Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๔. อรหนฺตสุตฺตวณฺณนา

    4. Arahantasuttavaṇṇanā

    ๗๖. จตุเตฺถ ยาวตา, ภิกฺขเว, สตฺตาวาสาติ, ภิกฺขเว, ยตฺตกา สตฺตาวาสา นาม อตฺถิฯ ยาวตา ภวคฺคนฺติ ยตฺตกํ ภวคฺคํ นาม อตฺถิฯ เอเต อคฺคา เอเต เสฎฺฐาติ เอเต อคฺคภูตา เจว เสฎฺฐภูตา จฯ ยทิทํ อรหโนฺตติ เย อิเม อรหโนฺต นามฯ อิทมฺปิ สุตฺตํ ปุริมนเยเนว อุสฺสทนนฺทิยญฺจ ปโลภนียญฺจาติ เวทิตพฺพํฯ

    76. Catutthe yāvatā, bhikkhave, sattāvāsāti, bhikkhave, yattakā sattāvāsā nāma atthi. Yāvatā bhavagganti yattakaṃ bhavaggaṃ nāma atthi. Ete aggā ete seṭṭhāti ete aggabhūtā ceva seṭṭhabhūtā ca. Yadidaṃ arahantoti ye ime arahanto nāma. Idampi suttaṃ purimanayeneva ussadanandiyañca palobhanīyañcāti veditabbaṃ.

    อถาปรํ เอตทโวจาติ ตทตฺถปริทีปนาหิ เจว วิเสสตฺถปริทีปนาหิ จ คาถาหิ เอตํ ‘‘สุขิโน วต อรหโนฺต’’ติอาทิวจนํ อโวจฯ ตตฺถ สุขิโนติ ฌานสุเขน มคฺคสุเขน ผลสุเขน จ สุขิตาฯ ตณฺหา เตสํ น วิชฺชตีติ เตสํ อปายทุกฺขชนิกา ตณฺหา น วชฺชติฯ เอวํ เต อิมสฺสปิ ตณฺหามูลกสฺส อภาเวน สุขิตาวฯ อสฺมิมาโน สมุจฺฉิโนฺนติ นววิโธ อสฺมิมาโน อรหตฺตมเคฺคน สมุจฺฉิโนฺนฯ โมหชาลํ ปทาลิตนฺติ ญาเณน อวิชฺชาชาลํ ผาลิตํฯ

    Athāparaṃ etadavocāti tadatthaparidīpanāhi ceva visesatthaparidīpanāhi ca gāthāhi etaṃ ‘‘sukhino vata arahanto’’tiādivacanaṃ avoca. Tattha sukhinoti jhānasukhena maggasukhena phalasukhena ca sukhitā. Taṇhā tesaṃ na vijjatīti tesaṃ apāyadukkhajanikā taṇhā na vajjati. Evaṃ te imassapi taṇhāmūlakassa abhāvena sukhitāva. Asmimāno samucchinnoti navavidho asmimāno arahattamaggena samucchinno. Mohajālaṃ padālitanti ñāṇena avijjājālaṃ phālitaṃ.

    อเนชนฺติ เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย ปหานภูตํ อรหตฺตํฯ อนุปลิตฺตาติ ตณฺหาทิฎฺฐิเลเปหิ อลิตฺตาฯ พฺรหฺมภูตาติ เสฎฺฐภูตาฯ ปริญฺญายาติ ตีหิ ปริญฺญาหิ ปริชานิตฺวาฯ สตฺตสทฺธมฺมโคจราติ สทฺธา หิรี โอตฺตปฺปํ พาหุสจฺจํ อารทฺธวีริยตา อุปฎฺฐิตสฺสติตา ปญฺญาติ อิเม สตฺต สทฺธมฺมา โคจโร เอเตสนฺติ สตฺตสทฺธมฺมโคจราฯ

    Anejanti ejāsaṅkhātāya taṇhāya pahānabhūtaṃ arahattaṃ. Anupalittāti taṇhādiṭṭhilepehi alittā. Brahmabhūtāti seṭṭhabhūtā. Pariññāyāti tīhi pariññāhi parijānitvā. Sattasaddhammagocarāti saddhā hirī ottappaṃ bāhusaccaṃ āraddhavīriyatā upaṭṭhitassatitā paññāti ime satta saddhammā gocaro etesanti sattasaddhammagocarā.

    สตฺตรตนสมฺปนฺนาติ สตฺตหิ โพชฺฌงฺครตเนหิ สมนฺนาคตาฯ อนุวิจรนฺตีติ โลกิยมหาชนาปิ อนุวิจรนฺติเยวฯ อิธ ปน ขีณาสวานํ นิราสงฺกจาโร นาม คหิโตฯ เตเนวาห ‘‘ปหีนภยเภรวา’’ติฯ ตตฺถ ภยํ ภยเมว, เภรวํ พลวภยํฯ ทสหเงฺคหิ สมฺปนฺนาติ อเสเกฺขหิ ทสหิ อเงฺคหิ สมนฺนาคตาฯ มหานาคาติ จตูหิ การเณหิ มหานาคาฯ สมาหิตาติ อุปจารปฺปนาหิ สมาหิตาฯ ตณฺหา เตสํ น วิชฺชตีติ ‘‘อูโน โลโก อติโตฺต ตณฺหาทาโสติ โข, มหาราช, เตน ภควตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๐๕) เอวํ วุตฺตา ทาสการิกา ตณฺหาปิ เตสํ นตฺถิฯ อิมินา ขีณาสวานํ ภุชิสฺสภาวํ ทเสฺสติฯ

    Sattaratanasampannāti sattahi bojjhaṅgaratanehi samannāgatā. Anuvicarantīti lokiyamahājanāpi anuvicarantiyeva. Idha pana khīṇāsavānaṃ nirāsaṅkacāro nāma gahito. Tenevāha ‘‘pahīnabhayabheravā’’ti. Tattha bhayaṃ bhayameva, bheravaṃ balavabhayaṃ. Dasahaṅgehi sampannāti asekkhehi dasahi aṅgehi samannāgatā. Mahānāgāti catūhi kāraṇehi mahānāgā. Samāhitāti upacārappanāhi samāhitā. Taṇhā tesaṃ na vijjatīti ‘‘ūno loko atitto taṇhādāsoti kho, mahārāja, tena bhagavatā’’ti (ma. ni. 2.305) evaṃ vuttā dāsakārikā taṇhāpi tesaṃ natthi. Iminā khīṇāsavānaṃ bhujissabhāvaṃ dasseti.

    อเสขญาณนฺติ อรหตฺตผลญาณํฯ อนฺติโมยํ สมุสฺสโยติ ปจฺฉิโม อยํ อตฺตภาโวฯ โย สาโร พฺรหฺมจริยสฺสาติ สาโร นาม ผลํฯ ตสฺมิํ อปรปจฺจยาติ ตสฺมิํ อริยผเล, น อญฺญํ ปตฺติยายนฺติ, ปจฺจกฺขโตว ปฎิวิชฺฌิตฺวา ฐิตาฯ วิธาสุ น วิกมฺปนฺตีติ ตีสุ มานโกฎฺฐาเสสุ น วิกมฺปนฺติฯ ทนฺตภูมินฺติ อรหตฺตํฯ วิชิตาวิโนติ ราคาทโย วิเชตฺวา ฐิตาฯ

    Asekhañāṇanti arahattaphalañāṇaṃ. Antimoyaṃ samussayoti pacchimo ayaṃ attabhāvo. Yo sāro brahmacariyassāti sāro nāma phalaṃ. Tasmiṃ aparapaccayāti tasmiṃ ariyaphale, na aññaṃ pattiyāyanti, paccakkhatova paṭivijjhitvā ṭhitā. Vidhāsu na vikampantīti tīsu mānakoṭṭhāsesu na vikampanti. Dantabhūminti arahattaṃ. Vijitāvinoti rāgādayo vijetvā ṭhitā.

    อุทฺธนฺติอาทีสุ อุทฺธํ วุจฺจติ เกสมตฺถโก, อปาจีนํ ปาทตลํ, ติริยํ เวมชฺฌํฯ อุทฺธํ วา อตีตํ, อปาจีนํ อนาคตํ, ติริยํ ปจฺจุปฺปนฺนํฯ อุทฺธํ วา วุจฺจติ เทวโลโก, อปาจีนํ อปายโลโก, ติริยํ มนุสฺสโลโกฯ นนฺที เตสํ น วิชฺชตีติ เอเตสุ ฐาเนสุ สเงฺขปโต วา อตีตานาคตปจฺจุปฺปเนฺนสุ ขเนฺธสุ เตสํ ตณฺหา นตฺถิฯ อิธ วฎฺฎมูลกตณฺหาย อภาโว ทสฺสิโตฯ พุทฺธาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา พุทฺธาฯ

    Uddhantiādīsu uddhaṃ vuccati kesamatthako, apācīnaṃ pādatalaṃ, tiriyaṃ vemajjhaṃ. Uddhaṃ vā atītaṃ, apācīnaṃ anāgataṃ, tiriyaṃ paccuppannaṃ. Uddhaṃ vā vuccati devaloko, apācīnaṃ apāyaloko, tiriyaṃ manussaloko. Nandī tesaṃ na vijjatīti etesu ṭhānesu saṅkhepato vā atītānāgatapaccuppannesu khandhesu tesaṃ taṇhā natthi. Idha vaṭṭamūlakataṇhāya abhāvo dassito. Buddhāti catunnaṃ saccānaṃ buddhattā buddhā.

    อิทํ ปเนตฺถ สีหนาทสโมธานํ – ‘‘วิมุตฺติสุเขนมฺหา สุขิตา, ทุกฺขชนิกา โน ตณฺหา ปหีนา, ปญฺจกฺขนฺธา ปริญฺญาตา, ทาสการิกตณฺหา เจว วฎฺฎมูลิกตณฺหา จ ปหีนา, อนุตฺตรมฺหา อสทิสา, จตุนฺนํ สจฺจานํ พุทฺธตฺตา พุทฺธา’’ติ ภวปิเฎฺฐ ฐตฺวา อภีตนาทสงฺขาตํ สีหนาทํ นทนฺติ ขีณาสวาติฯ จตุตฺถํฯ

    Idaṃ panettha sīhanādasamodhānaṃ – ‘‘vimuttisukhenamhā sukhitā, dukkhajanikā no taṇhā pahīnā, pañcakkhandhā pariññātā, dāsakārikataṇhā ceva vaṭṭamūlikataṇhā ca pahīnā, anuttaramhā asadisā, catunnaṃ saccānaṃ buddhattā buddhā’’ti bhavapiṭṭhe ṭhatvā abhītanādasaṅkhātaṃ sīhanādaṃ nadanti khīṇāsavāti. Catutthaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๔. อรหนฺตสุตฺตํ • 4. Arahantasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔. อรหนฺตสุตฺตวณฺณนา • 4. Arahantasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact