Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
จูฬสงฺคามํ
Cūḷasaṅgāmaṃ
อนุวิชฺชกสฺส ปฎิปตฺติวณฺณนา
Anuvijjakassa paṭipattivaṇṇanā
๓๖๕. จูฬสงฺคาเม สมาคมนํ สงฺคาโม, สมาคเมนฺติ สนฺนิปตนฺติ เอตฺถาติ วา สงฺคาโมติ วจนตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สงฺคาโม วุจฺจติ…เป.… สงฺฆสนฺนิปาโต’’ติฯ สนฺนิปตนํ สนฺนิปาโต, สนฺนิปตนฺติ เอตฺถ เทเสติ วา สนฺนิปาโต, สงฺฆสฺส สนฺนิปาโต สงฺฆสนฺนิปาโตฯ สงฺคาม ยุเทฺธติ ธาตุปาเฐสุ (สทฺทนีติธาตุมาลายํ ๑๘ มการนฺตธาตุ) วุตฺตํฯ ตตฺถ ยุทฺธํ นาม อตฺถโต อธิกรณวินิจฺฉโยติ คเหตพฺพํฯ ตทตฺถํ วิตฺถาเรโนฺต อาห ‘‘ตตฺร หี’’ติอาทิฯ ตตฺถ ตตฺราติ ตสฺมิํ สงฺคาเม, สโมสรนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ อตฺตปจฺจตฺถิกาติ อตฺตโน ปฎิปกฺขํ อตฺถยนฺติฯ อุทฺธมฺมนฺติ ธมฺมโต วิโยคํฯ ทีเปนฺตา หุตฺวาติ โยชนาฯ เก วิยาติ อาห ‘‘วชฺชิปุตฺตกา วิยา’’ติฯ โส ภิกฺขุ ปวเตฺตตีติ สมฺพโนฺธฯ ลทฺธินฺติ อุทฺธมฺมาทิวาทํฯ ตตฺถาติ สงฺคาเมฯ อวจรตีติ โอคาเหตฺวา จาเรติ ปวเตฺตติฯ ตเมวตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อโชฺฌคาเหตฺวา วินิจฺฉยํ ปวเตฺตตี’’ติฯ เอตฺถ ‘‘อโชฺฌคาเหตฺวา’’ติ อิมินา อวตฺยูปสคฺคสฺส โอคาหตฺถํ ทเสฺสติฯ ‘‘วินิจฺฉยํ ปวเตฺตตี’’ติ อิมินา จรธาตุสฺส การิตโนฺตคธตฺตา สหการิตกเมฺมน ปวตฺตนตฺถํ ทเสฺสติฯ อิมินา สงฺคาเม อวจรตีติ สงฺคามาวจโรติ นิพฺพจนํ ทเสฺสติฯ โก วิยาติ อาห ‘‘ยสเตฺถโร วิยา’’ติฯ มานทฺธชนฺติ เกตุกมฺยตาปจฺจุปฎฺฐานมานสงฺขาตํ ธชํฯ รโชหรณสเมนาติ เอตฺถ รชํ หรติ อปเนติ อเนนาติ รโชหรณํ, ปาทปุญฺชนํ, เตน สเมนาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ปาทปุญฺชนสเมนา’’ติฯ ปาทํ ปุญฺชติ โสเธติ อเนนาติ ปาทปุญฺชนํ, เตน สโม ปาทปุญฺชนสโม, เตนฯ สมาการํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยถา’’ติอาทิฯ รโชหรณสฺส เนว ราโค โหตีติ สมฺพโนฺธฯ ยถาปติรูปนฺติ ปติรูปสฺส อนุโลมํ, ปติรูปานติกฺกนฺตนฺติ อโตฺถฯ อกเถเนฺตน นิสีทิตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ สามํ วา ธโมฺมติ เอตฺถ ธโมฺม นาม โกติ อาห ‘‘กปฺปิยากปฺปิยนิสฺสิตา วา’’ติอาทิฯ รูปารูปปริเจฺฉโท จ สมถาจาโร จ วิปสฺสานาจาโร จ ฐานวตฺตญฺจ นิสชฺชวตฺตญฺจ, อาทิสเทฺทน จงฺกมวตฺตาทีนิ สงฺคณฺหาติฯ จุทฺทสมหาวตฺตาทีนํ ‘‘กปฺปิยากปฺปิยนิสฺสิตา’’ติ ปเทน คหิตตฺตา วตฺตสเทฺทน ฐานวตฺตาทีนิ เอว คเหตพฺพานิ, อาทิสเทฺทน จงฺกมวตฺตาทีนิ คเหตพฺพานิฯ ปโร วา อเชฺฌสิตโพฺพติ โยวา โส วา โกจิ อเชฺฌสิตโพฺพติ อาห ‘‘โย’’ติอาทิฯ อิมินา น โย วา โส วา โกจิ อเชฺฌสิตโพฺพ, สมโตฺถเยว ปน อเชฺฌสิตโพฺพติ วา ทเสฺสติฯ ‘‘อาวุโส’’ติอาทินา วตฺตพฺพาการํ ทเสฺสติฯ อริโย วา ตุณฺหีภาโวติ เอตฺถ น เกวลํ กเถตุํ อสมตฺถวเสน ตุณฺหีภาโว, กมฺมฎฺฐานมนสิการวเสน ปนาติ อาห ‘‘กมฺมฎฺฐานมนสิการวเสน ตุณฺหีภาโว’’ติฯ อริยานํ เอโส อริโย, ตุณฺหีภาโวฯ ‘‘นาวชานิตโพฺพ’’ติ อิมินา นาติมญฺญิตโพฺพติ ปทสฺส อติกฺกมฺม น มญฺญิตโพฺพติ ทเสฺสติฯ
365. Cūḷasaṅgāme samāgamanaṃ saṅgāmo, samāgamenti sannipatanti etthāti vā saṅgāmoti vacanatthaṃ dassento āha ‘‘saṅgāmo vuccati…pe… saṅghasannipāto’’ti. Sannipatanaṃ sannipāto, sannipatanti ettha deseti vā sannipāto, saṅghassa sannipāto saṅghasannipāto. Saṅgāma yuddheti dhātupāṭhesu (saddanītidhātumālāyaṃ 18 makārantadhātu) vuttaṃ. Tattha yuddhaṃ nāma atthato adhikaraṇavinicchayoti gahetabbaṃ. Tadatthaṃ vitthārento āha ‘‘tatra hī’’tiādi. Tattha tatrāti tasmiṃ saṅgāme, samosarantīti sambandho. Attapaccatthikāti attano paṭipakkhaṃ atthayanti. Uddhammanti dhammato viyogaṃ. Dīpentā hutvāti yojanā. Ke viyāti āha ‘‘vajjiputtakā viyā’’ti. So bhikkhu pavattetīti sambandho. Laddhinti uddhammādivādaṃ. Tatthāti saṅgāme. Avacaratīti ogāhetvā cāreti pavatteti. Tamevatthaṃ dassento āha ‘‘ajjhogāhetvā vinicchayaṃ pavattetī’’ti. Ettha ‘‘ajjhogāhetvā’’ti iminā avatyūpasaggassa ogāhatthaṃ dasseti. ‘‘Vinicchayaṃ pavattetī’’ti iminā caradhātussa kāritantogadhattā sahakāritakammena pavattanatthaṃ dasseti. Iminā saṅgāme avacaratīti saṅgāmāvacaroti nibbacanaṃ dasseti. Ko viyāti āha ‘‘yasatthero viyā’’ti. Mānaddhajanti ketukamyatāpaccupaṭṭhānamānasaṅkhātaṃ dhajaṃ. Rajoharaṇasamenāti ettha rajaṃ harati apaneti anenāti rajoharaṇaṃ, pādapuñjanaṃ, tena samenāti dassento āha ‘‘pādapuñjanasamenā’’ti. Pādaṃ puñjati sodheti anenāti pādapuñjanaṃ, tena samo pādapuñjanasamo, tena. Samākāraṃ dassento āha ‘‘yathā’’tiādi. Rajoharaṇassa neva rāgo hotīti sambandho. Yathāpatirūpanti patirūpassa anulomaṃ, patirūpānatikkantanti attho. Akathentena nisīditabbanti sambandho. Sāmaṃ vā dhammoti ettha dhammo nāma koti āha ‘‘kappiyākappiyanissitā vā’’tiādi. Rūpārūpaparicchedo ca samathācāro ca vipassānācāro ca ṭhānavattañca nisajjavattañca, ādisaddena caṅkamavattādīni saṅgaṇhāti. Cuddasamahāvattādīnaṃ ‘‘kappiyākappiyanissitā’’ti padena gahitattā vattasaddena ṭhānavattādīni eva gahetabbāni, ādisaddena caṅkamavattādīni gahetabbāni. Paro vā ajjhesitabboti yovā so vā koci ajjhesitabboti āha ‘‘yo’’tiādi. Iminā na yo vā so vā koci ajjhesitabbo, samatthoyeva pana ajjhesitabboti vā dasseti. ‘‘Āvuso’’tiādinā vattabbākāraṃ dasseti. Ariyovā tuṇhībhāvoti ettha na kevalaṃ kathetuṃ asamatthavasena tuṇhībhāvo, kammaṭṭhānamanasikāravasena panāti āha ‘‘kammaṭṭhānamanasikāravasena tuṇhībhāvo’’ti. Ariyānaṃ eso ariyo, tuṇhībhāvo. ‘‘Nāvajānitabbo’’ti iminā nātimaññitabboti padassa atikkamma na maññitabboti dasseti.
อุปชฺฌาโยติ โจทกจุทิตกานํ อุปชฺฌาโยฯ สพฺพตฺถาติ สเพฺพสุ ‘‘น อาจริโย ปุจฺฉิตโพฺพ’’ติอาทิปเทสุฯ กุลเมว ชาตินามโคตฺตวเสน อยนฺติ อปทิสิยตีติ กุลปเทโสฯ อตฺรสฺสาติ เอตฺถ อตฺร อสฺสาติ ปทเจฺฉทํ กตฺวา อตฺรสโทฺท ปุคฺคลวิสโย, อสฺสสโทฺท อาขฺยาติโกติ อาห ‘‘อตฺร ปุคฺคเล’’ติอาทิฯ ตตฺถ ‘‘ภเวยฺยา’’ติ อิมินา อสฺสสทฺทสฺส สพฺพนามตฺตญฺจ ‘‘ภวตี’’ติ วตฺตมานิกภาวญฺจ ปฎิกฺขิปติฯ ปริสานุวิธายเกนาติ ปริสาย อนุมตํ กโรเนฺตนฯ อิมินา โน ปริสกปฺปิเกนาติ เอตฺถ กปฺปสโทฺท วิฌโตฺถติ ทเสฺสติฯ ยนฺติ วจนํฯ น หตฺถมุทฺทาติ มุทนฺติ เอตายาติ มุทฺทา, สกฺขรมงฺคุลิยํ หตฺถสฺส มุทฺทา อวยวิอวยววเสน สมฺพนฺธตฺตาติ หตฺถมุทฺทาฯ ตสฺสา วิกาโร ‘‘หตฺถมุทฺทา’’ติ คเหตโพฺพติ อาห ‘‘หตฺถวิกาโร’’ติฯ
Upajjhāyoti codakacuditakānaṃ upajjhāyo. Sabbatthāti sabbesu ‘‘na ācariyo pucchitabbo’’tiādipadesu. Kulameva jātināmagottavasena ayanti apadisiyatīti kulapadeso. Atrassāti ettha atra assāti padacchedaṃ katvā atrasaddo puggalavisayo, assasaddo ākhyātikoti āha ‘‘atra puggale’’tiādi. Tattha ‘‘bhaveyyā’’ti iminā assasaddassa sabbanāmattañca ‘‘bhavatī’’ti vattamānikabhāvañca paṭikkhipati. Parisānuvidhāyakenāti parisāya anumataṃ karontena. Iminā no parisakappikenāti ettha kappasaddo vijhatthoti dasseti. Yanti vacanaṃ. Na hatthamuddāti mudanti etāyāti muddā, sakkharamaṅguliyaṃ hatthassa muddā avayaviavayavavasena sambandhattāti hatthamuddā. Tassā vikāro ‘‘hatthamuddā’’ti gahetabboti āha ‘‘hatthavikāro’’ti.
‘‘อตฺถํ อนุวิธิยเนฺตนา’’ติ เอตฺถ อตฺถนฺติ วินิจฺฉยตฺถํฯ อนุวิธิยเนฺตนาติ สลฺลเกฺขเนฺตนฯ อิติ อิมมตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘วินิจฺฉยปฎิเวธเมว สลฺลเกฺขเนฺตนา’’ติฯ สนฺนิปาตมณฺฑเลติ สนฺนิปาตาย ปริสาย สมูเห, สนฺนิปาตมณฺฑลสฺส มเชฺฌติ อโตฺถฯ น วีติหาตพฺพนฺติ เอตฺถ วีติหรณํ นาม อตฺถโต หาปนนฺติ อาห ‘‘น วินิจฺฉโย หาเปตโพฺพ’’ติฯ ทุรุตฺตวาจนฺติ โจทกจุทิตกานํ ทุรุตฺตวาจํฯ หิตปริสกินาติ เอตฺถ หิตํ ปริ เอสตีติ หิตปริสโก, กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ, โส เอตสฺสตฺถีติ หิตปริสกี, ปุคฺคโล, เตน หิตปริสกินาฯ ตเมวตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘หิเตสินา หิตคเวสินา’’ติ ฯ กรุณาติ อปฺปนาปตฺตา กรุณาฯ กรุณาปุพฺพภาโคติ อปฺปนาปตฺตาย กรุณาย ปุพฺพภาเค ปวตฺตา ปริกมฺมอุปจารกรุณาฯ ปททฺวเยปีติ ‘‘หิตานุกมฺปินา การุณิเกน ภวิตพฺพํฯ หิตปริสกินา อสมฺผปฺปลาปินา ภวิตพฺพ’’นฺติ ปททฺวเยปิฯ อยํ อธิปฺปาโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ ‘‘อสุนฺทรวจน’’นฺติ อิมินา อสุรุตฺตนฺติ เอตฺถ สุนฺทรํ อุตฺตํ สุรุตฺตํ, น สุรุตฺตํ อสุรุตฺตนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ ปริคฺคเหตโพฺพติ ปริวีมํสิตฺวา คเหตโพฺพฯ
‘‘Atthaṃ anuvidhiyantenā’’ti ettha atthanti vinicchayatthaṃ. Anuvidhiyantenāti sallakkhentena. Iti imamatthaṃ dassento āha ‘‘vinicchayapaṭivedhameva sallakkhentenā’’ti. Sannipātamaṇḍaleti sannipātāya parisāya samūhe, sannipātamaṇḍalassa majjheti attho. Na vītihātabbanti ettha vītiharaṇaṃ nāma atthato hāpananti āha ‘‘na vinicchayo hāpetabbo’’ti. Duruttavācanti codakacuditakānaṃ duruttavācaṃ. Hitaparisakināti ettha hitaṃ pari esatīti hitaparisako, karuṇā ca karuṇāpubbabhāgo ca, so etassatthīti hitaparisakī, puggalo, tena hitaparisakinā. Tamevatthaṃ dassento āha ‘‘hitesinā hitagavesinā’’ti . Karuṇāti appanāpattā karuṇā. Karuṇāpubbabhāgoti appanāpattāya karuṇāya pubbabhāge pavattā parikammaupacārakaruṇā. Padadvayepīti ‘‘hitānukampinā kāruṇikena bhavitabbaṃ. Hitaparisakinā asamphappalāpinā bhavitabba’’nti padadvayepi. Ayaṃ adhippāyo veditabboti yojanā. ‘‘Asundaravacana’’nti iminā asuruttanti ettha sundaraṃ uttaṃ suruttaṃ, na suruttaṃ asuruttanti vacanatthaṃ dasseti. Pariggahetabboti parivīmaṃsitvā gahetabbo.
ตสฺสาติ อธมฺมโจทกสฺสฯ อโนสฎํ วตฺถุนฺติ เอตฺถ ‘‘โจทกจุทิตเกหิ วุตฺต’’นฺติ ปทํ อธิการวเสน เวทิตพฺพํฯ เอตฺถ จ อโนสฎนฺติ วินิจฺฉยํ อโนสฎนฺติ อโตฺถฯ กิํ ปคฺคณฺหิตโพฺพติ อาห ‘‘นนุ ตฺว’’นฺติอาทิฯ อนุโยควตฺตนฺติ ‘‘กาเลน วกฺขามี’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๙๙; ปริ. ๓๖๒, ๔๓๗) วุตฺตํ, ‘‘สเจฺจ จ อกุเปฺป จา’’ติ (จูฬว. ๔๐๑) จ วุตฺตํ อนุยุญฺชนวตฺตํฯ ตญฺหิ ยสฺมา อเนน วเตฺตน โจทโก จุทิตกํ, จุทิตโก วา โจทกํ อนุยุญฺชติ, โจทเกน จุทิตโก, จุทิตเกน วา โจทโก อนุยุญฺชิยติ, ตสฺมา อนุโยควตฺตนฺติ วุจฺจติฯ กถาเปตฺวาติ โจทกจุทิตเกเหว กถาเปตฺวาฯ ตสฺสาติ โจทกสฺส วา จุทิตกสฺส วา, สารชฺชนฺติ ภยํฯ เตติ ตวฯ วตฺวาปีติ มุเขน วตฺวาปิฯ ปิสเทฺทน กายวิการํ ทเสฺสตฺวาปีติ สมฺปิเณฺฑติฯ ‘‘อนุโยควตฺต’’นฺติ ธาตุกมฺมํ, ‘‘โส ภิกฺขู’’ติ การิตกมฺมํ อชฺฌาหริตพฺพํ, ตํ กมฺมํ ตพฺพปจฺจโย วทติฯ อสุจิ วิภาเวตโพฺพติ เอตฺถ นตฺถิ สุจิ สีลเมตสฺสาติ อสุจีติ วุเตฺต อลชฺชีติ อาห ‘‘อลชฺชิ’’นฺติฯ อุชุ สีลวา กายวงฺกาทิรหิโต โหตีติ โยชนาฯ เอตฺถ จ กายวงฺกาทิรหิโต โหตีติ อิมินา อุชุโน การณํ ทเสฺสติฯ กายวงฺกาทิรหิตตฺตา อุชุ โหตีติ อธิปฺปาโยฯ โสติ ภิกฺขุฯ มทฺทเวเนวาติ มุทุภาเวเนวฯ อุปจริตโพฺพติ กเถตโพฺพฯ อิมินา อุชุมทฺทเวนาติ ปทสฺส สมฺพนฺธฎฺฐานํ ปาฐเสสํ ทเสฺสติฯ โยติ ภิกฺขุฯ อยเมวาติ เอวสเทฺทน น ธมฺมครุโก, ปุคฺคลครุโก, ธเมฺมสุ จ ปุคฺคเลสุ จ น มชฺฌโตฺตติ เวทิตโพฺพติ ทเสฺสติฯ
Tassāti adhammacodakassa. Anosaṭaṃ vatthunti ettha ‘‘codakacuditakehi vutta’’nti padaṃ adhikāravasena veditabbaṃ. Ettha ca anosaṭanti vinicchayaṃ anosaṭanti attho. Kiṃ paggaṇhitabboti āha ‘‘nanu tva’’ntiādi. Anuyogavattanti ‘‘kālena vakkhāmī’’tiādinā (cūḷava. 399; pari. 362, 437) vuttaṃ, ‘‘sacce ca akuppe cā’’ti (cūḷava. 401) ca vuttaṃ anuyuñjanavattaṃ. Tañhi yasmā anena vattena codako cuditakaṃ, cuditako vā codakaṃ anuyuñjati, codakena cuditako, cuditakena vā codako anuyuñjiyati, tasmā anuyogavattanti vuccati. Kathāpetvāti codakacuditakeheva kathāpetvā. Tassāti codakassa vā cuditakassa vā, sārajjanti bhayaṃ. Teti tava. Vatvāpīti mukhena vatvāpi. Pisaddena kāyavikāraṃ dassetvāpīti sampiṇḍeti. ‘‘Anuyogavatta’’nti dhātukammaṃ, ‘‘so bhikkhū’’ti kāritakammaṃ ajjhāharitabbaṃ, taṃ kammaṃ tabbapaccayo vadati. Asuci vibhāvetabboti ettha natthi suci sīlametassāti asucīti vutte alajjīti āha ‘‘alajji’’nti. Uju sīlavā kāyavaṅkādirahito hotīti yojanā. Ettha ca kāyavaṅkādirahito hotīti iminā ujuno kāraṇaṃ dasseti. Kāyavaṅkādirahitattā uju hotīti adhippāyo. Soti bhikkhu. Maddavenevāti mudubhāveneva. Upacaritabboti kathetabbo. Iminā ujumaddavenāti padassa sambandhaṭṭhānaṃ pāṭhasesaṃ dasseti. Yoti bhikkhu. Ayamevāti evasaddena na dhammagaruko, puggalagaruko, dhammesu ca puggalesu ca na majjhattoti veditabboti dasseti.
๓๖๖. เตน จ ปน อนุวิชฺชเกนาติ โยชนาฯ สุตฺตาทีสูติ อาทิสเทฺทน วินยอนุโลม ปญฺญตฺตอนุโลมิกานิ สงฺคเหตพฺพานิฯ สุตฺตํ สํสนฺทนตฺถาย โหตีติ โยชนาฯ เกสํ สํสนฺทนตฺถายาติ อาห ‘‘อาปตฺตานาปตฺตีนํ สํสนฺทนตฺถ’’นฺติฯ โอปมฺมํ อตฺถทสฺสนตฺถาย โหตีติ โยชนาฯ เอเสว นโย เสเสสุปิฯ ปเจฺจกฎฺฐายิโน อวิสํวาทกฎฺฐายิโนติ เอตฺถ ปเจฺจกสฺมิํ ติฎฺฐนฺติ สีเลนาติ ปเจฺจกฎฺฐายิโน, อวิสํวาทเก ติฎฺฐนฺติ สีเลนาติ อวิสํวาทกฎฺฐายิโนติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อิสฺส…เป.… ฐิตา’’ติฯ ‘‘อิสฺสริยาธิปจฺจเชฎฺฐกฎฺฐาเน’’ติ อิมินา ปเจฺจกสรูปํ ทเสฺสติฯ เตติ สเงฺฆน อนุมตา ปุคฺคลาฯ
366. Tena ca pana anuvijjakenāti yojanā. Suttādīsūti ādisaddena vinayaanuloma paññattaanulomikāni saṅgahetabbāni. Suttaṃ saṃsandanatthāya hotīti yojanā. Kesaṃ saṃsandanatthāyāti āha ‘‘āpattānāpattīnaṃ saṃsandanattha’’nti. Opammaṃ atthadassanatthāya hotīti yojanā. Eseva nayo sesesupi. Paccekaṭṭhāyino avisaṃvādakaṭṭhāyinoti ettha paccekasmiṃ tiṭṭhanti sīlenāti paccekaṭṭhāyino, avisaṃvādake tiṭṭhanti sīlenāti avisaṃvādakaṭṭhāyinoti dassento āha ‘‘issa…pe… ṭhitā’’ti. ‘‘Issariyādhipaccajeṭṭhakaṭṭhāne’’ti iminā paccekasarūpaṃ dasseti. Teti saṅghena anumatā puggalā.
กิมตฺถํ ‘‘วินโย สํวรตฺถายา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทานี’’ติอาทิฯ อิทานิ ทเสฺสตุํ อาหาติ สมฺพโนฺธฯ เย มนฺทา มนฺทพุทฺธิโน หุตฺวา เอวํ วเทยฺยุนฺติ โยชนาฯ อถ วา มนฺทา มนฺทพุทฺธิโน เย ปุคฺคลา เอวํ วเทยฺยุนฺติ โยชนาฯ สกลาปิ วินยปญฺญตฺติ อุปนิสฺสโย โหตีติ สมฺพโนฺธฯ อิมินา ‘‘สํวรตฺถายา’’ติอาทีสุ ‘‘อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถายา’’ติปริโยสาเนสุ เตรสวาเกฺยสุ ‘‘อุปนิสฺสโย โหตี’’ติ ปาฐเสโส อชฺฌาหริตโพฺพติ ทเสฺสติฯ ‘‘ปจฺจโย’’ติ อิมินา ‘‘อุปนิสฺสโย’’ติ ปทสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโยติ อตฺถํ ทเสฺสติฯ สพฺพตฺถาติ สเพฺพสุ ทฺวาทสวาเกฺยสุฯ วิเสสํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิฯ ตตฺถ อปิจ วิเสสํ วกฺขามีติ โยชนาฯ เอตฺถาติ ‘‘อวิปฺปฎิสารตฺถายา’’ติอาทีสุฯ ตนฺติ สุขํฯ ตรุณวิปสฺสนา นาม กสฺส อธิวจนนฺติ อาห ‘‘อุทยพฺพยญาณเสฺสตมธิวจน’’นฺติฯ นนุ ‘‘วิราโค’’ติ เอตฺถ จตุพฺพิธสฺส อริยมคฺคสฺส คหิตตฺตา ‘‘วิมุตฺตี’’ติ เอตฺถาปิ จตุพฺพิธํ ผลํ คเหตพฺพํ, กสฺมา ปน ‘‘วิมุตฺตีติ อรหตฺตผล’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘จตุพฺพิโธปิ หี’’ติอาทิฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ อปจฺจยปรินิพฺพานตฺถายาติ อสงฺขตปรินิพฺพานตฺถายฯ นเตฺถตฺถ หิ ปรินิพฺพาเน โกจิ ปจฺจโย, ตสฺมา อปจฺจยปรินิพฺพานนฺติ วุจฺจติฯ ตนฺติ วิมุตฺติญาณทสฺสนํฯ ตสฺมิํอนุปฺปเตฺตติ ตสฺมิํ วิมุตฺติญาณทสฺสเน อนุกฺกเมน ปเตฺตฯ อวสฺสนฺติ ธุวํ เอกเนฺตนาติ อโตฺถฯ เอตทตฺถาติ เอโส อนุปาทา ปรินิพฺพานสงฺขาโต อโตฺถ ปโยชนํ อิมิสฺสา กถายาติ เอตทตฺถาฯ กถาติ อตฺถสฺส กถาฯ มนฺตนาติ ธมฺมสฺส มนฺตนาฯ เอตทตฺถา อุปนิสาติ เอตฺถ อุปนิสาสโทฺท ปจฺจยวาจโกติ อาห ‘‘ปรํปรปจฺจยตาปี’’ติฯ ปรํปรปจฺจโย หิ ยสฺมา เอตฺถ ปรํปรผลํ อุปคนฺตฺวา นิสีทติ, ตสฺมา อุปนิสาติ วุจฺจติฯ ‘‘วินโย สํวรตฺถายา’’ติอาทิกา อยํ ปรํปรปจฺจยตาปีติ โยชนาฯ โสตาวธานนฺติ โอคาเหตฺวา ธิยเต ฐปิยเต อวธานํ, โสตสฺส อวธานํ โสตาวธานํฯ อิมํ กถนฺติ ‘‘วินโย สํวรตฺถายา’’ติอาทิํ อิมํ กถํฯ ยํ ญาณํ อุปฺปชฺชติ, ตมฺปิ เอตทตฺถนฺติ โยชนาฯ ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺสาติ เอตฺถ ‘‘ยทิท’’นฺติ นิปาโต ‘‘วิโมโกฺข’’ติ ปทมเปกฺขิตฺวา โย อยนฺติ อตฺถํ วทติฯ อนุปาทาติ เอตฺถ ‘‘สยํ อภิญฺญา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๑) วิย ยการโลโป โหติ, ตสฺส ปทสฺส กรณํ ปน ‘‘จตูหิ อุปาทาเนหี’’ติ เวทิตพฺพํฯ อิติ อิม มตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘โย อยํ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา’’ติฯ เอตฺถ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา จิตฺตสฺส อรหตฺตผลสงฺขาโต โย อยํ วิโมโกฺข อตฺถิ, โสปิ เอตทตฺถาย โหตีติ โยชนาฯ ‘‘อรหตฺตผลสงฺขาโต’’ติ อิมินา ‘‘วิโมโกฺข’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทเสฺสติฯ อรหตฺตผลญฺหิ ยสฺมา วิรุเทฺธหิ, วิเสเสน วา สพฺพกิเลเสหิ มุจฺจิตฺถ, ตสฺมา วิโมโกฺขติ วุจฺจติฯ ‘‘อปจฺจยปรินิพฺพานตฺถาย เอวา’’ติ อิมินา เอตทตฺถายาติ ปทสฺส อตฺถํ ทเสฺสติฯ
Kimatthaṃ ‘‘vinayo saṃvaratthāyā’’tiādi vuttanti āha ‘‘idānī’’tiādi. Idāni dassetuṃ āhāti sambandho. Ye mandā mandabuddhino hutvā evaṃ vadeyyunti yojanā. Atha vā mandā mandabuddhino ye puggalā evaṃ vadeyyunti yojanā. Sakalāpi vinayapaññatti upanissayo hotīti sambandho. Iminā ‘‘saṃvaratthāyā’’tiādīsu ‘‘anupādāparinibbānatthāyā’’tipariyosānesu terasavākyesu ‘‘upanissayo hotī’’ti pāṭhaseso ajjhāharitabboti dasseti. ‘‘Paccayo’’ti iminā ‘‘upanissayo’’ti padassa upanissayapaccayoti atthaṃ dasseti. Sabbatthāti sabbesu dvādasavākyesu. Visesaṃ dassento āha ‘‘apicetthā’’tiādi. Tattha apica visesaṃ vakkhāmīti yojanā. Etthāti ‘‘avippaṭisāratthāyā’’tiādīsu. Tanti sukhaṃ. Taruṇavipassanā nāma kassa adhivacananti āha ‘‘udayabbayañāṇassetamadhivacana’’nti. Nanu ‘‘virāgo’’ti ettha catubbidhassa ariyamaggassa gahitattā ‘‘vimuttī’’ti etthāpi catubbidhaṃ phalaṃ gahetabbaṃ, kasmā pana ‘‘vimuttīti arahattaphala’’nti vuttanti āha ‘‘catubbidhopi hī’’tiādi. Hīti saccaṃ, yasmā vā. Apaccayaparinibbānatthāyāti asaṅkhataparinibbānatthāya. Natthettha hi parinibbāne koci paccayo, tasmā apaccayaparinibbānanti vuccati. Tanti vimuttiñāṇadassanaṃ. Tasmiṃanuppatteti tasmiṃ vimuttiñāṇadassane anukkamena patte. Avassanti dhuvaṃ ekantenāti attho. Etadatthāti eso anupādā parinibbānasaṅkhāto attho payojanaṃ imissā kathāyāti etadatthā. Kathāti atthassa kathā. Mantanāti dhammassa mantanā. Etadatthā upanisāti ettha upanisāsaddo paccayavācakoti āha ‘‘paraṃparapaccayatāpī’’ti. Paraṃparapaccayo hi yasmā ettha paraṃparaphalaṃ upagantvā nisīdati, tasmā upanisāti vuccati. ‘‘Vinayo saṃvaratthāyā’’tiādikā ayaṃ paraṃparapaccayatāpīti yojanā. Sotāvadhānanti ogāhetvā dhiyate ṭhapiyate avadhānaṃ, sotassa avadhānaṃ sotāvadhānaṃ. Imaṃ kathanti ‘‘vinayo saṃvaratthāyā’’tiādiṃ imaṃ kathaṃ. Yaṃ ñāṇaṃ uppajjati, tampi etadatthanti yojanā. Yadidaṃ anupādā cittassāti ettha ‘‘yadida’’nti nipāto ‘‘vimokkho’’ti padamapekkhitvā yo ayanti atthaṃ vadati. Anupādāti ettha ‘‘sayaṃ abhiññā’’tiādīsu (mahāva. 11) viya yakāralopo hoti, tassa padassa karaṇaṃ pana ‘‘catūhi upādānehī’’ti veditabbaṃ. Iti ima matthaṃ dassento āha ‘‘yo ayaṃ catūhi upādānehi anupādiyitvā’’ti. Ettha catūhi upādānehi anupādiyitvā cittassa arahattaphalasaṅkhāto yo ayaṃ vimokkho atthi, sopi etadatthāya hotīti yojanā. ‘‘Arahattaphalasaṅkhāto’’ti iminā ‘‘vimokkho’’ti padassa atthaṃ dasseti. Arahattaphalañhi yasmā viruddhehi, visesena vā sabbakilesehi muccittha, tasmā vimokkhoti vuccati. ‘‘Apaccayaparinibbānatthāya evā’’ti iminā etadatthāyāti padassa atthaṃ dasseti.
๓๖๗. วตฺถุํ…เป.… น ชานาตีติ เอตฺถาติ โยชนา กาตพฺพาฯ ตสฺมาติ ยสฺมา สมฺพโนฺธ, ตสฺมาฯ เอตฺถาติ อิมาสุ คาถาสุฯ สเมน จาติ เอตฺถ ‘‘สเมนา’’ติ ปทํ ‘‘อญฺญาเณนา’’ติ อตฺถสฺส วาจกํ รูฬฺหีปทนฺติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘เตเนว ปุพฺพาปรํ อชานนสฺส สเมน อญฺญาเณนา’’ติฯ ปาฬิยํ เกน การเณน กตากตํ น ชานาตีติ อาห ‘‘สเมนา’’ติฯ สเมน ปุพฺพาปรสฺส อญฺญาเณน กตากตํ น ชานาตีติ อโตฺถฯ เอวนฺติอาทิ นิคมนํ ฯ ยํ ปเนตํ วจนํ วุตฺตนฺติ โยชนาฯ ‘‘ตตฺถา’’ติ จ ‘‘อาการอโกวิโท’’ติ จ อาธาราเธยฺยานมเภโท โหติ, ตสฺมา อวยวี อาธาโร, อวยโว อาเธโยฺยติ ทฎฺฐพฺพํฯ อาการสโทฺท อิงฺคิตโตฺถติ อาห ‘‘การณาการเณ’’ติฯ การณอการณสงฺขาเต อิงฺคิเตติ อโตฺถฯ อาการสฺสาติ ภุมฺมเตฺถ สามิวจนํฯ อาการสฺมินฺติ หิ อโตฺถฯ
367.Vatthuṃ…pe… na jānātīti etthāti yojanā kātabbā. Tasmāti yasmā sambandho, tasmā. Etthāti imāsu gāthāsu. Samena cāti ettha ‘‘samenā’’ti padaṃ ‘‘aññāṇenā’’ti atthassa vācakaṃ rūḷhīpadanti dassento āha ‘‘teneva pubbāparaṃ ajānanassa samena aññāṇenā’’ti. Pāḷiyaṃ kena kāraṇena katākataṃ na jānātīti āha ‘‘samenā’’ti. Samena pubbāparassa aññāṇena katākataṃ na jānātīti attho. Evantiādi nigamanaṃ . Yaṃ panetaṃ vacanaṃ vuttanti yojanā. ‘‘Tatthā’’ti ca ‘‘ākāraakovido’’ti ca ādhārādheyyānamabhedo hoti, tasmā avayavī ādhāro, avayavo ādheyyoti daṭṭhabbaṃ. Ākārasaddo iṅgitatthoti āha ‘‘kāraṇākāraṇe’’ti. Kāraṇaakāraṇasaṅkhāte iṅgiteti attho. Ākārassāti bhummatthe sāmivacanaṃ. Ākārasminti hi attho.
ตเถวาติ ยถา วตฺถุอาทีนิ น ชานาติ, ตเถวฯ อิตีติ เอวํฯ ยฺวายนฺติ โย อยํ ภิกฺขุฯ ‘‘ภเยนา’’ติ อิมินา ภยาติ เอตฺถ การณเตฺถ นิสฺสกฺกวจนนฺติ ทเสฺสติฯ ภยา ภเยน คจฺฉตีติ โยชนาฯ เอเสว นโย สโมฺมเหน โมหา คจฺฉตีติ เอตฺถาปิฯ ฉนฺทาติ ฉเนฺทนฯ โทสาติ โทเสนฯ อตฺตนา ญาตุํ อสมตฺถตาย น สญฺญตฺติยา กุสโลติ อาห ‘‘ปรํ สญฺญาเปตุํ อสมตฺถตายา’’ติฯ กสฺมา นิชฺฌตฺติยา จ อโกวิโทติ อาห ‘‘การณา…เป.… ตายา’’ติฯ ‘‘ปริสาย ลทฺธตฺตา’’ติ อิมินา ลโทฺธ ปริสสงฺขาโต ปโกฺข เยนาติ ลทฺธปโกฺขติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ สเจ ตาทิสโก ภิกฺขุ โหติ, โส ภิกฺขุ ‘‘อปฎิโกฺข’’ติ วุจฺจตีติ โยชนาฯ เอเสว นโย เหฎฺฐาปิฯ ‘‘น ปฎิกฺขิตโพฺพ’’ติ อิมินา ปฎิมุขํ น อิกฺขิตโพฺพติ อปฎิโกฺขติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ ‘‘น โอโลเกตโพฺพ’’ติ อิมินา อิกฺขธาตุยา ทสฺสนตฺถํ ทเสฺสติฯ
Tathevāti yathā vatthuādīni na jānāti, tatheva. Itīti evaṃ. Yvāyanti yo ayaṃ bhikkhu. ‘‘Bhayenā’’ti iminā bhayāti ettha kāraṇatthe nissakkavacananti dasseti. Bhayā bhayena gacchatīti yojanā. Eseva nayo sammohena mohā gacchatīti etthāpi. Chandāti chandena. Dosāti dosena. Attanā ñātuṃ asamatthatāya na saññattiyā kusaloti āha ‘‘paraṃ saññāpetuṃ asamatthatāyā’’ti. Kasmā nijjhattiyā ca akovidoti āha ‘‘kāraṇā…pe… tāyā’’ti. ‘‘Parisāya laddhattā’’ti iminā laddho parisasaṅkhāto pakkho yenāti laddhapakkhoti vacanatthaṃ dasseti. Sace tādisako bhikkhu hoti, so bhikkhu ‘‘apaṭikkho’’ti vuccatīti yojanā. Eseva nayo heṭṭhāpi. ‘‘Na paṭikkhitabbo’’ti iminā paṭimukhaṃ na ikkhitabboti apaṭikkhoti vacanatthaṃ dasseti. ‘‘Na oloketabbo’’ti iminā ikkhadhātuyā dassanatthaṃ dasseti.
อิติ จูฬสงฺคามวณฺณนาย โยชนา สมตฺตาฯ
Iti cūḷasaṅgāmavaṇṇanāya yojanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๑. อนุวิชฺชกสฺสปฎิปตฺติ • 1. Anuvijjakassapaṭipatti
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā / อนุวิชฺชกสฺส ปฎิปตฺติวณฺณนา • Anuvijjakassa paṭipattivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / สงฺคามทฺวยวณฺณนา • Saṅgāmadvayavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อนุวิชฺชกสฺสปฎิปตฺติวณฺณนา • Anuvijjakassapaṭipattivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อนุวิชฺชกสฺส ปฎิปตฺติวณฺณนา • Anuvijjakassa paṭipattivaṇṇanā