Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi

    ๑๓. อปฺปมญฺญาวิภโงฺค

    13. Appamaññāvibhaṅgo

    ๑. สุตฺตนฺตภาชนียํ

    1. Suttantabhājanīyaṃ

    ๖๔๒. จตโสฺส อปฺปมญฺญาโย – อิธ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํ 1ฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน 2 ผริตฺวา วิหรติฯ กรุณาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ กรุณาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ผริตฺวา วิหรติฯ มุทิตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ มุทิตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ผริตฺวา วิหรติฯ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ผริตฺวา วิหรติฯ

    642. Catasso appamaññāyo – idha bhikkhu mettāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati, tathā dutiyaṃ, tathā tatiyaṃ, tathā catutthaṃ 3. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ mettāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena 4 pharitvā viharati. Karuṇāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati, tathā dutiyaṃ, tathā tatiyaṃ, tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ karuṇāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena pharitvā viharati. Muditāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati, tathā dutiyaṃ, tathā tatiyaṃ, tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ muditāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena pharitvā viharati. Upekkhāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati, tathā dutiyaṃ, tathā tatiyaṃ, tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ upekkhāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena pharitvā viharati.

    ๑. เมตฺตา

    1. Mettā

    ๖๔๓. กถญฺจ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ? เสยฺยถาปิ นาม เอกํ ปุคฺคลํ ปิยํ มนาปํ ทิสฺวา เมตฺตาเยยฺย, เอวเมว สเพฺพ สเตฺต เมตฺตาย ผรติฯ

    643. Kathañca bhikkhu mettāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati? Seyyathāpi nāma ekaṃ puggalaṃ piyaṃ manāpaṃ disvā mettāyeyya, evameva sabbe satte mettāya pharati.

    ตตฺถ กตมา เมตฺตา? ยา สเตฺตสุ เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ

    Tattha katamā mettā? Yā sattesu metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’.

    ตตฺถ กตมํ จิตฺตํ? ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ หทยํ ปณฺฑรํ มโน มนายตนํ มนินฺทฺริยํ วิญฺญาณํ วิญฺญาณกฺขโนฺธ ตชฺชามโนวิญฺญาณธาตุ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘จิตฺตํ’’ฯ อิทํ จิตฺตํ อิมาย เมตฺตาย สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฎฺฐํ สมฺปยุตฺตํฯ เตน วุจฺจติ ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติฯ

    Tattha katamaṃ cittaṃ? Yaṃ cittaṃ mano mānasaṃ hadayaṃ paṇḍaraṃ mano manāyatanaṃ manindriyaṃ viññāṇaṃ viññāṇakkhandho tajjāmanoviññāṇadhātu – idaṃ vuccati ‘‘cittaṃ’’. Idaṃ cittaṃ imāya mettāya sahagataṃ hoti sahajātaṃ saṃsaṭṭhaṃ sampayuttaṃ. Tena vuccati ‘‘mettāsahagatena cetasā’’ti.

    ๖๔๔. ‘‘เอกํ ทิส’’นฺติ ปุรตฺถิมํ วา ทิสํ ปจฺฉิมํ วา ทิสํ อุตฺตรํ วา ทิสํ ทกฺขิณํ วา ทิสํ อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา วิทิสํ วาฯ

    644. ‘‘Ekaṃ disa’’nti puratthimaṃ vā disaṃ pacchimaṃ vā disaṃ uttaraṃ vā disaṃ dakkhiṇaṃ vā disaṃ uddhaṃ vā adho vā tiriyaṃ vā vidisaṃ vā.

    ๖๔๕. ‘‘ผริตฺวา’’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวาฯ

    645. ‘‘Pharitvā’’ti pharitvā adhimuccitvā.

    ๖๔๖. ‘‘วิหรตี’’ติ อิริยติ วตฺตติ ปาเลติ ยเปติ ยาเปติ จรติ วิหรติฯ เตน วุจฺจติ ‘‘วิหรตี’’ติฯ

    646. ‘‘Viharatī’’ti iriyati vattati pāleti yapeti yāpeti carati viharati. Tena vuccati ‘‘viharatī’’ti.

    ๖๔๗. ‘‘ตถา ทุติย’’นฺติ ยเถว เอกํ ทิสํ ตถา ทุติยํ ทิสํ ตถา ตติยํ ทิสํ ตถา จตุตฺถํ ทิสํ ตถา อุทฺธํ ตถา อโธ ตถา ติริยํ ตถา วิทิสํฯ

    647. ‘‘Tathā dutiya’’nti yatheva ekaṃ disaṃ tathā dutiyaṃ disaṃ tathā tatiyaṃ disaṃ tathā catutthaṃ disaṃ tathā uddhaṃ tathā adho tathā tiriyaṃ tathā vidisaṃ.

    ๖๔๘. ‘‘สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลก’’นฺติ สเพฺพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ อเสสํ นิเสฺสสํฯ ปริยาทายวจนเมตํ – ‘‘สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลก’’นฺติฯ

    648. ‘‘Sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ loka’’nti sabbena sabbaṃ sabbathā sabbaṃ asesaṃ nissesaṃ. Pariyādāyavacanametaṃ – ‘‘sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ loka’’nti.

    ๖๔๙. ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ ตตฺถ กตมา เมตฺตา? ยา สเตฺตสุ เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ

    649. ‘‘Mettāsahagatena cetasā’’ti tattha katamā mettā? Yā sattesu metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’.

    ตตฺถ กตมํ จิตฺตํ? ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป.… ตชฺชามโนวิญฺญาณธาตุ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘จิตฺตํ’’ฯ อิทํ จิตฺตํ อิมาย เมตฺตาย สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฎฺฐํ สมฺปยุตฺตํฯ เตน วุจฺจติ ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติฯ

    Tattha katamaṃ cittaṃ? Yaṃ cittaṃ mano mānasaṃ…pe… tajjāmanoviññāṇadhātu – idaṃ vuccati ‘‘cittaṃ’’. Idaṃ cittaṃ imāya mettāya sahagataṃ hoti sahajātaṃ saṃsaṭṭhaṃ sampayuttaṃ. Tena vuccati ‘‘mettāsahagatena cetasā’’ti.

    ๖๕๐. ‘‘วิปุเลนา’’ติ ยํ วิปุลํ ตํ มหคฺคตํ, ยํ มหคฺคตํ ตํ อปฺปมาณํ, ยํ อปฺปมาณํ โส อเวโร, โย อเวโร โส อพฺยาปโชฺช 5

    650. ‘‘Vipulenā’’ti yaṃ vipulaṃ taṃ mahaggataṃ, yaṃ mahaggataṃ taṃ appamāṇaṃ, yaṃ appamāṇaṃ so avero, yo avero so abyāpajjo 6.

    ๖๕๑. ‘‘ผริตฺวา’’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวาฯ

    651. ‘‘Pharitvā’’ti pharitvā adhimuccitvā.

    ๖๕๒. ‘‘วิหรตี’’ติ…เป.… เตน วุจฺจติ ‘‘วิหรตี’’ติฯ

    652. ‘‘Viharatī’’ti…pe… tena vuccati ‘‘viharatī’’ti.

    ๒. กรุณา

    2. Karuṇā

    ๖๕๓. กถญฺจ ภิกฺขุ กรุณาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ? เสยฺยถาปิ นาม เอกํ ปุคฺคลํ ทุคฺคตํ ทุรูเปตํ ทิสฺวา กรุณาเยยฺย, เอวเมว สเพฺพ สเตฺต กรุณาย ผรติฯ

    653. Kathañca bhikkhu karuṇāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati? Seyyathāpi nāma ekaṃ puggalaṃ duggataṃ durūpetaṃ disvā karuṇāyeyya, evameva sabbe satte karuṇāya pharati.

    ตตฺถ กตมา กรุณา? ยา สเตฺตสุ กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ

    Tattha katamā karuṇā? Yā sattesu karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’.

    ตตฺถ กตมํ จิตฺตํ? ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป.… ตชฺชามโนวิญฺญาณธาตุ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘จิตฺตํ’’ฯ อิทํ จิตฺตํ อิมาย กรุณาย สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฎฺฐํ สมฺปยุตฺตํฯ เตน วุจฺจติ ‘‘กรุณาสหคเตน เจตสา’’ติฯ

    Tattha katamaṃ cittaṃ? Yaṃ cittaṃ mano mānasaṃ…pe… tajjāmanoviññāṇadhātu – idaṃ vuccati ‘‘cittaṃ’’. Idaṃ cittaṃ imāya karuṇāya sahagataṃ hoti sahajātaṃ saṃsaṭṭhaṃ sampayuttaṃ. Tena vuccati ‘‘karuṇāsahagatena cetasā’’ti.

    ๖๕๔. ‘‘เอกํ ทิส’’นฺติ ปุรตฺถิมํ วา ทิสํ ปจฺฉิมํ วา ทิสํ อุตฺตรํ วา ทิสํ ทกฺขิณํ วา ทิสํ อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา วิทิสํ วาฯ

    654. ‘‘Ekaṃ disa’’nti puratthimaṃ vā disaṃ pacchimaṃ vā disaṃ uttaraṃ vā disaṃ dakkhiṇaṃ vā disaṃ uddhaṃ vā adho vā tiriyaṃ vā vidisaṃ vā.

    ๖๕๕. ‘‘ผริตฺวา’’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวาฯ

    655. ‘‘Pharitvā’’ti pharitvā adhimuccitvā.

    ๖๕๖. ‘‘วิหรตี’’ติ อิริยติ วตฺตติ ปาเลติ ยเปติ ยาเปติ จรติ วิหรติฯ เตน วุจฺจติ ‘‘วิหรตี’’ติฯ

    656. ‘‘Viharatī’’ti iriyati vattati pāleti yapeti yāpeti carati viharati. Tena vuccati ‘‘viharatī’’ti.

    ๖๕๗. ‘‘ตถา ทุติย’’นฺติ ยเถว เอกํ ทิสํ ตถา ทุติยํ ทิสํ ตถา ตติยํ ทิสํ ตถา จตุตฺถํ ทิสํ ตถา อุทฺธํ ตถา อโธ ตถา ติริยํ ตถา วิทิสํฯ

    657. ‘‘Tathā dutiya’’nti yatheva ekaṃ disaṃ tathā dutiyaṃ disaṃ tathā tatiyaṃ disaṃ tathā catutthaṃ disaṃ tathā uddhaṃ tathā adho tathā tiriyaṃ tathā vidisaṃ.

    ๖๕๘. ‘‘สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลก’’นฺติ สเพฺพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ อเสสํ นิเสฺสสํฯ ปริยาทายวจนเมตํ – ‘‘สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลก’’นฺติฯ

    658. ‘‘Sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ loka’’nti sabbena sabbaṃ sabbathā sabbaṃ asesaṃ nissesaṃ. Pariyādāyavacanametaṃ – ‘‘sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ loka’’nti.

    ๖๕๙. ‘‘กรุณาสหคเตน เจตสา’’ติ ตตฺถ กตมา กรุณา? ยา สเตฺตสุ กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ

    659. ‘‘Karuṇāsahagatena cetasā’’ti tattha katamā karuṇā? Yā sattesu karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’.

    ตตฺถ กตมํ จิตฺตํ? ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป.… ตชฺชามโนวิญฺญาณธาตุ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘จิตฺตํ’’ฯ อิทํ จิตฺตํ อิมาย กรุณาย สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฎฺฐํ สมฺปยุตฺตํฯ เตน วุจฺจติ ‘‘กรุณาสหคเตน เจตสา’’ติฯ

    Tattha katamaṃ cittaṃ? Yaṃ cittaṃ mano mānasaṃ…pe… tajjāmanoviññāṇadhātu – idaṃ vuccati ‘‘cittaṃ’’. Idaṃ cittaṃ imāya karuṇāya sahagataṃ hoti sahajātaṃ saṃsaṭṭhaṃ sampayuttaṃ. Tena vuccati ‘‘karuṇāsahagatena cetasā’’ti.

    ๖๖๐. ‘‘วิปุเลนา’’ติ ยํ วิปุลํ ตํ มหคฺคตํ, ยํ มหคฺคตํ ตํ อปฺปมาณํ, ยํ อปฺปมาณํ โส อเวโร, โย อเวโร โส อพฺยาปโชฺชฯ

    660. ‘‘Vipulenā’’ti yaṃ vipulaṃ taṃ mahaggataṃ, yaṃ mahaggataṃ taṃ appamāṇaṃ, yaṃ appamāṇaṃ so avero, yo avero so abyāpajjo.

    ๖๖๑. ‘‘ผริตฺวา’’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวาฯ

    661. ‘‘Pharitvā’’ti pharitvā adhimuccitvā.

    ๖๖๒. ‘‘วิหรตี’’ติ…เป.… เตน วุจฺจติ ‘‘วิหรตี’’ติฯ

    662. ‘‘Viharatī’’ti…pe… tena vuccati ‘‘viharatī’’ti.

    ๓. มุทิตา

    3. Muditā

    ๖๖๓. กถญฺจ ภิกฺขุ มุทิตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ? เสยฺยถาปิ นาม เอกํ ปุคฺคลํ ปิยํ มนาปํ ทิสฺวา มุทิโต อสฺส, เอวเมว สเพฺพ สเตฺต มุทิตาย ผรติฯ

    663. Kathañca bhikkhu muditāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati? Seyyathāpi nāma ekaṃ puggalaṃ piyaṃ manāpaṃ disvā mudito assa, evameva sabbe satte muditāya pharati.

    ตตฺถ กตมา มุทิตา? ยา สเตฺตสุ มุทิตา มุทิตายนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ

    Tattha katamā muditā? Yā sattesu muditā muditāyanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’.

    ตตฺถ กตมํ จิตฺตํ? ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป.… ตชฺชามโนวิญฺญาณธาตุ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘จิตฺตํ’’ฯ อิทํ จิตฺตํ อิมาย มุทิตาย สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฎฺฐํ สมฺปยุตฺตํฯ เตน วุจฺจติ ‘‘มุทิตาสหคเตน เจตสา’’ติฯ

    Tattha katamaṃ cittaṃ? Yaṃ cittaṃ mano mānasaṃ…pe… tajjāmanoviññāṇadhātu – idaṃ vuccati ‘‘cittaṃ’’. Idaṃ cittaṃ imāya muditāya sahagataṃ hoti sahajātaṃ saṃsaṭṭhaṃ sampayuttaṃ. Tena vuccati ‘‘muditāsahagatena cetasā’’ti.

    ๖๖๔. ‘‘เอกํ ทิส’’นฺติ ปุรตฺถิมํ วา ทิสํ ปจฺฉิมํ วา ทิสํ อุตฺตรํ วา ทิสํ ทกฺขิณํ วา ทิสํ อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา วิทิสํ วาฯ

    664. ‘‘Ekaṃ disa’’nti puratthimaṃ vā disaṃ pacchimaṃ vā disaṃ uttaraṃ vā disaṃ dakkhiṇaṃ vā disaṃ uddhaṃ vā adho vā tiriyaṃ vā vidisaṃ vā.

    ๖๖๕. ‘‘ผริตฺวา’’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวาฯ

    665. ‘‘Pharitvā’’ti pharitvā adhimuccitvā.

    ๖๖๖. ‘‘วิหรตี’’ติ…เป.… เตน วุจฺจติ ‘‘วิหรตี’’ติฯ

    666. ‘‘Viharatī’’ti…pe… tena vuccati ‘‘viharatī’’ti.

    ๖๖๗. ‘‘ตถา ทุติย’’นฺติ ยเถว เอกํ ทิสํ ตถา ทุติยํ ทิสํ ตถา ตติยํ ทิสํ ตถา จตุตฺถํ ทิสํ ตถา อุทฺธํ ตถา อโธ ตถา ติริยํ ตถา วิทิสํฯ

    667. ‘‘Tathā dutiya’’nti yatheva ekaṃ disaṃ tathā dutiyaṃ disaṃ tathā tatiyaṃ disaṃ tathā catutthaṃ disaṃ tathā uddhaṃ tathā adho tathā tiriyaṃ tathā vidisaṃ.

    ๖๖๘. ‘‘สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลก’’นฺติ สเพฺพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ อเสสํ นิเสฺสสํฯ ปริยาทายวจนเมตํ – ‘‘สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลก’’นฺติฯ

    668. ‘‘Sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ loka’’nti sabbena sabbaṃ sabbathā sabbaṃ asesaṃ nissesaṃ. Pariyādāyavacanametaṃ – ‘‘sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ loka’’nti.

    ๖๖๙. ‘‘มุทิตาสหคเตน เจตสา’’ติ ตตฺถ กตมา มุทิตา? ยา สเตฺตสุ มุทิตา มุทิตายนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ

    669. ‘‘Muditāsahagatena cetasā’’ti tattha katamā muditā? Yā sattesu muditā muditāyanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’.

    ตตฺถ กตมํ จิตฺตํ? ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป.… ตชฺชามโนวิญฺญาณธาตุ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘จิตฺตํ’’ฯ อิทํ จิตฺตํ อิมาย มุทิตาย สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฎฺฐํ สมฺปยุตฺตํฯ เตน วุจฺจติ ‘‘มุทิตาสหคเตน เจตสา’’ติฯ

    Tattha katamaṃ cittaṃ? Yaṃ cittaṃ mano mānasaṃ…pe… tajjāmanoviññāṇadhātu – idaṃ vuccati ‘‘cittaṃ’’. Idaṃ cittaṃ imāya muditāya sahagataṃ hoti sahajātaṃ saṃsaṭṭhaṃ sampayuttaṃ. Tena vuccati ‘‘muditāsahagatena cetasā’’ti.

    ๖๗๐. ‘‘วิปุเลนา’’ติ ยํ วิปุลํ ตํ มหคฺคตํ, ยํ มหคฺคตํ ตํ อปฺปมาณํ, ยํ อปฺปมาณํ โส อเวโร, โย อเวโร โส อพฺยาปโชฺชฯ

    670. ‘‘Vipulenā’’ti yaṃ vipulaṃ taṃ mahaggataṃ, yaṃ mahaggataṃ taṃ appamāṇaṃ, yaṃ appamāṇaṃ so avero, yo avero so abyāpajjo.

    ๖๗๑. ‘‘ผริตฺวา’’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวาฯ

    671. ‘‘Pharitvā’’ti pharitvā adhimuccitvā.

    ๖๗๒. ‘‘วิหรตี’’ติ …เป.… เตน วุจฺจติ ‘‘วิหรตี’’ติฯ

    672. ‘‘Viharatī’’ti …pe… tena vuccati ‘‘viharatī’’ti.

    ๔. อุเปกฺขา

    4. Upekkhā

    ๖๗๓. กถญฺจ ภิกฺขุ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ? เสยฺยถาปิ นาม เอกํ ปุคฺคลํ เนว มนาปํ น อมนาปํ ทิสฺวา อุเปกฺขโก อสฺส, เอวเมว สเพฺพ สเตฺต อุเปกฺขาย ผรติฯ

    673. Kathañca bhikkhu upekkhāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati? Seyyathāpi nāma ekaṃ puggalaṃ neva manāpaṃ na amanāpaṃ disvā upekkhako assa, evameva sabbe satte upekkhāya pharati.

    ตตฺถ กตมา อุเปกฺขา? ยา สเตฺตสุ อุเปกฺขา อุเปกฺขายนา อุเปกฺขายิตตฺตํ อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘อุเปกฺขา’’ฯ

    Tattha katamā upekkhā? Yā sattesu upekkhā upekkhāyanā upekkhāyitattaṃ upekkhācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘upekkhā’’.

    ตตฺถ กตมํ จิตฺตํ? ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป.… ตชฺชามโนวิญฺญาณธาตุ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘จิตฺตํ’’ฯ อิทํ จิตฺตํ อิมาย อุเปกฺขาย สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฎฺฐํ สมฺปยุตฺตํฯ เตน วุจฺจติ ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา’’ติฯ

    Tattha katamaṃ cittaṃ? Yaṃ cittaṃ mano mānasaṃ…pe… tajjāmanoviññāṇadhātu – idaṃ vuccati ‘‘cittaṃ’’. Idaṃ cittaṃ imāya upekkhāya sahagataṃ hoti sahajātaṃ saṃsaṭṭhaṃ sampayuttaṃ. Tena vuccati ‘‘upekkhāsahagatena cetasā’’ti.

    ๖๗๔. ‘‘เอกํ ทิส’’นฺติ ปุรตฺถิมํ วา ทิสํ ปจฺฉิมํ วา ทิสํ อุตฺตรํ วา ทิสํ ทกฺขิณํ วา ทิสํ อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา วิทิสํ วาฯ

    674. ‘‘Ekaṃ disa’’nti puratthimaṃ vā disaṃ pacchimaṃ vā disaṃ uttaraṃ vā disaṃ dakkhiṇaṃ vā disaṃ uddhaṃ vā adho vā tiriyaṃ vā vidisaṃ vā.

    ๖๗๕. ‘‘ผริตฺวา’’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวาฯ

    675. ‘‘Pharitvā’’ti pharitvā adhimuccitvā.

    ๖๗๖. ‘‘วิหรตี’’ติ…เป.… เตน วุจฺจติ ‘‘วิหรตี’’ติฯ

    676. ‘‘Viharatī’’ti…pe… tena vuccati ‘‘viharatī’’ti.

    ๖๗๗. ‘‘ตถา ทุติย’’นฺติ ยเถว เอกํ ทิสํ ตถา ทุติยํ ทิสํ ตถา ตติยํ ทิสํ ตถา จตุตฺถํ ทิสํ ตถา อุทฺธํ ตถา อโธ ตถา ติริยํ ตถา วิทิสํฯ

    677. ‘‘Tathā dutiya’’nti yatheva ekaṃ disaṃ tathā dutiyaṃ disaṃ tathā tatiyaṃ disaṃ tathā catutthaṃ disaṃ tathā uddhaṃ tathā adho tathā tiriyaṃ tathā vidisaṃ.

    ๖๗๘. ‘‘สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลก’’นฺติ สเพฺพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ อเสสํ นิเสฺสสํฯ ปริยาทายวจนเมตํ – ‘‘สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลก’’นฺติฯ

    678. ‘‘Sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ loka’’nti sabbena sabbaṃ sabbathā sabbaṃ asesaṃ nissesaṃ. Pariyādāyavacanametaṃ – ‘‘sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ loka’’nti.

    ๖๗๙. ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา’’ติ, ตตฺถ กตมา อุเปกฺขา? ยา สเตฺตสุ อุเปกฺขา อุเปกฺขายนา อุเปกฺขายิตตฺตํ อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘อุเปกฺขา’’ฯ

    679. ‘‘Upekkhāsahagatena cetasā’’ti, tattha katamā upekkhā? Yā sattesu upekkhā upekkhāyanā upekkhāyitattaṃ upekkhācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘upekkhā’’.

    ตตฺถ กตมํ จิตฺตํ? ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป.… ตชฺชามโนวิญฺญาณธาตุ – อิทํ วุจฺจติ ‘‘จิตฺตํ’’ฯ อิทํ จิตฺตํ อิมาย อุเปกฺขาย สหคตํ โหติ สหชาตํ สํสฎฺฐํ สมฺปยุตฺตํฯ เตน วุจฺจติ ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา’’ติฯ

    Tattha katamaṃ cittaṃ? Yaṃ cittaṃ mano mānasaṃ…pe… tajjāmanoviññāṇadhātu – idaṃ vuccati ‘‘cittaṃ’’. Idaṃ cittaṃ imāya upekkhāya sahagataṃ hoti sahajātaṃ saṃsaṭṭhaṃ sampayuttaṃ. Tena vuccati ‘‘upekkhāsahagatena cetasā’’ti.

    ๖๘๐. ‘‘วิปุเลนา’’ติ ยํ วิปุลํ ตํ มหคฺคตํ, ยํ มหคฺคตํ ตํ อปฺปมาณํ, ยํ อปฺปมาณํ โส อเวโร, โย อเวโร โส อพฺยาปโชฺชฯ

    680. ‘‘Vipulenā’’ti yaṃ vipulaṃ taṃ mahaggataṃ, yaṃ mahaggataṃ taṃ appamāṇaṃ, yaṃ appamāṇaṃ so avero, yo avero so abyāpajjo.

    ๖๘๑. ‘‘ผริตฺวา’’ติ ผริตฺวา อธิมุจฺจิตฺวาฯ

    681. ‘‘Pharitvā’’ti pharitvā adhimuccitvā.

    ๖๘๒. ‘‘วิหรตี’’ติ…เป.… เตน วุจฺจติ ‘‘วิหรตี’’ติฯ

    682. ‘‘Viharatī’’ti…pe… tena vuccati ‘‘viharatī’’ti.

    สุตฺตนฺตภาชนียํฯ

    Suttantabhājanīyaṃ.

    ๒. อภิธมฺมภาชนียํ

    2. Abhidhammabhājanīyaṃ

    ๖๘๓. จตโสฺส อปฺปมญฺญาโย – เมตฺตา, กรุณา, มุทิตา, อุเปกฺขาฯ

    683. Catasso appamaññāyo – mettā, karuṇā, muditā, upekkhā.

    ๖๘๔. ตตฺถ กตมา เมตฺตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ , ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    684. Tattha katamā mettā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ , yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    ตตฺถ กตมา เมตฺตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Tattha katamā mettā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    ตตฺถ กตมา เมตฺตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ ปีติยา จ วิราคา…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Tattha katamā mettā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti pītiyā ca virāgā…pe… tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    ๖๘๕. อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    685. Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi avitakkaṃ vicāramattaṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ ปีติยา จ วิราคา…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti pītiyā ca virāgā…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    ๖๘๖. ตตฺถ กตมา กรุณา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา กรุณาย สมฺปยุตฺตาฯ

    686. Tattha katamā karuṇā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’. Avasesā dhammā karuṇāya sampayuttā.

    ตตฺถ กตมา กรุณา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ ปีติยา จ วิราคา…เป.… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา กรุณาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Tattha katamā karuṇā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti pītiyā ca virāgā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’. Avasesā dhammā karuṇāya sampayuttā.

    ตตฺถ กตมา กรุณา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ ปีติยา จ วิราคา…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา กรุณาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Tattha katamā karuṇā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti pītiyā ca virāgā…pe… tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’. Avasesā dhammā karuṇāya sampayuttā.

    ๖๘๗. อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา กรุณาย สมฺปยุตฺตาฯ

    687. Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’. Avasesā dhammā karuṇāya sampayuttā.

    อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา กรุณาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi avitakkaṃ vicāramattaṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’. Avasesā dhammā karuṇāya sampayuttā.

    อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา กรุณาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’. Avasesā dhammā karuṇāya sampayuttā.

    อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ ปีติยา จ วิราคา…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา กรุณาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti pītiyā ca virāgā…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’. Avasesā dhammā karuṇāya sampayuttā.

    ๖๘๘. ตตฺถ กตมา มุทิตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย มุทิตา มุทิตายนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา มุทิตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    688. Tattha katamā muditā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye muditā muditāyanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’. Avasesā dhammā muditāya sampayuttā.

    ตตฺถ กตมา มุทิตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย มุทิตา มุทิตายตนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา มุทิตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Tattha katamā muditā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye muditā muditāyatanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’. Avasesā dhammā muditāya sampayuttā.

    ตตฺถ กตมา มุทิตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ ปีติยา จ วิราคา…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย มุทิตา มุทิตายนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา มุทิตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Tattha katamā muditā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti pītiyā ca virāgā…pe… tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye muditā muditāyanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’. Avasesā dhammā muditāya sampayuttā.

    ๖๘๙. อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย มุทิตา มุทิตายนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา มุทิตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    689. Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye muditā muditāyanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’. Avasesā dhammā muditāya sampayuttā.

    อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย มุทิตา มุทิตายนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา มุทิตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi avitakkaṃ vicāramattaṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye muditā muditāyanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’. Avasesā dhammā muditāya sampayuttā.

    อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย มุทิตา มุทิตายนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา มุทิตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye muditā muditāyanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’. Avasesā dhammā muditāya sampayuttā.

    อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ ปีติยา จ วิราคา…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย มุทิตา มุทิตายนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา มุทิตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti pītiyā ca virāgā…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye muditā muditāyanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’. Avasesā dhammā muditāya sampayuttā.

    ๖๙๐. ตตฺถ กตมา อุเปกฺขา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ สุขสฺส จ ปหานา…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อุเปกฺขาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย อุเปกฺขา อุเปกฺขายนา อุเปกฺขายิตตฺตํ อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘อุเปกฺขา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา อุเปกฺขาย สมฺปยุตฺตาฯ

    690. Tattha katamā upekkhā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti sukhassa ca pahānā…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati upekkhāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye upekkhā upekkhāyanā upekkhāyitattaṃ upekkhācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘upekkhā’’. Avasesā dhammā upekkhāya sampayuttā.

    ๖๙๑. จตโสฺส อปฺปมญฺญาโย – เมตฺตา, กรุณา, มุทิตา, อุเปกฺขาฯ

    691. Catasso appamaññāyo – mettā, karuṇā, muditā, upekkhā.

    ๖๙๒. ตตฺถ กตมา เมตฺตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว รูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    692. Tattha katamā mettā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva rūpāvacarassa kusalassa kammassa katattā upacitattā vipākaṃ vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    ตตฺถ กตมา เมตฺตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ , ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว รูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… ปฐมํ ฌานํ…เป.… ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Tattha katamā mettā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ , tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva rūpāvacarassa kusalassa kammassa katattā upacitattā vipākaṃ vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ…pe… dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    ๖๙๓. ตตฺถ กตมา กรุณา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว รูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา กรุณาย สมฺปยุตฺตาฯ

    693. Tattha katamā karuṇā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva rūpāvacarassa kusalassa kammassa katattā upacitattā vipākaṃ vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’. Avasesā dhammā karuṇāya sampayuttā.

    ตตฺถ กตมา กรุณา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว รูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… ปฐมํ ฌานํ…เป.… ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ กรุณาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย กรุณา กรุณายนา กรุณายิตตฺตํ กรุณาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘กรุณา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา กรุณาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Tattha katamā karuṇā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva rūpāvacarassa kusalassa kammassa katattā upacitattā vipākaṃ vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ…pe… dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati karuṇāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye karuṇā karuṇāyanā karuṇāyitattaṃ karuṇācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘karuṇā’’. Avasesā dhammā karuṇāya sampayuttā.

    ๖๙๔. ตตฺถ กตมา มุทิตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว รูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย มุทิตา มุทิตายนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา มุทิตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    694. Tattha katamā muditā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva rūpāvacarassa kusalassa kammassa katattā upacitattā vipākaṃ vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye muditā muditāyanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’. Avasesā dhammā muditāya sampayuttā.

    ตตฺถ กตมา มุทิตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว รูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… ปฐมํ ฌานํ…เป.… ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ มุทิตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย มุทิตา มุทิตายนา มุทิตายิตตฺตํ มุทิตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘มุทิตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา มุทิตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Tattha katamā muditā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva rūpāvacarassa kusalassa kammassa katattā upacitattā vipākaṃ vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ…pe… dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati muditāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye muditā muditāyanā muditāyitattaṃ muditācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘muditā’’. Avasesā dhammā muditāya sampayuttā.

    ๖๙๕. ตตฺถ กตมา อุเปกฺขา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ สุขสฺส จ ปหานา…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อุเปกฺขาสหคตํ, ตสฺมิํ สมเย ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหติฯ อิเม ธมฺมา กุสลาฯ ตเสฺสว รูปาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อุเปกฺขาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย อุเปกฺขา อุเปกฺขายนา อุเปกฺขายิตตฺตํ อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘อุเปกฺขา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา อุเปกฺขาย สมฺปยุตฺตาฯ

    695. Tattha katamā upekkhā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpūpapattiyā maggaṃ bhāveti sukhassa ca pahānā…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati upekkhāsahagataṃ, tasmiṃ samaye phasso hoti…pe… avikkhepo hoti. Ime dhammā kusalā. Tasseva rūpāvacarassa kusalassa kammassa katattā upacitattā vipākaṃ sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati upekkhāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye upekkhā upekkhāyanā upekkhāyitattaṃ upekkhācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘upekkhā’’. Avasesā dhammā upekkhāya sampayuttā.

    ๖๙๖. จตโสฺส อปฺปมญฺญาโย – เมตฺตา, กรุณา, มุทิตา, อุเปกฺขาฯ

    696. Catasso appamaññāyo – mettā, karuṇā, muditā, upekkhā.

    ๖๙๗. ตตฺถ กตมา เมตฺตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปาวจรํ ฌานํ ภาเวติ กิริยํ เนว กุสลํ นากุสลํ น จ กมฺมวิปากํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารํ วิวิเจฺจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    697. Tattha katamā mettā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpāvacaraṃ jhānaṃ bhāveti kiriyaṃ neva kusalaṃ nākusalaṃ na ca kammavipākaṃ diṭṭhadhammasukhavihāraṃ vivicceva kāmehi…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    ตตฺถ กตมา เมตฺตา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปาวจรํ ฌานํ ภาเวติ กิริยํ เนว กุสลํ นากุสลํ น จ กมฺมวิปากํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… ปฐมํ ฌานํ…เป.… ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เมตฺตาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺตํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘เมตฺตา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา เมตฺตาย สมฺปยุตฺตาฯ

    Tattha katamā mettā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpāvacaraṃ jhānaṃ bhāveti kiriyaṃ neva kusalaṃ nākusalaṃ na ca kammavipākaṃ diṭṭhadhammasukhavihāraṃ vitakkavicārānaṃ vūpasamā…pe… dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ…pe… dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati mettāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye metti mettāyanā mettāyitattaṃ mettācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘mettā’’. Avasesā dhammā mettāya sampayuttā.

    ๖๙๘. ตตฺถ กตมา กรุณา…เป.… ตตฺถ กตมา มุทิตา…เป.… ตตฺถ กตมา อุเปกฺขา? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมิํ สมเย รูปาวจรํ ฌานํ ภาเวติ กิริยํ เนว กุสลํ นากุสลํ น จ กมฺมวิปากํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารํ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อุเปกฺขาสหคตํ, ยา ตสฺมิํ สมเย อุเปกฺขา อุเปกฺขายนา อุเปกฺขายิตตฺตํ อุเปกฺขาเจโตวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ ‘‘อุเปกฺขา’’ฯ อวเสสา ธมฺมา อุเปกฺขาย สมฺปยุตฺตาฯ

    698. Tattha katamā karuṇā…pe… tattha katamā muditā…pe… tattha katamā upekkhā? Idha bhikkhu yasmiṃ samaye rūpāvacaraṃ jhānaṃ bhāveti kiriyaṃ neva kusalaṃ nākusalaṃ na ca kammavipākaṃ diṭṭhadhammasukhavihāraṃ sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati upekkhāsahagataṃ, yā tasmiṃ samaye upekkhā upekkhāyanā upekkhāyitattaṃ upekkhācetovimutti – ayaṃ vuccati ‘‘upekkhā’’. Avasesā dhammā upekkhāya sampayuttā.

    อภิธมฺมภาชนียํฯ

    Abhidhammabhājanīyaṃ.

    ๓. ปญฺหาปุจฺฉกํ

    3. Pañhāpucchakaṃ

    ๖๙๙. จตโสฺส อปฺปมญฺญาโย – อิธ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ, อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ผริตฺวา วิหรติ; กรุณาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ, อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ กรุณาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ผริตฺวา วิหรติ; มุทิตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ, อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ มุทิตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ผริตฺวา วิหรติ; อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ, อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ผริตฺวา วิหรติฯ

    699. Catasso appamaññāyo – idha bhikkhu mettāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati tathā dutiyaṃ tathā tatiyaṃ tathā catutthaṃ, iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ mettāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena pharitvā viharati; karuṇāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati tathā dutiyaṃ tathā tatiyaṃ tathā catutthaṃ, iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ karuṇāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena pharitvā viharati; muditāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati tathā dutiyaṃ tathā tatiyaṃ tathā catutthaṃ, iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ muditāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena pharitvā viharati; upekkhāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati tathā dutiyaṃ tathā tatiyaṃ tathā catutthaṃ, iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ upekkhāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena pharitvā viharati.

    ๗๐๐. จตุนฺนํ อปฺปมญฺญานํ กติ กุสลา, กติ อกุสลา, กติ อพฺยากตา…เป.… กติ สรณา, กติ อรณา?

    700. Catunnaṃ appamaññānaṃ kati kusalā, kati akusalā, kati abyākatā…pe… kati saraṇā, kati araṇā?

    ๑. ติกํ

    1. Tikaṃ

    ๗๐๑. สิยา กุสลา, สิยา อพฺยากตาฯ ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, อุเปกฺขา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตาฯ สิยา วิปากา, สิยา วิปากธมฺมธมฺมา, สิยา เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมาฯ สิยา อุปาทินฺนุปาทานิยา, สิยา อนุปาทินฺนุปาทานิยาฯ อสํกิลิฎฺฐสํกิเลสิกาฯ ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย สิยา สวิตกฺกสวิจารา, สิยา อวิตกฺกวิจารมตฺตา, สิยา อวิตกฺกอวิจารา; อุเปกฺขา อวิตกฺกอวิจาราฯ ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย สิยา ปีติสหคตา, สิยา สุขสหคตา, น อุเปกฺขาสหคตา, สิยา น วตฺตพฺพา ปีติสหคตาติ; อุเปกฺขา อุเปกฺขาสหคตาฯ เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพาฯ เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพเหตุกาฯ สิยา อาจยคามิโน, สิยา เนวาจยคามินาปจยคามิโน, เนวเสกฺขนาเสกฺขา, มหคฺคตา, น วตฺตพฺพา ปริตฺตารมฺมณาติปิ, มหคฺคตารมฺมณาติปิ, อปฺปมาณารมฺมณาติปิฯ มชฺฌิมา, อนิยตา, น วตฺตพฺพา มคฺคารมฺมณาติปิ, มคฺคเหตุกาติปิ , มคฺคาธิปติโนติปิฯ สิยา อุปฺปนฺนา, สิยา อนุปฺปนฺนา, สิยา อุปฺปาทิโนฯ สิยา อตีตา, สิยา อนาคตา, สิยา ปจฺจุปฺปนฺนาฯ น วตฺตพฺพา อตีตารมฺมณาติปิ, อนาคตารมฺมณาติปิ, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาติปิฯ สิยา อชฺฌตฺตา, สิยา พหิทฺธา, สิยา อชฺฌตฺตพหิทฺธา, พหิทฺธารมฺมณา, อนิทสฺสนอปฺปฎิฆาฯ

    701. Siyā kusalā, siyā abyākatā. Tisso appamaññāyo sukhāya vedanāya sampayuttā, upekkhā adukkhamasukhāya vedanāya sampayuttā. Siyā vipākā, siyā vipākadhammadhammā, siyā nevavipākanavipākadhammadhammā. Siyā upādinnupādāniyā, siyā anupādinnupādāniyā. Asaṃkiliṭṭhasaṃkilesikā. Tisso appamaññāyo siyā savitakkasavicārā, siyā avitakkavicāramattā, siyā avitakkaavicārā; upekkhā avitakkaavicārā. Tisso appamaññāyo siyā pītisahagatā, siyā sukhasahagatā, na upekkhāsahagatā, siyā na vattabbā pītisahagatāti; upekkhā upekkhāsahagatā. Neva dassanena na bhāvanāya pahātabbā. Neva dassanena na bhāvanāya pahātabbahetukā. Siyā ācayagāmino, siyā nevācayagāmināpacayagāmino, nevasekkhanāsekkhā, mahaggatā, na vattabbā parittārammaṇātipi, mahaggatārammaṇātipi, appamāṇārammaṇātipi. Majjhimā, aniyatā, na vattabbā maggārammaṇātipi, maggahetukātipi , maggādhipatinotipi. Siyā uppannā, siyā anuppannā, siyā uppādino. Siyā atītā, siyā anāgatā, siyā paccuppannā. Na vattabbā atītārammaṇātipi, anāgatārammaṇātipi, paccuppannārammaṇātipi. Siyā ajjhattā, siyā bahiddhā, siyā ajjhattabahiddhā, bahiddhārammaṇā, anidassanaappaṭighā.

    ๒. ทุกํ

    2. Dukaṃ

    ๗๐๒. เมตฺตา เหตุ, ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย น เหตู, สเหตุกา, เหตุสมฺปยุตฺตาฯ เมตฺตา เหตุ เจว สเหตุกา จ; ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย น วตฺตพฺพา เหตู เจว สเหตุกา จาติ, สเหตุกา เจว น จ เหตูฯ เมตฺตา เหตุ เจว เหตุสมฺปยุตฺตา จ; ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย น วตฺตพฺพา เหตู เจว เหตุสมฺปยุตฺตา จาติ, เหตุสมฺปยุตฺตา เจว น จ เหตูฯ ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย น เหตู สเหตุกา; เมตฺตา น วตฺตพฺพา น เหตุ สเหตุกาติปิ, น เหตุ อเหตุกาติปิฯ

    702. Mettā hetu, tisso appamaññāyo na hetū, sahetukā, hetusampayuttā. Mettā hetu ceva sahetukā ca; tisso appamaññāyo na vattabbā hetū ceva sahetukā cāti, sahetukā ceva na ca hetū. Mettā hetu ceva hetusampayuttā ca; tisso appamaññāyo na vattabbā hetū ceva hetusampayuttā cāti, hetusampayuttā ceva na ca hetū. Tisso appamaññāyo na hetū sahetukā; mettā na vattabbā na hetu sahetukātipi, na hetu ahetukātipi.

    สปฺปจฺจยา, สงฺขตา, อนิทสฺสนา, อปฺปฎิฆา, อรูปา, โลกิยา, เกนจิ วิเญฺญยฺยา, เกนจิ น วิเญฺญยฺยา, โน อาสวา, สาสวา, อาสววิปฺปยุตฺตา , น วตฺตพฺพา อาสวา เจว สาสวา จาติ, สาสวา เจว โน จ อาสวา, น วตฺตพฺพา อาสวา เจว อาสวสมฺปยุตฺตา จาติปิ, อาสวสมฺปยุตฺตา เจว โน จ อาสวาติปิฯ อาสววิปฺปยุตฺตา สาสวาฯ

    Sappaccayā, saṅkhatā, anidassanā, appaṭighā, arūpā, lokiyā, kenaci viññeyyā, kenaci na viññeyyā, no āsavā, sāsavā, āsavavippayuttā , na vattabbā āsavā ceva sāsavā cāti, sāsavā ceva no ca āsavā, na vattabbā āsavā ceva āsavasampayuttā cātipi, āsavasampayuttā ceva no ca āsavātipi. Āsavavippayuttā sāsavā.

    โน สํโยชนา…เป.… โน คนฺถา…เป.… โน โอฆา…เป.… โน โยคา…เป.… โน นีวรณา…เป.… โน ปรามาสา …เป.… สารมฺมณา, โน จิตฺตา, เจตสิกา, จิตฺตสมฺปยุตฺตา, จิตฺตสํสฎฺฐา, จิตฺตสมุฎฺฐานา, จิตฺตสหภุโน, จิตฺตานุปริวตฺติโน, จิตฺตสํสฎฺฐสมุฎฺฐานา, จิตฺตสํสฎฺฐสมุฎฺฐานสหภุโน, จิตฺตสํสฎฺฐสมุฎฺฐานานุปริวตฺติโน, พาหิรา, โน อุปาทา, สิยา อุปาทินฺนา, สิยา อนุปาทินฺนาฯ

    No saṃyojanā…pe… no ganthā…pe… no oghā…pe… no yogā…pe… no nīvaraṇā…pe… no parāmāsā …pe… sārammaṇā, no cittā, cetasikā, cittasampayuttā, cittasaṃsaṭṭhā, cittasamuṭṭhānā, cittasahabhuno, cittānuparivattino, cittasaṃsaṭṭhasamuṭṭhānā, cittasaṃsaṭṭhasamuṭṭhānasahabhuno, cittasaṃsaṭṭhasamuṭṭhānānuparivattino, bāhirā, no upādā, siyā upādinnā, siyā anupādinnā.

    โน อุปาทานา…เป.… โน กิเลสา…เป.… น ทสฺสเนน ปหาตพฺพา, น ภาวนาย ปหาตพฺพา, น ทสฺสเนน ปหาตพฺพเหตุกา, น ภาวนาย ปหาตพฺพเหตุกาฯ ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย สิยา สวิตกฺกา, สิยา อวิตกฺกา; อุเปกฺขา อวิตกฺกาฯ ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย สิยา สวิจารา, สิยา อวิจารา; อุเปกฺขา อวิจาราฯ ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย สิยา สปฺปีติกา, สิยา อปฺปีติกา; อุเปกฺขา อปฺปีติกาฯ ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย สิยา ปีติสหคตา, สิยา น ปีติสหคตา; อุเปกฺขา น ปีติสหคตาฯ ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย สุขสหคตา, อุเปกฺขา น สุขสหคตาฯ อุเปกฺขา อุเปกฺขาสหคตา, ติโสฺส อปฺปมญฺญาโย น อุเปกฺขาสหคตา, น กามาวจรา, รูปาวจรา, น อรูปาวจรา, ปริยาปนฺนา, อนิยฺยานิกา, อนิยตา, สอุตฺตรา, อรณาติฯ

    No upādānā…pe… no kilesā…pe… na dassanena pahātabbā, na bhāvanāya pahātabbā, na dassanena pahātabbahetukā, na bhāvanāya pahātabbahetukā. Tisso appamaññāyo siyā savitakkā, siyā avitakkā; upekkhā avitakkā. Tisso appamaññāyo siyā savicārā, siyā avicārā; upekkhā avicārā. Tisso appamaññāyo siyā sappītikā, siyā appītikā; upekkhā appītikā. Tisso appamaññāyo siyā pītisahagatā, siyā na pītisahagatā; upekkhā na pītisahagatā. Tisso appamaññāyo sukhasahagatā, upekkhā na sukhasahagatā. Upekkhā upekkhāsahagatā, tisso appamaññāyo na upekkhāsahagatā, na kāmāvacarā, rūpāvacarā, na arūpāvacarā, pariyāpannā, aniyyānikā, aniyatā, sauttarā, araṇāti.

    ปญฺหาปุจฺฉกํฯ

    Pañhāpucchakaṃ.

    อปฺปมญฺญาวิภโงฺค นิฎฺฐิโตฯ

    Appamaññāvibhaṅgo niṭṭhito.







    Footnotes:
    1. จตุตฺถิํ (สี.)
    2. อพฺยาปเชฺฌน (สี. สฺยา.)
    3. catutthiṃ (sī.)
    4. abyāpajjhena (sī. syā.)
    5. อพฺยาปโชฺฌ (สี. สฺยา.)
    6. abyāpajjho (sī. syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā
    ๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา • 1. Suttantabhājanīyavaṇṇanā
    ๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา • 2. Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā
    ๓. ปญฺหาปุจฺฉกวณฺณนา • 3. Pañhāpucchakavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā / ๑๓. อปฺปมญฺญาวิภโงฺค • 13. Appamaññāvibhaṅgo

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๑๓. อปฺปมญฺญาวิภโงฺค • 13. Appamaññāvibhaṅgo


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact