Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณี-มูลฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-mūlaṭīkā

    อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา

    Arūpāvacarakusalakathāvaṇṇanā

    ๒๖๕. สพฺพากาเรนาติ เอวํ รูปนิมิตฺตํ ทณฺฑาทานสมฺภวทสฺสนาทินา สเพฺพน รูปรูปนิมิเตฺตสุ ตทารมฺมณชฺฌาเนสุ โทสทสฺสนากาเรน, รูปาทีสุ นิกนฺติปฺปหานอนาวชฺชิตุกามตาทินา วาฯ วิราคาติ ชิคุจฺฉนาฯ อาเนญฺชาภิสงฺขารวจนาทีหิ อาเนญฺชตา ‘‘สนฺตา อิเม จุนฺท อริยสฺส วินเย วิโมกฺขา’’ติอาทินา สนฺตวิโมกฺขตา จ วุตฺตาฯ โทสทสฺสนปฎิปกฺขภาวนาวเสน ปฎิฆสญฺญานํ สุปฺปหีนตฺตา มหตาปิ สเทฺทน อรูปสมาปตฺติโต น วุฎฺฐาติฯ ตถา ปน น สุปฺปหีนตฺตา สพฺพรูปสมาปตฺติโต วุฎฺฐานํ สิยา, ปฐมชฺฌานํ ปน อปฺปกมฺปิ สทฺทํ น สหตีติ ตํ สมาปนฺนสฺส สโทฺท กณฺฎโกติ วุตฺตํฯ

    265. Sabbākārenāti evaṃ rūpanimittaṃ daṇḍādānasambhavadassanādinā sabbena rūparūpanimittesu tadārammaṇajjhānesu dosadassanākārena, rūpādīsu nikantippahānaanāvajjitukāmatādinā vā. Virāgāti jigucchanā. Āneñjābhisaṅkhāravacanādīhi āneñjatā ‘‘santā ime cunda ariyassa vinaye vimokkhā’’tiādinā santavimokkhatā ca vuttā. Dosadassanapaṭipakkhabhāvanāvasena paṭighasaññānaṃ suppahīnattā mahatāpi saddena arūpasamāpattito na vuṭṭhāti. Tathā pana na suppahīnattā sabbarūpasamāpattito vuṭṭhānaṃ siyā, paṭhamajjhānaṃ pana appakampi saddaṃ na sahatīti taṃ samāpannassa saddo kaṇṭakoti vuttaṃ.

    อารุปฺปภาวนาย อภาเว จุติโต อุทฺธํ อุปฺปตฺติรหานํ รูปสญฺญาปฎิฆสญฺญานํ ยาว อตฺตโน วิปากปฺปวตฺติ, ตาว อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน สมติกฺกโม อตฺถงฺคโม จ วุโตฺตฯ นานตฺตสญฺญาสุ ปน ยา ตสฺมิํ ภเว น อุปฺปชฺชนฺติ, ตา อโนกาสตาย น อุปฺปชฺชนฺติ, น อารุปฺปภาวนาย นิวาริตตฺตาฯ อนิวาริตตฺตา จ กาจิ อุปฺปชฺชนฺติฯ ตสฺมา ตาสํ อมนสิกาโร อนาวชฺชนํ อปจฺจเวกฺขณํ, ชวนปฎิปาทเกน วา ภวงฺคมนสฺส อนฺตเร อกรณํ อปฺปเวสนํ วุตฺตํ, เตน จ นานตฺตสญฺญามนสิการเหตูนํ รูปานํ สมติกฺกมา สมาธิสฺส ถิรภาวํ ทเสฺสติฯ รูปสมติกฺกมาภาเวเนว หิ รูปสมาปตฺตีสุ ‘‘นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา’’ติ เอกสฺส อวจนนฺติฯ โก อานิสํโส, น หิ สพฺพสฺสาทวตฺถุรหิเต อากาเส ปวตฺติตสญฺญาย อานิสํโส ทิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติฯ รูปสญฺญาสมติกฺกมนาทิกํ วจนํ อานิสํสสฺส ปกาสนํ, น อโตฺถฯ

    Āruppabhāvanāya abhāve cutito uddhaṃ uppattirahānaṃ rūpasaññāpaṭighasaññānaṃ yāva attano vipākappavatti, tāva anuppattidhammatāpādanena samatikkamo atthaṅgamo ca vutto. Nānattasaññāsu pana yā tasmiṃ bhave na uppajjanti, tā anokāsatāya na uppajjanti, na āruppabhāvanāya nivāritattā. Anivāritattā ca kāci uppajjanti. Tasmā tāsaṃ amanasikāro anāvajjanaṃ apaccavekkhaṇaṃ, javanapaṭipādakena vā bhavaṅgamanassa antare akaraṇaṃ appavesanaṃ vuttaṃ, tena ca nānattasaññāmanasikārahetūnaṃ rūpānaṃ samatikkamā samādhissa thirabhāvaṃ dasseti. Rūpasamatikkamābhāveneva hi rūpasamāpattīsu ‘‘nānattasaññānaṃ amanasikārā’’ti ekassa avacananti. Ko ānisaṃso, na hi sabbassādavatthurahite ākāse pavattitasaññāya ānisaṃso dissatīti vuttaṃ hoti. Rūpasaññāsamatikkamanādikaṃ vacanaṃ ānisaṃsassa pakāsanaṃ, na attho.

    อญฺญตฺถาติ สุเตฺตสุฯ ตตฺถ หิ ปริตฺตกสิณุคฺฆาฎเนปิ รูปวิเวกมตฺตคฺคหเณน ปริเจฺฉทสฺส อคฺคหณโต อนนฺตผรณตา จ วุตฺตา, อิธ ปน อนนฺตผรณตาสพฺภาเวปิ อุคฺฆาฎิตกสิณวเสน ปริตฺตานนฺตตา โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อนโนฺต อากาโส’’ติ น วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโยฯ สมยววตฺถาปนฌานวิเสสเนเนเวตฺถ อโตฺถ, น ปฎิปตฺติยาติ ตทวจนํฯ

    Aññatthāti suttesu. Tattha hi parittakasiṇugghāṭanepi rūpavivekamattaggahaṇena paricchedassa aggahaṇato anantapharaṇatā ca vuttā, idha pana anantapharaṇatāsabbhāvepi ugghāṭitakasiṇavasena parittānantatā hotīti dassanatthaṃ ‘‘ananto ākāso’’ti na vuttanti adhippāyo. Samayavavatthāpanajhānavisesanenevettha attho, na paṭipattiyāti tadavacanaṃ.

    ๒๖๖. ปฐมารุปฺปวิญฺญาณํ อตฺตโน ผรณากาเรเนว อนนฺตนฺติ มนสิกาตพฺพตฺตา ‘‘อนนฺต’’นฺติ วุตฺตํฯ อุคฺฆาฎภาโว อุคฺฆาฎิมํ

    266. Paṭhamāruppaviññāṇaṃ attano pharaṇākāreneva anantanti manasikātabbattā ‘‘ananta’’nti vuttaṃ. Ugghāṭabhāvo ugghāṭimaṃ.

    ๒๖๗. อกิญฺจนนฺติ วิญฺญาณสฺส กิญฺจิ ปการํ อคฺคเหตฺวา สเพฺพน สพฺพํ วิภาวนํ อาหฯ

    267. Akiñcananti viññāṇassa kiñci pakāraṃ aggahetvā sabbena sabbaṃ vibhāvanaṃ āha.

    ๒๖๘. ยายาติ สงฺขาราวเสสสญฺญายฯ ตํ ตาว ปฎิปตฺติํฯ อาวชฺชิสฺสามีติอาทินา ตนฺนินฺนาวชฺชนาทิปวตฺติยา อภาวํ ทเสฺสติ, น ตทติกฺกมนตฺถาย อาวชฺชนภาวนาปวตฺติยาฯ นาสญฺญาติ สญฺญาภาโว จ เอติสฺสา อตฺถีติ อโตฺถฯ สมูหคหณวเสน ปวตฺตํ กลาปสมฺมสนํฯ ผสฺสาทิเอเกกธมฺมคหณวเสน ปวตฺตา อนุปทธมฺมวิปสฺสนา

    268. Yāyāti saṅkhārāvasesasaññāya. Taṃ tāva paṭipattiṃ. Āvajjissāmītiādinā tanninnāvajjanādipavattiyā abhāvaṃ dasseti, na tadatikkamanatthāya āvajjanabhāvanāpavattiyā. Nāsaññāti saññābhāvo ca etissā atthīti attho. Samūhagahaṇavasena pavattaṃ kalāpasammasanaṃ. Phassādiekekadhammagahaṇavasena pavattā anupadadhammavipassanā.

    อากาเส ปวตฺติตวิญฺญาณาติกฺกมโต ตติยาฯ ตทติกฺกมโต หิ ตเสฺสว วิภาวนํ โหติฯ ทุติยารุปฺปวิญฺญาณวิภาวเน หิ ตเทว อติกฺกนฺตํ สิยา, น ตสฺส อารมฺมณํ, น จารมฺมเณ โทสํ ทิสฺวา อนารมฺมณสฺส วิภาวนาติกฺกโม ยุชฺชติฯ ปาฬิยญฺจ ‘‘วิญฺญาณญฺจายตนสมาปตฺติํ สโต สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฎฺฐหิตฺวา ตเญฺญว วิญฺญาณํ อภาเวตี’’ติ (จูฬนิ. อุปสีวมาณวปุจฺฉานิเทฺทส ๓๙) ตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘ตเญฺญว วิญฺญาณญฺจายตนํ อภาเวตี’’ติ, ‘‘ตเญฺญว อภาเวตี’’ติ วาฯ ‘‘อนนฺตํ วิญฺญาณนฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺชา’’ติ (วิภ. ๕๐๘) เอตฺถ ปน ทฺวยํ วุตฺตํ อารมฺมณญฺจ วิญฺญาณํ วิญฺญาณญฺจายตนญฺจฯ ตสฺมิํ ทฺวเย เยน เกนจิ ยโต วา วุฎฺฐิโต, เตเนว ปฎฺฐานนิทฺทิเฎฺฐน ตํสทฺทสฺส สมฺพเนฺธ อาปเนฺน วิญฺญาณญฺจายตนสฺส นิวตฺตนตฺถํ วิญฺญาณวจนํ, ตสฺมา ปฐมารุปฺปวิญฺญาณเสฺสว อภาวนาติกฺกโม วุโตฺตฯ ตนฺนิสฺสิตนฺติ เตน นิสฺสิตํฯ ตํ มณฺฑปลคฺคํ อนิสฺสาย เตน วินาภูเต วิวิเตฺต พหิ โอกาเส ฐานํ วิย อากาสลคฺควิญฺญาณสฺส วิเวเก ตทปคเม ตติยารุปฺปสฺส ฐานํฯ

    Ākāse pavattitaviññāṇātikkamato tatiyā. Tadatikkamato hi tasseva vibhāvanaṃ hoti. Dutiyāruppaviññāṇavibhāvane hi tadeva atikkantaṃ siyā, na tassa ārammaṇaṃ, na cārammaṇe dosaṃ disvā anārammaṇassa vibhāvanātikkamo yujjati. Pāḷiyañca ‘‘viññāṇañcāyatanasamāpattiṃ sato samāpajjitvā tato vuṭṭhahitvā taññeva viññāṇaṃ abhāvetī’’ti (cūḷani. upasīvamāṇavapucchāniddesa 39) ttaṃ, na vuttaṃ ‘‘taññeva viññāṇañcāyatanaṃ abhāvetī’’ti, ‘‘taññeva abhāvetī’’ti vā. ‘‘Anantaṃ viññāṇanti viññāṇañcāyatanaṃ upasampajjā’’ti (vibha. 508) ettha pana dvayaṃ vuttaṃ ārammaṇañca viññāṇaṃ viññāṇañcāyatanañca. Tasmiṃ dvaye yena kenaci yato vā vuṭṭhito, teneva paṭṭhānaniddiṭṭhena taṃsaddassa sambandhe āpanne viññāṇañcāyatanassa nivattanatthaṃ viññāṇavacanaṃ, tasmā paṭhamāruppaviññāṇasseva abhāvanātikkamo vutto. Tannissitanti tena nissitaṃ. Taṃ maṇḍapalaggaṃ anissāya tena vinābhūte vivitte bahi okāse ṭhānaṃ viya ākāsalaggaviññāṇassa viveke tadapagame tatiyāruppassa ṭhānaṃ.

    อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Arūpāvacarakusalakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธมฺมสงฺคณีปาฬิ • Dhammasaṅgaṇīpāḷi / อรูปาวจรกุสลํ • Arūpāvacarakusalaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ธมฺมสงฺคณิ-อฎฺฐกถา • Dhammasaṅgaṇi-aṭṭhakathā
    อากาสานญฺจายตนํ • Ākāsānañcāyatanaṃ
    วิญฺญาณญฺจายตนํ • Viññāṇañcāyatanaṃ
    อากิญฺจญฺญายตนํ • Ākiñcaññāyatanaṃ

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-อนุฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-anuṭīkā / อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา • Arūpāvacarakusalakathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact