Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๕. อรเกฺขยฺยสุตฺตํ

    5. Arakkheyyasuttaṃ

    ๕๘. ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส อรเกฺขยฺยานิ, ตีหิ จ อนุปวโชฺชฯ กตมานิ จตฺตาริ ตถาคตสฺส อรเกฺขยฺยานิ? ปริสุทฺธกายสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต; นตฺถิ ตถาคตสฺส กายทุจฺจริตํ ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’ติฯ ปริสุทฺธวจีสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต; นตฺถิ ตถาคตสฺส วจีทุจฺจริตํ ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’ติฯ ปริสุทฺธมโนสมาจาโร, ภิกฺขเว, ตถาคโต; นตฺถิ ตถาคตสฺส มโนทุจฺจริตํ ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’ติฯ ปริสุทฺธาชีโว, ภิกฺขเว, ตถาคโต; นตฺถิ ตถาคตสฺส มิจฺฉาอาชีโว ยํ ตถาคโต รเกฺขยฺย – ‘มา เม อิทํ ปโร อญฺญาสี’ติฯ อิมานิ จตฺตาริ ตถาคตสฺส อรเกฺขยฺยานิฯ

    58. ‘‘Cattārimāni, bhikkhave, tathāgatassa arakkheyyāni, tīhi ca anupavajjo. Katamāni cattāri tathāgatassa arakkheyyāni? Parisuddhakāyasamācāro, bhikkhave, tathāgato; natthi tathāgatassa kāyaduccaritaṃ yaṃ tathāgato rakkheyya – ‘mā me idaṃ paro aññāsī’ti. Parisuddhavacīsamācāro, bhikkhave, tathāgato; natthi tathāgatassa vacīduccaritaṃ yaṃ tathāgato rakkheyya – ‘mā me idaṃ paro aññāsī’ti. Parisuddhamanosamācāro, bhikkhave, tathāgato; natthi tathāgatassa manoduccaritaṃ yaṃ tathāgato rakkheyya – ‘mā me idaṃ paro aññāsī’ti. Parisuddhājīvo, bhikkhave, tathāgato; natthi tathāgatassa micchāājīvo yaṃ tathāgato rakkheyya – ‘mā me idaṃ paro aññāsī’ti. Imāni cattāri tathāgatassa arakkheyyāni.

    ‘‘กตเมหิ ตีหิ อนุปวโชฺช? สฺวากฺขาตธโมฺม , ภิกฺขเว, ตถาคโตฯ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมิํ สหธเมฺมน ปฎิโจเทสฺสติ – ‘อิติปิ ตฺวํ น สฺวากฺขาตธโมฺม’ติฯ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิฯ เอตมหํ 1, ภิกฺขเว , นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสโนฺต เขมปฺปโตฺต อภยปฺปโตฺต เวสารชฺชปฺปโตฺต วิหรามิฯ

    ‘‘Katamehi tīhi anupavajjo? Svākkhātadhammo , bhikkhave, tathāgato. Tatra vata maṃ samaṇo vā brāhmaṇo vā devo vā māro vā brahmā vā koci vā lokasmiṃ sahadhammena paṭicodessati – ‘itipi tvaṃ na svākkhātadhammo’ti. Nimittametaṃ, bhikkhave, na samanupassāmi. Etamahaṃ 2, bhikkhave , nimittaṃ asamanupassanto khemappatto abhayappatto vesārajjappatto viharāmi.

    ‘‘สุปญฺญตฺตา โข ปน เม, ภิกฺขเว, สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฎิปทาฯ ยถาปฎิปนฺนา มม สาวกา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติฯ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมิํ สหธเมฺมน ปฎิโจเทสฺสติ – ‘อิติปิ เต น สุปญฺญตฺตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฎิปทาฯ ยถาปฎิปนฺนา ตว สาวกา อาสวานํ ขยา…เป.… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’ติฯ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิ ฯ เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสโนฺต เขมปฺปโตฺต อภยปฺปโตฺต เวสารชฺชปฺปโตฺต วิหรามิฯ

    ‘‘Supaññattā kho pana me, bhikkhave, sāvakānaṃ nibbānagāminī paṭipadā. Yathāpaṭipannā mama sāvakā āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharanti. Tatra vata maṃ samaṇo vā brāhmaṇo vā devo vā māro vā brahmā vā koci vā lokasmiṃ sahadhammena paṭicodessati – ‘itipi te na supaññattā sāvakānaṃ nibbānagāminī paṭipadā. Yathāpaṭipannā tava sāvakā āsavānaṃ khayā…pe… sacchikatvā upasampajja viharantī’ti. Nimittametaṃ, bhikkhave, na samanupassāmi . Etamahaṃ, bhikkhave, nimittaṃ asamanupassanto khemappatto abhayappatto vesārajjappatto viharāmi.

    ‘‘อเนกสตา โข ปน เม, ภิกฺขเว, สาวกปริสา อาสวานํ ขยา…เป.… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติฯ ตตฺร วต มํ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา เทโว วา มาโร วา พฺรหฺมา วา โกจิ วา โลกสฺมิํ สหธเมฺมน ปฎิโจเทสฺสติ – ‘อิติปิ เต น อเนกสตา สาวกปริสา อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’ติฯ นิมิตฺตเมตํ, ภิกฺขเว, น สมนุปสฺสามิฯ เอตมหํ, ภิกฺขเว, นิมิตฺตํ อสมนุปสฺสโนฺต เขมปฺปโตฺต อภยปฺปโตฺต เวสารชฺชปฺปโตฺต วิหรามิฯ อิเมหิ ตีหิ อนุปวโชฺชฯ

    ‘‘Anekasatā kho pana me, bhikkhave, sāvakaparisā āsavānaṃ khayā…pe… sacchikatvā upasampajja viharanti. Tatra vata maṃ samaṇo vā brāhmaṇo vā devo vā māro vā brahmā vā koci vā lokasmiṃ sahadhammena paṭicodessati – ‘itipi te na anekasatā sāvakaparisā āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharantī’ti. Nimittametaṃ, bhikkhave, na samanupassāmi. Etamahaṃ, bhikkhave, nimittaṃ asamanupassanto khemappatto abhayappatto vesārajjappatto viharāmi. Imehi tīhi anupavajjo.

    ‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ตถาคตสฺส อรเกฺขยฺยานิ, อิเมหิ จ ตีหิ อนุปวโชฺช’’ติฯ ปญฺจมํฯ

    ‘‘Imāni kho, bhikkhave, cattāri tathāgatassa arakkheyyāni, imehi ca tīhi anupavajjo’’ti. Pañcamaṃ.







    Footnotes:
    1. เอตํปหํ (สี. สฺยา.)
    2. etaṃpahaṃ (sī. syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๕. อรเกฺขยฺยสุตฺตวณฺณนา • 5. Arakkheyyasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๔-๗. สีหเสนาปติสุตฺตาทิวณฺณนา • 4-7. Sīhasenāpatisuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact