Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā |
จูฬสงฺคามํ
Cūḷasaṅgāmaṃ
อนุวิชฺชกสฺส ปฎิปตฺติวณฺณนา
Anuvijjakassa paṭipattivaṇṇanā
๓๖๕. ตตฺร หีติ ตสฺมิํ สนฺนิปาเตฯ อตฺตปจฺจตฺถิกาติ ลชฺชิเปสลสฺส โจทกปาปครหีปุคฺคลสฺส อนตฺถกามา เวรีปุคฺคลาฯ สาสนปจฺจตฺถิกาติ อตฺตโน อนาจารานุคุณํ พุทฺธวจนํ ปกาเสโนฺต ตณฺหาคติกา, ทิฎฺฐิคติกา จฯ อโชฺฌคาเหตฺวาติ อลชฺชิอภิภวนวเสน สงฺฆมชฺฌํ ปวิสิตฺวาฯ โส สงฺคามาวจโรติ โส โจทโก สงฺคามาวจโร นามฯ ทิฎฺฐสุตมุตมฺปิ ราชกถาทิกนฺติ ทิฎฺฐสุตวเสเนว ราชโจราทิกถํ, มุตวเสนปิ อนฺนาทิกถญฺจ อกเถเนฺตนาติ โยเชตพฺพํฯ กปฺปิยากปฺปิยนิสฺสิตา วาติอาทีสุ รูปารูปปฎิเจฺฉทปเทน สกลอภิธมฺมตฺถปิฎกตฺตํ ทเสฺสติฯ สมถาจาราทีหิ ปฎิสํยุตฺตนฺติ สกลสุตฺตนฺตปิฎกตฺตํฯ ตตฺถ สมถาจาโร นาม สมถภาวนากฺกโมฯ ตถา วิปสฺสนาจาโรฯ ฐานนิสชฺชวตฺตาทินิสฺสิตาติ สงฺฆมชฺฌาทีสุ ครุจิตฺตีการํ ปจฺจุปฎฺฐเปตฺวา ฐานาทิกฺกมนิสฺสิตา เจว จุทฺทสมหาวตฺตาทิวตฺตนิสฺสิตา จ, อาทิ-สเทฺทน อปฺปิจฺฉตาทินิสฺสิตา จาติ อโตฺถฯ ปเญฺห อุปฺปเนฺนติ เกนจิ อุปฺปเนฺน ปเญฺห ปุจฺฉิเตฯ อิทญฺจ อุปลกฺขณมตฺตํ, ยํ กิญฺจิ อุปฎฺฐิตํ ธมฺมํ ภาสสฺสูติ อธิปฺปาโยฯ
365.Tatrahīti tasmiṃ sannipāte. Attapaccatthikāti lajjipesalassa codakapāpagarahīpuggalassa anatthakāmā verīpuggalā. Sāsanapaccatthikāti attano anācārānuguṇaṃ buddhavacanaṃ pakāsento taṇhāgatikā, diṭṭhigatikā ca. Ajjhogāhetvāti alajjiabhibhavanavasena saṅghamajjhaṃ pavisitvā. So saṅgāmāvacaroti so codako saṅgāmāvacaro nāma. Diṭṭhasutamutampi rājakathādikanti diṭṭhasutavaseneva rājacorādikathaṃ, mutavasenapi annādikathañca akathentenāti yojetabbaṃ. Kappiyākappiyanissitā vātiādīsu rūpārūpapaṭicchedapadena sakalaabhidhammatthapiṭakattaṃ dasseti. Samathācārādīhi paṭisaṃyuttanti sakalasuttantapiṭakattaṃ. Tattha samathācāro nāma samathabhāvanākkamo. Tathā vipassanācāro. Ṭhānanisajjavattādinissitāti saṅghamajjhādīsu garucittīkāraṃ paccupaṭṭhapetvā ṭhānādikkamanissitā ceva cuddasamahāvattādivattanissitā ca, ādi-saddena appicchatādinissitā cāti attho. Pañhe uppanneti kenaci uppanne pañhe pucchite. Idañca upalakkhaṇamattaṃ, yaṃ kiñci upaṭṭhitaṃ dhammaṃ bhāsassūti adhippāyo.
กุลปเทโส นาม ขตฺติยาทิชาติยมฺปิ กาสิกราชกุลาทิกุลวิเสโสฯ เอตเมวาห ‘‘กุลปเทโส ขตฺติยกุลาทิวเสเนว เวทิตโพฺพ’’ติฯ สนฺนิปาตมณฺฑเลติ อตฺตโน อนุวิชฺชมานปฺปการํ สงฺฆสฺส ญาปนตฺถํ อุฎฺฐาย สงฺฆสนฺนิปาตมเชฺฌ อิโต จิโต จ ปเรสํ มุขํ โอโลเกเนฺตน น จริตพฺพํฯ ยถานิสิเนฺนเนว ธมฺมวินยานุคุณํ วินิจฺฉยํ ยถา สเพฺพ สุณนฺติ, ตถา วตฺตพฺพนฺติ อโตฺถฯ
Kulapadeso nāma khattiyādijātiyampi kāsikarājakulādikulaviseso. Etamevāha ‘‘kulapadeso khattiyakulādivaseneva veditabbo’’ti. Sannipātamaṇḍaleti attano anuvijjamānappakāraṃ saṅghassa ñāpanatthaṃ uṭṭhāya saṅghasannipātamajjhe ito cito ca paresaṃ mukhaṃ olokentena na caritabbaṃ. Yathānisinneneva dhammavinayānuguṇaṃ vinicchayaṃ yathā sabbe suṇanti, tathā vattabbanti attho.
ปาฬิยํ อจณฺฑิกเตนาติ อกตจณฺฑภาเวน, อผรุเสนาติ อโตฺถฯ ‘‘หิตานุกมฺปินา’’ติ เอเตน เมตฺตาปุพฺพภาโค วุโตฺตฯ ‘‘การุณิเกน ภวิตพฺพ’’นฺติ อิมินา อปฺปนาปฺปตฺตกรุณา วุตฺตาฯ ‘‘หิตปริสกฺกินา’’ติ อิมินา กรุณาปุพฺพภาโคฯ เตนาห ‘‘กรุณา จ กรุณาปุพฺพภาโค จ อุปฎฺฐาเปตโพฺพติ อยํ ปททฺวเยปิ อธิปฺปาโย’’ติฯ ลชฺชิยาติ ลชฺชินีฯ
Pāḷiyaṃ acaṇḍikatenāti akatacaṇḍabhāvena, apharusenāti attho. ‘‘Hitānukampinā’’ti etena mettāpubbabhāgo vutto. ‘‘Kāruṇikena bhavitabba’’nti iminā appanāppattakaruṇā vuttā. ‘‘Hitaparisakkinā’’ti iminā karuṇāpubbabhāgo. Tenāha ‘‘karuṇā ca karuṇāpubbabhāgo ca upaṭṭhāpetabboti ayaṃ padadvayepi adhippāyo’’ti. Lajjiyāti lajjinī.
อนุโยควตฺตํ กถาเปตฺวาติ ‘‘กาเลน วกฺขามี’’ติอาทินา (ปริ. ๓๖๒) วุตฺตวตฺตํฯ อนุยุญฺชนาจารกฺกเมเนว อนุยุญฺชนํ อนุโยควตฺตํ นาม, ตํ กถาเปตฺวา เตเนว กเมน อนุยุญฺชาเปตฺวาติ อโตฺถฯ อุชุมทฺทเวนาติ เอตฺถ อชฺฌาหริตพฺพปทํ ทเสฺสติ ‘‘อุปจริตโพฺพ’’ติฯ ‘‘ธเมฺมสุ จ ปุคฺคเลสุ จา’’ติ อิทํ ‘‘มชฺฌเตฺตน ภวิตพฺพ’’นฺติ ปกเตน สมฺพนฺธิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ธเมฺมสุ จ ปุคฺคเลสุ จ…เป.… มชฺฌโตฺตติ เวทิตโพฺพ’’ติฯ ยญฺหิ ยตฺถ กตฺถจิ กตฺตพฺพํ, ตํ ตตฺถ อติกฺกมโนฺต มชฺฌโตฺต นาม น โหติ, ธเมฺมสุ จ คารโว กตฺตโพฺพฯ ปุคฺคเลสุ ปน เมตฺตาภาเวน ปกฺขปาตคารโวฯ ตสฺมา อิมํ วิธิํ อนติกฺกโนฺตว เตสุ มชฺฌโตฺตติ เวทิตโพฺพฯ
Anuyogavattaṃkathāpetvāti ‘‘kālena vakkhāmī’’tiādinā (pari. 362) vuttavattaṃ. Anuyuñjanācārakkameneva anuyuñjanaṃ anuyogavattaṃ nāma, taṃ kathāpetvā teneva kamena anuyuñjāpetvāti attho. Ujumaddavenāti ettha ajjhāharitabbapadaṃ dasseti ‘‘upacaritabbo’’ti. ‘‘Dhammesu ca puggalesu cā’’ti idaṃ ‘‘majjhattena bhavitabba’’nti pakatena sambandhitabbanti āha ‘‘dhammesu ca puggalesu ca…pe… majjhattoti veditabbo’’ti. Yañhi yattha katthaci kattabbaṃ, taṃ tattha atikkamanto majjhatto nāma na hoti, dhammesu ca gāravo kattabbo. Puggalesu pana mettābhāvena pakkhapātagāravo. Tasmā imaṃ vidhiṃ anatikkantova tesu majjhattoti veditabbo.
๓๖๖. สํสนฺทนตฺถนฺติ อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วาติ สํสเย ชาเต สํสนฺทิตฺวา นิจฺฉยกรณตฺถํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโยฯ อตฺถทสฺสนายาติ สาเธตพฺพสฺส อาปตฺตาทิอุปเมยฺยตฺถสฺส โจทกจุทิตเก อตฺตโน ปฎิญฺญาย เอว สรูปวิภาวนตฺถํฯ อโตฺถ ชานาปนตฺถายาติ เอวํ วิภาวิโต อโตฺถ โจทกจุทิตกสงฺฆานํ ญาปนตฺถาย นิชฺฌาปนตฺถาย, สมฺปฎิจฺฉาปนตฺถายาติ อโตฺถฯ ปุคฺคลสฺส ฐปนตฺถายาติ โจทกจุทิตเก อตฺตโน ปฎิญฺญาย เอว อาปตฺติยํ, อนาปตฺติยํ วา ปติฎฺฐาปนตฺถายฯ สารณตฺถายาติ ปมุฎฺฐสราปนตฺถายฯ สวจนียกรณตฺถายาติ โทเส สาริเตปิ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา ปฎิกมฺมํ อกโรนฺตสฺส สวจนียกรณตฺถายฯ ‘‘น เต อปสาเทตพฺพา’’ติ อิทํ อธิเปฺปตตฺถทสฺสนํฯ ตตฺถ อวิสํวาทกฎฺฐาเน ฐิตา เอว น อปสาเทตพฺพา, น อิตเรติ ทฎฺฐพฺพํฯ
366.Saṃsandanatthanti āpatti vā anāpatti vāti saṃsaye jāte saṃsanditvā nicchayakaraṇatthaṃ vuttanti adhippāyo. Atthadassanāyāti sādhetabbassa āpattādiupameyyatthassa codakacuditake attano paṭiññāya eva sarūpavibhāvanatthaṃ. Attho jānāpanatthāyāti evaṃ vibhāvito attho codakacuditakasaṅghānaṃ ñāpanatthāya nijjhāpanatthāya, sampaṭicchāpanatthāyāti attho. Puggalassa ṭhapanatthāyāti codakacuditake attano paṭiññāya eva āpattiyaṃ, anāpattiyaṃ vā patiṭṭhāpanatthāya. Sāraṇatthāyāti pamuṭṭhasarāpanatthāya. Savacanīyakaraṇatthāyāti dose sāritepi sampaṭicchitvā paṭikammaṃ akarontassa savacanīyakaraṇatthāya. ‘‘Na te apasādetabbā’’ti idaṃ adhippetatthadassanaṃ. Tattha avisaṃvādakaṭṭhāne ṭhitā eva na apasādetabbā, na itareti daṭṭhabbaṃ.
อปฺปจฺจยปรินิพฺพานตฺถายาติ อายติํ ปฎิสนฺธิยา อการณภูตปรินิพฺพานตฺถายฯ ปรินิพฺพานญฺหิ นาม ขีณาสวานํ สพฺพปจฺฉิมา จุติจิตฺตกมฺมชรูปสงฺขาตา ขนฺธา, เต จ สพฺพาการโต สมุจฺฉินฺนานุสยตาย ปุนพฺภวาย อนนฺตราทิปจฺจยา น โหนฺติ อเญฺญหิ จ ตณฺหาทิปจฺจเยหิ วิรหิตตฺตาฯ ตสฺมา ‘‘อปฺปจฺจยปรินิพฺพาน’’นฺติ วุจฺจติฯ ตนฺติ วิมุตฺติญาณทสฺสนํฯ เตเนวาห ‘‘ตสฺมิ’’นฺติฯ วินยมนฺตนาติ วินยวินิจฺฉโยฯ โสตาวธานนฺติ โสตสฺส โอทหนํ, สวนนฺติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ยํ อุปฺปชฺชติ ญาณ’’นฺติฯ ยถาวุตฺตาย วินยสํวราทิการณปรมฺปราย วิมุตฺติยา เอว ปธานตฺตา สา ปุน จิตฺตสฺส วิโมโกฺขติ อุทฺธโฎติ อาห ‘‘อรหตฺตผลสงฺขาโต วิโมโกฺข’’ติฯ อถ วา โย ยํ กิญฺจิ ธมฺมํ อนุปาทิยิตฺวา ปรินิพฺพานวเสน จิตฺตสฺส จิตฺตสนฺตติยา, ตปฺปฎิพทฺธกมฺมชรูปสนฺตติยา จ วิโมโกฺข วิมุจฺจนํ อปุนปฺปวตฺติวเสน วิคโม, เอตทตฺถาย เอตสฺส วิคมสฺสตฺถาย เอวาติ เอวํ นิคมนวเสนเปตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
Appaccayaparinibbānatthāyāti āyatiṃ paṭisandhiyā akāraṇabhūtaparinibbānatthāya. Parinibbānañhi nāma khīṇāsavānaṃ sabbapacchimā cuticittakammajarūpasaṅkhātā khandhā, te ca sabbākārato samucchinnānusayatāya punabbhavāya anantarādipaccayā na honti aññehi ca taṇhādipaccayehi virahitattā. Tasmā ‘‘appaccayaparinibbāna’’nti vuccati. Tanti vimuttiñāṇadassanaṃ. Tenevāha ‘‘tasmi’’nti. Vinayamantanāti vinayavinicchayo. Sotāvadhānanti sotassa odahanaṃ, savananti attho. Tenāha ‘‘yaṃ uppajjati ñāṇa’’nti. Yathāvuttāya vinayasaṃvarādikāraṇaparamparāya vimuttiyā eva padhānattā sā puna cittassa vimokkhoti uddhaṭoti āha ‘‘arahattaphalasaṅkhāto vimokkho’’ti. Atha vā yo yaṃ kiñci dhammaṃ anupādiyitvā parinibbānavasena cittassa cittasantatiyā, tappaṭibaddhakammajarūpasantatiyā ca vimokkho vimuccanaṃ apunappavattivasena vigamo, etadatthāya etassa vigamassatthāya evāti evaṃ nigamanavasenapettha attho veditabbo.
๓๖๗. อนุโยควตฺตคาถาสุ กุสเลน พุทฺธิมตาติ สมฺมาสมฺพุเทฺธนฯ กตนฺติ นิพฺพตฺติตํ, ปกาสิตนฺติ อโตฺถฯ เตเนวาติอาทีสุ เตเนว กตากตสฺส อชานเนว ปุพฺพาปรํ อชานนสฺส, อญฺญสฺสปิ ภิกฺขุโน ยํ กตากตํ โหติ, ตมฺปิ น ชานาตีติ อโตฺถฯ อตฺตโน สทิสายาติ ยถาวุเตฺตหิ โทเสหิ ยุตฺตตาย อตฺตนา สทิสายฯ
367. Anuyogavattagāthāsu kusalena buddhimatāti sammāsambuddhena. Katanti nibbattitaṃ, pakāsitanti attho. Tenevātiādīsu teneva katākatassa ajānaneva pubbāparaṃ ajānanassa, aññassapi bhikkhuno yaṃ katākataṃ hoti, tampi na jānātīti attho. Attano sadisāyāti yathāvuttehi dosehi yuttatāya attanā sadisāya.
อนุวิชฺชกสฺส ปฎิปตฺติวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Anuvijjakassa paṭipattivaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๑. อนุวิชฺชกสฺสปฎิปตฺติ • 1. Anuvijjakassapaṭipatti
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā / อนุวิชฺชกสฺส ปฎิปตฺติวณฺณนา • Anuvijjakassa paṭipattivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / สงฺคามทฺวยวณฺณนา • Saṅgāmadvayavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อนุวิชฺชกสฺสปฎิปตฺติวณฺณนา • Anuvijjakassapaṭipattivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / อนุวิชฺชกสฺส ปฎิปตฺติวณฺณนา • Anuvijjakassa paṭipattivaṇṇanā