Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๔. อรุณวตีสุตฺตวณฺณนา
4. Aruṇavatīsuttavaṇṇanā
๑๘๕. จตุเตฺถ อภิภูสมฺภวนฺติ อภิภู จ สมฺภโว จฯ เตสุ อภิภูเถโร สาริปุตฺตเตฺถโร วิย ปญฺญาย อโคฺค, สมฺภวเตฺถโร มหาโมคฺคลฺลาโน วิย สมาธินา อโคฺคฯ อุชฺฌายนฺตีติ อวชฺฌายนฺติ, ลามกโต วา จิเนฺตนฺติฯ ขิยฺยนฺตีติ, กินฺนาเมตํ กินฺนาเมตนฺติ? อญฺญมญฺญํ กเถนฺติฯ วิปาเจนฺตีติ วิตฺถารยนฺตา ปุนปฺปุนํ กเถนฺติฯ เหฎฺฐิเมน อุปฑฺฒกาเยนาติ นาภิโต ปฎฺฐาย เหฎฺฐิมกาเยนฯ ปาฬิยํ เอตฺตกเมว อาคตํฯ เถโร ปน ‘‘ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา นาควณฺณํ คเหตฺวา ทเสฺสติ, สุปณฺณวณฺณํ คเหตฺวา วา ทเสฺสตี’’ติอาทินา (ปฎิ. ม. ๓.๑๓) นเยน อาคตํ อเนกปฺปการํ อิทฺธิวิกุพฺพนํ ทเสฺสสิฯ อิมา คาถาโย อภาสีติ เถโร กิร จิเนฺตสิ – ‘‘กถํ เทสิตา นุ โข ธมฺมเทสนา สเพฺพสํ ปิยา อสฺส มนาปา’’ติฯ ตโต อาวเชฺชโนฺต – ‘‘สเพฺพปิ ปาสณฺฑา สเพฺพ เทวมนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน สมเย ปุริสการํ วณฺณยนฺติ, วีริยสฺส อวณฺณวาที นาม นตฺถิ, วีริยปฎิสํยุตฺตํ กตฺวา เทเสสฺสามิ, เอวํ อยํ ธมฺมเทสนา สเพฺพสํ ปิยา ภวิสฺสติ มนาปา’’ติ ญตฺวา ตีสุ ปิฎเกสุ วิจินิตฺวา อิมา คาถา อภาสิฯ
185. Catutthe abhibhūsambhavanti abhibhū ca sambhavo ca. Tesu abhibhūthero sāriputtatthero viya paññāya aggo, sambhavatthero mahāmoggallāno viya samādhinā aggo. Ujjhāyantīti avajjhāyanti, lāmakato vā cintenti. Khiyyantīti, kinnāmetaṃ kinnāmetanti? Aññamaññaṃ kathenti. Vipācentīti vitthārayantā punappunaṃ kathenti. Heṭṭhimena upaḍḍhakāyenāti nābhito paṭṭhāya heṭṭhimakāyena. Pāḷiyaṃ ettakameva āgataṃ. Thero pana ‘‘pakativaṇṇaṃ vijahitvā nāgavaṇṇaṃ gahetvā dasseti, supaṇṇavaṇṇaṃ gahetvā vā dassetī’’tiādinā (paṭi. ma. 3.13) nayena āgataṃ anekappakāraṃ iddhivikubbanaṃ dassesi. Imā gāthāyo abhāsīti thero kira cintesi – ‘‘kathaṃ desitā nu kho dhammadesanā sabbesaṃ piyā assa manāpā’’ti. Tato āvajjento – ‘‘sabbepi pāsaṇḍā sabbe devamanussā attano attano samaye purisakāraṃ vaṇṇayanti, vīriyassa avaṇṇavādī nāma natthi, vīriyapaṭisaṃyuttaṃ katvā desessāmi, evaṃ ayaṃ dhammadesanā sabbesaṃ piyā bhavissati manāpā’’ti ñatvā tīsu piṭakesu vicinitvā imā gāthā abhāsi.
ตตฺถ อารมฺภถาติ อารมฺภวีริยํ กโรถฯ นิกฺกมถาติ นิกฺกมวีริยํ กโรถฯ ยุญฺชถาติ ปโยคํ กโรถ ปรกฺกมถฯ มจฺจุโน เสนนฺติ มจฺจุโน เสนา นาม กิเลสเสนา, ตํ ธุนาถฯ ชาติสํสารนฺติ ชาติญฺจ สํสารญฺจ, ชาติสงฺขาตํ วา สํสารํฯ ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตีติ วฎฺฎทุกฺขสฺส ปริเจฺฉทํ กริสฺสติฯ กิํ ปน กตฺวา เถโร สหสฺสิโลกธาตุํ วิญฺญาเปสีติ? นีลกสิณํ ตาว สมาปชฺชิตฺวา สพฺพตฺถ อาโลกฎฺฐาเน อนฺธการํ ผริ, โอทาตกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา อนฺธการฎฺฐาเน โอภาสํฯ ตโต ‘‘กิมิทํ อนฺธการ’’นฺติ? สตฺตานํ อาโภเค อุปฺปเนฺน อาโลกํ ทเสฺสสิฯ อาโลกฎฺฐาเน อาโลกกิจฺจํ นตฺถิ, ‘‘กิํ อาโลโก อย’’นฺติ? วิจินนฺตานํ อตฺตานํ ทเสฺสสิฯ อถ เตสํ เถโรติ วทนฺตานํ อิมา คาถาโย อภาสิ, สเพฺพ โอสฎาย ปริสาย มเชฺฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส วิย สทฺทํ สุณิํสุฯ อโตฺถปิ เนสํ ปากโฎ อโหสิฯ จตุตฺถํฯ
Tattha ārambhathāti ārambhavīriyaṃ karotha. Nikkamathāti nikkamavīriyaṃ karotha. Yuñjathāti payogaṃ karotha parakkamatha. Maccuno senanti maccuno senā nāma kilesasenā, taṃ dhunātha. Jātisaṃsāranti jātiñca saṃsārañca, jātisaṅkhātaṃ vā saṃsāraṃ. Dukkhassantaṃ karissatīti vaṭṭadukkhassa paricchedaṃ karissati. Kiṃ pana katvā thero sahassilokadhātuṃ viññāpesīti? Nīlakasiṇaṃ tāva samāpajjitvā sabbattha ālokaṭṭhāne andhakāraṃ phari, odātakasiṇaṃ samāpajjitvā andhakāraṭṭhāne obhāsaṃ. Tato ‘‘kimidaṃ andhakāra’’nti? Sattānaṃ ābhoge uppanne ālokaṃ dassesi. Ālokaṭṭhāne ālokakiccaṃ natthi, ‘‘kiṃ āloko aya’’nti? Vicinantānaṃ attānaṃ dassesi. Atha tesaṃ theroti vadantānaṃ imā gāthāyo abhāsi, sabbe osaṭāya parisāya majjhe nisīditvā dhammaṃ desentassa viya saddaṃ suṇiṃsu. Atthopi nesaṃ pākaṭo ahosi. Catutthaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๔. อรุณวตีสุตฺตํ • 4. Aruṇavatīsuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔. อรุณวตีสุตฺตวณฺณนา • 4. Aruṇavatīsuttavaṇṇanā