Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā |
๒. อนฺตราภวกถาวณฺณนา
2. Antarābhavakathāvaṇṇanā
๕๐๕. อิทานิ อนฺตราภวกถา นาม โหติฯ ตตฺถ เยสํ ‘‘อนฺตรา ปรินิพฺพายี’’ติ สุตฺตปทํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘อนฺตราภโว นาม อตฺถิ, ยตฺถ สโตฺต ทิพฺพจกฺขุโก วิย อทิพฺพจกฺขุโก, อิทฺธิมา วิย อนิทฺธิมา มาตาปิติสมาคมเญฺจว อุตุสมยญฺจ โอโลกยมาโน สตฺตาหํ วา อติเรกสตฺตาหํ วา ติฎฺฐตี’’ติ ลทฺธิ, เสยฺยถาปิ ปุพฺพเสลิยานเญฺจว สมฺมิติยานญฺจ; เต สนฺธาย อตฺถีติ ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ลทฺธิยํ ฐตฺวา ปฎิญฺญา อิตรสฺสฯ อถ นํ เย จ ภควตา ตโย ภวา วุตฺตา, เตสํ วเสน โจเทตุํ กามภโวติอาทิมาหฯ ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยทิ เต อนฺตราภโว นาม โกจิ ภโว อตฺถิ, เตน กามภวาทีนํเยว อญฺญตเรน ภวิตพฺพํ ปญฺจโวการภวาทินา วิย, เตน ตํ ปุจฺฉามิ – ‘‘กิํ เต อยํ อนฺตราภโว นาม กามภโว, อุทาหุ รูปภโว อรูปภโว วา’’ติ? อิตโร ตถา อนิจฺฉโนฺต สพฺพํ ปฎิกฺขิปติฯ กามภวสฺส จาติอาทิ ยทิ อนฺตราภโว นาม อตฺถิ, อิเมสํ ภวานํ อนฺตรา ทฺวินฺนํ สีมานํ สีมนฺตริกา วิย ภเวยฺยาติ โจเทตุํ อารทฺธํฯ ปรวาที ปน ตถา อนิจฺฉโนฺต สพฺพปเญฺห ปฎิกฺขิปติ เกวลํ ลทฺธิยา, น สหธเมฺมนฯ เตเนว นํ สกวาที ‘โน วต เร’ติ ปฎิเสเธติฯ
505. Idāni antarābhavakathā nāma hoti. Tattha yesaṃ ‘‘antarā parinibbāyī’’ti suttapadaṃ ayoniso gahetvā ‘‘antarābhavo nāma atthi, yattha satto dibbacakkhuko viya adibbacakkhuko, iddhimā viya aniddhimā mātāpitisamāgamañceva utusamayañca olokayamāno sattāhaṃ vā atirekasattāhaṃ vā tiṭṭhatī’’ti laddhi, seyyathāpi pubbaseliyānañceva sammitiyānañca; te sandhāya atthīti pucchā sakavādissa, laddhiyaṃ ṭhatvā paṭiññā itarassa. Atha naṃ ye ca bhagavatā tayo bhavā vuttā, tesaṃ vasena codetuṃ kāmabhavotiādimāha. Tatrāyaṃ adhippāyo – yadi te antarābhavo nāma koci bhavo atthi, tena kāmabhavādīnaṃyeva aññatarena bhavitabbaṃ pañcavokārabhavādinā viya, tena taṃ pucchāmi – ‘‘kiṃ te ayaṃ antarābhavo nāma kāmabhavo, udāhu rūpabhavo arūpabhavo vā’’ti? Itaro tathā anicchanto sabbaṃ paṭikkhipati. Kāmabhavassa cātiādi yadi antarābhavo nāma atthi, imesaṃ bhavānaṃ antarā dvinnaṃ sīmānaṃ sīmantarikā viya bhaveyyāti codetuṃ āraddhaṃ. Paravādī pana tathā anicchanto sabbapañhe paṭikkhipati kevalaṃ laddhiyā, na sahadhammena. Teneva naṃ sakavādī ‘no vata re’ti paṭisedheti.
๕๐๖. ปญฺจมี สา โยนีติอาทีนิปิ ยถาปริจฺฉินฺนโยนิอาทีสุ โส สโมธานํ น คจฺฉติ, อถ เตน ตโต ตโต อติเรเกน ภวิตพฺพนฺติ โจเทตุํ วุตฺตานิฯ อนฺตราภวูปคํ กมฺมนฺติ ยทิ โสปิ เอโก ภโว, ยถา กามภวูปคาทีนิ กมฺมานิ อตฺถีติ สตฺถารา วิภชิตฺวา ทสฺสิตานิ, เอวํ ตทุปเคนาปิ กเมฺมน ภวิตพฺพนฺติ โจทนตฺถํ วุตฺตํฯ ยสฺมา ปน ปรสมเย อนฺตราภวูปคํ นาม ปาฎิเยกฺกํ กมฺมํ นตฺถิ, ยํ ยํ ภวํ อุปปชฺชิสฺสติ, ตทุปเคเนว กเมฺมน อนฺตราภเว นิพฺพตฺตตีติ เตสํ ลทฺธิ, ตสฺมา ‘นเหว’นฺติ ปฎิกฺขิตฺตํฯ อตฺถิ อนฺตราภวูปคา สตฺตาติ ปุโฎฺฐปิ กามภวูปคาเยว นาม เตติ ลทฺธิยา ปฎิกฺขิปติฯ ชายนฺตีติอาทีนิ ปุโฎฺฐปิ ตตฺถ ชาติชรามรณานิ เจว จุติปฎิสนฺธิปรมฺปรญฺจ อนิจฺฉโนฺต ปฎิกฺขิปติฯ รูปาทิวเสน ปุโฎฺฐปิ ยสฺมา อนฺตราภวสตฺตสฺส อนิทสฺสนํ รูปํ, เวทนาทโยปิ อเญฺญสํ วิย น โอฬาริกาติ ตสฺส ลทฺธิ, ตสฺมา ปฎิกฺขิปติฯ อิมินาว การเณน ปญฺจโวการภวภาเวปิ ปฎิเกฺขโป เวทิตโพฺพฯ
506. Pañcamī sā yonītiādīnipi yathāparicchinnayoniādīsu so samodhānaṃ na gacchati, atha tena tato tato atirekena bhavitabbanti codetuṃ vuttāni. Antarābhavūpagaṃ kammanti yadi sopi eko bhavo, yathā kāmabhavūpagādīni kammāni atthīti satthārā vibhajitvā dassitāni, evaṃ tadupagenāpi kammena bhavitabbanti codanatthaṃ vuttaṃ. Yasmā pana parasamaye antarābhavūpagaṃ nāma pāṭiyekkaṃ kammaṃ natthi, yaṃ yaṃ bhavaṃ upapajjissati, tadupageneva kammena antarābhave nibbattatīti tesaṃ laddhi, tasmā ‘naheva’nti paṭikkhittaṃ. Atthi antarābhavūpagā sattāti puṭṭhopi kāmabhavūpagāyeva nāma teti laddhiyā paṭikkhipati. Jāyantītiādīni puṭṭhopi tattha jātijarāmaraṇāni ceva cutipaṭisandhiparamparañca anicchanto paṭikkhipati. Rūpādivasena puṭṭhopi yasmā antarābhavasattassa anidassanaṃ rūpaṃ, vedanādayopi aññesaṃ viya na oḷārikāti tassa laddhi, tasmā paṭikkhipati. Imināva kāraṇena pañcavokārabhavabhāvepi paṭikkhepo veditabbo.
๕๐๗. อิทานิ กามภโว ภโว คตีติอาทิ ภวสํสนฺทนํ นาม โหติฯ ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ยทิ เต อนฺตราภโว นาม โกจิ ภโว ภเวยฺย, ยถา กามภวาทีสุ ภวคติอาทิเภโท ลพฺภติ, ตถา ตตฺราปิ ลเพฺภถฯ ยถา วา ตตฺถ น ลพฺภติ, ตถา อิเมสุปิ น ลเพฺภถฯ สมานสฺมิญฺหิ ภวภาเว เอเตเสฺวเวส วิภาโค อตฺถิ, น อิตรสฺมินฺติ โก เอตฺถ วิเสสเหตูติฯ อิตโร ปุน ลทฺธิมตฺตวเสน ตํ ตํ ปฎิชานาติ เจว ปฎิกฺขิปติ จฯ
507. Idāni kāmabhavo bhavo gatītiādi bhavasaṃsandanaṃ nāma hoti. Tatrāyaṃ adhippāyo – yadi te antarābhavo nāma koci bhavo bhaveyya, yathā kāmabhavādīsu bhavagatiādibhedo labbhati, tathā tatrāpi labbhetha. Yathā vā tattha na labbhati, tathā imesupi na labbhetha. Samānasmiñhi bhavabhāve etesvevesa vibhāgo atthi, na itarasminti ko ettha visesahetūti. Itaro puna laddhimattavasena taṃ taṃ paṭijānāti ceva paṭikkhipati ca.
๕๐๘. สเพฺพสเญฺญว สตฺตานํ อตฺถิ อนฺตราภโวติ ปุโฎฺฐ ยสฺมา นิรยูปคอสญฺญสตฺตูปคอรูปูปคานํ อนฺตราภวํ น อิจฺฉติ, ตสฺมา ปฎิกฺขิปติฯ เตเนว การเณน ปฎิโลเม ปฎิชานาติฯ อานนฺตริยสฺสาติอาทิ เยสํ โส อนฺตราภวํ น อิจฺฉติ, เต ตาว วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ วุตฺตํฯ ตํ สพฺพํ ปาฬิอนุสาเรเนว เวทิตพฺพํ สทฺธิํ สุตฺตสาธเนนาติฯ
508. Sabbesaññeva sattānaṃ atthi antarābhavoti puṭṭho yasmā nirayūpagaasaññasattūpagaarūpūpagānaṃ antarābhavaṃ na icchati, tasmā paṭikkhipati. Teneva kāraṇena paṭilome paṭijānāti. Ānantariyassātiādi yesaṃ so antarābhavaṃ na icchati, te tāva vibhajitvā dassetuṃ vuttaṃ. Taṃ sabbaṃ pāḷianusāreneva veditabbaṃ saddhiṃ suttasādhanenāti.
อนฺตราภวกถาวณฺณนาฯ
Antarābhavakathāvaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / กถาวตฺถุปาฬิ • Kathāvatthupāḷi / (๗๔) ๒. อนฺตราภวกถา • (74) 2. Antarābhavakathā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๒. อนฺตราภวกถาวณฺณนา • 2. Antarābhavakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๒. อนฺตราภวกถาวณฺณนา • 2. Antarābhavakathāvaṇṇanā