Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๒. อรติสุตฺตํ
2. Aratisuttaṃ
๒๑๐. เอกํ สมยํ…เป.… อายสฺมา วงฺคีโส อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเย อายสฺมตา นิโคฺรธกเปฺปน อุปชฺฌาเยน สทฺธิํฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นิโคฺรธกโปฺป ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกโนฺต วิหารํ ปวิสติ, สายํ วา นิกฺขมติ อปรชฺชุ วา กาเลฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต วงฺคีสสฺส อนภิรติ อุปฺปนฺนา โหติ, ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติฯ อถ โข อายสฺมโต วงฺคีสสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อลาภา วต เม, น วต เม ลาภา; ทุลฺลทฺธํ วต เม, น วต เม สุลทฺธํ; ยสฺส เม อนภิรติ อุปฺปนฺนา, ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสติ; ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา, ยํ เม ปโร อนภิรติํ วิโนเทตฺวา อภิรติํ อุปฺปาเทยฺยฯ ยํนูนาหํ อตฺตนาว อตฺตโน อนภิรติํ วิโนเทตฺวา อภิรติํ อุปฺปาเทยฺย’’นฺติฯ อถ โข อายสฺมา วงฺคีโส อตฺตนาว อตฺตโน อนภิรติํ วิโนเทตฺวา อภิรติํ อุปฺปาเทตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
210. Ekaṃ samayaṃ…pe… āyasmā vaṅgīso āḷaviyaṃ viharati aggāḷave cetiye āyasmatā nigrodhakappena upajjhāyena saddhiṃ. Tena kho pana samayena āyasmā nigrodhakappo pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkanto vihāraṃ pavisati, sāyaṃ vā nikkhamati aparajju vā kāle. Tena kho pana samayena āyasmato vaṅgīsassa anabhirati uppannā hoti, rāgo cittaṃ anuddhaṃseti. Atha kho āyasmato vaṅgīsassa etadahosi – ‘‘alābhā vata me, na vata me lābhā; dulladdhaṃ vata me, na vata me suladdhaṃ; yassa me anabhirati uppannā, rāgo cittaṃ anuddhaṃseti; taṃ kutettha labbhā, yaṃ me paro anabhiratiṃ vinodetvā abhiratiṃ uppādeyya. Yaṃnūnāhaṃ attanāva attano anabhiratiṃ vinodetvā abhiratiṃ uppādeyya’’nti. Atha kho āyasmā vaṅgīso attanāva attano anabhiratiṃ vinodetvā abhiratiṃ uppādetvā tāyaṃ velāyaṃ imā gāthāyo abhāsi –
‘‘อรติญฺจ รติญฺจ ปหาย, สพฺพโส เคหสิตญฺจ วิตกฺกํ;
‘‘Aratiñca ratiñca pahāya, sabbaso gehasitañca vitakkaṃ;
วนถํ น กเรยฺย กุหิญฺจิ, นิพฺพนโถ อรโต ส หิ ภิกฺขุ 1ฯ
Vanathaṃ na kareyya kuhiñci, nibbanatho arato sa hi bhikkhu 2.
‘‘ยมิธ ปถวิญฺจ เวหาสํ, รูปคตญฺจ ชคโตคธํ;
‘‘Yamidha pathaviñca vehāsaṃ, rūpagatañca jagatogadhaṃ;
กิญฺจิ ปริชียติ สพฺพมนิจฺจํ, เอวํ สเมจฺจ จรนฺติ มุตตฺตาฯ
Kiñci parijīyati sabbamaniccaṃ, evaṃ samecca caranti mutattā.
‘‘อุปธีสุ ชนา คธิตาเส 3, ทิฎฺฐสุเต ปฎิเฆ จ มุเต จ;
‘‘Upadhīsu janā gadhitāse 4, diṭṭhasute paṭighe ca mute ca;
เอตฺถ วิโนทย ฉนฺทมเนโช, โย เอตฺถ น ลิมฺปติ ตํ มุนิมาหุฯ
Ettha vinodaya chandamanejo, yo ettha na limpati taṃ munimāhu.
‘‘อถ สฎฺฐินิสฺสิตา สวิตกฺกา, ปุถู ชนตาย อธมฺมา นิวิฎฺฐา;
‘‘Atha saṭṭhinissitā savitakkā, puthū janatāya adhammā niviṭṭhā;
น จ วคฺคคตสฺส กุหิญฺจิ, โน ปน ทุฎฺฐุลฺลภาณี ส ภิกฺขุฯ
Na ca vaggagatassa kuhiñci, no pana duṭṭhullabhāṇī sa bhikkhu.
‘‘ทโพฺพ จิรรตฺตสมาหิโต, อกุหโก นิปโก อปิหาลุ;
‘‘Dabbo cirarattasamāhito, akuhako nipako apihālu;
สนฺตํ ปทํ อชฺฌคมา มุนิ ปฎิจฺจ, ปรินิพฺพุโต กงฺขติ กาล’’นฺตฺนฺตฺติฯ
Santaṃ padaṃ ajjhagamā muni paṭicca, parinibbuto kaṅkhati kāla’’ntntti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. อรตีสุตฺตวณฺณนา • 2. Aratīsuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. อรติสุตฺตวณฺณนา • 2. Aratisuttavaṇṇanā