Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๑๐. อรญฺญสุตฺตวณฺณนา
10. Araññasuttavaṇṇanā
๑๐. ทสเม สนฺตานนฺติ สนฺตกิเลสานํ, ปณฺฑิตานํ วาฯ ‘‘สโนฺต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ (ชา. ๒.๒๑.๔๑๓), ทูเร สโนฺต ปกาสนฺตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๐๔) หิ ปณฺฑิตาปิ สโนฺตติ วุตฺตาฯ พฺรหฺมจารินนฺติ เสฎฺฐจารีนํ มคฺคพฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺตานํฯ เกน วโณฺณ ปสีทตีติ เกน การเณน ฉวิวโณฺณ ปสีทตีติ ปุจฺฉติฯ กสฺมา ปเนสา เอวํ ปุจฺฉติ? เอสา กิร วนสณฺฑวาสิกา ภุมฺมเทวตา อารญฺญเก ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกเนฺต อรญฺญํ ปวิสิตฺวา รตฺติฎฺฐานทิวาฎฺฐาเนสุ มูลกมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา นิสิเนฺน ปสฺสติฯ เตสญฺจ เอวํ นิสินฺนานํ พลวจิเตฺตกคฺคตา อุปฺปชฺชติฯ ตโต วิสภาคสนฺตติ วูปสมฺมติ, สภาคสนฺตติ โอกฺกมติ, จิตฺตํ ปสีทติฯ จิเตฺต ปสเนฺน โลหิตํ ปสีทติ, จิตฺตสมุฎฺฐานานิ อุปาทารูปานิ ปริสุทฺธานิ โหนฺติ, วณฺฎา ปมุตฺตตาลผลสฺส วิย มุขสฺส วโณฺณ โหติฯ ตํ ทิสฺวา เทวตา จิเนฺตสิ – ‘‘สรีรวโณฺณ นามายํ ปณีตานิ รสสมฺปนฺนานิ โภชนานิ สุขสมฺผสฺสานิ นิวาสนปาปุรณสยนานิ อุตุสุเข เตภูมิกาทิเภเท จ ปาสาเท มาลาคนฺธวิเลปนาทีนิ จ ลภนฺตานํ ปสีทติ, อิเม ปน ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา มิสฺสกภตฺตํ ภุญฺชนฺติ, วิรฬมญฺจเก วา ผลเก วา สิลาย วา สยนานิ กเปฺปนฺติ, รุกฺขมูลาทีสุ วา อโพฺภกาเส วา วสนฺติ, เกน นุ โข การเณน เอเตสํ วโณฺณ ปสีทตี’’ติฯ ตสฺมา ปุจฺฉิฯ
10. Dasame santānanti santakilesānaṃ, paṇḍitānaṃ vā. ‘‘Santo have sabbhi pavedayanti (jā. 2.21.413), dūre santo pakāsantī’’tiādīsu (dha. pa. 304) hi paṇḍitāpi santoti vuttā. Brahmacārinanti seṭṭhacārīnaṃ maggabrahmacariyavāsaṃ vasantānaṃ. Kena vaṇṇo pasīdatīti kena kāraṇena chavivaṇṇo pasīdatīti pucchati. Kasmā panesā evaṃ pucchati? Esā kira vanasaṇḍavāsikā bhummadevatā āraññake bhikkhū pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkante araññaṃ pavisitvā rattiṭṭhānadivāṭṭhānesu mūlakammaṭṭhānaṃ gahetvā nisinne passati. Tesañca evaṃ nisinnānaṃ balavacittekaggatā uppajjati. Tato visabhāgasantati vūpasammati, sabhāgasantati okkamati, cittaṃ pasīdati. Citte pasanne lohitaṃ pasīdati, cittasamuṭṭhānāni upādārūpāni parisuddhāni honti, vaṇṭā pamuttatālaphalassa viya mukhassa vaṇṇo hoti. Taṃ disvā devatā cintesi – ‘‘sarīravaṇṇo nāmāyaṃ paṇītāni rasasampannāni bhojanāni sukhasamphassāni nivāsanapāpuraṇasayanāni utusukhe tebhūmikādibhede ca pāsāde mālāgandhavilepanādīni ca labhantānaṃ pasīdati, ime pana bhikkhū piṇḍāya caritvā missakabhattaṃ bhuñjanti, viraḷamañcake vā phalake vā silāya vā sayanāni kappenti, rukkhamūlādīsu vā abbhokāse vā vasanti, kena nu kho kāraṇena etesaṃ vaṇṇo pasīdatī’’ti. Tasmā pucchi.
อถสฺสา ภควา การณํ กเถโนฺต ทุติยํ คาถํ อาหฯ ตตฺถ อตีตนฺติ อตีเต อสุโก นาม ราชา ธมฺมิโก อโหสิ, โส อมฺหากํ ปณีเต ปจฺจเย อทาสิฯ อาจริยุปชฺฌายา ลาภิโน อเหสุํฯ อถ มยํ เอวรูปานิ โภชนานิ ภุญฺชิมฺหา, จีวรานิ ปารุปิมฺหาติ เอวํ เอกเจฺจ ปจฺจยพาหุลฺลิกา วิย อิเม ภิกฺขู อตีตํ นานุโสจนฺติฯ นปฺปชปฺปนฺติ นาคตนฺติ อนาคเต ธมฺมิโก ราชา ภวิสฺสติ, ผีตา ชนปทา ภวิสฺสนฺติ, พหูนิ สปฺปินวนีตาทีนิ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, ‘‘ขาทถ ภุญฺชถา’’ติ ตตฺถ ตตฺถ วตฺตาโร ภวิสฺสนฺติ, ตทา มยํ เอวรูปานิ โภชนานิ ภุญฺชิสฺสาม, จีวรานิ ปารุปิสฺสามาติ เอวํ อนาคตํ น ปเตฺถนฺติฯ ปจฺจุปฺปเนฺนนาติ เยน เกนจิ ตงฺขเณ ลเทฺธน ยาเปนฺติฯ เตนาติ เตน ติวิเธนาปิ การเณนฯ
Athassā bhagavā kāraṇaṃ kathento dutiyaṃ gāthaṃ āha. Tattha atītanti atīte asuko nāma rājā dhammiko ahosi, so amhākaṃ paṇīte paccaye adāsi. Ācariyupajjhāyā lābhino ahesuṃ. Atha mayaṃ evarūpāni bhojanāni bhuñjimhā, cīvarāni pārupimhāti evaṃ ekacce paccayabāhullikā viya ime bhikkhū atītaṃ nānusocanti. Nappajappanti nāgatanti anāgate dhammiko rājā bhavissati, phītā janapadā bhavissanti, bahūni sappinavanītādīni uppajjissanti, ‘‘khādatha bhuñjathā’’ti tattha tattha vattāro bhavissanti, tadā mayaṃ evarūpāni bhojanāni bhuñjissāma, cīvarāni pārupissāmāti evaṃ anāgataṃ na patthenti. Paccuppannenāti yena kenaci taṅkhaṇe laddhena yāpenti. Tenāti tena tividhenāpi kāraṇena.
เอวํ วณฺณสมฺปตฺติํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ตเสฺสว วณฺณสฺส วินาสํ ทเสฺสโนฺต อนนฺตรํ คาถมาหฯ ตตฺถ อนาคตปฺปชปฺปายาติ อนาคตสฺส ปตฺถนายฯ เอเตนาติ เอเตน การณทฺวเยนฯ นโฬว หริโต ลุโตติ ยถา หริโต นโฬ ลายิตฺวา อุณฺหปาสาเณ ปกฺขิโตฺต สุสฺสติ, เอวํ สุสฺสนฺตีติฯ
Evaṃ vaṇṇasampattiṃ dassetvā idāni tasseva vaṇṇassa vināsaṃ dassento anantaraṃ gāthamāha. Tattha anāgatappajappāyāti anāgatassa patthanāya. Etenāti etena kāraṇadvayena. Naḷova harito lutoti yathā harito naḷo lāyitvā uṇhapāsāṇe pakkhitto sussati, evaṃ sussantīti.
อรญฺญสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ นฬวโคฺค ปฐโมฯ
Araññasuttavaṇṇanā niṭṭhitā. Naḷavaggo paṭhamo.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑๐. อรญฺญสุตฺตํ • 10. Araññasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑๐. อรญฺญสุตฺตวณฺณนา • 10. Araññasuttavaṇṇanā