Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๑๖. อรูปธมฺมววตฺถานทุกฺกรปโญฺห
16. Arūpadhammavavatthānadukkarapañho
๑๖. ราชา อาห ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ทุกฺกรํ นุ โข ภควตา กต’’นฺติ? เถโร อาห ‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กต’’นฺติฯ ‘‘กิํ ปน, ภเนฺต นาคเสน, ภควตา ทุกฺกรํ กต’’นฺติฯ ‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตํ อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ วตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาตํ ‘อยํ ผโสฺส, อยํ เวทนา, อยํ สญฺญา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’’’นฺติฯ
16. Rājā āha ‘‘bhante nāgasena, dukkaraṃ nu kho bhagavatā kata’’nti? Thero āha ‘‘dukkaraṃ, mahārāja, bhagavatā kata’’nti. ‘‘Kiṃ pana, bhante nāgasena, bhagavatā dukkaraṃ kata’’nti. ‘‘Dukkaraṃ, mahārāja, bhagavatā kataṃ imesaṃ arūpīnaṃ cittacetasikānaṃ dhammānaṃ ekārammaṇe vattamānānaṃ vavatthānaṃ akkhātaṃ ‘ayaṃ phasso, ayaṃ vedanā, ayaṃ saññā, ayaṃ cetanā, idaṃ citta’’’nti.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติฯ ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส นาวาย มหาสมุทฺทํ อโชฺฌคาเหตฺวา หตฺถปุเฎน อุทกํ คเหตฺวา ชิวฺหาย สายิตฺวา ชาเนยฺย นุ โข, มหาราช, โส ปุริโส ‘‘อิทํ คงฺคาย อุทกํ, อิทํ ยมุนาย อุทกํ, อิทํ อจิรวติยา อุทกํ, อิทํ สรภุยา อุทกํ, อิทํ มหิยา อุทก’’’นฺติ? ‘‘ทุกฺกรํ, ภเนฺต, ชานิตุ’’นฺติฯ ‘‘อิโต ทุกฺกรตรํ โข, มหาราช, ภควตา กตํ อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ วตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาตํ ‘อยํ ผโสฺส, อยํ เวทนา, อยํ สญฺญา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’’’นฺติฯ ‘‘สุฎฺฐุ, ภเนฺต’’ติ ราชา อพฺภานุโมทีติฯ
‘‘Opammaṃ karohī’’ti. ‘‘Yathā, mahārāja, kocideva puriso nāvāya mahāsamuddaṃ ajjhogāhetvā hatthapuṭena udakaṃ gahetvā jivhāya sāyitvā jāneyya nu kho, mahārāja, so puriso ‘‘idaṃ gaṅgāya udakaṃ, idaṃ yamunāya udakaṃ, idaṃ aciravatiyā udakaṃ, idaṃ sarabhuyā udakaṃ, idaṃ mahiyā udaka’’’nti? ‘‘Dukkaraṃ, bhante, jānitu’’nti. ‘‘Ito dukkarataraṃ kho, mahārāja, bhagavatā kataṃ imesaṃ arūpīnaṃ cittacetasikānaṃ dhammānaṃ ekārammaṇe vattamānānaṃ vavatthānaṃ akkhātaṃ ‘ayaṃ phasso, ayaṃ vedanā, ayaṃ saññā, ayaṃ cetanā, idaṃ citta’’’nti. ‘‘Suṭṭhu, bhante’’ti rājā abbhānumodīti.
อรูปธมฺมววตฺถานทุกฺกรปโญฺห โสฬสโมฯ
Arūpadhammavavatthānadukkarapañho soḷasamo.
อรูปธมฺมววตฺถานวโคฺค สตฺตโมฯ
Arūpadhammavavatthānavaggo sattamo.
อิมสฺมิํ วเคฺค โสฬส ปญฺหาฯ
Imasmiṃ vagge soḷasa pañhā.