Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā

    อนุปญฺญตฺติวณฺณนา

    Anupaññattivaṇṇanā

    ปาราชิกวตฺถุภูตาติ เยสํ ตีสุ มเคฺคสุ ติลพีชมตฺตมฺปิ นิมิตฺตสฺส ปเวโสกาโส โหติ, เต อิตฺถิปุริสาทิเภทา สเพฺพ สงฺคยฺหนฺติ, น อิตเรฯ อิธ ปน ติรจฺฉานคตายาติ-ปาฬิปทานุรูปโต น สพฺพาติอาทินา อิตฺถิลิงฺควเสน วุตฺตํฯ โคนสาติ สปฺปวิเสสา, เยสํ ปิฎฺฐีสุ มหนฺตมหนฺตานิ มณฺฑลานิ โหนฺติฯ กจฺฉปมณฺฑูกานํ จตุปฺปทเตฺตปิ โอทกตาสามเญฺญน อปเทหิ สห คหณํฯ มุขสณฺฐานนฺติ โอฎฺฐจมฺมสณฺฐานํฯ วณสเงฺขปนฺติ วณสงฺคหํฯ วเณ ถุลฺลจฺจยญฺจ ‘‘อมเคฺคน อมคฺคํ ปเวเสติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ (ปารา. ๖๖) อิมสฺส สุตฺตสฺส วเสน เวทิตพฺพํฯ มงฺคุสาติ นกุลาฯ เอตเมว หิ อตฺถนฺติ โย นํ อชฺฌาปชฺชติ, ตํ ปราเชตีติ อิมมตฺถํ วุตฺตานํเยว ปาราชิกาทิสทฺทานํ นิพฺพจนปฺปสเงฺค อิมิสฺสา ปริวารคาถาย ปวตฺตตฺตาฯ ภโฎฺฐติ สาสนโต ปริหีโนฯ นิรงฺกโตติ นิรากโตฯ เอตนฺติ อาปตฺติรูปํ ปาราชิกํฯ ฉิโนฺนติ อนฺตราขณฺฑิโตฯ

    Pārājikavatthubhūtāti yesaṃ tīsu maggesu tilabījamattampi nimittassa pavesokāso hoti, te itthipurisādibhedā sabbe saṅgayhanti, na itare. Idha pana tiracchānagatāyāti-pāḷipadānurūpato na sabbātiādinā itthiliṅgavasena vuttaṃ. Gonasāti sappavisesā, yesaṃ piṭṭhīsu mahantamahantāni maṇḍalāni honti. Kacchapamaṇḍūkānaṃ catuppadattepi odakatāsāmaññena apadehi saha gahaṇaṃ. Mukhasaṇṭhānanti oṭṭhacammasaṇṭhānaṃ. Vaṇasaṅkhepanti vaṇasaṅgahaṃ. Vaṇe thullaccayañca ‘‘amaggena amaggaṃ paveseti, āpatti thullaccayassā’’ti (pārā. 66) imassa suttassa vasena veditabbaṃ. Maṅgusāti nakulā. Etameva hi atthanti yo naṃ ajjhāpajjati, taṃ parājetīti imamatthaṃ vuttānaṃyeva pārājikādisaddānaṃ nibbacanappasaṅge imissā parivāragāthāya pavattattā. Bhaṭṭhoti sāsanato parihīno. Niraṅkatoti nirākato. Etanti āpattirūpaṃ pārājikaṃ. Chinnoti antarākhaṇḍito.

    ปกตเตฺตหิ ภิกฺขูหีติ เอตฺถ ปกตตฺตา นาม ปาราชิกํ อนาปนฺนา อนุกฺขิตฺตา จฯ เกจิ ปน ‘‘ปกตเตฺตหิ ภิกฺขูหิ เอกโต กตฺตพฺพตฺตาติ อฎฺฐกถายํ วุตฺตตฺตา ปกตตฺตภูเตหิ อลชฺชีหิปิ สทฺธิํ อุโปสถาทิสงฺฆกมฺมกรเณ โทโส นตฺถี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, อิมินา วจเนน ตสฺส อตฺถสฺส อสิชฺฌนโตฯ ยทิ หิ สงฺฆกมฺมํ กรียติ, ปกตเตฺตเหว กรียติ, น อปกตเตฺตหีติ เอวํ อปกตเตฺตหิ สหสํวาสปฎิเกฺขปปรํ อิทํ วจนํ, น ปน ปกตเตฺตหิ สเพฺพหิ อลชฺชีอาทีหิ เอกโต สงฺฆกมฺมํ กตฺตพฺพเมวาติฯ เอวํ สํวาสวิธานปรํ ปกตเตฺตสุปิ สภาคาปตฺติํ อาปเนฺนหิ อญฺญมญฺญญฺจ อลชฺชีหิ จ สทฺธิํ เอกโต กมฺมกรณสฺส ปฎิกฺขิตฺตตฺตาฯ วุตฺตญฺหิ ‘‘สเจ สโพฺพ สโงฺฆ สภาคาปตฺติยา สติ วุตฺตวิธิํ อกตฺวา อุโปสถํ กโรติ, วุตฺตนเยเนว สโพฺพ สโงฺฆ อาปตฺติํ อาปชฺชตี’’ติอาทิ (กงฺขา. อฎฺฐ. นิทานวณฺณนา)ฯ ‘‘ยตฺถ อามิสปริโภโค วฎฺฎติ, ธมฺมปริโภโคปิ ตตฺถ วฎฺฎตี’’ติ อลชฺชีหิ สห ปริโภโค จ อฎฺฐกถายํ ปฎิกฺขิโตฺต เอกโต กมฺมกรณสฺสาปิ ธมฺมปริโภคตฺตาฯ ตสฺมา ยถา หิ ปาฬิยํ ปาราชิกาปตฺติอาปชฺชนกปุคฺคลนิยมตฺถํ ยฺวายํ ญตฺติจตุเตฺถน กเมฺมน…เป.… อุปสมฺปโนฺน, อยํ อิมสฺมิํ อเตฺถ อธิเปฺปโต ภิกฺขูติ อิมสฺมิํ วจเน สเพฺพปิ ญตฺติจตุตฺถกเมฺมน อุปสมฺปนฺนา ปาราชิกาปชฺชนกปุคฺคลาเยวาติ นิยโม น สิชฺฌติ ปาราชิกานาปชฺชนกานมฺปิ เสกฺขาทีนํ สมฺภวา, อถ โข ญตฺติจตุตฺถกเมฺมน อุปสมฺปเนฺนสุเยว ปาราชิกาปตฺติอาปชฺชนกา อลชฺชี พาลปุถุชฺชนา ลพฺภนฺติ, น ปน เอหิภิกฺขุอาทีสูติ เอวํ นิยโม สิชฺฌติ, เอวมิธาปิ ปกตเตฺตสุเยว เอกโต กมฺมกรณารหา อนาปตฺติกา ลชฺชี กุกฺกุจฺจกา สิกฺขากามา อุปลพฺภนฺติ , น อปกตเตฺตสูติ เอวเมว นิยโม สิชฺฌติ อปกตตฺตานํ คณปูรณตฺตาภาเวน อสํวาสิกตฺตนิยมโตฯ อลชฺชิโน ปน คณปูรกา หุตฺวา กมฺมสฺส สาธนโต อสํวาสิเกสุ น คหิตา กตฺตพฺพวิธิํ อกตฺวา เตหิ สห มทฺทิตฺวา กมฺมํ กโรนฺตานํ อาปตฺติ อลชฺชิตา จ น วิคจฺฉตีติ เวทิตพฺพํฯ ‘‘เอโก อลชฺชี อลชฺชีสตมฺปิ กโรตี’’ติ (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๕๘๕) หิ วุตฺตํ, เตเนว วกฺขติ ‘‘สเพฺพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ สห วสนฺตี’’ติอาทิฯ อยญฺจโตฺถ อุปริ วิตฺถารโต อาวิ ภวิสฺสติฯ

    Pakatattehi bhikkhūhīti ettha pakatattā nāma pārājikaṃ anāpannā anukkhittā ca. Keci pana ‘‘pakatattehi bhikkhūhi ekato kattabbattāti aṭṭhakathāyaṃ vuttattā pakatattabhūtehi alajjīhipi saddhiṃ uposathādisaṅghakammakaraṇe doso natthī’’ti vadanti, taṃ na yuttaṃ, iminā vacanena tassa atthassa asijjhanato. Yadi hi saṅghakammaṃ karīyati, pakatatteheva karīyati, na apakatattehīti evaṃ apakatattehi sahasaṃvāsapaṭikkhepaparaṃ idaṃ vacanaṃ, na pana pakatattehi sabbehi alajjīādīhi ekato saṅghakammaṃ kattabbamevāti. Evaṃ saṃvāsavidhānaparaṃ pakatattesupi sabhāgāpattiṃ āpannehi aññamaññañca alajjīhi ca saddhiṃ ekato kammakaraṇassa paṭikkhittattā. Vuttañhi ‘‘sace sabbo saṅgho sabhāgāpattiyā sati vuttavidhiṃ akatvā uposathaṃ karoti, vuttanayeneva sabbo saṅgho āpattiṃ āpajjatī’’tiādi (kaṅkhā. aṭṭha. nidānavaṇṇanā). ‘‘Yattha āmisaparibhogo vaṭṭati, dhammaparibhogopi tattha vaṭṭatī’’ti alajjīhi saha paribhogo ca aṭṭhakathāyaṃ paṭikkhitto ekato kammakaraṇassāpi dhammaparibhogattā. Tasmā yathā hi pāḷiyaṃ pārājikāpattiāpajjanakapuggalaniyamatthaṃ yvāyaṃ ñatticatutthena kammena…pe… upasampanno, ayaṃ imasmiṃ atthe adhippeto bhikkhūti imasmiṃ vacane sabbepi ñatticatutthakammena upasampannā pārājikāpajjanakapuggalāyevāti niyamo na sijjhati pārājikānāpajjanakānampi sekkhādīnaṃ sambhavā, atha kho ñatticatutthakammena upasampannesuyeva pārājikāpattiāpajjanakā alajjī bālaputhujjanā labbhanti, na pana ehibhikkhuādīsūti evaṃ niyamo sijjhati, evamidhāpi pakatattesuyeva ekato kammakaraṇārahā anāpattikā lajjī kukkuccakā sikkhākāmā upalabbhanti , na apakatattesūti evameva niyamo sijjhati apakatattānaṃ gaṇapūraṇattābhāvena asaṃvāsikattaniyamato. Alajjino pana gaṇapūrakā hutvā kammassa sādhanato asaṃvāsikesu na gahitā kattabbavidhiṃ akatvā tehi saha madditvā kammaṃ karontānaṃ āpatti alajjitā ca na vigacchatīti veditabbaṃ. ‘‘Eko alajjī alajjīsatampi karotī’’ti (pārā. aṭṭha. 2.585) hi vuttaṃ, teneva vakkhati ‘‘sabbepi lajjino etesu kammādīsu saha vasantī’’tiādi. Ayañcattho upari vitthārato āvi bhavissati.

    ตถาติ สีมาปริจฺฉิเนฺนหีติอาทิํ ปรามสติฯ เอกโต วนฺทนภุญฺชนคามปฺปเวสนวตฺตาปฎิวตฺตกรณอุคฺคหปริปุจฺฉาสชฺฌายกรณาทิสามคฺคิกิริยาวเสน ภควตา ปญฺญตฺตสิกฺขาปทสิกฺขนํ สมสิกฺขตา นาม, ตญฺจ ลชฺชีเหว สมํ สิกฺขิตพฺพํ, น อลชฺชีหีติ ทเสฺสตุํ ‘‘ปญฺญตฺตํ ปน…เป.… สมสิกฺขตา นามา’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ อนติกฺกมนวเสน อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน จ ลชฺชีปุคฺคเลหิ สมํ เอกโต สิกฺขิตพฺพา สมสิกฺขาติ สิกฺขาปทานิ วุตฺตานิ, ตาสํ สมสิกฺขนํ ยถาวุตฺตนเยน ลชฺชีหิ สิกฺขิตพฺพภาโว สมสิกฺขตา นามาติ อธิปฺปาโยฯ ยถาวุเตฺตสุ เอกกมฺมาทีสุ อลชฺชีนํ ลชฺชิธเมฺม อโนกฺกเนฺต ลชฺชีหิ สห สํวาโส นตฺถิ, ตโต พหิเยว เต สนฺทิสฺสนฺตีติ อาห สเพฺพปิ ลชฺชิโนติอาทิฯ

    Tathāti sīmāparicchinnehītiādiṃ parāmasati. Ekato vandanabhuñjanagāmappavesanavattāpaṭivattakaraṇauggahaparipucchāsajjhāyakaraṇādisāmaggikiriyāvasena bhagavatā paññattasikkhāpadasikkhanaṃ samasikkhatā nāma, tañca lajjīheva samaṃ sikkhitabbaṃ, na alajjīhīti dassetuṃ ‘‘paññattaṃ pana…pe… samasikkhatā nāmā’’ti vuttaṃ. Tattha anatikkamanavasena uggahaparipucchādivasena ca lajjīpuggalehi samaṃ ekato sikkhitabbā samasikkhāti sikkhāpadāni vuttāni, tāsaṃ samasikkhanaṃ yathāvuttanayena lajjīhi sikkhitabbabhāvo samasikkhatā nāmāti adhippāyo. Yathāvuttesu ekakammādīsu alajjīnaṃ lajjidhamme anokkante lajjīhi saha saṃvāso natthi, tato bahiyeva te sandissantīti āha sabbepi lajjinotiādi.

    ๕๖. ยํ ตํ วุตฺตนฺติ สมฺพโนฺธฯ วตฺถุเมว น โหตีติ สุวณฺณาทีหิ กตอิตฺถิรูปานํ องฺคชาเตสุปิ นิมิตฺตโวหารทสฺสนโต ตตฺถ ปาราชิกาสงฺกานิวตฺตนตฺถํ วุตฺตํฯ เตเนว วินีตวตฺถูสุ เลปจิตฺตาทิวตฺถูสุ สญฺชาตกุกฺกุจฺจสฺส ปาราชิเกน อนาปตฺติ วุตฺตาฯ

    56. Yaṃ taṃ vuttanti sambandho. Vatthumeva na hotīti suvaṇṇādīhi kataitthirūpānaṃ aṅgajātesupi nimittavohāradassanato tattha pārājikāsaṅkānivattanatthaṃ vuttaṃ. Teneva vinītavatthūsu lepacittādivatthūsu sañjātakukkuccassa pārājikena anāpatti vuttā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อนุปญฺญตฺติวณฺณนา • Anupaññattivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact