Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā |
๒. อารมฺมณปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนา
2. Ārammaṇapaccayaniddesavaṇṇanā
๒. อารมฺมณปจฺจยนิเทฺทเส รูปายตนนฺติ รูปสงฺขาตํ อายตนํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยาติ จกฺขุวิญฺญาณสงฺขาตาย ธาตุยาฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ ตํสมฺปยุตฺตกานนฺติ ตาย จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา สมฺปยุตฺตกานํ ติณฺณํ ขนฺธานํ, สเพฺพสมฺปิ จกฺขุปสาทวตฺถุกานํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ รูปายตนํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติ อโตฺถฯ อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโยฯ มโนธาตุยาติ สสมฺปยุตฺตธมฺมาย ติวิธายปิ มโนธาตุยา รูปายตนาทีนิ ปญฺจ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย, โน จ โข เอกกฺขเณฯ สเพฺพ ธมฺมาติ เอตานิ จ รูปายตนาทีนิ ปญฺจ อวเสสา จ สเพฺพปิ เญยฺยธมฺมา อิมา ฉ ธาตุโย ฐเปตฺวา เสสาย สสมฺปยุตฺตธมฺมาย มโนวิญฺญาณธาตุยา อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโยติ อโตฺถฯ ยํ ยํ ธมฺมํ อารพฺภาติ อิมินา เย เอเต เอตาสํ สตฺตนฺนํ วิญฺญาณธาตูนํ อารมฺมณธมฺมา วุตฺตา, เต ตาสํ ธาตูนํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชนกฺขเณเยว อารมฺมณปจฺจโย โหนฺตีติ ทีเปติฯ เอวํ โหนฺตาปิ จ น เอกโต โหนฺติ, ยํ ยํ อารพฺภ เย เย อุปฺปชฺชนฺติ, เตสํ เตสํ เต เต วิสุํ วิสุํ อารมฺมณปจฺจโย โหนฺตีติปิ ทีเปติฯ อุปฺปชฺชนฺตีติ อิทํ ยถา นโชฺช สนฺทนฺติ, ปพฺพตา ติฎฺฐนฺตีติ สพฺพกาลสงฺคหวเสน, เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ เตน เยปิ อารพฺภ เย อุปฺปชฺชิํสุ, เยปิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, เต สเพฺพ อารมฺมณปจฺจเยเนว อุปฺปชฺชิํสุ จ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ จาติ สิทฺธํ โหติฯ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมาติ อิทํ ‘‘เย เย ธมฺมา’’ติ วุตฺตานํ สรูปโต นิทสฺสนํฯ เต เต ธมฺมาติ เต เต อารมฺมณธมฺมาฯ เตสํ เตสนฺติ เตสํ เตสํ จิตฺตเจตสิกธมฺมานํฯ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนาฯ
2. Ārammaṇapaccayaniddese rūpāyatananti rūpasaṅkhātaṃ āyatanaṃ. Sesesupi eseva nayo. Cakkhuviññāṇadhātuyāti cakkhuviññāṇasaṅkhātāya dhātuyā. Sesapadesupi eseva nayo. Taṃsampayuttakānanti tāya cakkhuviññāṇadhātuyā sampayuttakānaṃ tiṇṇaṃ khandhānaṃ, sabbesampi cakkhupasādavatthukānaṃ catunnaṃ khandhānaṃ rūpāyatanaṃ ārammaṇapaccayena paccayoti attho. Ito paresupi eseva nayo. Manodhātuyāti sasampayuttadhammāya tividhāyapi manodhātuyā rūpāyatanādīni pañca ārammaṇapaccayena paccayo, no ca kho ekakkhaṇe. Sabbe dhammāti etāni ca rūpāyatanādīni pañca avasesā ca sabbepi ñeyyadhammā imā cha dhātuyo ṭhapetvā sesāya sasampayuttadhammāya manoviññāṇadhātuyā ārammaṇapaccayena paccayoti attho. Yaṃ yaṃ dhammaṃ ārabbhāti iminā ye ete etāsaṃ sattannaṃ viññāṇadhātūnaṃ ārammaṇadhammā vuttā, te tāsaṃ dhātūnaṃ ārammaṇaṃ katvā uppajjanakkhaṇeyeva ārammaṇapaccayo hontīti dīpeti. Evaṃ hontāpi ca na ekato honti, yaṃ yaṃ ārabbha ye ye uppajjanti, tesaṃ tesaṃ te te visuṃ visuṃ ārammaṇapaccayo hontītipi dīpeti. Uppajjantīti idaṃ yathā najjo sandanti, pabbatā tiṭṭhantīti sabbakālasaṅgahavasena, evaṃ vuttanti veditabbaṃ. Tena yepi ārabbha ye uppajjiṃsu, yepi uppajjissanti, te sabbe ārammaṇapaccayeneva uppajjiṃsu ca uppajjissanti cāti siddhaṃ hoti. Cittacetasikā dhammāti idaṃ ‘‘ye ye dhammā’’ti vuttānaṃ sarūpato nidassanaṃ. Te te dhammāti te te ārammaṇadhammā. Tesaṃ tesanti tesaṃ tesaṃ cittacetasikadhammānaṃ. Ayaṃ tāvettha pāḷivaṇṇanā.
อิทํ ปน อารมฺมณํ นาม รูปารมฺมณํ สทฺทคนฺธรสโผฎฺฐพฺพธมฺมารมฺมณนฺติ โกฎฺฐาสโต ฉพฺพิธํ โหติฯ ตตฺถ ฐเปตฺวา ปญฺญตฺติํ อวเสสํ ภูมิโต กามาวจรํ…เป.… อปริยาปนฺนนฺติ จตุพฺพิธํ โหติฯ ตตฺถ กามาวจรํ กุสลากุสลวิปากกิริยรูปเภทโต ปญฺจวิธํ; รูปาวจรํ กุสลวิปากกิริยโต ติวิธํ, ตถา อรูปาวจรํ, อปริยาปนฺนํ กุสลวิปากนิพฺพานวเสน ติวิธํ โหติฯ สพฺพเมว วา เอตํ กุสลากุสลวิปากกิริยรูปนิพฺพานปญฺญตฺติเภทโต สตฺตวิธํ โหติฯ ตตฺถ กุสลํ ภูมิเภทโต จตุพฺพิธํ โหติ, อกุสลํ กามาวจรเมว, วิปากํ จตุภูมกํ, กิริยํ ติภูมกํ, รูปํ เอกภูมกํ กามาวจรเมว, นิพฺพานมฺปิ เอกภูมกํ อปริยาปนฺนเมว, ปญฺญตฺติ ภูมิวินิมุตฺตาติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิญฺญาตโพฺพ วินิจฺฉโยฯ
Idaṃ pana ārammaṇaṃ nāma rūpārammaṇaṃ saddagandharasaphoṭṭhabbadhammārammaṇanti koṭṭhāsato chabbidhaṃ hoti. Tattha ṭhapetvā paññattiṃ avasesaṃ bhūmito kāmāvacaraṃ…pe… apariyāpannanti catubbidhaṃ hoti. Tattha kāmāvacaraṃ kusalākusalavipākakiriyarūpabhedato pañcavidhaṃ; rūpāvacaraṃ kusalavipākakiriyato tividhaṃ, tathā arūpāvacaraṃ, apariyāpannaṃ kusalavipākanibbānavasena tividhaṃ hoti. Sabbameva vā etaṃ kusalākusalavipākakiriyarūpanibbānapaññattibhedato sattavidhaṃ hoti. Tattha kusalaṃ bhūmibhedato catubbidhaṃ hoti, akusalaṃ kāmāvacarameva, vipākaṃ catubhūmakaṃ, kiriyaṃ tibhūmakaṃ, rūpaṃ ekabhūmakaṃ kāmāvacarameva, nibbānampi ekabhūmakaṃ apariyāpannameva, paññatti bhūmivinimuttāti evamettha nānappakārabhedato viññātabbo vinicchayo.
เอวํ ภิเนฺน ปเนตสฺมิํ อารมฺมเณ กามาวจรกุสลารมฺมณํ กามาวจรกุสลสฺส, รูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, กามาวจรวิปากสฺส, กามาวจรกิริยสฺส, รูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ รูปาวจรกุสลารมฺมณํ เตสุ ฉสุ ราสีสุ กามาวจรวิปากวชฺชานํ ปญฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ อรูปาวจรกุสลารมฺมณํ กามาวจรกุสลสฺส, รูปาวจรกุสลสฺส, อรูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, อรูปาวรจรวิปากสฺส, กามาวจรกิริยสฺส, รูปาวจรกิริยสฺส, อรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ อฎฺฐนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ อปริยาปนฺนกุสลารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรโต กุสลกิริยานเมว อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ อกุสลารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, กามาวจรวิปากสฺส, กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ
Evaṃ bhinne panetasmiṃ ārammaṇe kāmāvacarakusalārammaṇaṃ kāmāvacarakusalassa, rūpāvacarakusalassa, akusalassa, kāmāvacaravipākassa, kāmāvacarakiriyassa, rūpāvacarakiriyassa cāti imesaṃ channaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Rūpāvacarakusalārammaṇaṃ tesu chasu rāsīsu kāmāvacaravipākavajjānaṃ pañcannaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Arūpāvacarakusalārammaṇaṃ kāmāvacarakusalassa, rūpāvacarakusalassa, arūpāvacarakusalassa, akusalassa, arūpāvaracaravipākassa, kāmāvacarakiriyassa, rūpāvacarakiriyassa, arūpāvacarakiriyassa cāti imesaṃ aṭṭhannaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Apariyāpannakusalārammaṇaṃ kāmāvacararūpāvacarato kusalakiriyānameva ārammaṇapaccayo hoti. Akusalārammaṇaṃ kāmāvacararūpāvacarakusalassa, akusalassa, kāmāvacaravipākassa, kāmāvacararūpāvacarakiriyassa cāti imesaṃ channaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti.
กามาวจรวิปาการมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, กามาวจรวิปากสฺส, กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ รูปาวจรวิปาการมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ปญฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ อรูปาวจรวิปาการมฺมณมฺปิ อิเมสํเยว ปญฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ อปริยาปนฺนวิปาการมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลกิริยานเญฺญว อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ
Kāmāvacaravipākārammaṇaṃ kāmāvacararūpāvacarakusalassa, akusalassa, kāmāvacaravipākassa, kāmāvacararūpāvacarakiriyassa cāti imesaṃ channaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Rūpāvacaravipākārammaṇaṃ kāmāvacararūpāvacarakusalassa, akusalassa, kāmāvacararūpāvacarakiriyassa cāti imesaṃ pañcannaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Arūpāvacaravipākārammaṇampi imesaṃyeva pañcannaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Apariyāpannavipākārammaṇaṃ kāmāvacararūpāvacarakusalakiriyānaññeva ārammaṇapaccayo hoti.
กามาวจรกิริยารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, กามาวจรวิปากสฺส, กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ รูปาวจรกิริยารมฺมณํ อิเมสุ ฉสุ ราสีสุ กามาวจรวิปากวชฺชานํ ปญฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ อรูปาวจรกิริยารมฺมณํ เตสํ ปญฺจนฺนํ อรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ จตุสมุฎฺฐานํ รูปกฺขนฺธสงฺขาตํ รูปารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส อกุสลสฺส กามาวจรวิปากสฺส กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ นิพฺพานารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส, อปริยาปนฺนโต กุสลวิปากสฺส, กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ รูปาวจรกุสลกิริยานํ เกจิ นิจฺฉนฺติ, ตํ ยุตฺติโต อุปธาเรตพฺพํฯ นานปฺปการกํ ปน ปญฺญตฺติอารมฺมณํ เตภูมกกุสลสฺส, อกุสลสฺส, รูปาวจรวิปากสฺส, อรูปาวจรวิปากสฺส, เตภูมกกิริยสฺส จาติ อิเมสํ นวนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหติฯ ตตฺถ ยํ ยํ อารมฺมณํ เยสํ เยสํ ปจฺจโย, เต เต ตํตํปจฺจยุปฺปนฺนา นาม โหนฺตีติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิญฺญาตโพฺพ วินิจฺฉโยติฯ
Kāmāvacarakiriyārammaṇaṃ kāmāvacararūpāvacarakusalassa, akusalassa, kāmāvacaravipākassa, kāmāvacararūpāvacarakiriyassa cāti imesaṃ channaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Rūpāvacarakiriyārammaṇaṃ imesu chasu rāsīsu kāmāvacaravipākavajjānaṃ pañcannaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Arūpāvacarakiriyārammaṇaṃ tesaṃ pañcannaṃ arūpāvacarakiriyassa cāti imesaṃ channaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Catusamuṭṭhānaṃ rūpakkhandhasaṅkhātaṃ rūpārammaṇaṃ kāmāvacararūpāvacarakusalassa akusalassa kāmāvacaravipākassa kāmāvacararūpāvacarakiriyassa cāti imesaṃ channaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Nibbānārammaṇaṃ kāmāvacararūpāvacarakusalassa, apariyāpannato kusalavipākassa, kāmāvacararūpāvacarakiriyassa cāti imesaṃ channaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Rūpāvacarakusalakiriyānaṃ keci nicchanti, taṃ yuttito upadhāretabbaṃ. Nānappakārakaṃ pana paññattiārammaṇaṃ tebhūmakakusalassa, akusalassa, rūpāvacaravipākassa, arūpāvacaravipākassa, tebhūmakakiriyassa cāti imesaṃ navannaṃ rāsīnaṃ ārammaṇapaccayo hoti. Tattha yaṃ yaṃ ārammaṇaṃ yesaṃ yesaṃ paccayo, te te taṃtaṃpaccayuppannā nāma hontīti evamettha paccayuppannatopi viññātabbo vinicchayoti.
อารมฺมณปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนาฯ
Ārammaṇapaccayaniddesavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ปฎฺฐานปาฬิ • Paṭṭhānapāḷi / (๒) ปจฺจยนิเทฺทโส • (2) Paccayaniddeso