Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๑๐. อนุตฺตริยสุตฺตํ

    10. Anuttariyasuttaṃ

    ๓๐. ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อนุตฺตริยานิฯ กตมานิ ฉ? ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยนฺติฯ

    30. ‘‘Chayimāni, bhikkhave, anuttariyāni. Katamāni cha? Dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ, lābhānuttariyaṃ, sikkhānuttariyaṃ, pāricariyānuttariyaṃ, anussatānuttariyanti.

    ‘‘กตมญฺจ , ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ หตฺถิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อสฺสรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, มณิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ทสฺสนาย คจฺฉติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฎฺฐิกํ มิจฺฉาปฎิปนฺนํ ทสฺสนาย คจฺฉติฯ อเตฺถตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ; เนตํ นตฺถีติ วทามิฯ ตญฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สโมฺพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทสฺสนาย คจฺฉติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ 1 สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย 2 ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ทสฺสนาย คจฺฉติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํฯ อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Katamañca , bhikkhave, dassanānuttariyaṃ? Idha, bhikkhave, ekacco hatthiratanampi dassanāya gacchati, assaratanampi dassanāya gacchati, maṇiratanampi dassanāya gacchati, uccāvacaṃ vā pana dassanāya gacchati, samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā micchādiṭṭhikaṃ micchāpaṭipannaṃ dassanāya gacchati. Atthetaṃ, bhikkhave, dassanaṃ; netaṃ natthīti vadāmi. Tañca kho etaṃ, bhikkhave, dassanaṃ hīnaṃ gammaṃ pothujjanikaṃ anariyaṃ anatthasaṃhitaṃ, na nibbidāya na virāgāya na nirodhāya na upasamāya na abhiññāya na sambodhāya na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā dassanāya gacchati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno, etadānuttariyaṃ, bhikkhave, dassanānaṃ sattānaṃ visuddhiyā sokaparidevānaṃ 3 samatikkamāya dukkhadomanassānaṃ atthaṅgamāya 4 ñāyassa adhigamāya nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā dassanāya gacchati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, dassanānuttariyaṃ. Iti dassanānuttariyaṃ.

    ‘‘สวนานุตฺตริยญฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ เภริสทฺทมฺปิ 5 สวนาย คจฺฉติ, วีณาสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, คีตสทฺทมฺปิ สวนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน สวนาย คจฺฉติ, สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส มิจฺฉาปฎิปนฺนสฺส ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติฯ อเตฺถตํ, ภิกฺขเว, สวนํ; เนตํ นตฺถีติ วทามิฯ ตญฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, สวนํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สโมฺพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, สวนานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตสฺส วา ตถาคตสาวกสฺส วา ธมฺมสฺสวนาย คจฺฉติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สวนานุตฺตริยํฯ อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Savanānuttariyañca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco bherisaddampi 6 savanāya gacchati, vīṇāsaddampi savanāya gacchati, gītasaddampi savanāya gacchati, uccāvacaṃ vā pana savanāya gacchati, samaṇassa vā brāhmaṇassa vā micchādiṭṭhikassa micchāpaṭipannassa dhammassavanāya gacchati. Atthetaṃ, bhikkhave, savanaṃ; netaṃ natthīti vadāmi. Tañca kho etaṃ, bhikkhave, savanaṃ hīnaṃ gammaṃ pothujjanikaṃ anariyaṃ anatthasaṃhitaṃ, na nibbidāya na virāgāya na nirodhāya na upasamāya na abhiññāya na sambodhāya na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgatassa vā tathāgatasāvakassa vā dhammassavanāya gacchati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno, etadānuttariyaṃ, bhikkhave, savanānaṃ sattānaṃ visuddhiyā sokaparidevānaṃ samatikkamāya dukkhadomanassānaṃ atthaṅgamāya ñāyassa adhigamāya nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgatassa vā tathāgatasāvakassa vā dhammassavanāya gacchati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, savanānuttariyaṃ. Iti dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ.

    ‘‘ลาภานุตฺตริยญฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ปุตฺตลาภมฺปิ ลภติ, ทารลาภมฺปิ ลภติ, ธนลาภมฺปิ ลภติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ลาภํ ลภติ, สมเณ วา พฺราหฺมเณ วา มิจฺฉาทิฎฺฐิเก มิจฺฉาปฎิปเนฺน สทฺธํ ปฎิลภติฯ อเตฺถโส, ภิกฺขเว, ลาโภ; เนโส นตฺถีติ วทามิฯ โส จ โข เอโส, ภิกฺขเว, ลาโภ หีโน คโมฺม โปถุชฺชนิโก อนริโย อนตฺถสํหิโต, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สโมฺพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคเต วา ตถาคตสาวเก วา สทฺธํ ปฎิลภติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ลาภานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคเต วา ตถาคตสาวเก วา สทฺธํ ปฎิลภติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ลาภานุตฺตริยํฯ อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Lābhānuttariyañca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco puttalābhampi labhati, dāralābhampi labhati, dhanalābhampi labhati, uccāvacaṃ vā pana lābhaṃ labhati, samaṇe vā brāhmaṇe vā micchādiṭṭhike micchāpaṭipanne saddhaṃ paṭilabhati. Attheso, bhikkhave, lābho; neso natthīti vadāmi. So ca kho eso, bhikkhave, lābho hīno gammo pothujjaniko anariyo anatthasaṃhito, na nibbidāya na virāgāya na nirodhāya na upasamāya na abhiññāya na sambodhāya na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgate vā tathāgatasāvake vā saddhaṃ paṭilabhati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno, etadānuttariyaṃ, bhikkhave, lābhānaṃ sattānaṃ visuddhiyā sokaparidevānaṃ samatikkamāya dukkhadomanassānaṃ atthaṅgamāya ñāyassa adhigamāya nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgate vā tathāgatasāvake vā saddhaṃ paṭilabhati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, lābhānuttariyaṃ. Iti dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ, lābhānuttariyaṃ.

    ‘‘สิกฺขานุตฺตริยญฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ หตฺถิสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, อสฺสสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, รถสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, ธนุสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, ถรุสฺมิมฺปิ สิกฺขติ, อุจฺจาวจํ วา ปน สิกฺขติ, สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส มิจฺฉาปฎิปนฺนสฺส 7 สิกฺขติฯ อเตฺถสา, ภิกฺขเว, สิกฺขา; เนสา นตฺถีติ วทามิฯ สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, สิกฺขา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สโมฺพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปญฺญมฺปิ สิกฺขติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, สิกฺขานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย , ยทิทํ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อธิสีลมฺปิ สิกฺขติ, อธิจิตฺตมฺปิ สิกฺขติ, อธิปญฺญมฺปิ สิกฺขติ, นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สิกฺขานุตฺตริยํฯ อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Sikkhānuttariyañca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco hatthismimpi sikkhati, assasmimpi sikkhati, rathasmimpi sikkhati, dhanusmimpi sikkhati, tharusmimpi sikkhati, uccāvacaṃ vā pana sikkhati, samaṇassa vā brāhmaṇassa vā micchādiṭṭhikassa micchāpaṭipannassa 8 sikkhati. Atthesā, bhikkhave, sikkhā; nesā natthīti vadāmi. Sā ca kho esā, bhikkhave, sikkhā hīnā gammā pothujjanikā anariyā anatthasaṃhitā, na nibbidāya na virāgāya na nirodhāya na upasamāya na abhiññāya na sambodhāya na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgatappavedite dhammavinaye adhisīlampi sikkhati, adhicittampi sikkhati, adhipaññampi sikkhati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno, etadānuttariyaṃ, bhikkhave, sikkhānaṃ sattānaṃ visuddhiyā sokaparidevānaṃ samatikkamāya dukkhadomanassānaṃ atthaṅgamāya ñāyassa adhigamāya nibbānassa sacchikiriyāya , yadidaṃ tathāgatappavedite dhammavinaye adhisīlampi sikkhati, adhicittampi sikkhati, adhipaññampi sikkhati, niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, sikkhānuttariyaṃ. Iti dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ, lābhānuttariyaṃ, sikkhānuttariyaṃ.

    ‘‘ปาริจริยานุตฺตริยญฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ขตฺติยมฺปิ ปริจรติ, พฺราหฺมณมฺปิ ปริจรติ, คหปติมฺปิ ปริจรติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ปริจรติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฎฺฐิกํ มิจฺฉาปฎิปนฺนํ ปริจรติฯ อเตฺถสา, ภิกฺขเว, ปาริจริยา; เนสา นตฺถีติ วทามิฯ สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, ปาริจริยา หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา, น นิพฺพิทาย…เป.… น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ปริจรติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺน , เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, ปาริจริยานํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา ปริจรติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปาริจริยานุตฺตริยํฯ อิติ ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํฯ

    ‘‘Pāricariyānuttariyañca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco khattiyampi paricarati, brāhmaṇampi paricarati, gahapatimpi paricarati, uccāvacaṃ vā pana paricarati, samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā micchādiṭṭhikaṃ micchāpaṭipannaṃ paricarati. Atthesā, bhikkhave, pāricariyā; nesā natthīti vadāmi. Sā ca kho esā, bhikkhave, pāricariyā hīnā gammā pothujjanikā anariyā anatthasaṃhitā, na nibbidāya…pe… na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā paricarati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno , etadānuttariyaṃ, bhikkhave, pāricariyānaṃ sattānaṃ visuddhiyā sokaparidevānaṃ samatikkamāya dukkhadomanassānaṃ atthaṅgamāya ñāyassa adhigamāya nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā paricarati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, pāricariyānuttariyaṃ. Iti dassanānuttariyaṃ, savanānuttariyaṃ, lābhānuttariyaṃ, sikkhānuttariyaṃ, pāricariyānuttariyaṃ.

    ‘‘อนุสฺสตานุตฺตริยญฺจ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกโจฺจ ปุตฺตลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, ทารลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, ธนลาภมฺปิ อนุสฺสรติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ลาภํ อนุสฺสรติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฎฺฐิกํ มิจฺฉาปฎิปนฺนํ อนุสฺสรติฯ อเตฺถสา, ภิกฺขเว, อนุสฺสติ; เนสา นตฺถีติ วทามิฯ สา จ โข เอสา, ภิกฺขเว, อนุสฺสติ หีนา คมฺมา โปถุชฺชนิกา อนริยา อนตฺถสํหิตา, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สโมฺพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ โย จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา อนุสฺสรติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺน, เอตทานุตฺตริยํ, ภิกฺขเว, อนุสฺสตีนํ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ตถาคตํ วา ตถาคตสาวกํ วา อนุสฺสรติ นิวิฎฺฐสโทฺธ นิวิฎฺฐเปโม เอกนฺตคโต อภิปฺปสโนฺนฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อนุสฺสตานุตฺตริยํฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ฉ อนุตฺตริยานี’’ติฯ

    ‘‘Anussatānuttariyañca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, ekacco puttalābhampi anussarati, dāralābhampi anussarati, dhanalābhampi anussarati, uccāvacaṃ vā pana lābhaṃ anussarati, samaṇaṃ vā brāhmaṇaṃ vā micchādiṭṭhikaṃ micchāpaṭipannaṃ anussarati. Atthesā, bhikkhave, anussati; nesā natthīti vadāmi. Sā ca kho esā, bhikkhave, anussati hīnā gammā pothujjanikā anariyā anatthasaṃhitā, na nibbidāya na virāgāya na nirodhāya na upasamāya na abhiññāya na sambodhāya na nibbānāya saṃvattati. Yo ca kho, bhikkhave, tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā anussarati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno, etadānuttariyaṃ, bhikkhave, anussatīnaṃ sattānaṃ visuddhiyā sokaparidevānaṃ samatikkamāya dukkhadomanassānaṃ atthaṅgamāya ñāyassa adhigamāya nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ tathāgataṃ vā tathāgatasāvakaṃ vā anussarati niviṭṭhasaddho niviṭṭhapemo ekantagato abhippasanno. Idaṃ vuccati, bhikkhave, anussatānuttariyaṃ. Imāni kho, bhikkhave, cha anuttariyānī’’ti.

    ‘‘เย ทสฺสนานุตฺตรํ ลทฺธา 9, สวนญฺจ อนุตฺตรํ;

    ‘‘Ye dassanānuttaraṃ laddhā 10, savanañca anuttaraṃ;

    ลาภานุตฺตริยํ ลทฺธา, สิกฺขานุตฺตริเย รตา 11

    Lābhānuttariyaṃ laddhā, sikkhānuttariye ratā 12.

    ‘‘อุปฎฺฐิตา ปาริจริยา, ภาวยนฺติ อนุสฺสติํ;

    ‘‘Upaṭṭhitā pāricariyā, bhāvayanti anussatiṃ;

    วิเวกปฺปฎิสํยุตฺตํ, เขมํ อมตคามินิํฯ

    Vivekappaṭisaṃyuttaṃ, khemaṃ amatagāminiṃ.

    ‘‘อปฺปมาเท ปมุทิตา, นิปกา สีลสํวุตา;

    ‘‘Appamāde pamuditā, nipakā sīlasaṃvutā;

    เต เว กาเลน ปเจฺจนฺติ 13, ยตฺถ ทุกฺขํ นิรุชฺฌตี’’ติฯ ทสมํ;

    Te ve kālena paccenti 14, yattha dukkhaṃ nirujjhatī’’ti. dasamaṃ;

    อนุตฺตริยวโคฺค 15 ตติโยฯ

    Anuttariyavaggo 16 tatiyo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    สามโก อปริหานิโย, ภยํ หิมวานุสฺสติ;

    Sāmako aparihāniyo, bhayaṃ himavānussati;

    กจฺจาโน เทฺว จ สมยา, อุทายี อนุตฺตริเยนาติฯ

    Kaccāno dve ca samayā, udāyī anuttariyenāti.







    Footnotes:
    1. โสกปริทฺทวานํ (สี.)
    2. อตฺถคมาย (สี.)
    3. sokapariddavānaṃ (sī.)
    4. atthagamāya (sī.)
    5. เภริสทฺทสฺสปิ (ก.) เอวํ วีณาสทฺทมฺปิอิจฺจาทีสุปิ
    6. bherisaddassapi (ka.) evaṃ vīṇāsaddampiiccādīsupi
    7. มิจฺฉาปฎิปตฺติํ (ก.)
    8. micchāpaṭipattiṃ (ka.)
    9. เย ทสฺสนวรํ ลทฺธา (สี. ปี.), ทสฺสนานุตฺตริยํ ลทฺธา (สฺยา. กํ.)
    10. ye dassanavaraṃ laddhā (sī. pī.), dassanānuttariyaṃ laddhā (syā. kaṃ.)
    11. อนุตฺตริยํ ตถา (ก.)
    12. anuttariyaṃ tathā (ka.)
    13. ปจฺจนฺติ (สฺยา. ก.)
    14. paccanti (syā. ka.)
    15. สามกวโคฺค (ก.)
    16. sāmakavaggo (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. อนุตฺตริยสุตฺตวณฺณนา • 10. Anuttariyasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. อนุตฺตริยสุตฺตวณฺณนา • 10. Anuttariyasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact