Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณิ-อฎฺฐกถา • Dhammasaṅgaṇi-aṭṭhakathā |
อารมฺมณปฎิปทามิสฺสกํ
Ārammaṇapaṭipadāmissakaṃ
๑๘๖. อิทานิ อารมฺมณปฎิปทามิสฺสกํ โสฬสกฺขตฺตุกนยํ ทเสฺสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ ปฐมนเย วุตฺตชฺฌานํ ทุกฺขปฎิปทตฺตา ทนฺธาภิญฺญตฺตา ปริตฺตตฺตา ปริตฺตารมฺมณตฺตาติ จตูหิ การเณหิ หีนํ, โสฬสมนเย วุตฺตชฺฌานํ สุขปฎิปทตฺตา ขิปฺปาภิญฺญตฺตา อปฺปมาณตฺตา อปฺปมาณารมฺมณตฺตาติ จตูหิ การเณหิ ปณีตํฯ เสเสสุ จุทฺทสสุ เอเกน ทฺวีหิ ตีหิ จ การเณหิ หีนปฺปณีตตา เวทิตพฺพาฯ
186. Idāni ārammaṇapaṭipadāmissakaṃ soḷasakkhattukanayaṃ dassetuṃ puna katame dhammā kusalātiādi āraddhaṃ. Tattha paṭhamanaye vuttajjhānaṃ dukkhapaṭipadattā dandhābhiññattā parittattā parittārammaṇattāti catūhi kāraṇehi hīnaṃ, soḷasamanaye vuttajjhānaṃ sukhapaṭipadattā khippābhiññattā appamāṇattā appamāṇārammaṇattāti catūhi kāraṇehi paṇītaṃ. Sesesu cuddasasu ekena dvīhi tīhi ca kāraṇehi hīnappaṇītatā veditabbā.
กสฺมา ปนายํ นโย เทสิโตติ? ฌานุปฺปตฺติการณตฺตาฯ สมฺมาสมฺพุเทฺธน หิ ปถวีกสิเณ สุทฺธิกชฺฌานํ จตุกฺกนยวเสน ปญฺจกนยวเสน จ ทสฺสิตํ; ตถา สุทฺธิกปฎิปทา, ตถา สุทฺธิการมฺมณํฯ ตตฺถ ยา เทวตา ปถวีกสิเณ สุทฺธิกชฺฌานํ จตุกฺกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สโกฺกนฺติ, ตาสํ สปฺปายวเสน สุทฺธิกชฺฌาเน จตุกฺกนโย เทสิโตฯ ยา ปญฺจกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สโกฺกนฺติ, ตาสํ สปฺปายวเสน ปญฺจกนโยฯ ยา สุทฺธิกปฎิปทาย , สุทฺธิการมฺมเณ จตุกฺกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สโกฺกนฺติ, ตาสํ สปฺปายวเสน สุทฺธิกปฎิปทาย สุทฺธิการมฺมเณ จตุกฺกนโย เทสิโตฯ ยา ปญฺจกนยวเสน เทสิยมานํ พุชฺฌิตุํ สโกฺกนฺติ ตาสํ สปฺปายวเสน ปญฺจกนโยฯ อิติ เหฎฺฐา ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน เทสนา กตาฯ
Kasmā panāyaṃ nayo desitoti? Jhānuppattikāraṇattā. Sammāsambuddhena hi pathavīkasiṇe suddhikajjhānaṃ catukkanayavasena pañcakanayavasena ca dassitaṃ; tathā suddhikapaṭipadā, tathā suddhikārammaṇaṃ. Tattha yā devatā pathavīkasiṇe suddhikajjhānaṃ catukkanayavasena desiyamānaṃ bujjhituṃ sakkonti, tāsaṃ sappāyavasena suddhikajjhāne catukkanayo desito. Yā pañcakanayavasena desiyamānaṃ bujjhituṃ sakkonti, tāsaṃ sappāyavasena pañcakanayo. Yā suddhikapaṭipadāya , suddhikārammaṇe catukkanayavasena desiyamānaṃ bujjhituṃ sakkonti, tāsaṃ sappāyavasena suddhikapaṭipadāya suddhikārammaṇe catukkanayo desito. Yā pañcakanayavasena desiyamānaṃ bujjhituṃ sakkonti tāsaṃ sappāyavasena pañcakanayo. Iti heṭṭhā puggalajjhāsayavasena desanā katā.
เทสนาวิลาสปฺปโตฺต เจส ปภินฺนปฎิสมฺภิโท ทสพลจตุเวสารชฺชวิสทญาโณ ธมฺมานํ ยาถาวสรสลกฺขณสฺส สุปฺปฎิวิทฺธตฺตา ธมฺมปญฺญตฺติกุสลตาย โย โย นโย ลพฺภติ ตสฺส ตสฺส วเสน เทสนํ นิยเมตุํ สโกฺกติ, ตสฺมา อิมาย เทสนาวิลาสปฺปตฺติยาปิ เตน เอสา ปถวีกสิเณ สุทฺธิกจตุกฺกนยาทิวเสน เทสนา กตาฯ
Desanāvilāsappatto cesa pabhinnapaṭisambhido dasabalacatuvesārajjavisadañāṇo dhammānaṃ yāthāvasarasalakkhaṇassa suppaṭividdhattā dhammapaññattikusalatāya yo yo nayo labbhati tassa tassa vasena desanaṃ niyametuṃ sakkoti, tasmā imāya desanāvilāsappattiyāpi tena esā pathavīkasiṇe suddhikacatukkanayādivasena desanā katā.
ยสฺมา ปน เย เกจิ ฌานํ อุปฺปาเทนฺติ นาม น เต อารมฺมณปฎิปทาหิ วินา อุปฺปาเทตุํ สโกฺกนฺติ, ตสฺมา นิยมโต ฌานุปฺปตฺติการณตฺตา อยํ โสฬสกฺขตฺตุกนโย กถิโตฯ
Yasmā pana ye keci jhānaṃ uppādenti nāma na te ārammaṇapaṭipadāhi vinā uppādetuṃ sakkonti, tasmā niyamato jhānuppattikāraṇattā ayaṃ soḷasakkhattukanayo kathito.
เอตฺตาวตา สุทฺธิกนวโก, จตฺตาโร ปฎิปทานวกา, จตฺตาโร อารมฺมณนวกา, อิเม จ โสฬส นวกาติ ปญฺจวีสติ นวกา กถิตา โหนฺติฯ ตตฺถ เอเกกสฺมิํ นวเก จตุกฺกปญฺจกวเสน เทฺว เทฺว นยาติ ปญฺญาส นยาฯ ตตฺถ ‘‘ปญฺจวีสติยา จตุกฺกนเยสุ สตํ, ปญฺจกนเยสุ ปญฺจวีสสต’’นฺติ ปาฐโต ปญฺจวีสาธิกานิ เทฺว ฌานจิตฺตสตานิ โหนฺติฯ ปญฺจกนเย ปน จตุกฺกนยสฺส ปวิฎฺฐตฺตา อตฺถโต ปญฺจวีสาธิกเมว จิตฺตสตํ โหติฯ ยานิ เจตานิ ปาเฐ ปญฺจวีสาธิกานิ เทฺว จิตฺตสตานิ เตสุ เอเกกสฺส นิเทฺทเส ธมฺมววตฺถานาทโย ตโย ตโย มหาวารา โหนฺติฯ เต ปน ตตฺถ ตตฺถ นยมตฺตเมว ทเสฺสตฺวา สํขิตฺตาติฯ
Ettāvatā suddhikanavako, cattāro paṭipadānavakā, cattāro ārammaṇanavakā, ime ca soḷasa navakāti pañcavīsati navakā kathitā honti. Tattha ekekasmiṃ navake catukkapañcakavasena dve dve nayāti paññāsa nayā. Tattha ‘‘pañcavīsatiyā catukkanayesu sataṃ, pañcakanayesu pañcavīsasata’’nti pāṭhato pañcavīsādhikāni dve jhānacittasatāni honti. Pañcakanaye pana catukkanayassa paviṭṭhattā atthato pañcavīsādhikameva cittasataṃ hoti. Yāni cetāni pāṭhe pañcavīsādhikāni dve cittasatāni tesu ekekassa niddese dhammavavatthānādayo tayo tayo mahāvārā honti. Te pana tattha tattha nayamattameva dassetvā saṃkhittāti.
ปถวีกสิณํฯ
Pathavīkasiṇaṃ.
๒๐๓. อิทานิ ยสฺมา อาโปกสิณาทีสุปิ เอตานิ ฌานานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา เตสํ ทสฺสนตฺถํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํฯ เตสุ สโพฺพ ปาฬินโย จ อตฺถวิภาวนา จ จิตฺตคณนา จ วารสเงฺขโป จ ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพฯ ภาวนานโย ปน กสิณปริกมฺมํ อาทิํ กตฺวา สโพฺพ วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ ๑.๙๑ อาทโย) ปกาสิโตเยวฯ มหาสกุลุทายิสุเตฺต ปน ทสกสิณานิ (ม. นิ. ๒.๒๕๐) วุตฺตานิฯ เตสุ วิญฺญาณกสิณํ อากาเส ปวตฺติตมหคฺคตวิญฺญาณมฺปิ ตตฺถ ปริกมฺมํ กตฺวา นิพฺพตฺตา วิญฺญาณญฺจายตนสมาปตฺติปิ โหตีติ สพฺพปฺปกาเรน อารุปฺปเทสนเมว ภชติ, ตสฺมา อิมสฺมิํ ฐาเน น กถิตํฯ
203. Idāni yasmā āpokasiṇādīsupi etāni jhānāni uppajjanti, tasmā tesaṃ dassanatthaṃ puna katame dhammā kusalātiādi āraddhaṃ. Tesu sabbo pāḷinayo ca atthavibhāvanā ca cittagaṇanā ca vārasaṅkhepo ca pathavīkasiṇe vuttanayeneva veditabbo. Bhāvanānayo pana kasiṇaparikammaṃ ādiṃ katvā sabbo visuddhimagge (visuddhi 1.91 ādayo) pakāsitoyeva. Mahāsakuludāyisutte pana dasakasiṇāni (ma. ni. 2.250) vuttāni. Tesu viññāṇakasiṇaṃ ākāse pavattitamahaggataviññāṇampi tattha parikammaṃ katvā nibbattā viññāṇañcāyatanasamāpattipi hotīti sabbappakārena āruppadesanameva bhajati, tasmā imasmiṃ ṭhāne na kathitaṃ.
อากาสกสิณนฺติ ปน กสิณุคฺฆาฎิมมากาสมฺปิ, ตํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตกฺขนฺธาปิ, ภิตฺติจฺฉิทฺทาทีสุ อญฺญตรสฺมิํ คเหตพฺพนิมิตฺตปริเจฺฉทากาสมฺปิ, ตํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนํ จตุกฺกปญฺจกชฺฌานมฺปิ วุจฺจติฯ ตตฺถ ปุริมนโย อารุปฺปเทสนํ ภชติ, ปจฺฉิมนโย รูปาวจรเทสนํฯ อิติ มิสฺสกตฺตา อิมํ รูปาวจรเทสนํ น อารุฬฺหํฯ ปริเจฺฉทากาเส นิพฺพตฺตชฺฌานํ ปน รูปูปปตฺติยา มโคฺค โหติ ตสฺมา ตํ คเหตพฺพํฯ ตสฺมิํ ปน จตุกฺกปญฺจกชฺฌานเมว อุปฺปชฺชติ, อรูปชฺฌานํ นุปฺปชฺชติฯ กสฺมา? กสิณุคฺฆาฎนสฺส อลาภโตฯ ตญฺหิ ปุนปฺปุนํ อุคฺฆาฎิยมานมฺปิ อากาสเมว โหตีติ น ตตฺถ กสิณุคฺฆาฎนํ ลพฺภติ, ตสฺมา ตตฺถุปฺปนฺนํ ฌานํ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ, อภิญฺญาปาทกํ โหติ, วิปสฺสนาปาทกํ โหติ, นิโรธปาทกํ น โหติฯ อนุปุพฺพนิโรโธ ปเนตฺถ ยาว ปญฺจมชฺฌานา ลพฺภติ วฎฺฎปาทกํ โหติเยวฯ ยถา เจตํ เอวํ ปุริมกสิเณสุ อุปฺปนฺนํ ฌานมฺปิฯ นิโรธปาทกภาโว ปเนตฺถ วิเสโสฯ เสสเมตฺถ อากาสกสิเณ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๑.๙๘-๙๙) วุตฺตเมวฯ
Ākāsakasiṇanti pana kasiṇugghāṭimamākāsampi, taṃ ārammaṇaṃ katvā pavattakkhandhāpi, bhitticchiddādīsu aññatarasmiṃ gahetabbanimittaparicchedākāsampi, taṃ ārammaṇaṃ katvā uppannaṃ catukkapañcakajjhānampi vuccati. Tattha purimanayo āruppadesanaṃ bhajati, pacchimanayo rūpāvacaradesanaṃ. Iti missakattā imaṃ rūpāvacaradesanaṃ na āruḷhaṃ. Paricchedākāse nibbattajjhānaṃ pana rūpūpapattiyā maggo hoti tasmā taṃ gahetabbaṃ. Tasmiṃ pana catukkapañcakajjhānameva uppajjati, arūpajjhānaṃ nuppajjati. Kasmā? Kasiṇugghāṭanassa alābhato. Tañhi punappunaṃ ugghāṭiyamānampi ākāsameva hotīti na tattha kasiṇugghāṭanaṃ labbhati, tasmā tatthuppannaṃ jhānaṃ diṭṭhadhammasukhavihārāya saṃvattati, abhiññāpādakaṃ hoti, vipassanāpādakaṃ hoti, nirodhapādakaṃ na hoti. Anupubbanirodho panettha yāva pañcamajjhānā labbhati vaṭṭapādakaṃ hotiyeva. Yathā cetaṃ evaṃ purimakasiṇesu uppannaṃ jhānampi. Nirodhapādakabhāvo panettha viseso. Sesamettha ākāsakasiṇe yaṃ vattabbaṃ siyā taṃ sabbaṃ visuddhimagge (visuddhi. 1.98-99) vuttameva.
‘เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตี’ติอาทินยํ (ที. นิ. ๑.๒๓๙; ปฎิ. ม. ๑.๑๐๒) ปน วิกุพฺพนํ อิจฺฉเนฺตน ปุริเมสุ อฎฺฐสุ กสิเณสุ อฎฺฐ สมาปตฺติโย นิพฺพเตฺตตฺวา กสิณานุโลมโต กสิณปฎิโลมโต, กสิณานุโลมปฎิโลมโต; ฌานานุโลมโต, ฌานปฎิโลมโต, ฌานานุโลมปฎิโลมโต; ฌานุกฺกนฺติกโต, กสิณุกฺกนฺติกโต, ฌานกสิณุกฺกนฺติกโต; องฺคสงฺกนฺติกโต, อารมฺมณสงฺกนฺติกโต, องฺคารมฺมณสงฺกนฺติกโต; องฺคววตฺถานโต, อารมฺมณววตฺถานโตติ อิเมหิ จุทฺทสหากาเรหิ จิตฺตํ ปริทเมตพฺพํฯ เตสํ วิตฺถารกถา วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๕-๓๖๖) วุตฺตาเยวฯ
‘Ekopi hutvā bahudhā hotī’tiādinayaṃ (dī. ni. 1.239; paṭi. ma. 1.102) pana vikubbanaṃ icchantena purimesu aṭṭhasu kasiṇesu aṭṭha samāpattiyo nibbattetvā kasiṇānulomato kasiṇapaṭilomato, kasiṇānulomapaṭilomato; jhānānulomato, jhānapaṭilomato, jhānānulomapaṭilomato; jhānukkantikato, kasiṇukkantikato, jhānakasiṇukkantikato; aṅgasaṅkantikato, ārammaṇasaṅkantikato, aṅgārammaṇasaṅkantikato; aṅgavavatthānato, ārammaṇavavatthānatoti imehi cuddasahākārehi cittaṃ paridametabbaṃ. Tesaṃ vitthārakathā visuddhimagge (visuddhi. 2.365-366) vuttāyeva.
เอวํ ปน จุทฺทสหากาเรหิ จิตฺตํ อปริทเมตฺวา, ปุเพฺพ อภาวิตภาวโน อาทิกมฺมิโก โยคาวจโร อิทฺธิวิกุพฺพนํ สมฺปาเทสฺสตีติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ อาทิกมฺมิกสฺส หิ กสิณปริกมฺมมฺปิ ภาโร; สเตสุ สหเสฺสสุ วา เอโกว สโกฺกติฯ กตกสิณปริกมฺมสฺส นิมิตฺตุปฺปาทนํ ภาโร; สเตสุ สหเสฺสสุ วา เอโกว สโกฺกติฯ อุปฺปเนฺน นิมิเตฺต ตํ วเฑฺฒตฺวา อปฺปนาธิคโม ภาโร, สเตสุ สหเสฺสสุ วา เอโกว สโกฺกติฯ อธิคตปฺปนสฺส จุทฺทสหากาเรหิ จิตฺตปริทมนํ ภาโร; สเตสุ สหเสฺสสุ วา เอโกว สโกฺกติฯ จุทฺทสหากาเรหิ ปริทมิตจิตฺตสฺสาปิ อิทฺธิวิกุพฺพนํ นาม ภาโร, สเตสุ สหเสฺสสุ วา เอโกว สโกฺกติฯ วิกุพฺพนปฺปตฺตสฺสาปิ ขิปฺปนิสนฺติภาโว นาม ภาโร; สเตสุ สหเสฺสสุ วา เอโกว ขิปฺปนิสนฺติ โหติฯ เถรมฺพตฺถเล มหาโรหนคุตฺตเตฺถรสฺส คิลานุปฎฺฐานํ อาคเตสุ ติํสมเตฺตสุ อิทฺธิมนฺตสหเสฺสสุ อุปสมฺปทาย อฎฺฐวสฺสิโก รกฺขิตเตฺถโร วิยฯ สพฺพํ วตฺถุ วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๗) วิตฺถาริตเมวาติฯ
Evaṃ pana cuddasahākārehi cittaṃ aparidametvā, pubbe abhāvitabhāvano ādikammiko yogāvacaro iddhivikubbanaṃ sampādessatīti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Ādikammikassa hi kasiṇaparikammampi bhāro; satesu sahassesu vā ekova sakkoti. Katakasiṇaparikammassa nimittuppādanaṃ bhāro; satesu sahassesu vā ekova sakkoti. Uppanne nimitte taṃ vaḍḍhetvā appanādhigamo bhāro, satesu sahassesu vā ekova sakkoti. Adhigatappanassa cuddasahākārehi cittaparidamanaṃ bhāro; satesu sahassesu vā ekova sakkoti. Cuddasahākārehi paridamitacittassāpi iddhivikubbanaṃ nāma bhāro, satesu sahassesu vā ekova sakkoti. Vikubbanappattassāpi khippanisantibhāvo nāma bhāro; satesu sahassesu vā ekova khippanisanti hoti. Therambatthale mahārohanaguttattherassa gilānupaṭṭhānaṃ āgatesu tiṃsamattesu iddhimantasahassesu upasampadāya aṭṭhavassiko rakkhitatthero viya. Sabbaṃ vatthu visuddhimagge (visuddhi. 2.367) vitthāritamevāti.
กสิณกถาฯ
Kasiṇakathā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธมฺมสงฺคณีปาฬิ • Dhammasaṅgaṇīpāḷi / รูปาวจรกุสลํ • Rūpāvacarakusalaṃ
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-มูลฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-mūlaṭīkā
อารมฺมณปฎิปทามิสฺสกวณฺณนา • Ārammaṇapaṭipadāmissakavaṇṇanā
กสิณกถาวณฺณนา • Kasiṇakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-อนุฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-anuṭīkā
ปฎิปทาจตุกฺกาทิวณฺณนา • Paṭipadācatukkādivaṇṇanā
กสิณกถาวณฺณนา • Kasiṇakathāvaṇṇanā