Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๑๐. อรกสุตฺตํ
10. Arakasuttaṃ
๗๔. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, อรโก นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโคฯ อรกสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํฯ อรโก สตฺถา สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสติ – อปฺปกํ, พฺราหฺมณ, ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ 1 พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ 2 โพทฺธพฺพํ , กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํฯ
74. ‘‘Bhūtapubbaṃ, bhikkhave, arako nāma satthā ahosi titthakaro kāmesu vītarāgo. Arakassa kho pana, bhikkhave, satthuno anekāni sāvakasatāni ahesuṃ. Arako satthā sāvakānaṃ evaṃ dhammaṃ deseti – appakaṃ, brāhmaṇa, jīvitaṃ manussānaṃ parittaṃ lahukaṃ 3 bahudukkhaṃ bahupāyāsaṃ mantāyaṃ 4 boddhabbaṃ , kattabbaṃ kusalaṃ, caritabbaṃ brahmacariyaṃ, natthi jātassa amaraṇaṃ.
‘‘เสยฺยถาปิ , พฺราหฺมณ, ติณเคฺค อุสฺสาวพินฺทุ สูริเย อุคฺคจฺฉเนฺต ขิปฺปํเยว ปฎิวิคจฺฉติ, น จิรฎฺฐิติกํ โหติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อุสฺสาวพินฺทูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํฯ
‘‘Seyyathāpi , brāhmaṇa, tiṇagge ussāvabindu sūriye uggacchante khippaṃyeva paṭivigacchati, na ciraṭṭhitikaṃ hoti; evamevaṃ kho, brāhmaṇa, ussāvabindūpamaṃ jīvitaṃ manussānaṃ parittaṃ lahukaṃ bahudukkhaṃ bahupāyāsaṃ mantāyaṃ boddhabbaṃ, kattabbaṃ kusalaṃ, caritabbaṃ brahmacariyaṃ, natthi jātassa amaraṇaṃ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสเนฺต อุทกพุพฺพุฬํ 5 ขิปฺปํเยว ปฎิวิคจฺฉติ, น จิรฎฺฐิติกํ โหติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อุทกพุพฺพุฬูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํฯ
‘‘Seyyathāpi, brāhmaṇa, thullaphusitake deve vassante udakabubbuḷaṃ 6 khippaṃyeva paṭivigacchati, na ciraṭṭhitikaṃ hoti; evamevaṃ kho, brāhmaṇa, udakabubbuḷūpamaṃ jīvitaṃ manussānaṃ parittaṃ lahukaṃ bahudukkhaṃ bahupāyāsaṃ mantāyaṃ boddhabbaṃ, kattabbaṃ kusalaṃ, caritabbaṃ brahmacariyaṃ, natthi jātassa amaraṇaṃ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, อุทเก ทณฺฑราชิ ขิปฺปํเยว ปฎิวิคจฺฉติ, น จิรฎฺฐิติกา โหติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อุทเก ทณฺฑราชูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ…เป.… นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํฯ
‘‘Seyyathāpi, brāhmaṇa, udake daṇḍarāji khippaṃyeva paṭivigacchati, na ciraṭṭhitikā hoti; evamevaṃ kho, brāhmaṇa, udake daṇḍarājūpamaṃ jīvitaṃ manussānaṃ parittaṃ…pe… natthi jātassa amaraṇaṃ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, พลวา ปุริโส ชิวฺหเคฺค เขฬปิณฺฑํ สํยูหิตฺวา อกสิเรเนว วเมยฺย 11; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, เขฬปิณฺฑูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ…เป.… นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํฯ
‘‘Seyyathāpi, brāhmaṇa, balavā puriso jivhagge kheḷapiṇḍaṃ saṃyūhitvā akasireneva vameyya 12; evamevaṃ kho, brāhmaṇa, kheḷapiṇḍūpamaṃ jīvitaṃ manussānaṃ parittaṃ…pe… natthi jātassa amaraṇaṃ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, ทิวสํสนฺตเตฺต อโยกฎาเห มํสเปสิ 13 ปกฺขิตฺตา ขิปฺปํเยว ปฎิวิคจฺฉติ, น จิรฎฺฐิติกา โหติ; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, มํสเปสูปมํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ…เป.… นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํฯ
‘‘Seyyathāpi, brāhmaṇa, divasaṃsantatte ayokaṭāhe maṃsapesi 14 pakkhittā khippaṃyeva paṭivigacchati, na ciraṭṭhitikā hoti; evamevaṃ kho, brāhmaṇa, maṃsapesūpamaṃ jīvitaṃ manussānaṃ parittaṃ…pe… natthi jātassa amaraṇaṃ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, คาวี วชฺฌา อาฆาตนํ นียมานา ยํ ยเทว ปาทํ อุทฺธรติ, สนฺติเกว โหติ วธสฺส สนฺติเกว มรณสฺส; เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, โควชฺฌูปมํ 15 ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณ’’นฺติฯ
‘‘Seyyathāpi, brāhmaṇa, gāvī vajjhā āghātanaṃ nīyamānā yaṃ yadeva pādaṃ uddharati, santikeva hoti vadhassa santikeva maraṇassa; evamevaṃ kho, brāhmaṇa, govajjhūpamaṃ 16 jīvitaṃ manussānaṃ parittaṃ lahukaṃ bahudukkhaṃ bahupāyāsaṃ mantāyaṃ boddhabbaṃ, kattabbaṃ kusalaṃ, caritabbaṃ brahmacariyaṃ, natthi jātassa amaraṇa’’nti.
‘‘เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน มนุสฺสานํ สฎฺฐิวสฺสสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ, ปญฺจวสฺสสติกา กุมาริกา อลํปเตยฺยา อโหสิฯ เตน โข ปน, ภิกฺขเว, สมเยน มนุสฺสานํ ฉเฬว อาพาธา อเหสุํ – สีตํ, อุณฺหํ, ชิฆจฺฉา, ปิปาสา, อุจฺจาโร, ปสฺสาโวฯ โส หิ นาม, ภิกฺขเว, อรโก สตฺถา เอวํ ทีฆายุเกสุ มนุเสฺสสุ เอวํ จิรฎฺฐิติเกสุ เอวํ อปฺปาพาเธสุ สาวกานํ เอวํ ธมฺมํ เทเสสฺสติ – ‘อปฺปกํ, พฺราหฺมณ, ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณ’’’นฺติฯ
‘‘Tena kho pana, bhikkhave, samayena manussānaṃ saṭṭhivassasahassāni āyuppamāṇaṃ ahosi, pañcavassasatikā kumārikā alaṃpateyyā ahosi. Tena kho pana, bhikkhave, samayena manussānaṃ chaḷeva ābādhā ahesuṃ – sītaṃ, uṇhaṃ, jighacchā, pipāsā, uccāro, passāvo. So hi nāma, bhikkhave, arako satthā evaṃ dīghāyukesu manussesu evaṃ ciraṭṭhitikesu evaṃ appābādhesu sāvakānaṃ evaṃ dhammaṃ desessati – ‘appakaṃ, brāhmaṇa, jīvitaṃ manussānaṃ parittaṃ lahukaṃ bahudukkhaṃ bahupāyāsaṃ mantāyaṃ boddhabbaṃ, kattabbaṃ kusalaṃ, caritabbaṃ brahmacariyaṃ, natthi jātassa amaraṇa’’’nti.
‘‘เอตรหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปฺปกํ ชีวิตํ มนุสฺสานํ ปริตฺตํ ลหุกํ พหุทุกฺขํ พหุปายาสํ มนฺตายํ โพทฺธพฺพํ, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณ’นฺติฯ เอตรหิ, ภิกฺขเว , โย จิรํ ชีวติ โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิโยฺยฯ วสฺสสตํ โข ปน, ภิกฺขเว, ชีวโนฺต ตีณิเยว อุตุสตานิ ชีวติ – อุตุสตํ เหมนฺตานํ, อุตุสตํ คิมฺหานํ, อุตุสตํ วสฺสานํฯ ตีณิ โข ปน, ภิกฺขเว, อุตุสตานิ ชีวโนฺต ทฺวาทส 17 เยว มาสสตานิ ชีวติ – จตฺตาริ มาสสตานิ เหมนฺตานํ , จตฺตาริ มาสสตานิ คิมฺหานํ, จตฺตาริ มาสสตานิ วสฺสานํฯ ทฺวาทส โข ปน, ภิกฺขเว, มาสสตานิ ชีวโนฺต จตุวีสติเยว อทฺธมาสสตานิ ชีวติ – อฎฺฐทฺธมาสสตานิ เหมนฺตานํ, อฎฺฐทฺธมาสสตานิ คิมฺหานํ, อฎฺฐทฺธมาสสตานิ วสฺสานํฯ จตุวีสติ โข ปน, ภิกฺขเว, อทฺธมาสสตานิ ชีวโนฺต ฉตฺติํสํเยว รตฺติสหสฺสานิ ชีวติ – ทฺวาทส รตฺติสหสฺสานิ เหมนฺตานํ, ทฺวาทส รตฺติสหสฺสานิ คิมฺหานํ, ทฺวาทส รตฺติสหสฺสานิ วสฺสานํฯ ฉตฺติํสํ โข ปน, ภิกฺขเว, รตฺติสหสฺสานิ ชีวโนฺต เทฺวสตฺตติเยว 18 ภตฺตสหสฺสานิ ภุญฺชติ – จตุวีสติ ภตฺตสหสฺสานิ เหมนฺตานํ, จตุวีสติ ภตฺตสหสฺสานิ คิมฺหานํ, จตุวีสติ ภตฺตสหสฺสานิ วสฺสานํ สทฺธิํ มาตุถญฺญาย สทฺธิํ ภตฺตนฺตราเยนฯ
‘‘Etarahi taṃ, bhikkhave, sammā vadamāno vadeyya – ‘appakaṃ jīvitaṃ manussānaṃ parittaṃ lahukaṃ bahudukkhaṃ bahupāyāsaṃ mantāyaṃ boddhabbaṃ, kattabbaṃ kusalaṃ, caritabbaṃ brahmacariyaṃ, natthi jātassa amaraṇa’nti. Etarahi, bhikkhave , yo ciraṃ jīvati so vassasataṃ appaṃ vā bhiyyo. Vassasataṃ kho pana, bhikkhave, jīvanto tīṇiyeva utusatāni jīvati – utusataṃ hemantānaṃ, utusataṃ gimhānaṃ, utusataṃ vassānaṃ. Tīṇi kho pana, bhikkhave, utusatāni jīvanto dvādasa 19 yeva māsasatāni jīvati – cattāri māsasatāni hemantānaṃ , cattāri māsasatāni gimhānaṃ, cattāri māsasatāni vassānaṃ. Dvādasa kho pana, bhikkhave, māsasatāni jīvanto catuvīsatiyeva addhamāsasatāni jīvati – aṭṭhaddhamāsasatāni hemantānaṃ, aṭṭhaddhamāsasatāni gimhānaṃ, aṭṭhaddhamāsasatāni vassānaṃ. Catuvīsati kho pana, bhikkhave, addhamāsasatāni jīvanto chattiṃsaṃyeva rattisahassāni jīvati – dvādasa rattisahassāni hemantānaṃ, dvādasa rattisahassāni gimhānaṃ, dvādasa rattisahassāni vassānaṃ. Chattiṃsaṃ kho pana, bhikkhave, rattisahassāni jīvanto dvesattatiyeva 20 bhattasahassāni bhuñjati – catuvīsati bhattasahassāni hemantānaṃ, catuvīsati bhattasahassāni gimhānaṃ, catuvīsati bhattasahassāni vassānaṃ saddhiṃ mātuthaññāya saddhiṃ bhattantarāyena.
‘‘ตตฺริเม ภตฺตนฺตรายา กปิมิโทฺธปิ ภตฺตํ น ภุญฺชติ, ทุกฺขิโตปิ ภตฺตํ น ภุญฺชติ, พฺยาธิโตปิ ภตฺตํ น ภุญฺชติ, อุโปสถิโกปิ ภตฺตํ น ภุญฺชติ , อลาภเกนปิ ภตฺตํ น ภุญฺชติฯ อิติ โข, ภิกฺขเว, มยา วสฺสสตายุกสฺส มนุสฺสสฺส อายุปิ สงฺขาโต 21, อายุปฺปมาณมฺปิ สงฺขาตํ, อุตูปิ สงฺขาตา, สํวจฺฉราปิ สงฺขาตา, มาสาปิ สงฺขาตา, อทฺธมาสาปิ สงฺขาตา, รตฺติปิ สงฺขาตา, ทิวาปิ สงฺขาตา, ภตฺตาปิ สงฺขาตา, ภตฺตนฺตรายาปิ สงฺขาตาฯ ยํ, ภิกฺขเว, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย; กตํ โว ตํ มยา เอตานิ, ภิกฺขเว, รุกฺขมูลานิ เอตานิ สุญฺญาคารานิฯ ฌายถ, ภิกฺขเว, มา ปมาทตฺถ; มา ปจฺฉา วิปฺปฎิสาริโน อหุวตฺถฯ อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’ติฯ ทสมํฯ
‘‘Tatrime bhattantarāyā kapimiddhopi bhattaṃ na bhuñjati, dukkhitopi bhattaṃ na bhuñjati, byādhitopi bhattaṃ na bhuñjati, uposathikopi bhattaṃ na bhuñjati , alābhakenapi bhattaṃ na bhuñjati. Iti kho, bhikkhave, mayā vassasatāyukassa manussassa āyupi saṅkhāto 22, āyuppamāṇampi saṅkhātaṃ, utūpi saṅkhātā, saṃvaccharāpi saṅkhātā, māsāpi saṅkhātā, addhamāsāpi saṅkhātā, rattipi saṅkhātā, divāpi saṅkhātā, bhattāpi saṅkhātā, bhattantarāyāpi saṅkhātā. Yaṃ, bhikkhave, satthārā karaṇīyaṃ sāvakānaṃ hitesinā anukampakena anukampaṃ upādāya; kataṃ vo taṃ mayā etāni, bhikkhave, rukkhamūlāni etāni suññāgārāni. Jhāyatha, bhikkhave, mā pamādattha; mā pacchā vippaṭisārino ahuvattha. Ayaṃ vo amhākaṃ anusāsanī’’ti. Dasamaṃ.
มหาวโคฺค สตฺตโมฯ
Mahāvaggo sattamo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
หิรีสูริยํ อุปมา, ธมฺมญฺญู ปาริฉตฺตกํ;
Hirīsūriyaṃ upamā, dhammaññū pārichattakaṃ;
สกฺกจฺจํ ภาวนา อคฺคิ, สุเนตฺตอรเกน จาติฯ
Sakkaccaṃ bhāvanā aggi, sunettaarakena cāti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. อรกสุตฺตวณฺณนา • 10. Arakasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. อรกสุตฺตวณฺณนา • 10. Arakasuttavaṇṇanā