Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi |
๗. อารญฺญิกวตฺตกถา
7. Āraññikavattakathā
๓๖๗. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู อรเญฺญ วิหรนฺติฯ เต เนว ปานียํ อุปฎฺฐาเปนฺติ, น ปริโภชนียํ อุปฎฺฐาเปนฺติ , น อคฺคิํ อุปฎฺฐาเปนฺติ, น อรณิสหิตํ อุปฎฺฐาเปนฺติ, น นกฺขตฺตปทานิ ชานนฺติ, น ทิสาภาคํ ชานนฺติฯ โจรา ตตฺถ คนฺตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘อตฺถิ, ภเนฺต, ปานีย’’นฺติ? ‘‘นตฺถาวุโส’’ติฯ ‘‘อตฺถิ, ภเนฺต, ปริโภชนีย’’นฺติ? ‘‘นตฺถาวุโส’’ติฯ ‘‘อตฺถิ, ภเนฺต, อคฺคี’’ติ? ‘‘นตฺถาวุโส’’ติฯ ‘‘อตฺถิ, ภเนฺต, อรณิสหิต’’นฺติ? ‘‘นตฺถาวุโส’’ติฯ ( ) 1 ‘‘เกนชฺช, ภเนฺต, ยุตฺต’’นฺติ? ‘‘น โข มยํ, อาวุโส, ชานามา’’ติฯ ‘‘กตมายํ, ภเนฺต, ทิสา’’ติ? ‘‘น โข มยํ, อาวุโส, ชานามา’’ติฯ อถ โข เต โจรา – ‘เนวิเมสํ ปานียํ อตฺถิ, น ปริโภชนียํ อตฺถิ, น อคฺคิ อตฺถิ, น อรณิสหิตํ อตฺถิ, น นกฺขตฺตปทานิ ชานนฺติ, น ทิสาภาคํ ชานนฺติ; โจรา อิเม, นยิเม ภิกฺขู’ติ – อาโกเฎตฺวา ปกฺกมิํสุฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ –
367. Tena kho pana samayena sambahulā bhikkhū araññe viharanti. Te neva pānīyaṃ upaṭṭhāpenti, na paribhojanīyaṃ upaṭṭhāpenti , na aggiṃ upaṭṭhāpenti, na araṇisahitaṃ upaṭṭhāpenti, na nakkhattapadāni jānanti, na disābhāgaṃ jānanti. Corā tattha gantvā te bhikkhū etadavocuṃ – ‘‘atthi, bhante, pānīya’’nti? ‘‘Natthāvuso’’ti. ‘‘Atthi, bhante, paribhojanīya’’nti? ‘‘Natthāvuso’’ti. ‘‘Atthi, bhante, aggī’’ti? ‘‘Natthāvuso’’ti. ‘‘Atthi, bhante, araṇisahita’’nti? ‘‘Natthāvuso’’ti. ( ) 2 ‘‘Kenajja, bhante, yutta’’nti? ‘‘Na kho mayaṃ, āvuso, jānāmā’’ti. ‘‘Katamāyaṃ, bhante, disā’’ti? ‘‘Na kho mayaṃ, āvuso, jānāmā’’ti. Atha kho te corā – ‘nevimesaṃ pānīyaṃ atthi, na paribhojanīyaṃ atthi, na aggi atthi, na araṇisahitaṃ atthi, na nakkhattapadāni jānanti, na disābhāgaṃ jānanti; corā ime, nayime bhikkhū’ti – ākoṭetvā pakkamiṃsu. Atha kho te bhikkhū bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesuṃ. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi –
๓๖๘. ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, อารญฺญิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ปญฺญเปสฺสามิ ยถา อารญฺญิเกหิ ภิกฺขูหิ สมฺมา วตฺติตพฺพํฯ อารญฺญิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา กาลเสฺสว อุฎฺฐาย ปตฺตํ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา อํเส อาลเคฺคตฺวา จีวรํ ขเนฺธ กริตฺวา อุปาหนา อาโรหิตฺวา ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ ปฎิสาเมตฺวา ทฺวารวาตปานํ ถเกตฺวา เสนาสนา โอตริตพฺพํ – อิทานิ คามํ ปวิสิสฺสามีติฯ อุปาหนา โอมุญฺจิตฺวา นีจํ กตฺวา ปโปฺผเฎตฺวา ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา อํเส อาลเคฺคตฺวา ติมณฺฑลํ ปฎิจฺฉาเทเนฺตน ปริมณฺฑลํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฎิโย ปารุปิตฺวา คณฺฐิกํ ปฎิมุญฺจิตฺวา โธวิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา สาธุกํ อตรมาเนน คาโม ปวิสิตโพฺพฯ สุปฺปฎิจฺฉเนฺนน อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํ…เป.… น ขมฺภกเตน อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํฯ น โอคุณฺฐิเตน อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํฯ น อุกฺกุฎิกาย อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํฯ
368. ‘‘Tena hi, bhikkhave, āraññikānaṃ bhikkhūnaṃ vattaṃ paññapessāmi yathā āraññikehi bhikkhūhi sammā vattitabbaṃ. Āraññikena, bhikkhave, bhikkhunā kālasseva uṭṭhāya pattaṃ thavikāya pakkhipitvā aṃse ālaggetvā cīvaraṃ khandhe karitvā upāhanā ārohitvā dārubhaṇḍaṃ mattikābhaṇḍaṃ paṭisāmetvā dvāravātapānaṃ thaketvā senāsanā otaritabbaṃ – idāni gāmaṃ pavisissāmīti. Upāhanā omuñcitvā nīcaṃ katvā papphoṭetvā thavikāya pakkhipitvā aṃse ālaggetvā timaṇḍalaṃ paṭicchādentena parimaṇḍalaṃ nivāsetvā kāyabandhanaṃ bandhitvā saguṇaṃ katvā saṅghāṭiyo pārupitvā gaṇṭhikaṃ paṭimuñcitvā dhovitvā pattaṃ gahetvā sādhukaṃ ataramānena gāmo pavisitabbo. Suppaṭicchannena antaraghare gantabbaṃ…pe… na khambhakatena antaraghare gantabbaṃ. Na oguṇṭhitena antaraghare gantabbaṃ. Na ukkuṭikāya antaraghare gantabbaṃ.
‘‘นิเวสนํ ปวิสเนฺตน สลฺลเกฺขตพฺพํ – ‘อิมินา ปวิสิสฺสามิ, อิมินา นิกฺขมิสฺสามี’ติฯ นาติสหสา ปวิสิตพฺพํฯ นาติสหสา นิกฺขมิตพฺพํฯ นาติทูเร ฐาตพฺพํฯ นาจฺจาสเนฺน ฐาตพฺพํฯ นาติจิรํ ฐาตพฺพํฯ นาติลหุํ นิวตฺติตพฺพํฯ ฐิตเกน สลฺลเกฺขตพฺพํ – ‘ภิกฺขํ ทาตุกามา วา อทาตุกามา วา’ติฯ สเจ กมฺมํ วา นิกฺขิปติ, อาสนา วา วุฎฺฐาติ, กฎจฺฉุํ วา ปรามสติ, ภาชนํ วา ปรามสติ, ฐเปติ วา – ทาตุกามสฺสาติ ฐาตพฺพํฯ ภิกฺขาย ทิยฺยมานาย วาเมน หเตฺถน สงฺฆาฎิํ อุจฺจาเรตฺวา ทกฺขิเณน หเตฺถน ปตฺตํ ปณาเมตฺวา อุโภหิ หเตฺถหิ ปตฺตํ ปฎิคฺคเหตฺวา ภิกฺขา ปฎิคฺคเหตพฺพาฯ น จ ภิกฺขาทายิกาย มุขํ อุโลฺลเกตพฺพํฯ สลฺลเกฺขตพฺพํ – ‘สูปํ ทาตุกามา วา อทาตุกามา วา’ติฯ สเจ กฎจฺฉุ วา ปรามสติ, ภาชนํ วา ปรามสติ, ฐเปติ วา – ทาตุกามสฺสาติ ฐาตพฺพํฯ ภิกฺขาย ทินฺนาย สงฺฆาฎิยา ปตฺตํ ปฎิจฺฉาเทตฺวา สาธุกํ อตรมาเนน นิวตฺติตพฺพํฯ
‘‘Nivesanaṃ pavisantena sallakkhetabbaṃ – ‘iminā pavisissāmi, iminā nikkhamissāmī’ti. Nātisahasā pavisitabbaṃ. Nātisahasā nikkhamitabbaṃ. Nātidūre ṭhātabbaṃ. Nāccāsanne ṭhātabbaṃ. Nāticiraṃ ṭhātabbaṃ. Nātilahuṃ nivattitabbaṃ. Ṭhitakena sallakkhetabbaṃ – ‘bhikkhaṃ dātukāmā vā adātukāmā vā’ti. Sace kammaṃ vā nikkhipati, āsanā vā vuṭṭhāti, kaṭacchuṃ vā parāmasati, bhājanaṃ vā parāmasati, ṭhapeti vā – dātukāmassāti ṭhātabbaṃ. Bhikkhāya diyyamānāya vāmena hatthena saṅghāṭiṃ uccāretvā dakkhiṇena hatthena pattaṃ paṇāmetvā ubhohi hatthehi pattaṃ paṭiggahetvā bhikkhā paṭiggahetabbā. Na ca bhikkhādāyikāya mukhaṃ ulloketabbaṃ. Sallakkhetabbaṃ – ‘sūpaṃ dātukāmā vā adātukāmā vā’ti. Sace kaṭacchu vā parāmasati, bhājanaṃ vā parāmasati, ṭhapeti vā – dātukāmassāti ṭhātabbaṃ. Bhikkhāya dinnāya saṅghāṭiyā pattaṃ paṭicchādetvā sādhukaṃ ataramānena nivattitabbaṃ.
‘‘สุปฺปฎิจฺฉเนฺนน อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํ…เป.… น อุกฺกุฎิกาย อนฺตรฆเร คนฺตพฺพํฯ คามโต นิกฺขมิตฺวา ปตฺตํ ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา อํเส อาลเคฺคตฺวา จีวรํ สงฺฆริตฺวา สีเส กริตฺวา อุปาหนา อาโรหิตฺวา คนฺตพฺพํฯ
‘‘Suppaṭicchannena antaraghare gantabbaṃ…pe… na ukkuṭikāya antaraghare gantabbaṃ. Gāmato nikkhamitvā pattaṃ thavikāya pakkhipitvā aṃse ālaggetvā cīvaraṃ saṅgharitvā sīse karitvā upāhanā ārohitvā gantabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ปานียํ อุปฎฺฐาเปตพฺพํ, ปริโภชนียํ อุปฎฺฐาเปตพฺพํ, อคฺคิ อุปฎฺฐาเปตโพฺพ, อรณิสหิตํ อุปฎฺฐาเปตพฺพํ, กตฺตรทโณฺฑ อุปฎฺฐาเปตโพฺพ, นกฺขตฺตปทานิ อุคฺคเหตพฺพานิ – สกลานิ วา เอกเทสานิ วา, ทิสากุสเลน ภวิตพฺพํฯ อิทํ โข, ภิกฺขเว, อารญฺญิกานํ ภิกฺขูนํ วตฺตํ ยถา อารญฺญิเกหิ ภิกฺขูหิ สมฺมา วตฺติตพฺพ’’นฺติฯ
‘‘Āraññikena, bhikkhave, bhikkhunā pānīyaṃ upaṭṭhāpetabbaṃ, paribhojanīyaṃ upaṭṭhāpetabbaṃ, aggi upaṭṭhāpetabbo, araṇisahitaṃ upaṭṭhāpetabbaṃ, kattaradaṇḍo upaṭṭhāpetabbo, nakkhattapadāni uggahetabbāni – sakalāni vā ekadesāni vā, disākusalena bhavitabbaṃ. Idaṃ kho, bhikkhave, āraññikānaṃ bhikkhūnaṃ vattaṃ yathā āraññikehi bhikkhūhi sammā vattitabba’’nti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / อารญฺญิกวตฺตกถา • Āraññikavattakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อารญฺญิกวตฺตกถาวณฺณนา • Āraññikavattakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปิณฺฑจาริกวตฺตกถาทิวณฺณนา • Piṇḍacārikavattakathādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๗. อารญฺญิกวตฺตกถา • 7. Āraññikavattakathā