Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
อนฺตรเปยฺยาล กติปุจฺฉาวารวณฺณนา
Antarapeyyāla katipucchāvāravaṇṇanā
๒๗๑. อิทานิ วุโตฺตติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อิทานี’’ติ ปเทน สมฺพนฺธตฺตา วุโตฺตติ เอตฺถ ตปจฺจโย ปจฺจุปฺปนฺนกาลิโกติ ทฎฺฐโพฺพฯ
271. Idāni vuttoti sambandho. ‘‘Idānī’’ti padena sambandhattā vuttoti ettha tapaccayo paccuppannakālikoti daṭṭhabbo.
ตตฺถาติ มาติกายํ, ปุจฺฉาสุ วาฯ อาคตาปตฺติปุจฺฉาติ อาคตาปตฺติยา ปุจฺฉาฯ หีติ วิเสสโชตโก, หิ วิเสสํ วกฺขามีติ อโตฺถฯ เอตฺถาติ ‘‘กติ อาปตฺติกฺขนฺธา’’ติ ทุติยปเทฯ ‘‘ราสิวเสนา’’ติ อิมินา ขนฺธสทฺทสฺส ราสตฺถํ ทเสฺสติฯ วินีตวตฺถูนีติ เอตฺถ วินีตสโทฺท วินยปริยาโยติ อาห ‘‘วินยปุจฺฉา’’ติฯ นนุ วินีตวินยสทฺทานํ สทฺทโต นานตฺตา อตฺถโตปิ นานํ, กสฺมา ปน ‘‘วินยปุจฺฉา’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘วินีตํ…เป.… เอก’’นฺติฯ อิทนฺติ ปทตฺตยํฯ อตฺถโต เอกนฺติ อตฺถโตเยว เอกํ, น สทฺทโตฯ วินีตวตฺถูนีติ อาปตฺติวินยการณตฺตา วินีตวตฺถูนิฯ เยสูติ อคารเวสุฯ สตีติ สเนฺตสุฯ เอตฺถ จ เยสุ สติ อาปตฺติโย น โหนฺติ, อสติ โหนฺตีติ วากฺยมฺปิ อวุตฺตสิทฺธินเยน คเหตพฺพํฯ เยสูติ คารเวสุฯ เตติ อคารวคารเวฯ ยสฺมา ปน นตฺถีติ สมฺพโนฺธฯ วิปตฺติภาวปุจฺฉาติ วิปตฺติภาวสฺส ปุจฺฉาฯ ปุจฺฉิยติ อิมายาติ ปุจฺฉาฯ วิวาทมูลานิ อนุวาทมูลานีติ อิมา ปุจฺฉาโย มูลปุจฺฉาติ สมฺพโนฺธฯ โปตฺถเกสุ ‘‘อิมานี’’ติ นิกาเรน สห ปาโฐ อตฺถิ, โส อปาโฐเยวฯ มูลปุจฺฉาติ ปุจฺฉิยนฺติ อิมาหีติ ปุจฺฉา, มูลานํ ปุจฺฉา มูลปุจฺฉาฯ ‘‘อธิกรณ’’นฺติอาทีสุ ‘‘วุตฺตํ’’ อิติ สมฺพโนฺธฯ เตสํเยวาติ อธิกรณานํเยวฯ อยเมตฺถ มาติกาฯ
Tatthāti mātikāyaṃ, pucchāsu vā. Āgatāpattipucchāti āgatāpattiyā pucchā. Hīti visesajotako, hi visesaṃ vakkhāmīti attho. Etthāti ‘‘kati āpattikkhandhā’’ti dutiyapade. ‘‘Rāsivasenā’’ti iminā khandhasaddassa rāsatthaṃ dasseti. Vinītavatthūnīti ettha vinītasaddo vinayapariyāyoti āha ‘‘vinayapucchā’’ti. Nanu vinītavinayasaddānaṃ saddato nānattā atthatopi nānaṃ, kasmā pana ‘‘vinayapucchā’’ti vuttanti āha ‘‘vinītaṃ…pe… eka’’nti. Idanti padattayaṃ. Atthato ekanti atthatoyeva ekaṃ, na saddato. Vinītavatthūnīti āpattivinayakāraṇattā vinītavatthūni. Yesūti agāravesu. Satīti santesu. Ettha ca yesu sati āpattiyo na honti, asati hontīti vākyampi avuttasiddhinayena gahetabbaṃ. Yesūti gāravesu. Teti agāravagārave. Yasmā pana natthīti sambandho. Vipattibhāvapucchāti vipattibhāvassa pucchā. Pucchiyati imāyāti pucchā. Vivādamūlāni anuvādamūlānīti imā pucchāyo mūlapucchāti sambandho. Potthakesu ‘‘imānī’’ti nikārena saha pāṭho atthi, so apāṭhoyeva. Mūlapucchāti pucchiyanti imāhīti pucchā, mūlānaṃ pucchā mūlapucchā. ‘‘Adhikaraṇa’’ntiādīsu ‘‘vuttaṃ’’ iti sambandho. Tesaṃyevāti adhikaraṇānaṃyeva. Ayamettha mātikā.
นิเทฺทเส มาติกายาติ ปาติโมเกฺขฯ วิภเงฺคติ ปทภาชนิยํ, อาคตวเสน วุตฺตาติ โยชนาฯ อยเมตฺถ นิเทฺทโสฯ
Niddese mātikāyāti pātimokkhe. Vibhaṅgeti padabhājaniyaṃ, āgatavasena vuttāti yojanā. Ayamettha niddeso.
ปฎินิเทฺทเส อารตีติอาทิปทานํ วจนตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อารกา’’ติอาทิฯ ตตฺถ ‘‘อารกา’’ติ อิมินา อารตีติ เอตฺถ อาอุปสคฺคสฺส อตฺถํ ทเสฺสติฯ เอเตหีติ อาปตฺติกฺขเนฺธหิ, อารกาติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘รมตี’’ติ อิมินา ติปจฺจโย กตฺวเตฺถ โหตีติ ทเสฺสติฯ รตีติ รมนํฯ อิมินา ติปจฺจโย ภาวเตฺถปิ โหตีติ ทเสฺสติฯ วินาติ เอเตหิ อาปตฺติกฺขเนฺธหิ วินาฯ อิมินา วิรตีติ เอตฺถ วิตฺยูปสคฺคสฺส อตฺถํ ทเสฺสติฯ ปเจฺจกนฺติ ปติ เอกํ, ปฎิสโทฺท วิจฺฉตฺถโชตโก, วิสุํ วิสุนฺติ อโตฺถฯ อิมินา ปฎิวิรตีติ เอตฺถ ปฎิตฺยูปสคฺคสฺส อตฺถํ ทเสฺสติฯ วิรติ ปฎิวิรตีติ เอตฺถาปิ ติปจฺจโย ภาวเตฺถปิ เวทิตโพฺพ ฯ เวรนฺติ อนตฺถกรตฺตา วิรมิตพฺพนฺติ วิรํ, ตเทว เวรํ, ราคาทิอกุสลธมฺมาฯ เต หิ เวรเหตุตฺตา เวรนฺติ วุจฺจนฺติฯ เอตายาติ วิรติยาฯ อิมินา อกิริยาติ เอตฺถ ริริยปจฺจโย กรณเตฺถ โหตีติ ทเสฺสติฯ ยํ อาปตฺติกฺขนฺธกรณนฺติ โยชนาฯ ตสฺสาติ อาปตฺติกฺขนฺธกรณสฺสฯ ปฎิปกฺขโตติ วิรุทฺธภาวโตฯ อิมินา อกรณนฺติ เอตฺถ อกาโร วิรุทฺธโตฺถติ ทเสฺสติฯ อาปตฺติกฺขนฺธอชฺฌาปตฺติยาติ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อติกฺกมิตฺวา อาปชฺชนสฺสฯ ‘‘เวลนโต’’ติ อิมินา เวลตีติ เวลา, เวลนํ วา เวลาติ วจนเตฺถ ทเสฺสติฯ นิยฺยานนฺติ มคฺคํฯ มโคฺค หิ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสน ยาติ คจฺฉตีติ นิยฺยานนฺติ วุจฺจติฯ ‘‘พนฺธตี’’ติ อิมินา สิธาตุยา พนฺธนตฺถํ ทเสฺสติฯ ‘‘นิวาเรตี’’ติ อิมินา พนฺธธาตุยา อธิปฺปายตฺถํฯ เอตนฺติ ‘‘เสตู’’ติ นามํฯ ตํ เสตุนฺติ อาปตฺติกฺขนฺธสงฺขาตํ ตํ เสตุํฯ เอตฺถ เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘โส เสตู’’ติ จ ‘‘เอตาย ปญฺญตฺติยา’’ติ จ ปาโฐ อตฺถิ, โส อปาโฐเยวฯ
Paṭiniddese āratītiādipadānaṃ vacanatthaṃ dassento āha ‘‘ārakā’’tiādi. Tattha ‘‘ārakā’’ti iminā āratīti ettha āupasaggassa atthaṃ dasseti. Etehīti āpattikkhandhehi, ārakāti sambandho. ‘‘Ramatī’’ti iminā tipaccayo katvatthe hotīti dasseti. Ratīti ramanaṃ. Iminā tipaccayo bhāvatthepi hotīti dasseti. Vināti etehi āpattikkhandhehi vinā. Iminā viratīti ettha vityūpasaggassa atthaṃ dasseti. Paccekanti pati ekaṃ, paṭisaddo vicchatthajotako, visuṃ visunti attho. Iminā paṭiviratīti ettha paṭityūpasaggassa atthaṃ dasseti. Virati paṭiviratīti etthāpi tipaccayo bhāvatthepi veditabbo . Veranti anatthakarattā viramitabbanti viraṃ, tadeva veraṃ, rāgādiakusaladhammā. Te hi verahetuttā veranti vuccanti. Etāyāti viratiyā. Iminā akiriyāti ettha ririyapaccayo karaṇatthe hotīti dasseti. Yaṃ āpattikkhandhakaraṇanti yojanā. Tassāti āpattikkhandhakaraṇassa. Paṭipakkhatoti viruddhabhāvato. Iminā akaraṇanti ettha akāro viruddhatthoti dasseti. Āpattikkhandhaajjhāpattiyāti āpattikkhandhānaṃ atikkamitvā āpajjanassa. ‘‘Velanato’’ti iminā velatīti velā, velanaṃ vā velāti vacanatthe dasseti. Niyyānanti maggaṃ. Maggo hi nibbānaṃ ārammaṇakaraṇavasena yāti gacchatīti niyyānanti vuccati. ‘‘Bandhatī’’ti iminā sidhātuyā bandhanatthaṃ dasseti. ‘‘Nivāretī’’ti iminā bandhadhātuyā adhippāyatthaṃ. Etanti ‘‘setū’’ti nāmaṃ. Taṃ setunti āpattikkhandhasaṅkhātaṃ taṃ setuṃ. Ettha kesuci potthakesu ‘‘so setū’’ti ca ‘‘etāya paññattiyā’’ti ca pāṭho atthi, so apāṭhoyeva.
พุเทฺธ อคารวาทีสุ เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ โยติ โย โกจิ, น คจฺฉตีติอาทีสุ สมฺพโนฺธฯ ธรมาเนติ ติฎฺฐมาเน, สํวิชฺชมาเนติ อโตฺถฯ อุปฎฺฐานนฺติ อุปฎฺฐานฎฺฐานํ, อุปฎฺฐานตฺถํ วาฯ เอตสฺสาติ ยสฺส กสฺสจิ คหฎฺฐสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วาฯ ธมฺมสฺสวนนฺติ ธมฺมสฺสวนฎฺฐานํ, ธมฺมสฺสวนตฺถํ วาฯ ธมฺมสฺสวนคฺคนฺติ ธมฺมสฺสวนํ คณฺหนฺติ เอตฺถาติ ธมฺมสฺสวนโคฺค, ธมฺมสวนมณฺฑโปฯ อถ วา ธมฺมสฺสวนํ คณฺหาตีติ ธมฺมสฺสวนโคฺค, ธมฺมสฺสวนฎฺฐาเน สมาคมชโน, ตํ ธมฺมสฺสวนคฺคํฯ จิตฺตีการนฺติ อปจายนาการํฯ วิกฺขิโตฺต วา อนาทโร วา หุตฺวา นิสีทตีติ โยชนาฯ กายปาคพฺพิยนฺติ ภุสํ ครติ อเญฺญ ปีเฬติ อเนนาติ ปคโพฺพ, อติมาโน, โอฎฺฐโช ตติยกฺขโรฯ ปคพฺพสฺส ภาโว ปาคพฺพิยํ, กาเยน ปาคพฺพิยํ กายปาคพฺพิยํ (วชิร. ฎี. ปริวาร ๒๗๑; สารตฺถ. ฎี. ปริวาร ๓.๒๗๑; วิ. วิ. ฎี. ปริวาร ๒.๒๗๑ สํ. นิ. อฎฺฐ. ๒.๒.๑๔๖; อ. นิ. อฎฺฐ. ๓.๖.๘๒-๘๔; สุ. นิ. อฎฺฐ. ๑.๑๔๔), กายานาจารํฯ ติโสฺส สิกฺขาติ อธิสีลสิกฺขาทิกา ติโสฺส สิกฺขาฯ ปมชฺชนํ ปมาโท , สติวิปฺปวาโสติ อาห ‘‘ปมาเท จ สติวิปฺปวาเส’’ติฯ อามิสปฎิสนฺธารนฺติ อามิเสน อตฺตโน, ปเรสญฺจ อนฺตรสฺส ปฎิสนฺทหนํ อามิสปฎิสนฺธาโร, ตถา ธมฺมปฎิสนฺธาโรฯ
Buddhe agāravādīsu evaṃ vinicchayo veditabboti yojanā. Yoti yo koci, na gacchatītiādīsu sambandho. Dharamāneti tiṭṭhamāne, saṃvijjamāneti attho. Upaṭṭhānanti upaṭṭhānaṭṭhānaṃ, upaṭṭhānatthaṃ vā. Etassāti yassa kassaci gahaṭṭhassa vā pabbajitassa vā. Dhammassavananti dhammassavanaṭṭhānaṃ, dhammassavanatthaṃ vā. Dhammassavanagganti dhammassavanaṃ gaṇhanti etthāti dhammassavanaggo, dhammasavanamaṇḍapo. Atha vā dhammassavanaṃ gaṇhātīti dhammassavanaggo, dhammassavanaṭṭhāne samāgamajano, taṃ dhammassavanaggaṃ. Cittīkāranti apacāyanākāraṃ. Vikkhitto vā anādaro vā hutvā nisīdatīti yojanā. Kāyapāgabbiyanti bhusaṃ garati aññe pīḷeti anenāti pagabbo, atimāno, oṭṭhajo tatiyakkharo. Pagabbassa bhāvo pāgabbiyaṃ, kāyena pāgabbiyaṃ kāyapāgabbiyaṃ (vajira. ṭī. parivāra 271; sārattha. ṭī. parivāra 3.271; vi. vi. ṭī. parivāra 2.271 saṃ. ni. aṭṭha. 2.2.146; a. ni. aṭṭha. 3.6.82-84; su. ni. aṭṭha. 1.144), kāyānācāraṃ. Tisso sikkhāti adhisīlasikkhādikā tisso sikkhā. Pamajjanaṃ pamādo, sativippavāsoti āha ‘‘pamāde ca sativippavāse’’ti. Āmisapaṭisandhāranti āmisena attano, paresañca antarassa paṭisandahanaṃ āmisapaṭisandhāro, tathā dhammapaṭisandhāro.
๒๗๒. สตฺถริปิ อคารโวติอาทีนํ อโตฺถติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อนีจวุตฺตี’’ติอาทินา อปฺปติโสฺสติ ปทสฺส อธิปฺปายตฺถํ ทเสฺสติ, สทฺทโตฺถ ปเนวํ เวทิตโพฺพ, ปฎิมุขํ อาทเรน สตฺถุวจนํ อสุณโนฺต อปฺปติโสฺส นามาติฯ อชฺฌตฺตํ วาติ เอตฺถ นิยกชฺฌตฺตาทีสุ จตูสุ นิยกชฺฌตฺตภาวญฺจ สตฺตมีวิภตฺติยา อมาเทสภาวญฺจ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อตฺตโน สนฺตาเน วา’’ติฯ ‘‘อตฺตโน ปเกฺข วา’’ติ อิมินา อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเนติ อตฺถํ ปฎิกฺขิปติฯ ตตฺร ตุเมฺหติ เอตฺถ ตสทฺทสฺส วิสยํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ตสฺมิํ อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภเท’’ติฯ สปรสนฺตาเนติ อตฺตปรสนฺตาเนฯ ปหานายาติ เอตฺถ หาธาตุยา กรณญฺจ อายสทฺทสฺส ตทตฺถภาวญฺจ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘เมตฺตาภาวนาทีหิ นเยหิ ปหานตฺถ’’นฺติฯ เมตฺตาภาวนาทีหีติอาทิสเทฺทน กรุณาภาวนาทิํ สงฺคณฺหาติฯ ตนฺติ วิวาทมูลํฯ ‘‘อปฺปวตฺติภาวายา’’ติ อิมินา อนวสฺสวายาติ เอตฺถ อวปุพฺพ สุธาตุยา ปวตฺตนตฺถํ ทเสฺสติฯ
272.Sattharipi agāravotiādīnaṃ atthoti sambandho. ‘‘Anīcavuttī’’tiādinā appatissoti padassa adhippāyatthaṃ dasseti, saddattho panevaṃ veditabbo, paṭimukhaṃ ādarena satthuvacanaṃ asuṇanto appatisso nāmāti. Ajjhattaṃ vāti ettha niyakajjhattādīsu catūsu niyakajjhattabhāvañca sattamīvibhattiyā amādesabhāvañca dassento āha ‘‘attano santāne vā’’ti. ‘‘Attano pakkhe vā’’ti iminā attano cittasantāneti atthaṃ paṭikkhipati. Tatra tumheti ettha tasaddassa visayaṃ dassento āha ‘‘tasmiṃ ajjhattabahiddhābhede’’ti. Saparasantāneti attaparasantāne. Pahānāyāti ettha hādhātuyā karaṇañca āyasaddassa tadatthabhāvañca dassento āha ‘‘mettābhāvanādīhi nayehi pahānattha’’nti. Mettābhāvanādīhītiādisaddena karuṇābhāvanādiṃ saṅgaṇhāti. Tanti vivādamūlaṃ. ‘‘Appavattibhāvāyā’’ti iminā anavassavāyāti ettha avapubba sudhātuyā pavattanatthaṃ dasseti.
สนฺทิฎฺฐิปรามาสีติ เอตฺถ สสฺส อตฺตโน อิทํ สํ, สํ ทิฎฺฐิํ ปรโต อามสตีติ สนฺทิฎฺฐิปรามาสีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สกเมว ทิฎฺฐิํ ปรามสตี’’ติฯ ‘‘ย’’นฺติอาทินา ปรามสนาการํ ทเสฺสติฯ อาธานคฺคาหีติ เอตฺถ อาภุโส ฐิยเต อาธานนฺติ วจนเตฺถน อาธานสโทฺท ทฬฺหปริยาโยติ อาห ‘‘ทฬฺหคฺคาหี’’ติฯ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ ทฬฺหคฺคาหีฯ
Sandiṭṭhiparāmāsīti ettha sassa attano idaṃ saṃ, saṃ diṭṭhiṃ parato āmasatīti sandiṭṭhiparāmāsīti dassento āha ‘‘sakameva diṭṭhiṃ parāmasatī’’ti. ‘‘Ya’’ntiādinā parāmasanākāraṃ dasseti. Ādhānaggāhīti ettha ābhuso ṭhiyate ādhānanti vacanatthena ādhānasaddo daḷhapariyāyoti āha ‘‘daḷhaggāhī’’ti. Daḷhaṃ gaṇhātīti daḷhaggāhī.
๒๗๓. อนุวาทมูลนิเทฺทโส กิญฺจาปิ สมาโนติ โยชนาฯ อถ โขติ ตถา สมาโนปิ, อยเมตฺถ วิเสโสติ สมฺพโนฺธฯ วิวทนฺตานํ ปุคฺคลานนฺติ โยชนาฯ ตถา วิวทนฺตาติ เตนากาเรน วิวทนฺตา, อนุวทนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อสุกํ นาม วิปตฺติํ อาปโนฺน’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ อาปตฺติยา สลฺลเกฺขตฺวา ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ปาราชิกํ อาปโนฺนสี’’ติอาทิ ฯ เอตฺถาติ อนุวาทมูเลฯ วิเสโสติ วิวาทมูลโต วิเสโสฯ วิวทนฺตานํ โกธูปนาหาทีนิ วิวาทมูลานิ, อนุวทนฺตานํ อนุวาทมูลานีติ วุตฺตํ โหติฯ
273. Anuvādamūlaniddeso kiñcāpi samānoti yojanā. Atha khoti tathā samānopi, ayamettha visesoti sambandho. Vivadantānaṃ puggalānanti yojanā. Tathā vivadantāti tenākārena vivadantā, anuvadantīti sambandho. ‘‘Asukaṃ nāma vipattiṃ āpanno’’ti vuttamevatthaṃ āpattiyā sallakkhetvā dassento āha ‘‘pārājikaṃ āpannosī’’tiādi . Etthāti anuvādamūle. Visesoti vivādamūlato viseso. Vivadantānaṃ kodhūpanāhādīni vivādamūlāni, anuvadantānaṃ anuvādamūlānīti vuttaṃ hoti.
๒๗๔. เมตฺตํ กายกมฺมํ นามาติ เอตฺถ เมตฺตา เอตสฺสตฺถีติ เมตฺตํ, กายกมฺมํ, เมตฺตจิตฺตสหคตํ กายกมฺมนฺติ วุตฺตํ โหติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘เมตฺตจิเตฺตน กตํ กายกมฺม’’นฺติฯ สมฺมุขปรมฺมุขานํ วิตฺถารํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิฯ ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ สมฺมุขปรมฺมุเขสุฯ กายกมฺมํ นามาติ เมตฺตํ กายกมฺมํ นามฯ เถรานํ ทานอิติ สมฺพโนฺธฯ อุภเยหิปีติ นวกเตฺถเรหิปิฯ เตสูติ นวกเตฺถเรสุฯ อวมญฺญนฺติ อวมานํฯ อตฺตโน ทุนฺนิกฺขิตฺตานํ ปฎิสามนํ วิย ปฎิสามนนฺติ โยชนาฯ ‘‘เมตฺตากายกมฺมสงฺขาโต’’ติ อิมินา อยมฺปิ ธโมฺมติ เอตฺถ ธมฺมสรูปํ ทเสฺสติฯ ปิสโทฺท อุปริ วกฺขมาเน ธเมฺม อเปกฺขติฯ ‘‘สริตโพฺพ’’ติ อิมินา อนียสโทฺท กมฺมวาจโกติ ทเสฺสติฯ สติชนโกติ สพฺรหฺมจารีนํ สติชนโกฯ ตสฺส ปทสฺส อธิปฺปายํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘โย น’’นฺติอาทิฯ ตตฺถ โยติ ปุคฺคโลฯ นนฺติ เมตฺตํ กายกมฺมํฯ ตํ ปุคฺคลํ อนุสฺสรนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ เยสนฺติ สพฺรหฺมจารีนํฯ เตติ สพฺรหฺมจาริโนฯ ปสนฺนจิตฺตา หุตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘ปิยํ กโรตี’’ติ อิมินา ปิยกรโณติ ปทสฺส ปิยํ กโรตีติ ปิยกรโณติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ เอเสว นโย ครุกรโณติ เอตฺถาปิฯ ‘‘สงฺคเหตพฺพภาวายา’’ติ อิมินา สงฺคหายาติ ปทสฺส ภาวปฺปธานกมฺมนิเทฺทสภาวํ ทเสฺสติฯ สงฺคเหตโพฺพติ สงฺคโห, ตทตฺถายฯ เตหีติ สพฺรหฺมจารีหิฯ ‘‘สมคฺคภาวายา’’ติ อิมินา สมคฺคสฺส ภาโว สามคฺคีติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ
274.Mettaṃ kāyakammaṃ nāmāti ettha mettā etassatthīti mettaṃ, kāyakammaṃ, mettacittasahagataṃ kāyakammanti vuttaṃ hoti. Tena vuttaṃ ‘‘mettacittena kataṃ kāyakamma’’nti. Sammukhaparammukhānaṃ vitthāraṃ dassento āha ‘‘tatthā’’tiādi. Tattha tatthāti tesu sammukhaparammukhesu. Kāyakammaṃ nāmāti mettaṃ kāyakammaṃ nāma. Therānaṃ dānaiti sambandho. Ubhayehipīti navakattherehipi. Tesūti navakattheresu. Avamaññanti avamānaṃ. Attano dunnikkhittānaṃ paṭisāmanaṃ viya paṭisāmananti yojanā. ‘‘Mettākāyakammasaṅkhāto’’ti iminā ayampi dhammoti ettha dhammasarūpaṃ dasseti. Pisaddo upari vakkhamāne dhamme apekkhati. ‘‘Saritabbo’’ti iminā anīyasaddo kammavācakoti dasseti. Satijanakoti sabrahmacārīnaṃ satijanako. Tassa padassa adhippāyaṃ dassento āha ‘‘yo na’’ntiādi. Tattha yoti puggalo. Nanti mettaṃ kāyakammaṃ. Taṃ puggalaṃ anussarantīti sambandho. Yesanti sabrahmacārīnaṃ. Teti sabrahmacārino. Pasannacittā hutvāti sambandho. ‘‘Piyaṃ karotī’’ti iminā piyakaraṇoti padassa piyaṃ karotīti piyakaraṇoti vacanatthaṃ dasseti. Eseva nayo garukaraṇoti etthāpi. ‘‘Saṅgahetabbabhāvāyā’’ti iminā saṅgahāyāti padassa bhāvappadhānakammaniddesabhāvaṃ dasseti. Saṅgahetabboti saṅgaho, tadatthāya. Tehīti sabrahmacārīhi. ‘‘Samaggabhāvāyā’’ti iminā samaggassa bhāvo sāmaggīti vacanatthaṃ dasseti.
ปคฺคยฺห วจนนฺติ ปคฺคเหตฺวา วจนํฯ วิหาเรติ อาธาเร ภุมฺมํ, เถเร อสเนฺตติ โยชนาฯ ตนฺติ เถรํ กทา อาคมิสฺสติ นุโขติ โยชนาฯ มมายนวจนนฺติ มมายนากาเรน ปวตฺตํ วจนํฯ เมตฺตาสิเนหสินิทฺธานีติ เมตฺตาสงฺขาเตน สิเนเหน สิเนหิตานิฯ นยนานีติ จกฺขูนิฯ ‘‘อปฺปาพาโธ’’ติ อิมินา อโรโคติ ปทเสฺสว อตฺถํ ทเสฺสติฯ นิจฺจาพาเธน วา อโรโค, อาคนฺตุกาพาเธน อปฺปาพาโธ, อชฺฌตฺตาพาเธน วา อโรโค, พหิทฺธาพาเธน อปฺปาพาโธ, กายาพาเธน วา อโรโค, จิตฺตาพาเธน อปฺปาพาโธฯ สมนฺนาหรณนฺติ ปุนปฺปุนํ มนสิกรณํฯ
Paggayha vacananti paggahetvā vacanaṃ. Vihāreti ādhāre bhummaṃ, there asanteti yojanā. Tanti theraṃ kadā āgamissati nukhoti yojanā. Mamāyanavacananti mamāyanākārena pavattaṃ vacanaṃ. Mettāsinehasiniddhānīti mettāsaṅkhātena sinehena sinehitāni. Nayanānīti cakkhūni. ‘‘Appābādho’’ti iminā arogoti padasseva atthaṃ dasseti. Niccābādhena vā arogo, āgantukābādhena appābādho, ajjhattābādhena vā arogo, bahiddhābādhena appābādho, kāyābādhena vā arogo, cittābādhena appābādho. Samannāharaṇanti punappunaṃ manasikaraṇaṃ.
น ปุคฺคลํ ปฎิวิภชิตฺวา ภุญฺชตีติ โยชนาฯ ตทตฺถํ วิตฺถาเรโนฺต อาห ‘‘โย หี’’ติอาทิฯ ตตฺถ โยติ ปุคฺคโล, ภุญฺชตีติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘เอตฺตกํ…เป.… ภุญฺชิสฺสามี’’ติ อิมินา อามิสปฎิวิภตฺตโภคิภาวํ ทเสฺสติฯ ‘‘เอตฺตกํ วา อสุกสฺส จ…เป.… ภุญฺชิสฺสามี’’ติ อิมินา ปุคฺคลปฎิวิภตฺตโภคิภาวํ ทเสฺสติฯ อยนฺติ ปุคฺคโลฯ อาภตนฺติ คามาทิโต อานีตํฯ อทาตุมฺปีติ ปิสเทฺทน ทาตุมฺปิ วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ ทานญฺหิ นาม น กสฺสจิ วาริตํฯ สเพฺพสนฺติ ทุสฺสีลสีลวนฺตานํฯ วุตฺตนฺติ อฎฺฐกถายํ (ที. นิ. อฎฺฐ. ๒.๑๔๑; ม. นิ. อฎฺฐ. ๒.๔๙๒; อ. นิ. อฎฺฐ. ๓.๖.๑๑) วุตฺตํฯ วิเจยฺยาติ วิจินิตฺวาฯ ทาตุมฺปีติ ปิสเทฺทน อวิจินิตฺวา สามญฺญโต ทาตุมฺปิ วฎฺฎตีติ สมฺปิเณฺฑติฯ นนุ เอวํ สติ ปุคฺคลวิภาโค กโต นาม โหติ, กสฺมา วิเจยฺย ทาตุํ วฎฺฎตีติ อาห ‘‘น หี’’ติอาทิฯ หีติ ยสฺมาฯ เอเตติ คิลานาทโยฯ อิทํ ปทํ วิจินิตฺวาติ ปเท กมฺมํ, ‘‘เทเนฺตนา’’ติ ปเท สมฺปทานํฯ หีติ สจฺจํฯ อิติ อยนฺติ อิติ มนสิกตฺวา อยํ สารณียธมฺมปูรโกฯ
Na puggalaṃ paṭivibhajitvā bhuñjatīti yojanā. Tadatthaṃ vitthārento āha ‘‘yo hī’’tiādi. Tattha yoti puggalo, bhuñjatīti sambandho. ‘‘Ettakaṃ…pe… bhuñjissāmī’’ti iminā āmisapaṭivibhattabhogibhāvaṃ dasseti. ‘‘Ettakaṃ vā asukassa ca…pe… bhuñjissāmī’’ti iminā puggalapaṭivibhattabhogibhāvaṃ dasseti. Ayanti puggalo. Ābhatanti gāmādito ānītaṃ. Adātumpīti pisaddena dātumpi vaṭṭatīti dasseti. Dānañhi nāma na kassaci vāritaṃ. Sabbesanti dussīlasīlavantānaṃ. Vuttanti aṭṭhakathāyaṃ (dī. ni. aṭṭha. 2.141; ma. ni. aṭṭha. 2.492; a. ni. aṭṭha. 3.6.11) vuttaṃ. Viceyyāti vicinitvā. Dātumpīti pisaddena avicinitvā sāmaññato dātumpi vaṭṭatīti sampiṇḍeti. Nanu evaṃ sati puggalavibhāgo kato nāma hoti, kasmā viceyya dātuṃ vaṭṭatīti āha ‘‘na hī’’tiādi. Hīti yasmā. Eteti gilānādayo. Idaṃ padaṃ vicinitvāti pade kammaṃ, ‘‘dentenā’’ti pade sampadānaṃ. Hīti saccaṃ. Iti ayanti iti manasikatvā ayaṃ sāraṇīyadhammapūrako.
อขณฺฑานีติอาทีสุ ปฐมํ ตาว ขณฺฑฉิทฺทสพลกมฺมาสานิ ทเสฺสตฺวา เตสํ ปฎิปกฺขวเสน อขณฺฑาทีนิ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิฯ ตตฺถ ยสฺสาติ ภิกฺขุสฺส, สิกฺขาปทํ ภินฺนนฺติ สมฺพโนฺธฯ สตฺตสุ อาปตฺติกฺขเนฺธสูติ อาธาเร ภุมฺมํ, สิกฺขาปทนฺติ สมฺพโนฺธฯ อาปตฺติญฺหิ ปฎิจฺจ สิกฺขาปทสฺส ปญฺญตฺตตฺตา อาปตฺติ ตสฺส วิสโย โหติฯ อาทิมฺหิ วา อเนฺต วาติ สิกฺขาปทานํ อาทิมฺหิ วา อเนฺต วาฯ วาสโทฺท อนิยมวิกปฺปโตฺถฯ สิกฺขาปเท ภิเนฺน อาปตฺติสมฺภวโต วุตฺตํ ‘‘สิกฺขาปทํ ภินฺน’’นฺติฯ ขณฺฑํ นามาติ ฉินฺนํ นามฯ เวมเชฺฌติ สิกฺขาปทานํ เวมเชฺฌฯ ภินฺนนฺติ สิกฺขาปทํ ภินฺนํฯ ฉิทฺทํ นามาติ วิวรํ นามฯ เทฺว ตีณิ สิกฺขาปทานีติ สมฺพโนฺธฯ สพลํ นามาติ จิตฺรํ นามฯ ภินฺนานีติ สิกฺขาปทานิ ภินฺนานิฯ กมฺมาสํ นามาติ วิจิตฺรํ นามฯ เอตฺถ จ เอกสฺมิํ ฐาเน เอเกน วิสภาควเณฺณน จิตฺรํ สพลํ นาม, นานาฐาเน นานาวเณฺณน วิจิตฺรํ กมฺมาสํ นามาติ อยเมเตสํ วิเสโสฯ ขณฺฑาทีนํ วิปริวตฺตนวเสน อขณฺฑาทีนิ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยสฺส ปนา’’ติอาทิฯ อภินฺนานิสีลานีติ อภินฺนานิ สิกฺขาปทสีลานิฯ ตานิ ปนาติ สีลานิ ปนฯ ‘‘เอตานี’’ติ ปทํ ปทาลงฺการมตฺตํฯ ภุชิสฺสภาวกรณโตติ ตณฺหาทาสพฺยโต โมเจตฺวา ภุชิสฺสกรณภาวโตฯ อิมินา ‘‘ภุชิสฺสภาวกรณานี’’ติ วตฺตเพฺพ อุตฺตรปทโลปวเสน เอวํ วุตฺตนฺติ ทเสฺสติฯ ภุชิสฺสานีติ วุจฺจนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ วิญฺญูหีติ พุทฺธาทีหิ สปฺปุริเสหิฯ อุปจารสมาธิํ อปฺปนาสมาธิํ วาติ เอตฺถ วาสโทฺท สมุจฺจยโตฺถฯ อุปจารสมาธิญฺจ อปฺปนาสมาธิํ จาติ หิ อโตฺถฯ ‘‘สํวตฺตยนฺตี’’ติ อิมินา สมาธิสํวตฺตนิกานีติ เอตฺถ อนียสโทฺท พหุลํ กตฺตุวาจโกติ ทเสฺสติฯ สีลสามญฺญคโตติ เอตฺถ สมานสฺส ภาโว สามญฺญํ, ตํ คโตติ สามญฺญคโต, สีเลน สามญฺญคโต สีลสามญฺญคโต, หุตฺวา วิหรตีติ โยชนาฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สมานภาวูปคตสีโล วิหรตี’’ติฯ
Akhaṇḍānītiādīsu paṭhamaṃ tāva khaṇḍachiddasabalakammāsāni dassetvā tesaṃ paṭipakkhavasena akhaṇḍādīni dassento āha ‘‘yassā’’tiādi. Tattha yassāti bhikkhussa, sikkhāpadaṃ bhinnanti sambandho. Sattasu āpattikkhandhesūti ādhāre bhummaṃ, sikkhāpadanti sambandho. Āpattiñhi paṭicca sikkhāpadassa paññattattā āpatti tassa visayo hoti. Ādimhi vā ante vāti sikkhāpadānaṃ ādimhi vā ante vā. Vāsaddo aniyamavikappattho. Sikkhāpade bhinne āpattisambhavato vuttaṃ ‘‘sikkhāpadaṃ bhinna’’nti. Khaṇḍaṃ nāmāti chinnaṃ nāma. Vemajjheti sikkhāpadānaṃ vemajjhe. Bhinnanti sikkhāpadaṃ bhinnaṃ. Chiddaṃ nāmāti vivaraṃ nāma. Dve tīṇi sikkhāpadānīti sambandho. Sabalaṃ nāmāti citraṃ nāma. Bhinnānīti sikkhāpadāni bhinnāni. Kammāsaṃ nāmāti vicitraṃ nāma. Ettha ca ekasmiṃ ṭhāne ekena visabhāgavaṇṇena citraṃ sabalaṃ nāma, nānāṭhāne nānāvaṇṇena vicitraṃ kammāsaṃ nāmāti ayametesaṃ viseso. Khaṇḍādīnaṃ viparivattanavasena akhaṇḍādīni dassento āha ‘‘yassa panā’’tiādi. Abhinnānisīlānīti abhinnāni sikkhāpadasīlāni. Tāni panāti sīlāni pana. ‘‘Etānī’’ti padaṃ padālaṅkāramattaṃ. Bhujissabhāvakaraṇatoti taṇhādāsabyato mocetvā bhujissakaraṇabhāvato. Iminā ‘‘bhujissabhāvakaraṇānī’’ti vattabbe uttarapadalopavasena evaṃ vuttanti dasseti. Bhujissānīti vuccantīti sambandho. Viññūhīti buddhādīhi sappurisehi. Upacārasamādhiṃ appanāsamādhiṃ vāti ettha vāsaddo samuccayattho. Upacārasamādhiñca appanāsamādhiṃ cāti hi attho. ‘‘Saṃvattayantī’’ti iminā samādhisaṃvattanikānīti ettha anīyasaddo bahulaṃ kattuvācakoti dasseti. Sīlasāmaññagatoti ettha samānassa bhāvo sāmaññaṃ, taṃ gatoti sāmaññagato, sīlena sāmaññagato sīlasāmaññagato, hutvā viharatīti yojanā. Tena vuttaṃ ‘‘samānabhāvūpagatasīlo viharatī’’ti.
ยายํ ทิฎฺฐีติ เอตฺถ ‘‘ทิฎฺฐี’’ติ สามญฺญคตสฺสาปิ สทฺทสฺส ‘‘อริยา’’ติ สทฺทนฺตรสนฺนิธาเนน วิเสสวิสยตฺตา สมฺมาทิฎฺฐีติ อาห ‘‘มคฺคสมฺปยุตฺตา สมฺมาทิฎฺฐี’’ติฯ ‘‘มคฺคสมฺปยุตฺตา’’ติ อิมินา โลกิยสมฺมาทิฎฺฐิํ ปฎิกฺขิปติฯ นิโทฺทสาติ วิสุทฺธตฺตา, อุตฺตมตฺตา วา นิโทฺทสาฯ อิมินา อริยสโทฺท นิโทฺทสตฺถวาจโก อนิปฺผนฺนปาฎิปทิโกติ ทเสฺสติฯ นิยฺยาตีติ นิพฺพานํ ยาติฯ อิมินา อนียสโทฺท พหุลํ กตฺตุวาจโกติ ทเสฺสติฯ โย ตถาการี โหติ, ตกฺกรสฺสาติ โยชนาฯ ตถาการีติ ตาย มคฺคสมฺปยุตฺตาย สมฺมาทิฎฺฐิยา การี โหติฯ อิมินา ตาย สมฺมาทิฎฺฐิยา กโรตีติ ตกฺกโรติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ ทุกฺขกฺขยายาติ เอตฺถ ขียนํ ขโย, ทุกฺขสฺส ขโย ทุกฺขกฺขโย, ตทตฺถายาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สพฺพทุกฺขสฺส ขยตฺถ’’นฺติฯ เสสนฺติ วุตฺตวจนโต เสสํ วจนํฯ
Yāyaṃdiṭṭhīti ettha ‘‘diṭṭhī’’ti sāmaññagatassāpi saddassa ‘‘ariyā’’ti saddantarasannidhānena visesavisayattā sammādiṭṭhīti āha ‘‘maggasampayuttā sammādiṭṭhī’’ti. ‘‘Maggasampayuttā’’ti iminā lokiyasammādiṭṭhiṃ paṭikkhipati. Niddosāti visuddhattā, uttamattā vā niddosā. Iminā ariyasaddo niddosatthavācako anipphannapāṭipadikoti dasseti. Niyyātīti nibbānaṃ yāti. Iminā anīyasaddo bahulaṃ kattuvācakoti dasseti. Yo tathākārī hoti, takkarassāti yojanā. Tathākārīti tāya maggasampayuttāya sammādiṭṭhiyā kārī hoti. Iminā tāya sammādiṭṭhiyā karotīti takkaroti vacanatthaṃ dasseti. Dukkhakkhayāyāti ettha khīyanaṃ khayo, dukkhassa khayo dukkhakkhayo, tadatthāyāti dassento āha ‘‘sabbadukkhassa khayattha’’nti. Sesanti vuttavacanato sesaṃ vacanaṃ.
อิติ กติปุจฺฉาวารวณฺณนาย โยชนา สมตฺตาฯ
Iti katipucchāvāravaṇṇanāya yojanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / กติปุจฺฉาวาโร • Katipucchāvāro
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā / กติปุจฺฉาวารวณฺณนา • Katipucchāvāravaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / กติปุจฺฉาวารวณฺณนา • Katipucchāvāravaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / กติปุจฺฉาวารวณฺณนา • Katipucchāvāravaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / กติปุจฺฉาวารวณฺณนา • Katipucchāvāravaṇṇanā