Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā

    อนฺตราเยอนาปตฺติวสฺสเจฺฉทกถาวณฺณนา

    Antarāyeanāpattivassacchedakathāvaṇṇanā

    ๒๐๐. ปาฬิยํ คณฺหิํสูติ คเหตฺวา ขาทิํสุฯ ปริปาติํสูติ ปลาเปสุํ, อนุพนฺธิํสูติ อโตฺถฯ

    200. Pāḷiyaṃ gaṇhiṃsūti gahetvā khādiṃsu. Paripātiṃsūti palāpesuṃ, anubandhiṃsūti attho.

    ๒๐๑. สตฺตาหวาเรน อรุโณ อุฎฺฐาเปตโพฺพติ เอตฺถ ฉทิวสานิ พหิทฺธา วีตินาเมตฺวา สตฺตเม ทิวเส ปุรารุณา เอว อโนฺตอุปจารสีมาย ปวิสิตฺวา อรุณํ อุฎฺฐาเปตฺวา ปุนทิวเส สตฺตาหํ อธิฎฺฐาย คนฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโยฯ เกจิ ปน ‘‘สตฺตเม ทิวเส อาคนฺตฺวา อรุณํ อนุฎฺฐาเปตฺวา ตทเหว ทิวสภาเคปิ คนฺตุํ วฎฺฎตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ ‘‘อรุโณ อุฎฺฐาเปตโพฺพ’’ติ วุตฺตตฺตาฯ สตฺตเม ทิวเส ตตฺถ อรุณุฎฺฐาปนเมว หิ สนฺธาย ปาฬิยมฺปิ ‘‘สตฺตาหํ สนฺนิวโตฺต กาตโพฺพ’’ติ วุตฺตํฯ อรุณํ อนุฎฺฐาเปตฺวา คจฺฉโนฺต อโนฺต อปฺปวิสิตฺวา พหิทฺธาว สตฺตาหํ วีตินาเมเนฺตน สมุจฺฉินฺนวโสฺส เอว ภวิสฺสติ อรุณสฺส พหิ เอว อุฎฺฐาปิตตฺตาฯ อิตรถา ‘‘อรุโณ อุฎฺฐาเปตโพฺพ’’ติ วจนํ นิรตฺถกํ สิยา ‘‘สตฺตาหวาเรน อโนฺตวิหาเร ปวิสิตฺวา อรุณํ อนุฎฺฐาเปตฺวาปิ คนฺตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพโตฯ อเญฺญสุ จ ฐาเนสุ อรุณุฎฺฐาปนเมว วุจฺจติฯ วกฺขติ หิ จีวรกฺขนฺธเก ‘‘เอกสฺมิํ วิหาเร วสโนฺต อิตรสฺมิํ สตฺตาหวาเรน อรุณเมว อุฎฺฐาเปตี’’ติ (มหาว. อฎฺฐ. ๓๖๔)ฯ

    201.Sattāhavārena aruṇo uṭṭhāpetabboti ettha chadivasāni bahiddhā vītināmetvā sattame divase purāruṇā eva antoupacārasīmāya pavisitvā aruṇaṃ uṭṭhāpetvā punadivase sattāhaṃ adhiṭṭhāya gantabbanti adhippāyo. Keci pana ‘‘sattame divase āgantvā aruṇaṃ anuṭṭhāpetvā tadaheva divasabhāgepi gantuṃ vaṭṭatī’’ti vadanti, taṃ na gahetabbaṃ ‘‘aruṇo uṭṭhāpetabbo’’ti vuttattā. Sattame divase tattha aruṇuṭṭhāpanameva hi sandhāya pāḷiyampi ‘‘sattāhaṃ sannivatto kātabbo’’ti vuttaṃ. Aruṇaṃ anuṭṭhāpetvā gacchanto anto appavisitvā bahiddhāva sattāhaṃ vītināmentena samucchinnavasso eva bhavissati aruṇassa bahi eva uṭṭhāpitattā. Itarathā ‘‘aruṇo uṭṭhāpetabbo’’ti vacanaṃ niratthakaṃ siyā ‘‘sattāhavārena antovihāre pavisitvā aruṇaṃ anuṭṭhāpetvāpi gantabba’’nti vattabbato. Aññesu ca ṭhānesu aruṇuṭṭhāpanameva vuccati. Vakkhati hi cīvarakkhandhake ‘‘ekasmiṃ vihāre vasanto itarasmiṃ sattāhavārena aruṇameva uṭṭhāpetī’’ti (mahāva. aṭṭha. 364).

    อถาปิ ยํ เต วเทยฺยุํ ‘‘สตฺตเม ทิวเส ยทา กทาจิ ปวิเฎฺฐน ตํทิวสนิสฺสิโต อตีตอรุโณ อุฎฺฐาปิโต นาม โหตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย อฎฺฐกถายํ วุตฺต’’นฺติ, ตํ สทฺทคติยาปิ น สเมติฯ น หิ อุฎฺฐิเต อรุเณ ปจฺฉา ปวิโฎฺฐ ตสฺส ปโยชโก อุฎฺฐาปโก ภวิตุมรหติฯ ยทิ ภเวยฺย, วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ปนสฺส อรุณํ อนุฎฺฐาเปตฺวา ตทเหว สตฺตาหกรณีเยน ปกฺกนฺตสฺสาปีติ เอตฺถ ‘‘อรุณํ อนุฎฺฐาเปตฺวา’’ติ วจนํ วิรุเชฺฌยฺย, เตนปิ ตํทิวสสนฺนิสฺสิตสฺส อรุณสฺส อุฎฺฐาปิตตฺตาฯ อารญฺญกสฺสาปิ หิ ภิกฺขุโน สายนฺหสมเย องฺคยุตฺตํ อรญฺญฎฺฐานํ คนฺตฺวา ตทา เอว นิวตฺตนฺตสฺส อรุโณ อุฎฺฐาปิโต ธุตงฺคญฺจ วิโสธิตํ สิยา, น เจตํ ยุตฺตํ อรุณุคฺคมนกาเล เอว อรุณุฎฺฐาปนสฺส วุตฺตตฺตาฯ วุตฺตญฺหิ ‘‘กาลเสฺสว ปน นิกฺขมิตฺวา องฺคยุเตฺต ฐาเน อรุณํ อุฎฺฐาเปตพฺพํฯ สเจ อรุณุฎฺฐานเวลายํ เตสํ อาพาโธ วฑฺฒติ, เตสํ เอว กิจฺจํ กาตพฺพํ, น ธุตงฺควิสุทฺธิเกน ภวิตพฺพ’’นฺติ (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑)ฯ ตถา ปาริวาสิกาทีนมฺปิ อรุณํ อนุฎฺฐาเปตฺวา วตฺตํ นิกฺขิปนฺตานํ รตฺติเจฺฉโท วุโตฺตฯ ‘‘อุคฺคเต อรุเณ นิกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๙๗) หิ วุตฺตํฯ สหเสยฺยสิกฺขาปเทปิ อนุปสมฺปเนฺนหิ สห นิวุตฺถภาวปริโมจนตฺถํ ‘‘ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เอวํ จีวรวิปฺปวาสาทีสุ จ สพฺพตฺถ รตฺติปริโยสาเน อาคามิอรุณวเสเนว อรุณุฎฺฐาปนํ ทสฺสิตํ, น อตีตารุณวเสนฯ ตสฺมา วุตฺตนเยเนเวตฺถ อรุณุฎฺฐาปนํ เวทิตพฺพํ อญฺญถา วสฺสเจฺฉทตฺตาฯ

    Athāpi yaṃ te vadeyyuṃ ‘‘sattame divase yadā kadāci paviṭṭhena taṃdivasanissito atītaaruṇo uṭṭhāpito nāma hotīti imamatthaṃ sandhāya aṭṭhakathāyaṃ vutta’’nti, taṃ saddagatiyāpi na sameti. Na hi uṭṭhite aruṇe pacchā paviṭṭho tassa payojako uṭṭhāpako bhavitumarahati. Yadi bhaveyya, vassaṃ upagantvā panassa aruṇaṃ anuṭṭhāpetvā tadaheva sattāhakaraṇīyena pakkantassāpīti ettha ‘‘aruṇaṃ anuṭṭhāpetvā’’ti vacanaṃ virujjheyya, tenapi taṃdivasasannissitassa aruṇassa uṭṭhāpitattā. Āraññakassāpi hi bhikkhuno sāyanhasamaye aṅgayuttaṃ araññaṭṭhānaṃ gantvā tadā eva nivattantassa aruṇo uṭṭhāpito dhutaṅgañca visodhitaṃ siyā, na cetaṃ yuttaṃ aruṇuggamanakāle eva aruṇuṭṭhāpanassa vuttattā. Vuttañhi ‘‘kālasseva pana nikkhamitvā aṅgayutte ṭhāne aruṇaṃ uṭṭhāpetabbaṃ. Sace aruṇuṭṭhānavelāyaṃ tesaṃ ābādho vaḍḍhati, tesaṃ eva kiccaṃ kātabbaṃ, na dhutaṅgavisuddhikena bhavitabba’’nti (visuddhi. 1.31). Tathā pārivāsikādīnampi aruṇaṃ anuṭṭhāpetvā vattaṃ nikkhipantānaṃ ratticchedo vutto. ‘‘Uggate aruṇe nikkhipitabba’’nti (cūḷava. 97) hi vuttaṃ. Sahaseyyasikkhāpadepi anupasampannehi saha nivutthabhāvaparimocanatthaṃ ‘‘purāruṇā nikkhamitvā’’tiādi vuttaṃ. Evaṃ cīvaravippavāsādīsu ca sabbattha rattipariyosāne āgāmiaruṇavaseneva aruṇuṭṭhāpanaṃ dassitaṃ, na atītāruṇavasena. Tasmā vuttanayenevettha aruṇuṭṭhāpanaṃ veditabbaṃ aññathā vassacchedattā.

    ยํ ปน วสฺสํ อุปคตสฺส ตทเหว อรุณํ อนุฎฺฐาเปตฺวา สกรณียสฺส ปกฺกมนวจนํ, ตํ วสฺสํ อุปคตกาลโต ปฎฺฐาย ยทา กทาจิ นิมิเตฺต สติ คมนสฺส อนุญฺญาตตฺตา ยุตฺตํ, น ปน สตฺตาหวาเรน คตสฺส อรุณํ อนุฎฺฐาเปตฺวา ตทเหว คมนํ ‘‘อรุโณ อุฎฺฐาเปตโพฺพ’’ติ วุตฺตตฺตา เอวฯ ยถา วา ‘‘สตฺตาหํ อนาคตาย ปวารณาย สกรณีโย ปกฺกมติ, อาคเจฺฉยฺย วา โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตํ อาวาสํ, น วา อาคเจฺฉยฺยา’’ติอาทินา (มหาว. ๒๐๗) ปจฺฉิมสตฺตาเห อนาคมเน อนุญฺญาเตปิ อญฺญสตฺตาเหสุ น วฎฺฎติฯ เอวํ ปฐมสตฺตาเห อรุณํ อนุฎฺฐาเปตฺวา คมเน อนุญฺญาเตปิ ตโต ปเรสุ สตฺตาเหสุ อาคตสฺส อรุณํ อนุฎฺฐาเปตฺวา คมนํ น วฎฺฎตีติ นิฎฺฐเมตฺถ คนฺตพฺพํฯ อิธ อาหฎนฺติ วิหารโต พหิ อาคตฎฺฐาเน อานีตํฯ

    Yaṃ pana vassaṃ upagatassa tadaheva aruṇaṃ anuṭṭhāpetvā sakaraṇīyassa pakkamanavacanaṃ, taṃ vassaṃ upagatakālato paṭṭhāya yadā kadāci nimitte sati gamanassa anuññātattā yuttaṃ, na pana sattāhavārena gatassa aruṇaṃ anuṭṭhāpetvā tadaheva gamanaṃ ‘‘aruṇo uṭṭhāpetabbo’’ti vuttattā eva. Yathā vā ‘‘sattāhaṃ anāgatāya pavāraṇāya sakaraṇīyo pakkamati, āgaccheyya vā so, bhikkhave, bhikkhu taṃ āvāsaṃ, na vā āgaccheyyā’’tiādinā (mahāva. 207) pacchimasattāhe anāgamane anuññātepi aññasattāhesu na vaṭṭati. Evaṃ paṭhamasattāhe aruṇaṃ anuṭṭhāpetvā gamane anuññātepi tato paresu sattāhesu āgatassa aruṇaṃ anuṭṭhāpetvā gamanaṃ na vaṭṭatīti niṭṭhamettha gantabbaṃ. Idha āhaṭanti vihārato bahi āgataṭṭhāne ānītaṃ.

    อนฺตราเยอนาปตฺติวสฺสเจฺฉทกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Antarāyeanāpattivassacchedakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๑๑๓. อนฺตราเย อนาปตฺติวสฺสเจฺฉทวาโร • 113. Antarāye anāpattivassacchedavāro

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อนฺตราเยอนาปตฺติวสฺสเจฺฉทกถา • Antarāyeanāpattivassacchedakathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อนฺตราเย อนาปตฺติวสฺสเจฺฉทกถาวณฺณนา • Antarāye anāpattivassacchedakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อนฺตราเยอนาปตฺติวสฺสเจฺฉทกถาวณฺณนา • Antarāyeanāpattivassacchedakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๑๓. อนฺตราเย อนาปตฺติวสฺสเจฺฉทกถา • 113. Antarāye anāpattivassacchedakathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact