Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๑๑๕] ๕. อนุสาสิกชาตกวณฺณนา
[115] 5. Anusāsikajātakavaṇṇanā
ยายเญฺญ มนุสาสตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ อนุสาสิกํ ภิกฺขุนิํ อารพฺภ กเถสิฯ สา กิร สาวตฺถิวาสินี เอกา กุลธีตา ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนกาลโต ปฎฺฐาย สมณธเมฺม อนนุยุตฺตา อามิสคิทฺธา หุตฺวา ยตฺถ อญฺญา ภิกฺขุนิโย น คจฺฉนฺติ, ตาทิเส นครสฺส เอกเทเส ปิณฺฑาย จรติฯ อถสฺสา มนุสฺสา ปณีตปิณฺฑปาตํ เทนฺติฯ สา รสตณฺหาย พชฺฌิตฺวา ‘‘สเจ อิมสฺมิํ ปเทเส อญฺญาปิ ภิกฺขุนิโย ปิณฺฑาย จริสฺสนฺติ, มยฺหํ ลาโภ ปริหายิสฺสติฯ ยถา เอตํ ปเทสํ อญฺญา นาคจฺฉนฺติ, เอวํ มยา กาตุํ วฎฺฎตี’’ติ จิเนฺตตฺวา ภิกฺขุนูปสฺสยํ คนฺตฺวา ‘‘อเยฺย, อสุกฎฺฐาเน จโณฺฑ หตฺถี, จโณฺฑ อโสฺส, จโณฺฑ เมโณฺฑ, จโณฺฑ กุกฺกุโร จรติ, สปริสฺสยฎฺฐานํ, มา ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺถา’’ติ ภิกฺขุนิโย อนุสาสติฯ ตสฺสา วจนํ สุตฺวา เอกา ภิกฺขุนีปิ ตํ ปเทสํ คีวํ ปริวเตฺตตฺวา น โอโลเกสิฯ ตสฺสา เอกสฺมิํ ทิวเส ตสฺมิํ ปเทเส ปิณฺฑาย จรนฺติยา เวเคเนกํ เคหํ ปวิสนฺติยา จโณฺฑ เมณฺฑโก ปหริตฺวา อูรุฎฺฐิกํ ภินฺทิฯ มนุสฺสา เวเคน อุปธาวิตฺวา ทฺวิธา ภินฺนํ อูรุฎฺฐิกํ เอกโต พนฺธิตฺวา ตํ ภิกฺขุนิํ มเญฺจนาทาย ภิกฺขุนูปสฺสยํ นยิํสุฯ ภิกฺขุนิโย ‘‘อยํ อญฺญา ภิกฺขุนิโย อนุสาสิตฺวา สยํ ตสฺมิํ ปเทเส จรนฺตี อูรุฎฺฐิกํ ภินฺทาเปตฺวา อาคตา’’ติ ปริหาสํ อกํสุฯ ตมฺปิ ตาย กตการณํ น จิรเสฺสว ภิกฺขุสเงฺฆ ปากฎํ อโหสิฯ
Yāyaññe manusāsatīti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ anusāsikaṃ bhikkhuniṃ ārabbha kathesi. Sā kira sāvatthivāsinī ekā kuladhītā pabbajitvā upasampannakālato paṭṭhāya samaṇadhamme ananuyuttā āmisagiddhā hutvā yattha aññā bhikkhuniyo na gacchanti, tādise nagarassa ekadese piṇḍāya carati. Athassā manussā paṇītapiṇḍapātaṃ denti. Sā rasataṇhāya bajjhitvā ‘‘sace imasmiṃ padese aññāpi bhikkhuniyo piṇḍāya carissanti, mayhaṃ lābho parihāyissati. Yathā etaṃ padesaṃ aññā nāgacchanti, evaṃ mayā kātuṃ vaṭṭatī’’ti cintetvā bhikkhunūpassayaṃ gantvā ‘‘ayye, asukaṭṭhāne caṇḍo hatthī, caṇḍo asso, caṇḍo meṇḍo, caṇḍo kukkuro carati, saparissayaṭṭhānaṃ, mā tattha piṇḍāya caritthā’’ti bhikkhuniyo anusāsati. Tassā vacanaṃ sutvā ekā bhikkhunīpi taṃ padesaṃ gīvaṃ parivattetvā na olokesi. Tassā ekasmiṃ divase tasmiṃ padese piṇḍāya carantiyā vegenekaṃ gehaṃ pavisantiyā caṇḍo meṇḍako paharitvā ūruṭṭhikaṃ bhindi. Manussā vegena upadhāvitvā dvidhā bhinnaṃ ūruṭṭhikaṃ ekato bandhitvā taṃ bhikkhuniṃ mañcenādāya bhikkhunūpassayaṃ nayiṃsu. Bhikkhuniyo ‘‘ayaṃ aññā bhikkhuniyo anusāsitvā sayaṃ tasmiṃ padese carantī ūruṭṭhikaṃ bhindāpetvā āgatā’’ti parihāsaṃ akaṃsu. Tampi tāya katakāraṇaṃ na cirasseva bhikkhusaṅghe pākaṭaṃ ahosi.
อเถกทิวสํ ธมฺมสภายํ ภิกฺขู ‘‘อาวุโส, อสุกา อนุสาสิกา ภิกฺขุนี อญฺญํ อนุสาสิตฺวา สยํ ตสฺมิํ ปเทเส จรมานา จเณฺฑน เมณฺฑเกน อูรุํ ภินฺทาเปสี’’ติ ตสฺสา อคุณกถํ กเถสุํฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุเพฺพเปสา อเญฺญ อนุสาสติเยว, สยํ ปน น วตฺตติ, นิจฺจกาลํ ทุกฺขเมว อนุโภตี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Athekadivasaṃ dhammasabhāyaṃ bhikkhū ‘‘āvuso, asukā anusāsikā bhikkhunī aññaṃ anusāsitvā sayaṃ tasmiṃ padese caramānā caṇḍena meṇḍakena ūruṃ bhindāpesī’’ti tassā aguṇakathaṃ kathesuṃ. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte ‘‘na, bhikkhave, idāneva, pubbepesā aññe anusāsatiyeva, sayaṃ pana na vattati, niccakālaṃ dukkhameva anubhotī’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต อรเญฺญ สกุณโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต สกุณเชฎฺฐโก หุตฺวา อเนกสกุณสหสฺสปริวาโร หิมวนฺตํ ปาวิสิฯ ตสฺส ตตฺถ วสนกาเล เอกา จณฺฑสกุณิกา มหาวตฺตนิมคฺคํ คนฺตฺวา โคจรํ คณฺหาติฯ สา ตตฺถ สกเฎหิ ปติตานิ วีหิมุคฺคพีชาทีนิ ลภิตฺวา ‘‘ยถา อิทานิ อิมํ ปเทสํ อเญฺญ สกุณา นาคจฺฉนฺติ, ตถา กริสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา สกุณสงฺฆสฺส โอวาทํ เทติ ‘‘วตฺตนิมหามโคฺค นาม สปฺปฎิภโย, หตฺถิอสฺสาทโย เจว จณฺฑโคณยุตฺตยานาทีนิ จ สญฺจรนฺติ, สหสา อุปฺปติตุมฺปิ น สกฺกา โหติ, น ตตฺถ คนฺตพฺพ’’นฺติฯ สกุณสโงฺฆ ตสฺสา ‘‘อนุสาสิกา’’เตว นามํ อกาสิฯ
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto araññe sakuṇayoniyaṃ nibbattitvā vayappatto sakuṇajeṭṭhako hutvā anekasakuṇasahassaparivāro himavantaṃ pāvisi. Tassa tattha vasanakāle ekā caṇḍasakuṇikā mahāvattanimaggaṃ gantvā gocaraṃ gaṇhāti. Sā tattha sakaṭehi patitāni vīhimuggabījādīni labhitvā ‘‘yathā idāni imaṃ padesaṃ aññe sakuṇā nāgacchanti, tathā karissāmī’’ti cintetvā sakuṇasaṅghassa ovādaṃ deti ‘‘vattanimahāmaggo nāma sappaṭibhayo, hatthiassādayo ceva caṇḍagoṇayuttayānādīni ca sañcaranti, sahasā uppatitumpi na sakkā hoti, na tattha gantabba’’nti. Sakuṇasaṅgho tassā ‘‘anusāsikā’’teva nāmaṃ akāsi.
สา เอกทิวสํ วตฺตนิมหามเคฺค จรนฺตี อติมหาเวเคน อาคจฺฉนฺตสฺส ยานสฺส สทฺทํ สุตฺวา นิวตฺติตฺวา โอโลเกตฺวา ‘‘ทูเร ตาวา’’ติ จรติเยวฯ อถ นํ ยานํ วาตเวเคน สีฆเมว สมฺปาปุณิ, สา อุฎฺฐาตุํ นาสกฺขิ, จเกฺกน ทฺวิธา ฉินฺทิตฺวา คตาฯ สกุณเชฎฺฐโก สกุเณ สมาเนโนฺต ตํ อทิสฺวา ‘‘อนุสาสิกา น ทิสฺสติ, อุปธาเรถ น’’นฺติ อาหฯ สกุณา อุปธาเรนฺตา ตํ มหามเคฺค ทฺวิธา ฉินฺนํ ทิสฺวา สกุณเชฎฺฐกสฺส อาโรเจสุํฯ สกุณเชฎฺฐโก ‘‘สา อญฺญา สกุณิกา วาเรตฺวา สยํ ตตฺถ จรมานา ทฺวิธา ฉินฺนา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
Sā ekadivasaṃ vattanimahāmagge carantī atimahāvegena āgacchantassa yānassa saddaṃ sutvā nivattitvā oloketvā ‘‘dūre tāvā’’ti caratiyeva. Atha naṃ yānaṃ vātavegena sīghameva sampāpuṇi, sā uṭṭhātuṃ nāsakkhi, cakkena dvidhā chinditvā gatā. Sakuṇajeṭṭhako sakuṇe samānento taṃ adisvā ‘‘anusāsikā na dissati, upadhāretha na’’nti āha. Sakuṇā upadhārentā taṃ mahāmagge dvidhā chinnaṃ disvā sakuṇajeṭṭhakassa ārocesuṃ. Sakuṇajeṭṭhako ‘‘sā aññā sakuṇikā vāretvā sayaṃ tattha caramānā dvidhā chinnā’’ti vatvā imaṃ gāthamāha –
๑๑๕.
115.
‘‘ยายเญฺญ มนุสาสติ, สยํ โลลุปฺปจารินี;
‘‘Yāyaññe manusāsati, sayaṃ loluppacārinī;
สายํ วิปกฺขิกา เสติ, หตา จเกฺกน สาสิกา’’ติฯ
Sāyaṃ vipakkhikā seti, hatā cakkena sāsikā’’ti.
ตตฺถ ยายเญฺญ มนุสาสตีติ ยกาโร ปทสนฺธิกโร, ยา อเญฺญ อนุสาสตีติ อโตฺถฯ สยํ โลลุปฺปจารินีติ อตฺตนา โลลุปฺปจารินี สมานาฯ สายํ วิปกฺขิกา เสตีติ สา เอสา วิหตปกฺขา หุตฺวา มหามเคฺค สยติฯ หตา จเกฺกน สาสิกาติ ยานจเกฺกน หตา สาสิกา สกุณิกาติฯ
Tattha yāyaññe manusāsatīti yakāro padasandhikaro, yā aññe anusāsatīti attho. Sayaṃ loluppacārinīti attanā loluppacārinī samānā. Sāyaṃ vipakkhikā setīti sā esā vihatapakkhā hutvā mahāmagge sayati. Hatā cakkena sāsikāti yānacakkena hatā sāsikā sakuṇikāti.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อนุสาสิกา สกุณิกา อยํ อนุสาสิกา ภิกฺขุนี อโหสิ, สกุณเชฎฺฐโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā anusāsikā sakuṇikā ayaṃ anusāsikā bhikkhunī ahosi, sakuṇajeṭṭhako pana ahameva ahosi’’nti.
อนุสาสิกชาตกวณฺณนา ปญฺจมาฯ
Anusāsikajātakavaṇṇanā pañcamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๑๕. อนุสาสิกชาตกํ • 115. Anusāsikajātakaṃ