Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๒. อาปงฺคปโญฺห
2. Āpaṅgapañho
๒. ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ‘อาปสฺส ปญฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปญฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อาโป สุสณฺฐิตมกมฺปิตมลุฬิตสภาวปริสุโทฺธ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุหนลปนเนมิตฺตกนิเปฺปสิกตํ อปเนตฺวา สุสณฺฐิตมกมฺปิตมลุฬิตสภาวปริสุทฺธาจาเรน ภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
2. ‘‘Bhante nāgasena, ‘āpassa pañca aṅgāni gahetabbānī’ti yaṃ vadesi, katamāni tāni pañca aṅgāni gahetabbānī’’ti? ‘‘Yathā, mahārāja, āpo susaṇṭhitamakampitamaluḷitasabhāvaparisuddho, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena kuhanalapananemittakanippesikataṃ apanetvā susaṇṭhitamakampitamaluḷitasabhāvaparisuddhācārena bhavitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, āpassa paṭhamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อาโป สีตลสภาวสณฺฐิโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพสเตฺตสุ ขนฺติเมตฺตานุทฺทยสมฺปเนฺนน หิเตสินา อนุกมฺปเกน ภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, āpo sītalasabhāvasaṇṭhito, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena sabbasattesu khantimettānuddayasampannena hitesinā anukampakena bhavitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, āpassa dutiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อาโป อสุจิํ สุจิํ กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน คาเม วา อรเญฺญ วา อุปชฺฌาเย อุปชฺฌายมเตฺตสุ อาจริเย อาจริยมเตฺตสุ สพฺพตฺถ อนธิกรเณน ภวิตพฺพํ อนวเสสการินาฯ อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, āpo asuciṃ suciṃ karoti, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena gāme vā araññe vā upajjhāye upajjhāyamattesu ācariye ācariyamattesu sabbattha anadhikaraṇena bhavitabbaṃ anavasesakārinā. Idaṃ, mahārāja, āpassa tatiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อาโป พหุชนปตฺถิโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อปฺปิจฺฉสนฺตุฎฺฐปวิวิตฺตปฎิสลฺลาเนน สตตํ สพฺพโลกมภิปตฺถิเตน ภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, อาปสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, āpo bahujanapatthito, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena appicchasantuṭṭhapavivittapaṭisallānena satataṃ sabbalokamabhipatthitena bhavitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, āpassa catutthaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อาโป น กสฺสจิ อหิตมุปทหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปรภณฺฑนกลหวิคฺคหวิวาทริตฺตชฺฌานอรติชนนํ กายวจีจิเตฺตหิ ปาปกํ น กรณียํฯ อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ปญฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ มหาราช, ภควตา, เทวาติเทเวน กณฺหชาตเก –
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, āpo na kassaci ahitamupadahati, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena parabhaṇḍanakalahaviggahavivādarittajjhānaaratijananaṃ kāyavacīcittehi pāpakaṃ na karaṇīyaṃ. Idaṃ, mahārāja, āpassa pañcamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ mahārāja, bhagavatā, devātidevena kaṇhajātake –
‘‘‘วรเญฺจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
‘‘‘Varañce me ado sakka, sabbabhūtānamissara;
น มโน วา สรีรํ วา, มํ-กเต สกฺก กสฺสจิ;
Na mano vā sarīraṃ vā, maṃ-kate sakka kassaci;
กทาจิ อุปหเญฺญถ, เอตํ สกฺก วรํ วเร’’’ติฯ
Kadāci upahaññetha, etaṃ sakka varaṃ vare’’’ti.
อาปงฺคปโญฺห ทุติโยฯ
Āpaṅgapañho dutiyo.