Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๔. เทวตาวโคฺค

    4. Devatāvaggo

    ๑. อปฺปมาทคารวสุตฺตํ

    1. Appamādagāravasuttaṃ

    ๓๒. อถ โข อญฺญตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ –

    32. Atha kho aññatarā devatā abhikkantāya rattiyā abhikkantavaṇṇā kevalakappaṃ jetavanaṃ obhāsetvā yena bhagavā tenupasaṅkami ; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhitā kho sā devatā bhagavantaṃ etadavoca –

    ‘‘สตฺติเม, ภเนฺต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, อปฺปมาทคารวตา, ปฎิสนฺถารคารวตาฯ อิเม โข, ภเนฺต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติฯ อิทมโวจ สา เทวตาฯ สมนุโญฺญ สตฺถา อโหสิฯ อถ โข สา เทวตา ‘‘สมนุโญฺญ เม สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตเตฺถวนฺตรธายิฯ

    ‘‘Sattime, bhante, dhammā bhikkhuno aparihānāya saṃvattanti. Katame satta? Satthugāravatā, dhammagāravatā, saṅghagāravatā, sikkhāgāravatā, samādhigāravatā, appamādagāravatā, paṭisanthāragāravatā. Ime kho, bhante, satta dhammā bhikkhuno aparihānāya saṃvattantī’’ti. Idamavoca sā devatā. Samanuñño satthā ahosi. Atha kho sā devatā ‘‘samanuñño me satthā’’ti bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā tatthevantaradhāyi.

    อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺติํ อญฺญตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข, ภิกฺขเว, สา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘สตฺติเม, ภเนฺต, ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา, ธมฺมคารวตา, สงฺฆคารวตา, สิกฺขาคารวตา, สมาธิคารวตา, อปฺปมาทคารวตา, ปฎิสนฺถารคารวตา – อิเม โข, ภเนฺต, สตฺต ธมฺมา ภิกฺขุโน อปริหานาย สํวตฺตนฺตี’ติฯ อิทมโวจ, ภิกฺขเว, สา เทวตาฯ อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตเตฺถวนฺตรธายี’’ติฯ

    Atha kho bhagavā tassā rattiyā accayena bhikkhū āmantesi – ‘‘imaṃ, bhikkhave, rattiṃ aññatarā devatā abhikkantāya rattiyā abhikkantavaṇṇā kevalakappaṃ jetavanaṃ obhāsetvā yenāhaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā maṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhitā kho, bhikkhave, sā devatā maṃ etadavoca – ‘sattime, bhante, dhammā bhikkhuno aparihānāya saṃvattanti. Katame satta? Satthugāravatā, dhammagāravatā, saṅghagāravatā, sikkhāgāravatā, samādhigāravatā, appamādagāravatā, paṭisanthāragāravatā – ime kho, bhante, satta dhammā bhikkhuno aparihānāya saṃvattantī’ti. Idamavoca, bhikkhave, sā devatā. Idaṃ vatvā maṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā tatthevantaradhāyī’’ti.

    ‘‘สตฺถุครุ ธมฺมครุ, สเงฺฆ จ ติพฺพคารโว;

    ‘‘Satthugaru dhammagaru, saṅghe ca tibbagāravo;

    สมาธิครุ อาตาปี 1, สิกฺขาย ติพฺพคารโวฯ

    Samādhigaru ātāpī 2, sikkhāya tibbagāravo.

    ‘‘อปฺปมาทครุ ภิกฺขุ, ปฎิสนฺถารคารโว;

    ‘‘Appamādagaru bhikkhu, paṭisanthāragāravo;

    อภโพฺพ ปริหานาย, นิพฺพานเสฺสว สนฺติเก’’ติฯ ปฐมํ;

    Abhabbo parihānāya, nibbānasseva santike’’ti. paṭhamaṃ;







    Footnotes:
    1. สมาธิคารวตาปิ จ (ก.)
    2. samādhigāravatāpi ca (ka.)

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact