทฺทสวณฺณนา
7. Antaggāhikādiṭṭhiniddesavaṇṇanā
๑๔๐. อนฺตคฺคาหิกาย ทิฎฺฐิยา ปฐมวาเร อาการปุจฺฉาฯ ทุติเย อาการคหณํฯ ตติเย อาการวิสฺสชฺชนํฯ ตตฺถ โลโกติ อตฺตาฯ โส อโนฺตติ อญฺญมญฺญปฎิปเกฺขสุ สสฺสตุเจฺฉทเนฺตสุ สสฺสตคฺคาเห สสฺสตโนฺต, อสสฺสตคฺคาเห อุเจฺฉทโนฺตฯ ปริตฺตํ โอกาสนฺติ สุปฺปมตฺตํ วา สราวมตฺตํ วา ขุทฺทกํ ฐานํฯ นีลกโต ผรตีติ นีลนฺติ อารมฺมณํ กโรติฯ อยํ โลโกติ อตฺตานํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ปริวฎุโมติ สมนฺตโต ปริเจฺฉทวาฯ อนฺตสญฺญีติ อนฺตวาติสญฺญีฯ อโนฺต อสฺส อตฺถีติ อโนฺตติ คเหตพฺพํฯ ยํ ผรตีติ ยํ กสิณรูปํ ผรติฯ ตํ วตฺถุ เจว โลโก จาติ ตํ กสิณรูปํ อารมฺมณเญฺจว อาโลกิยเฎฺฐน โลโก จฯ เยน ผรตีติ เยน จิเตฺตน ผรติฯ โส อตฺตา เจว โลโก จาติ อตฺตานมเปกฺขิตฺวา ปุลฺลิงฺคํ กตํ, ตํ จิตฺตํ อตฺตา เจว อาโลกนเฎฺฐน โลโก จาติ วุตฺตํ โหติฯ อนฺตวาติ อโนฺตฯ โอกาสกโต ผรตีติ อาโลกกสิณวเสน เตโชกสิณวเสน โอทาตกสิณวเสน วา โอภาโสติ ผรติฯ นีลาทีนํ ปญฺจนฺนํ ปภสฺสรกสิณานํเยว คหิตตฺตา ปถวีอาโปวาโยกสิณวเสน อตฺตาภินิเวโส น โหตีติ คเหตพฺพํฯ
140.Antaggāhikāya diṭṭhiyā paṭhamavāre ākārapucchā. Dutiye ākāragahaṇaṃ. Tatiye ākāravissajjanaṃ. Tattha lokoti attā. So antoti aññamaññapaṭipakkhesu sassatucchedantesu sassataggāhe sassatanto, asassataggāhe ucchedanto. Parittaṃ okāsanti suppamattaṃ vā sarāvamattaṃ vā khuddakaṃ ṭhānaṃ. Nīlakato pharatīti nīlanti ārammaṇaṃ karoti. Ayaṃ lokoti attānaṃ sandhāya vuttaṃ. Parivaṭumoti samantato paricchedavā. Antasaññīti antavātisaññī. Anto assa atthīti antoti gahetabbaṃ. Yaṃ pharatīti yaṃ kasiṇarūpaṃ pharati. Taṃ vatthu ceva loko cāti taṃ kasiṇarūpaṃ ārammaṇañceva ālokiyaṭṭhena loko ca. Yena pharatīti yena cittena pharati. So attā ceva loko cāti attānamapekkhitvā pulliṅgaṃ kataṃ, taṃ cittaṃ attā ceva ālokanaṭṭhena loko cāti vuttaṃ hoti. Antavāti anto. Okāsakato pharatīti ālokakasiṇavasena tejokasiṇavasena odātakasiṇavasena vā obhāsoti pharati. Nīlādīnaṃ pañcannaṃ pabhassarakasiṇānaṃyeva gahitattā pathavīāpovāyokasiṇavasena attābhiniveso na hotīti gahetabbaṃ.
วิปุลํ โอกาสนฺติ ขลมณฺฑลมตฺตาทิวเสน มหนฺตํ ฐานํฯ อนนฺตวาติ วุทฺธอนนฺตวาฯ อปริยโนฺตติ วุทฺธอปริยโนฺตฯ อนนฺตสญฺญีติ อนโนฺตติสญฺญีฯ ตํ ชีวนฺติ โส ชีโวฯ ลิงฺควิปลฺลาโส กโตฯ ชีโวติ จ อตฺตา เอวฯ รูปาทีนิ ปญฺจปิ ปริวฎุมเฎฺฐน สรีรํฯ ชีวํ น สรีรนฺติ อตฺตสงฺขาโต ชีโว รูปสงฺขาตํ สรีรํ น โหติฯ เอส นโย เวทนาทีสุฯ ตถาคโตติ สโตฺตฯ อรหนฺติ เอเกฯ ปรํ มรณาติ มรณโต อุทฺธํ, ปรโลเกติ อโตฺถฯ รูปํ อิเธว มรณธมฺมนฺติ อตฺตโน ปากฎกฺขนฺธสีเสน ปญฺจกฺขนฺธคฺคหณํ, ตํ อิมสฺมิํเยว โลเก นสฺสนปกติกนฺติ อโตฺถฯ เสสกฺขเนฺธสุปิ เอเสว นโยฯ กายสฺส เภทาติ ขนฺธปญฺจกสงฺขาตสฺส กายสฺส เภทโต ปรํฯ อิมินา วจเนน ‘‘ปรํ มรณา’’ติ เอตสฺส อุเทฺทสสฺส อโตฺถ วุโตฺตฯ โหติปีติอาทีสุ โหตีติ มูลปทํฯ จตูสุปิ อปิ-สโทฺท สมุจฺจยโตฺถฯ ติฎฺฐตีติ สสฺสตตฺตา ติฎฺฐติ, น จวตีติ อโตฺถฯ ‘‘โหตี’’ติ ปทสฺส วา อตฺถวิเสสนตฺถํ ‘‘ติฎฺฐตี’’ติ ปทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ อุปฺปชฺชตีติ อณฺฑชชลาพุชโยนิปเวสวเสน อุปฺปชฺชติ นาม, นิพฺพตฺตตีติ สํเสทชโอปปาติกโยนิปเวสวเสน นิพฺพตฺตติ นามาติ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพาฯ อุจฺฉิชฺชตีติ ปพนฺธาภาววเสนฯ วินสฺสตีติ ภงฺควเสนฯ น โหติ ปรํ มรณาติ ปุริมปทานํ อตฺถวิวรณํ, จุติโต อุทฺธํ น วิชฺชตีติ อโตฺถฯ โหติ จ น จ โหตีติ เอกจฺจสสฺสติกานํ ทิฎฺฐิ, เอเกน ปริยาเยน โหติ, เอเกน ปริยาเยน น โหตีติ อโตฺถฯ ชีวภาเวน โหติ, ปุพฺพชีวสฺส อภาเวน น โหตีติ วุตฺตํ โหติฯ เนว โหติ น น โหตีติ อมราวิเกฺขปิกานํ ทิฎฺฐิ, โหตีติ จ เนว โหติ, น โหตีติ จ น โหตีติ อโตฺถฯ อนุวาทภยา มุสาวาทภยา จ มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา จ ปุพฺพวุตฺตนยสฺส ปฎิเกฺขปมตฺตํ กโรติฯ อิเมหิ ปญฺญาสาย อากาเรหีติ ยถาวุตฺตานํ ทสนฺนํ ปญฺจกานํ วเสน ปญฺญาสาย อากาเรหีติฯ
Vipulaṃ okāsanti khalamaṇḍalamattādivasena mahantaṃ ṭhānaṃ. Anantavāti vuddhaanantavā. Apariyantoti vuddhaapariyanto. Anantasaññīti anantotisaññī. Taṃ jīvanti so jīvo. Liṅgavipallāso kato. Jīvoti ca attā eva. Rūpādīni pañcapi parivaṭumaṭṭhena sarīraṃ. Jīvaṃ na sarīranti attasaṅkhāto jīvo rūpasaṅkhātaṃ sarīraṃ na hoti. Esa nayo vedanādīsu. Tathāgatoti satto. Arahanti eke. Paraṃ maraṇāti maraṇato uddhaṃ, paraloketi attho. Rūpaṃ idheva maraṇadhammanti attano pākaṭakkhandhasīsena pañcakkhandhaggahaṇaṃ, taṃ imasmiṃyeva loke nassanapakatikanti attho. Sesakkhandhesupi eseva nayo. Kāyassa bhedāti khandhapañcakasaṅkhātassa kāyassa bhedato paraṃ. Iminā vacanena ‘‘paraṃ maraṇā’’ti etassa uddesassa attho vutto. Hotipītiādīsu hotīti mūlapadaṃ. Catūsupi api-saddo samuccayattho. Tiṭṭhatīti sassatattā tiṭṭhati, na cavatīti attho. ‘‘Hotī’’ti padassa vā atthavisesanatthaṃ ‘‘tiṭṭhatī’’ti padaṃ vuttanti veditabbaṃ. Uppajjatīti aṇḍajajalābujayonipavesavasena uppajjati nāma, nibbattatīti saṃsedajaopapātikayonipavesavasena nibbattati nāmāti atthayojanā veditabbā. Ucchijjatīti pabandhābhāvavasena. Vinassatīti bhaṅgavasena. Na hoti paraṃ maraṇāti purimapadānaṃ atthavivaraṇaṃ, cutito uddhaṃ na vijjatīti attho. Hoti ca na ca hotīti ekaccasassatikānaṃ diṭṭhi, ekena pariyāyena hoti, ekena pariyāyena na hotīti attho. Jīvabhāvena hoti, pubbajīvassa abhāvena na hotīti vuttaṃ hoti. Neva hoti na na hotīti amarāvikkhepikānaṃ diṭṭhi, hotīti ca neva hoti, na hotīti ca na hotīti attho. Anuvādabhayā musāvādabhayā ca mandattā momūhattā ca pubbavuttanayassa paṭikkhepamattaṃ karoti. Imehi paññāsāya ākārehīti yathāvuttānaṃ dasannaṃ pañcakānaṃ vasena paññāsāya ākārehīti.
อนฺตคฺคาหิกาทิฎฺฐินิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Antaggāhikādiṭṭhiniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๗. อนฺตคฺคาหิกาทิฎฺฐินิเทฺทโส • 7. Antaggāhikādiṭṭhiniddeso