Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Majjhima Nikāya, English translation |
มชฺฌิม นิกาย ๑๑๑
The Middle-Length Suttas Collection 111
อนุปทสุตฺต
One by One
เอวํ เม สุตํ—เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ: “ภิกฺขโว”ติฯ
So I have heard. At one time the Buddha was staying near Sāvatthī in Jeta’s Grove, Anāthapiṇḍika’s monastery. There the Buddha addressed the bhikkhus, “Bhikkhus!”
“ภทนฺเต”ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ:
“Venerable sir,” they replied. The Buddha said this:
“ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; มหาปญฺโญ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ปุถุปญฺโญ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; หาสปญฺโญ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ชวนปญฺโญ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; ติกฺขปญฺโญ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; นิพฺเพธิกปญฺโญ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต; สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, อฑฺฒมาสํ อนุปทธมฺมวิปสฺสนํ วิปสฺสติฯ ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺตสฺส อนุปทธมฺมวิปสฺสนาย โหติฯ
“Sāriputta is astute, bhikkhus. He has great wisdom, widespread wisdom, laughing wisdom, swift wisdom, sharp wisdom, and penetrating wisdom. For a fortnight he practiced discernment of phenomena one by one. And this is how he did it.
อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ เย จ ปฐเม ฌาเน ธมฺมา วิตกฺโก จ วิจาโร จ ปีติ จ สุขญฺจ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผโสฺส เวทนา สญฺญา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร—ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติฯ ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ โส เอวํ ปชานาติ: ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี'ติฯ โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติฯ โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ'ติ ปชานาติฯ ตพฺพหุลีการา อตฺถิเตฺววสฺส โหติฯ
Quite secluded from sensual pleasures, secluded from unskillful qualities, he entered and remained in the first jhāna, which has the rapture and bliss born of seclusion, while placing the mind and keeping it connected. And he distinguished the phenomena in the first jhāna one by one: placing and keeping and rapture and bliss and unification of mind; contact, feeling, perception, intention, mind, enthusiasm, decision, energy, mindfulness, equanimity, and application of mind. He knew those phenomena as they arose, as they remained, and as they went away. He understood: ‘So it seems that these phenomena, not having been, come to be; and having come to be, they flit away.’ And he meditated without attraction or repulsion for those phenomena; independent, untied, liberated, detached, his mind free of limits. He understood: ‘There is an escape beyond.’ And by repeated practice he knew for sure that there is.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ
Furthermore, as the placing of the mind and keeping it connected were stilled, he entered and remained in the second jhāna, which has the rapture and bliss born of immersion, with internal clarity and mind at one, without placing the mind and keeping it connected.
เย จ ทุติเย ฌาเน ธมฺมา—อชฺฌตฺตํ สมฺปสาโท จ ปีติ จ สุขญฺจ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผโสฺส เวทนา สญฺญา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร—ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติฯ ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ โส เอวํ ปชานาติ: ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี'ติฯ โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติฯ โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ'ติ ปชานาติฯ ตพฺพหุลีการา อตฺถิเตฺววสฺส โหติฯ
And he distinguished the phenomena in the second jhāna one by one: internal confidence and rapture and bliss and unification of mind; contact, feeling, perception, intention, mind, enthusiasm, decision, energy, mindfulness, equanimity, and application of mind. He knew those phenomena as they arose, as they remained, and as they went away. He understood: ‘So it seems that these phenomena, not having been, come to be; and having come to be, they flit away.’ And he meditated without attraction or repulsion for those phenomena; independent, untied, liberated, detached, his mind free of limits. He understood: ‘There is an escape beyond.’ And by repeated practice he knew for sure that there is.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขญฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติฯ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ: ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี'ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ
Furthermore, with the fading away of rapture, he entered and remained in the third jhāna, where he meditated with equanimity, mindful and aware, personally experiencing the bliss of which the noble ones declare, ‘Equanimous and mindful, one meditates in bliss.’
เย จ ตติเย ฌาเน ธมฺมา—สุขญฺจ สติ จ สมฺปชญฺญญฺจ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผโสฺส เวทนา สญฺญา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร—ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติ, ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ โส เอวํ ปชานาติ: ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี'ติฯ โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติฯ โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ'ติ ปชานาติฯ ตพฺพหุลีการา อตฺถิเตฺววสฺส โหติฯ
And he distinguished the phenomena in the third jhāna one by one: bliss and mindfulness and awareness and unification of mind; contact, feeling, perception, intention, mind, enthusiasm, decision, energy, mindfulness, equanimity, and application of mind. He knew those phenomena as they arose, as they remained, and as they went away. He understood: ‘So it seems that these phenomena, not having been, come to be; and having come to be, they flit away.’ And he meditated without attraction or repulsion for those phenomena; independent, untied, liberated, detached, his mind free of limits. He understood: ‘There is an escape beyond.’ And by repeated practice he knew for sure that there is.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ
Furthermore, with the giving up of pleasure and pain, and the ending of former happiness and sadness, he entered and remained in the fourth jhāna, without pleasure or pain, with pure equanimity and mindfulness.
เย จ จตุตฺเถ ฌาเน ธมฺมา—อุเปกฺขา อทุกฺขมสุขา เวทนา ปสฺสทฺธตฺตา เจตโส อนาโภโค สติปาริสุทฺธิ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผโสฺส เวทนา สญฺญา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร—ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติฯ ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ โส เอวํ ปชานาติ: ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี'ติฯ โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติฯ โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ'ติ ปชานาติฯ ตพฺพหุลีการา อตฺถิเตฺววสฺส โหติฯ
And he distinguished the phenomena in the fourth jhāna one by one: equanimity and neutral feeling and mental unconcern due to tranquility and pure mindfulness and unification of mind; contact, feeling, perception, intention, mind, enthusiasm, decision, energy, mindfulness, equanimity, and application of mind. He knew those phenomena as they arose, as they remained, and as they went away. He understood: ‘So it seems that these phenomena, not having been, come to be; and having come to be, they flit away.’ And he meditated without attraction or repulsion for those phenomena; independent, untied, liberated, detached, his mind free of limits. He understood: ‘There is an escape beyond.’ And by repeated practice he knew for sure that there is.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส'ติ อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ
Furthermore, going totally beyond perceptions of form, with the ending of perceptions of impingement, not focusing on perceptions of diversity, aware that ‘space is infinite’, he entered and remained in the dimension of infinite space.
เย จ อากาสานญฺจายตเน ธมฺมา—อากาสานญฺจายตนสญฺญา จ จิตฺเตกคฺคตา จ ผโสฺส เวทนา สญฺญา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร—ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติฯ ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ โส เอวํ ปชานาติ: ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี'ติฯ โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติฯ โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ'ติ ปชานาติฯ ตพฺพหุลีการา อตฺถิเตฺววสฺส โหติฯ
And he distinguished the phenomena in the dimension of infinite space one by one: the perception of the dimension of infinite space and unification of mind; contact, feeling, perception, intention, mind, enthusiasm, decision, energy, mindfulness, equanimity, and application of mind. He knew those phenomena as they arose, as they remained, and as they went away. He understood: ‘So it seems that these phenomena, not having been, come to be; and having come to be, they flit away.’ And he meditated without attraction or repulsion for those phenomena; independent, untied, liberated, detached, his mind free of limits. He understood: ‘There is an escape beyond.’ And by repeated practice he knew for sure that there is.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิญฺญาณนฺ'ติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ
Furthermore, going totally beyond the dimension of infinite space, aware that ‘consciousness is infinite’, he entered and remained in the dimension of infinite consciousness.
เย จ วิญฺญาณญฺจายตเน ธมฺมา—วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญา จ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผโสฺส เวทนา สญฺญา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร—ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติฯ ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ โส เอวํ ปชานาติ: ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี'ติฯ โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติฯ โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ'ติ ปชานาติฯ ตพฺพหุลีการา อตฺถิเตฺววสฺส โหติฯ
And he distinguished the phenomena in the dimension of infinite consciousness one by one: the perception of the dimension of infinite consciousness and unification of mind; contact, feeling, perception, intention, mind, enthusiasm, decision, energy, mindfulness, equanimity, and application of mind. He knew those phenomena as they arose, as they remained, and as they went away. He understood: ‘So it seems that these phenomena, not having been, come to be; and having come to be, they flit away.’ And he meditated without attraction or repulsion for those phenomena; independent, untied, liberated, detached, his mind free of limits. He understood: ‘There is an escape beyond.’ And by repeated practice he knew for sure that there is.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิญฺจี'ติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ
Furthermore, going totally beyond the dimension of infinite consciousness, aware that ‘there is nothing at all’, he entered and remained in the dimension of nothingness.
เย จ อากิญฺจญฺญายตเน ธมฺมา—อากิญฺจญฺญายตนสญฺญา จ จิตฺเตกคฺคตา จ, ผโสฺส เวทนา สญฺญา เจตนา จิตฺตํ ฉนฺโท อธิโมกฺโข วีริยํ สติ อุเปกฺขา มนสิกาโร—ตฺยาสฺส ธมฺมา อนุปทววตฺถิตา โหนฺติฯ ตฺยาสฺส ธมฺมา วิทิตา อุปฺปชฺชนฺติ, วิทิตา อุปฏฺฐหนฺติ, วิทิตา อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ โส เอวํ ปชานาติ: ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี'ติฯ โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติฯ โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ'ติ ปชานาติฯ ตพฺพหุลีการา อตฺถิเตฺววสฺส โหติฯ
And he distinguished the phenomena in the dimension of nothingness one by one: the perception of the dimension of nothingness and unification of mind; contact, feeling, perception, intention, mind, enthusiasm, decision, energy, mindfulness, equanimity, and application of mind. He knew those phenomena as they arose, as they remained, and as they went away. He understood: ‘So it seems that these phenomena, not having been, come to be; and having come to be, they flit away.’ And he meditated without attraction or repulsion for those phenomena; independent, untied, liberated, detached, his mind free of limits. He understood: ‘There is an escape beyond.’ And by repeated practice he knew for sure that there is.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ
Furthermore, going totally beyond the dimension of nothingness, he entered and remained in the dimension of neither perception nor non-perception.
โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺฐหติฯ โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺฐหิตฺวา เย ธมฺมา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา เต ธมฺเม สมนุปสฺสติ: ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี'ติฯ โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติฯ โส ‘อตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ'ติ ปชานาติฯ ตพฺพหุลีการา อตฺถิเตฺววสฺส โหติฯ
And he emerged from that attainment with mindfulness. Then he contemplated the phenomena in that attainment that had passed, ceased, and perished: ‘So it seems that these phenomena, not having been, come to be; and having come to be, they flit away.’ And he meditated without attraction or repulsion for those phenomena; independent, untied, liberated, detached, his mind free of limits. He understood: ‘There is an escape beyond.’ And by repeated practice he knew for sure that there is.
ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต สพฺพโส เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม สญฺญาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ ปญฺญาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติฯ
Furthermore, going totally beyond the dimension of neither perception nor non-perception, he entered and remained in the cessation of perception and feeling. And, having seen with wisdom, his defilements came to an end.
โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺฐหติฯ โส ตาย สมาปตฺติยา สโต วุฏฺฐหิตฺวา เย ธมฺมา อตีตา นิรุทฺธา วิปริณตา เต ธมฺเม สมนุปสฺสติ: ‘เอวํ กิรเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี'ติฯ โส เตสุ ธมฺเมสุ อนุปาโย อนปาโย อนิสฺสิโต อปฺปฏิพทฺโธ วิปฺปมุตฺโต วิสํยุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติฯ โส ‘นตฺถิ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺ'ติ ปชานาติฯ ตพฺพหุลีการา นตฺถิ เตฺววสฺส โหติฯ
And he emerged from that attainment with mindfulness. Then he contemplated the phenomena in that attainment that had passed, ceased, and perished: ‘So it seems that these phenomena, not having been, come to be; and having come to be, they flit away.’ And he meditated without attraction or repulsion for those phenomena; independent, untied, liberated, detached, his mind free of limits. He understood: ‘There is no escape beyond.’ And by repeated practice he knew for sure that there is not.
ยํ โข ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย: ‘วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สีลสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สมาธิสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย ปญฺญาย, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย วิมุตฺติยา'ติ, สาริปุตฺตเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย: ‘วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สีลสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยสฺมึ สมาธิสฺมึ, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย ปญฺญาย, วสิปฺปตฺโต ปารมิปฺปตฺโต อริยาย วิมุตฺติยา'ติฯ
And if there’s anyone of whom it may be rightly said that they have attained mastery and perfection in noble ethics, immersion, wisdom, and freedom, it’s Sāriputta.
ยํ โข ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย: ‘ภควโต ปุตฺโต โอรโส มุขโต ชาโต ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต ธมฺมทายาโท โน อามิสทายาโท'ติ, สาริปุตฺตเมว ตํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย: ‘ภควโต ปุตฺโต โอรโส มุขโต ชาโต ธมฺมโช ธมฺมนิมฺมิโต ธมฺมทายาโท โน อามิสทายาโท'ติฯ
And if there’s anyone of whom it may be rightly said that they’re the Buddha’s true-born child, born from his mouth, born of the teaching, created by the teaching, heir to the teaching, not the heir in things of the flesh, it’s Sāriputta.
สาริปุตฺโต, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวตฺเตตี”ติฯ
Sāriputta rightly keeps rolling the supreme Wheel of Dhamma that was rolled forth by the Realized One.”
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ
That is what the Buddha said. Satisfied, the bhikkhus approved what the Buddha said.
อนุปทสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ปฐมํฯ
The authoritative text of the Majjhima Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]