Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā

    อสาธารณาทิวณฺณนา

    Asādhāraṇādivaṇṇanā

    ๓๓๘. อิทานิ ‘‘สาธารณํ อสาธารณ’’นฺติ อิมํ ปุริมปญฺหํ วิสฺสเชฺชโนฺต ‘‘วีสํ เทฺว สตานี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ภิกฺขุนีหิ อสาธารเณสุ ฉ สงฺฆาทิเสสาติ วิสฺสฎฺฐิ, กายสํสโคฺค, ทุฎฺฐุลฺลํ, อตฺตกาม, กุฎิ, วิหาโรติฯ เทฺว อนิยเตหิ อฎฺฐาติ ทฺวีหิ อนิยเตหิ สทฺธิํ อฎฺฐ อิเมฯ

    338. Idāni ‘‘sādhāraṇaṃ asādhāraṇa’’nti imaṃ purimapañhaṃ vissajjento ‘‘vīsaṃ dve satānī’’tiādimāha. Tattha bhikkhunīhi asādhāraṇesu cha saṅghādisesāti vissaṭṭhi, kāyasaṃsaggo, duṭṭhullaṃ, attakāma, kuṭi, vihāroti. Dve aniyatehi aṭṭhāti dvīhi aniyatehi saddhiṃ aṭṭha ime.

    นิสฺสคฺคิยานิ ทฺวาทสาติ –

    Nissaggiyāni dvādasāti –

    โธวนญฺจ ปฎิคฺคโห, โกเสยฺยสุทฺธเทฺวภาคา;

    Dhovanañca paṭiggaho, koseyyasuddhadvebhāgā;

    ฉพฺพสฺสานิ นิสีทนํ, เทฺว โลมา ปฐโม ปโตฺต;

    Chabbassāni nisīdanaṃ, dve lomā paṭhamo patto;

    วสฺสิกา อารญฺญเกน จาติ – อิเม ทฺวาทสฯ

    Vassikā āraññakena cāti – ime dvādasa.

    เทฺววีสติ ขุทฺทกาติ –

    Dvevīsati khuddakāti –

    สกโล ภิกฺขุนีวโคฺค, ปรมฺปรญฺจ โภชนํ;

    Sakalo bhikkhunīvaggo, paramparañca bhojanaṃ;

    อนติริตฺตํ อภิหฎํ, ปณีตญฺจ อเจลกํ;

    Anatirittaṃ abhihaṭaṃ, paṇītañca acelakaṃ;

    อูนํ ทุฎฺฐุลฺลฉาทนํฯ

    Ūnaṃ duṭṭhullachādanaṃ.

    มาตุคาเมน สทฺธิญฺจ, ยา จ อนิกฺขนฺตราชเก;

    Mātugāmena saddhiñca, yā ca anikkhantarājake;

    สนฺตํ ภิกฺขุํ อนาปุจฺฉา, วิกาเล คามปฺปเวสนาฯ

    Santaṃ bhikkhuṃ anāpucchā, vikāle gāmappavesanā.

    นิสีทเน จ ยา สิกฺขา, วสฺสิกา ยา จ สาฎิกา;

    Nisīdane ca yā sikkhā, vassikā yā ca sāṭikā;

    ทฺวาวีสติ อิมา สิกฺขา, ขุทฺทเกสุ ปกาสิตาติฯ

    Dvāvīsati imā sikkhā, khuddakesu pakāsitāti.

    ภิกฺขูหิ อสาธารเณสุปิ สงฺฆมฺหา ทส นิสฺสเรติ ‘‘สงฺฆมฺหา นิสฺสารียตี’’ติ เอวํ วิภเงฺค วุตฺตา, มาติกายํ ปน ‘‘นิสฺสารณียํ สงฺฆาทิเสส’’นฺติ เอวํ อาคตา ทสฯ นิสฺสคฺคิยานิ ทฺวาทสาติ ภิกฺขุนิวิภเงฺค วิภตฺตานิ นิสฺสคฺคิยาเนวฯ ขุทฺทกาปิ ตตฺถ วิภตฺตขุทฺทกา เอวฯ ตถา จตฺตาโร ปาฎิเทสนียา, อิติ สตเญฺจว ติํสญฺจ สิกฺขา วิภเงฺค ภิกฺขุนีนํ ภิกฺขูหิ อสาธารณาฯ เสสํ อิมสฺมิํ สาธารณาสาธารณวิสฺสชฺชเน อุตฺตานเมวฯ

    Bhikkhūhi asādhāraṇesupi saṅghamhā dasa nissareti ‘‘saṅghamhā nissārīyatī’’ti evaṃ vibhaṅge vuttā, mātikāyaṃ pana ‘‘nissāraṇīyaṃ saṅghādisesa’’nti evaṃ āgatā dasa. Nissaggiyāni dvādasāti bhikkhunivibhaṅge vibhattāni nissaggiyāneva. Khuddakāpi tattha vibhattakhuddakā eva. Tathā cattāro pāṭidesanīyā, iti satañceva tiṃsañca sikkhā vibhaṅge bhikkhunīnaṃ bhikkhūhi asādhāraṇā. Sesaṃ imasmiṃ sādhāraṇāsādhāraṇavissajjane uttānameva.

    อิทานิ วิปตฺติโย จ ‘‘เยหิ สมเถหิ สมฺมนฺตี’’ติ อิทํ ปญฺหํ วิสฺสเชฺชโนฺต อเฎฺฐว ปาราชิกาติอาทิมาหฯ ตตฺถ ทุราสทาติ อิมินา เตสํ สปฺปฎิภยตํ ทเสฺสติฯ กณฺหสปฺปาทโย วิย หิ เอเต ทุราสทา ทุรูปคมนา ทุราสชฺชนา, อาปชฺชิยมานา มูลเจฺฉทาย สํวตฺตนฺติฯ ตาลวตฺถุสมูปมาติ สพฺพํ ตาลํ อุทฺธริตฺวา ตาลสฺส วตฺถุมตฺตกรเณน สมูปมาฯ ยถา วตฺถุมตฺตกโต ตาโล น ปุน ปากติโก โหติ, เอวํ น ปุน ปากติกา โหนฺติฯ

    Idāni vipattiyo ca ‘‘yehi samathehi sammantī’’ti idaṃ pañhaṃ vissajjento aṭṭheva pārājikātiādimāha. Tattha durāsadāti iminā tesaṃ sappaṭibhayataṃ dasseti. Kaṇhasappādayo viya hi ete durāsadā durūpagamanā durāsajjanā, āpajjiyamānā mūlacchedāya saṃvattanti. Tālavatthusamūpamāti sabbaṃ tālaṃ uddharitvā tālassa vatthumattakaraṇena samūpamā. Yathā vatthumattakato tālo na puna pākatiko hoti, evaṃ na puna pākatikā honti.

    เอวํ สาธารณํ อุปมํ ทเสฺสตฺวา ปุน เอเกกสฺส วุตฺตํ อุปมํ ทเสฺสโนฺต ปณฺฑุปลาโสติอาทิมาหฯ อวิรุฬฺหี ภวนฺติ เตติ ยถา เอเต ปณฺฑุปลาสาทโย ปุนหริตาทิภาเวน อวิรุฬฺหิธมฺมา โหนฺติ; เอวํ ปาราชิกาปิ ปุน ปกติสีลาภาเวน อวิรุฬฺหิธมฺมา โหนฺตีติ อโตฺถฯ เอตฺตาวตา ‘‘วิปตฺติโย จ เยหิ สมเถหิ สมฺมนฺตี’’ติ เอตฺถ อิมา ตาว อฎฺฐ ปาราชิกวิปตฺติโย เกหิจิ สมเถหิ น สมฺมนฺตีติ เอวํ ทสฺสิตํ โหติฯ ยา ปน วิปตฺติโย สมฺมนฺติ, ตา ทเสฺสตุํ เตวีสติ สงฺฆาทิเสสาติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ตีหิ สมเถหีติ สพฺพสงฺคาหิกวจนเมตํฯ สงฺฆาทิเสสา หิ ทฺวีหิ สมเถหิ สมฺมนฺติ, น ติณวตฺถารเกนฯ เสสา ตีหิปิ สมฺมนฺติฯ

    Evaṃ sādhāraṇaṃ upamaṃ dassetvā puna ekekassa vuttaṃ upamaṃ dassento paṇḍupalāsotiādimāha. Aviruḷhī bhavanti teti yathā ete paṇḍupalāsādayo punaharitādibhāvena aviruḷhidhammā honti; evaṃ pārājikāpi puna pakatisīlābhāvena aviruḷhidhammā hontīti attho. Ettāvatā ‘‘vipattiyo ca yehi samathehi sammantī’’ti ettha imā tāva aṭṭha pārājikavipattiyo kehici samathehi na sammantīti evaṃ dassitaṃ hoti. Yā pana vipattiyo sammanti, tā dassetuṃ tevīsati saṅghādisesātiādi vuttaṃ. Tattha tīhi samathehīti sabbasaṅgāhikavacanametaṃ. Saṅghādisesā hi dvīhi samathehi sammanti, na tiṇavatthārakena. Sesā tīhipi sammanti.

    เทฺว อุโปสถา เทฺว ปวารณาติ อิทํ ภิกฺขูนญฺจ ภิกฺขุนีนญฺจ วเสน วุตฺตํฯ วิภตฺติมตฺตทสฺสเนเนว เจตํ วุตฺตํ, น สมเถหิ วูปสมนวเสนฯ ภิกฺขุอุโปสโถ, ภิกฺขุนิอุโปสโถ, ภิกฺขุปวารณา, ภิกฺขุนิปวารณาติ อิมาปิ หิ จตโสฺส วิภตฺติโย ; วิภชนานีติ อโตฺถฯ จตฺตาริ กมฺมานีติ อธเมฺมนวคฺคาทีนิ อุโปสถกมฺมานิฯ ปเญฺจว อุเทฺทสา จตุโร ภวนฺติ อนญฺญถาติ ภิกฺขูนํ ปญฺจ อุเทฺทสา ภิกฺขุนีนํ จตุโร ภวนฺติ, อญฺญถา น ภวนฺติ; อิมา อปราปิ วิภตฺติโยฯ อาปตฺติกฺขนฺธา จ ภวนฺติ สตฺต, อธิกรณานิ จตฺตารีติ อิมา ปน วิภตฺติโย สมเถหิ สมฺมนฺติ, ตสฺมา สตฺตหิ สมเถหีติอาทิมาหฯ อถ วา ‘‘เทฺว อุโปสถา เทฺว ปวารณา จตฺตาริ กมฺมานิ ปเญฺจว อุเทฺทสา จตุโร ภวนฺติ, อนญฺญถา’’ติ อิมาปิ จตโสฺส วิภตฺติโย นิสฺสาย ‘‘นสฺสเนฺตเต วินสฺสเนฺตเต’’ติอาทินา นเยน ยา อาปตฺติโย อาปชฺชนฺติ, ตา ยสฺมา วุตฺตปฺปกาเรเหว สมเถหิ สมฺมนฺติ, ตสฺมา ตํมูลกานํ อาปตฺตีนํ สมถทสฺสนตฺถมฺปิ ตา วิภตฺติโย วุตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ กิจฺจํ เอเกนาติ กิจฺจาธิกรณํ เอเกน สมเถน สมฺมติฯ

    Dve uposathā dve pavāraṇāti idaṃ bhikkhūnañca bhikkhunīnañca vasena vuttaṃ. Vibhattimattadassaneneva cetaṃ vuttaṃ, na samathehi vūpasamanavasena. Bhikkhuuposatho, bhikkhuniuposatho, bhikkhupavāraṇā, bhikkhunipavāraṇāti imāpi hi catasso vibhattiyo ; vibhajanānīti attho. Cattāri kammānīti adhammenavaggādīni uposathakammāni. Pañceva uddesā caturo bhavanti anaññathāti bhikkhūnaṃ pañca uddesā bhikkhunīnaṃ caturo bhavanti, aññathā na bhavanti; imā aparāpi vibhattiyo. Āpattikkhandhā ca bhavanti satta, adhikaraṇāni cattārīti imā pana vibhattiyo samathehi sammanti, tasmā sattahi samathehītiādimāha. Atha vā ‘‘dve uposathā dve pavāraṇā cattāri kammāni pañceva uddesā caturo bhavanti, anaññathā’’ti imāpi catasso vibhattiyo nissāya ‘‘nassantete vinassantete’’tiādinā nayena yā āpattiyo āpajjanti, tā yasmā vuttappakāreheva samathehi sammanti, tasmā taṃmūlakānaṃ āpattīnaṃ samathadassanatthampi tā vibhattiyo vuttāti veditabbā. Kiccaṃ ekenāti kiccādhikaraṇaṃ ekena samathena sammati.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๔. อสาธารณาทิ • 4. Asādhāraṇādi

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อสาธารณาทิวณฺณนา • Asādhāraṇādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อสาธารณาทิวณฺณนา • Asādhāraṇādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / สตฺตนคเรสุ ปญฺญตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา • Sattanagaresu paññattasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / อสาธารณาทิวณฺณนา • Asādhāraṇādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact