Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๒-๓. อารภติสุตฺตาทิวณฺณนา
2-3. Ārabhatisuttādivaṇṇanā
๑๔๒-๓. ทุติเย อารภตีติ เอตฺถ อารมฺภ-สโทฺท กมฺมกิริยหิํสนวีริยโกปนาปตฺติวีติกฺกเมสุ วตฺตติฯ ตถา เหส ‘‘ยํ กิญฺจิ ทุกฺขํ สโมฺภติ, สพฺพํ อารมฺภปจฺจยา’’ติ (สุ. นิ. ๗๔๙) กเมฺม อาคโตฯ ‘‘มหารมฺภา มหายญฺญา, น เต โหนฺติ มหปฺผลา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๒๐; อ. นิ. ๔.๓๙) กิริยายฯ ‘‘สมณํ โคตมํ อุทฺทิสฺส ปาณํ อารภนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๕๑) หิํสเนฯ ‘‘อารมฺภถ นิกฺขมถ, ยุญฺชถ พุทฺธสาสเน’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕; เนตฺติ. ๒๙; เปฎโก. ๓๘; มิ. ป. ๕.๑.๔) วีริเยฯ ‘‘พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฎิวิรโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐, ๑๙๕; ม. นิ. ๑.๒๙๓) โกปเนฯ ‘‘อารภติ จ วิปฺปฎิสารี จ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๒; ปุ. ป. ๑๙๑) อยํ ปน อาปตฺติวีติกฺกเม อาคโต, ตสฺมา อาปตฺติวีติกฺกมวเสน อารภติ เจว, ตปฺปจฺจยา จ วิปฺปฎิสารี โหตีติ อยเมตฺถ อโตฺถฯ ยถาภูตํ นปฺปชานาตีติ อนธิคตตฺตา ยถาสภาวโต น ชานาติฯ ยตฺถสฺสาติ ยสฺมิํ อสฺส, ยํ ฐานํ ปตฺวา เอตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตีติ อโตฺถฯ กิํ ปน ปตฺวา เต นิรุชฺฌนฺตีติ? อรหตฺตมคฺคํ, ผลปฺปตฺตสฺส ปน นิรุทฺธา นาม โหนฺติฯ เอวํ สเนฺตปิ อิธ มคฺคกิจฺจวเสน ปน ผลเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ
142-3. Dutiye ārabhatīti ettha ārambha-saddo kammakiriyahiṃsanavīriyakopanāpattivītikkamesu vattati. Tathā hesa ‘‘yaṃ kiñci dukkhaṃ sambhoti, sabbaṃ ārambhapaccayā’’ti (su. ni. 749) kamme āgato. ‘‘Mahārambhā mahāyaññā, na te honti mahapphalā’’ti (saṃ. ni. 1.120; a. ni. 4.39) kiriyāya. ‘‘Samaṇaṃ gotamaṃ uddissa pāṇaṃ ārabhantī’’ti (ma. ni. 2.51) hiṃsane. ‘‘Ārambhatha nikkhamatha, yuñjatha buddhasāsane’’ti (saṃ. ni. 1.185; netti. 29; peṭako. 38; mi. pa. 5.1.4) vīriye. ‘‘Bījagāmabhūtagāmasamārambhā paṭivirato hotī’’ti (dī. ni. 1.10, 195; ma. ni. 1.293) kopane. ‘‘Ārabhati ca vippaṭisārī ca hotī’’ti (a. ni. 5.142; pu. pa. 191) ayaṃ pana āpattivītikkame āgato, tasmā āpattivītikkamavasena ārabhati ceva, tappaccayā ca vippaṭisārī hotīti ayamettha attho. Yathābhūtaṃ nappajānātīti anadhigatattā yathāsabhāvato na jānāti. Yatthassāti yasmiṃ assa, yaṃ ṭhānaṃ patvā etassa puggalassa uppannā pāpakā akusalā dhammā aparisesā nirujjhantīti attho. Kiṃ pana patvā te nirujjhantīti? Arahattamaggaṃ, phalappattassa pana niruddhā nāma honti. Evaṃ santepi idha maggakiccavasena pana phalameva vuttanti veditabbaṃ.
อารภตี น วิปฺปฎิสารี โหตีติ อาปตฺติํ อาปชฺชติ, ตํ ปเนส เทเสตุํ สภาคปุคฺคลํ ปริเยสติ, ตสฺมา น วิปฺปฎิสารี โหติฯ น อารภติ วิปฺปฎิสารี โหตีติ อาปตฺติํ น อาปชฺชติ, วินยปญฺญตฺติยํ ปน อโกวิทตฺตา อนาปตฺติยา อาปตฺติสญฺญี หุตฺวา วิปฺปฎิสารี โหตีติ เอวเมตฺถ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ ‘‘น อารภติ น วิปฺปฎิสารี โหตี’’ติ โย วุโตฺต, กตโร โส ปุคฺคโล? โอสฺสฎฺฐวีริยปุคฺคโลฯ โส หิ ‘‘กิํ เม อิมสฺมิํ กาเล ปรินิพฺพาเนน, อนาคเต เมเตฺตยฺยสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ วิสุทฺธสีโลปิ ปฎิปตฺติํ น ปูเรติฯ โส หิ ‘‘กิมตฺถํ อายสฺมา ปมโตฺต วิหรติ, ปุถุชฺชนสฺส นาม คติ อนิพทฺธา, ตสฺมา หิ เมเตฺตยฺยสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สมฺมุขีภาวํ ลเภยฺยาสิ, อรหตฺตตฺถาย วิปสฺสนํ ภาเวหี’’ติ โอวทิตโพฺพวฯ
Ārabhatī na vippaṭisārī hotīti āpattiṃ āpajjati, taṃ panesa desetuṃ sabhāgapuggalaṃ pariyesati, tasmā na vippaṭisārī hoti. Na ārabhati vippaṭisārī hotīti āpattiṃ na āpajjati, vinayapaññattiyaṃ pana akovidattā anāpattiyā āpattisaññī hutvā vippaṭisārī hotīti evamettha attho daṭṭhabbo. ‘‘Na ārabhati na vippaṭisārī hotī’’ti yo vutto, kataro so puggalo? Ossaṭṭhavīriyapuggalo. So hi ‘‘kiṃ me imasmiṃ kāle parinibbānena, anāgate metteyyasammāsambuddhakāle parinibbāyissāmī’’ti visuddhasīlopi paṭipattiṃ na pūreti. So hi ‘‘kimatthaṃ āyasmā pamatto viharati, puthujjanassa nāma gati anibaddhā, tasmā hi metteyyasammāsambuddhassa sammukhībhāvaṃ labheyyāsi, arahattatthāya vipassanaṃ bhāvehī’’ti ovaditabbova.
สาธูติ อายาจนเตฺถ นิปาโตฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาว อปรทฺธํ วต อายสฺมตา, เอวํ สเนฺตปิ มยํ อายสฺมนฺตํ ยาจาม, เทเสตพฺพยุตฺตกสฺส เทสนาย, วุฎฺฐาตพฺพยุตฺตกสฺส วุฎฺฐาเนน, อาวิกาตพฺพยุตฺตกสฺส อาวิกิริยาย อารมฺภเช อาสเว ปหาย สุทฺธเนฺต ฐิตภาวปจฺจเวกฺขเณน วิปฺปฎิสารเช อาสเว ปฎิวิโนเทตฺวา นีหริตฺวา วิปสฺสนาจิตฺตเญฺจว วิปสฺสนาปญฺญญฺจ วเฑฺฒตูติฯ อมุนา ปญฺจเมน ปุคฺคเลนาติ เอเตน ปญฺจเมน ขีณาสวปุคฺคเลนฯ สมสโม ภวิสฺสตีติ โลกุตฺตรคุเณหิ สมภาเวเนว สโม ภวิสฺสตีติ เอวํ ขีณาสเวน โอวทิตโพฺพติ อโตฺถฯ ตติยํ อุตฺตานเมวฯ
Sādhūti āyācanatthe nipāto. Idaṃ vuttaṃ hoti – yāva aparaddhaṃ vata āyasmatā, evaṃ santepi mayaṃ āyasmantaṃ yācāma, desetabbayuttakassa desanāya, vuṭṭhātabbayuttakassa vuṭṭhānena, āvikātabbayuttakassa āvikiriyāya ārambhaje āsave pahāya suddhante ṭhitabhāvapaccavekkhaṇena vippaṭisāraje āsave paṭivinodetvā nīharitvā vipassanācittañceva vipassanāpaññañca vaḍḍhetūti. Amunā pañcamena puggalenāti etena pañcamena khīṇāsavapuggalena. Samasamo bhavissatīti lokuttaraguṇehi samabhāveneva samo bhavissatīti evaṃ khīṇāsavena ovaditabboti attho. Tatiyaṃ uttānameva.
อารภติสุตฺตาทิวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Ārabhatisuttādivaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya
๒. อารภติสุตฺตํ • 2. Ārabhatisuttaṃ
๓. สารนฺททสุตฺตํ • 3. Sārandadasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)
๒. อารภติสุตฺตวณฺณนา • 2. Ārabhatisuttavaṇṇanā
๓. สารนฺททสุตฺตวณฺณนา • 3. Sārandadasuttavaṇṇanā