Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā

    ๑๗. อาปุจฺฉกรณนิเทฺทสวณฺณนา

    17. Āpucchakaraṇaniddesavaṇṇanā

    ๑๖๑. อาปุจฺฉกรณนฺติ อาปุจฺฉาย กรณํฯ อนชฺฌิโฎฺฐวาติ อนาณโตฺตว, อยาจิโต เอว วาฯ น จ วิสฺสเชติ ปุจฺฉิตปญฺหํ น วิสฺสเชฺชยฺย จ, อาปุจฺฉิตฺวา วา ยาจิโต วา ยถาวุตฺตเมตํ กาตุํ ลภตีติ อธิปฺปาโยฯ

    161.Āpucchakaraṇanti āpucchāya karaṇaṃ. Anajjhiṭṭhovāti anāṇattova, ayācito eva vā. Na ca vissajeti pucchitapañhaṃ na vissajjeyya ca, āpucchitvā vā yācito vā yathāvuttametaṃ kātuṃ labhatīti adhippāyo.

    ๑๖๒. อาปุจฺฉิตฺวา กเถนฺตสฺสาติ อตฺตโน วุฑฺฒํ อาปุจฺฉิตฺวา ธมฺมาทิกํ ภาสนฺตสฺสฯ ปุน วุฑฺฒตราคเมติ ปุน อญฺญสฺส วุฑฺฒตรสฺส อาคมเน สตีติ อโตฺถฯ ปุนอาปุจฺฉนํ นตฺถีติ ภาสิตพฺพํ ฐเปตฺวา ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถีติ อโตฺถฯ สงฺฆเตฺถเร อสติ อารทฺธมฺปิ อฎฺฐเปตฺวา กเถนฺตสฺสาปิ เอเสว นโยฯ ภตฺตเคฺค อนุโมทโต จ อาปุจฺฉนํ นตฺถีติ สมฺพโนฺธฯ อนุโมทโตติ ทายเกหิ ยาจิตสฺส ตํตํปุญฺญานุโมทนวเสน ธมฺมกถํ กโรโต จฯ อนุโมทนญฺจ เถราเธยฺยํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว เถเรน ภิกฺขุนา ภตฺตเคฺค อนุโมทิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๖๒) หิ วุตฺตํฯ ‘‘สเจ มนุสฺสา อตฺตโน อภิรุจิเกน เอเกน อนุโมทนํ กาเรนฺติ, เนว ตสฺส อนุโมทโต อาปตฺติ, น มหาเถรสฺส ภาโร โหติฯ อุปนิสินฺนกถายเมว หิ มนุเสฺสสุ กถาเปเนฺตสุ มหาเถโร อาปุจฺฉิตโพฺพ’’ติ อฎฺฐกถายํ (จุฬว. อฎฺฐ. ๓๖๒) วุตฺตํฯ

    162.Āpucchitvākathentassāti attano vuḍḍhaṃ āpucchitvā dhammādikaṃ bhāsantassa. Puna vuḍḍhatarāgameti puna aññassa vuḍḍhatarassa āgamane satīti attho. Punaāpucchanaṃ natthīti bhāsitabbaṃ ṭhapetvā puna āpucchanakiccaṃ natthīti attho. Saṅghatthere asati āraddhampi aṭṭhapetvā kathentassāpi eseva nayo. Bhattagge anumodato ca āpucchanaṃ natthīti sambandho. Anumodatoti dāyakehi yācitassa taṃtaṃpuññānumodanavasena dhammakathaṃ karoto ca. Anumodanañca therādheyyaṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave therena bhikkhunā bhattagge anumoditu’’nti (cūḷava. 362) hi vuttaṃ. ‘‘Sace manussā attano abhirucikena ekena anumodanaṃ kārenti, neva tassa anumodato āpatti, na mahātherassa bhāro hoti. Upanisinnakathāyameva hi manussesu kathāpentesu mahāthero āpucchitabbo’’ti aṭṭhakathāyaṃ (cuḷava. aṭṭha. 362) vuttaṃ.

    ๑๖๓. วุเฑฺฒน เอกวิหารเก วสโนฺต จาติ สมฺพโนฺธฯ วุเฑฺฒนาติ วุเฑฺฒน สทฺธิํฯ เอกวิหารเกติ สวนูปจาเร ขุทฺทกวิหาเร, น มหาวิหาเรฯ กุจฺฉิตเตฺถ หิ กปฺปจฺจโยฯ น สชฺฌาเยยฺยาติ สชฺฌายนํ น กเรยฺยฯ

    163. Vuḍḍhena ekavihārake vasanto cāti sambandho. Vuḍḍhenāti vuḍḍhena saddhiṃ. Ekavihāraketi savanūpacāre khuddakavihāre, na mahāvihāre. Kucchitatthe hi kappaccayo. Na sajjhāyeyyāti sajjhāyanaṃ na kareyya.

    ๑๖๔. ‘‘ธมฺมํ น ภาสเย’’ติอาทีสุ อนาปุจฺฉาติ สมฺพนฺธิตพฺพํฯ น จ วิชฺฌเปติ น จ นิพฺพาเยยฺยฯ วาตปานญฺจ อาโลกสนฺธิผลกํ กวาฎญฺจ ทฺวารผลกํ วาตปานกวาฎํ วา น วิวเรยฺย น ถเกยฺย จาติ -กาโร สพฺพตฺถ โยเชตโพฺพฯ

    164.‘‘Dhammaṃ na bhāsaye’’tiādīsu anāpucchāti sambandhitabbaṃ. Na ca vijjhapeti na ca nibbāyeyya. Vātapānañca ālokasandhiphalakaṃ kavāṭañca dvāraphalakaṃ vātapānakavāṭaṃ vā na vivareyya na thakeyya cāti na-kāro sabbattha yojetabbo.

    ๑๖๕. เอกจงฺกเม วุเฑฺฒน จงฺกมโนฺตปิ เยน วุโฑฺฒ, เตน ปริวตฺตเยติ โยชนาฯ เยน เตนาติ ภุมฺมเตฺถ กรณวจนํ, ยตฺถ วุโฑฺฒ, ตตฺถาติ อโตฺถ, วุฑฺฒํ โอหาย อญฺญโต น คนฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโยฯ โสติ นวโกฯ เอนนฺติ วุฑฺฒํฯ สพฺพตฺถ ทุกฺกฎํฯ อยญฺหิ ขนฺธกธมฺมตา ยตฺถ น-กาเรน ปฎิเสโธ, ตตฺถ ทุกฺกฎนฺติฯ

    165. Ekacaṅkame vuḍḍhena caṅkamantopi yena vuḍḍho, tena parivattayeti yojanā. Yena tenāti bhummatthe karaṇavacanaṃ, yattha vuḍḍho, tatthāti attho, vuḍḍhaṃ ohāya aññato na gantabbanti adhippāyo. Soti navako. Enanti vuḍḍhaṃ. Sabbattha dukkaṭaṃ. Ayañhi khandhakadhammatā yattha na-kārena paṭisedho, tattha dukkaṭanti.

    อาปุจฺฉกรณนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Āpucchakaraṇaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact