Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
อสาธารณาทิวณฺณนา
Asādhāraṇādivaṇṇanā
๓๓๘. ปุริม ปญฺหนฺติ ‘‘กติ เฉทนกานี’’ติอาทิปญฺหานํ ปุเร วุตฺตํ ปญฺหํฯ ตตฺถาติ ‘‘วีสํ เทฺว สตานี’’ติอาทิปาเฐฯ ‘‘เทฺวอนิยเตหี’’ติ ปทสฺส อสมาหารทิคุวากฺยํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ทฺวีหิ อนิยเตหี’’ติฯ ‘‘สทฺธิ’’นฺติ อิมินา สหาทิโยเค กรณวจนนฺติ ทเสฺสติฯ
338.Purima pañhanti ‘‘kati chedanakānī’’tiādipañhānaṃ pure vuttaṃ pañhaṃ. Tatthāti ‘‘vīsaṃ dve satānī’’tiādipāṭhe. ‘‘Dveaniyatehī’’ti padassa asamāhāradiguvākyaṃ dassento āha ‘‘dvīhi aniyatehī’’ti. ‘‘Saddhi’’nti iminā sahādiyoge karaṇavacananti dasseti.
คาถายํ ‘‘โธวนญฺจ สิกฺขาปท’’นฺติอาทินา โยชนา กาตพฺพาฯ เทฺว โลมาติ เทฺว เอฬกโลมสิกฺขาปทานิฯ
Gāthāyaṃ ‘‘dhovanañca sikkhāpada’’ntiādinā yojanā kātabbā. Dve lomāti dve eḷakalomasikkhāpadāni.
‘‘สกโล’’ติอาทิกาย อฑฺฒเตยฺยคาถาย โยชนา สุวิเญฺญยฺยาวฯ
‘‘Sakalo’’tiādikāya aḍḍhateyyagāthāya yojanā suviññeyyāva.
สงฺฆมฺหา ทส นิสฺสเรติ เอตฺถ ‘‘สงฺฆมฺหา นิสฺสารียตี’’ติ (ปาจิ. ๖๘๐, ๗๓๐) เอวํ วุตฺตา ทสาติ โยชนานยํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สงฺฆมฺหา นิสฺสารียตี’’ติอาทิฯ ตตฺถาติ ภิกฺขุนิวิภเงฺคฯ ตถาติ ยถา ขุทฺทกา, ตถาติ อโตฺถฯ อิตีติ เอวํฯ
Saṅghamhādasa nissareti ettha ‘‘saṅghamhā nissārīyatī’’ti (pāci. 680, 730) evaṃ vuttā dasāti yojanānayaṃ dassento āha ‘‘saṅghamhā nissārīyatī’’tiādi. Tatthāti bhikkhunivibhaṅge. Tathāti yathā khuddakā, tathāti attho. Itīti evaṃ.
เตสนฺติ ปาราชิกานํฯ กณฺหสปฺปาทโย ทุราสทา วิย ทุราสทา โหนฺตีติ โยชนาฯ ‘‘ทุรูปคมนาติ อิมินา สทธาตุยา คตฺยตฺถํ ทเสฺสติฯ ทุราสชฺชนาติ ทุเกฺขน อาสชฺชิตพฺพา, อาสชฺชิตุํ น สุกราติ อโตฺถฯ สมูปมาติ สมอุปมาฯ สมูปมาการํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยถา’’ติอาทิฯ
Tesanti pārājikānaṃ. Kaṇhasappādayo durāsadā viya durāsadā hontīti yojanā. ‘‘Durūpagamanāti iminā sadadhātuyā gatyatthaṃ dasseti. Durāsajjanāti dukkhena āsajjitabbā, āsajjituṃ na sukarāti attho. Samūpamāti samaupamā. Samūpamākāraṃ dassento āha ‘‘yathā’’tiādi.
สาธารณนฺติ อฎฺฐหิ ปาราชิเกหิ สาธารณํฯ เอเกกสฺส ปาราชิกสฺสาติ สมฺพโนฺธฯ อวิรูฬฺหี ภวนฺติ เตติ เอตฺถ อุปมาโนปเมยฺยานํ ปากฎภาวํ กตฺวา โยชนานยํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยถา เอเต’’ติอาทิฯ อวิรูฬฺหิธมฺมาติ อวิรูฬฺหีสภาวาฯ ปกติสีลภาเวนาติ ปกติยา สีลวนฺตภาเวน, ‘‘ปกติสีลาภาเวนา’’ติปิ ปาโฐ, ปกติสีลสฺส อภาเวน, อภาวเหตูติ อโตฺถฯ เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน ‘‘อเฎฺฐว ปาราชิกา’’ติอาทิวจนมเตฺตน, ทสฺสิตํ โหตีติ สมฺพโนฺธฯ วิภตฺติโยติ ปาราชิกาทิวเสน วิภชิตพฺพาติ วิภตฺติโยติฯ ตตฺถาติ ‘‘เตวีสติ สงฺฆาทิเสสา’’ติอาทิปาเฐ ฯ สพฺพสงฺคาหิกวจนนฺติ สเพฺพสํ ติณฺณํ สมถานํ, สพฺพาสํ วา อาปตฺตีนํ สมถานํ สงฺคาหิกวจนํฯ ‘‘ทฺวีหิ สมเถหี’’ติ สมฺมุขาวินเยน จ ปฎิญฺญาตกรเณน จาติ ทฺวีหิ สมเถหิฯ
Sādhāraṇanti aṭṭhahi pārājikehi sādhāraṇaṃ. Ekekassa pārājikassāti sambandho. Avirūḷhī bhavanti teti ettha upamānopameyyānaṃ pākaṭabhāvaṃ katvā yojanānayaṃ dassento āha ‘‘yathā ete’’tiādi. Avirūḷhidhammāti avirūḷhīsabhāvā. Pakatisīlabhāvenāti pakatiyā sīlavantabhāvena, ‘‘pakatisīlābhāvenā’’tipi pāṭho, pakatisīlassa abhāvena, abhāvahetūti attho. Ettāvatāti ettakena ‘‘aṭṭheva pārājikā’’tiādivacanamattena, dassitaṃ hotīti sambandho. Vibhattiyoti pārājikādivasena vibhajitabbāti vibhattiyoti. Tatthāti ‘‘tevīsati saṅghādisesā’’tiādipāṭhe . Sabbasaṅgāhikavacananti sabbesaṃ tiṇṇaṃ samathānaṃ, sabbāsaṃ vā āpattīnaṃ samathānaṃ saṅgāhikavacanaṃ. ‘‘Dvīhi samathehī’’ti sammukhāvinayena ca paṭiññātakaraṇena cāti dvīhi samathehi.
เอตนฺติ ‘‘เทฺว อุโปสถา เทฺว ปวารณา’’ติ วจนํฯ วิภชนานีติ วิภชิตพฺพานํ วิภชนกิริยาย อวินาภาวโต ภาววเสน วุตฺตํ, ตสฺมา วิภชิตพฺพาติ วิภตฺติโยติ วจนโตฺถ กาตโพฺพฯ อปราปิ อิมา วิภตฺติโย โหนฺตีติ โยชนาฯ เหฎฺฐา วุตฺตสฺส ‘‘วิภตฺติมตฺตทสฺสเนเนว เจตํ วุตฺตํ, น สมเถหิ วูปสมนวเสนา’’ติ วจนสฺส อตฺถนยโต อญฺญํ อตฺถนยํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อถวา’’ติอาทิ, ‘‘อิมาปิ วิภตฺติโย’’ติ ปทํ ‘‘นิสฺสายา’’ติ ปเท อวุตฺตกมฺมํ ฯ นิสฺสาย อาปชฺชนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ ตาติ อาปตฺติโยฯ วุตฺตปฺปกาเรเหวาติ ตีหิ สมเถหีติ วุตฺตปกาเรเหวฯ ตํมูลิกานนฺติ เต เอว อุโปสถาทโย มูลเมตาสนฺติ ตํมูลิกา, ตาสํฯ อิมินา การิยูปจาเรน วุตฺตนยํ ทเสฺสติฯ ตา วิภตฺติโยติ อุโปสถาทิวิภตฺติโยฯ
Etanti ‘‘dve uposathā dve pavāraṇā’’ti vacanaṃ. Vibhajanānīti vibhajitabbānaṃ vibhajanakiriyāya avinābhāvato bhāvavasena vuttaṃ, tasmā vibhajitabbāti vibhattiyoti vacanattho kātabbo. Aparāpi imā vibhattiyo hontīti yojanā. Heṭṭhā vuttassa ‘‘vibhattimattadassaneneva cetaṃ vuttaṃ, na samathehi vūpasamanavasenā’’ti vacanassa atthanayato aññaṃ atthanayaṃ dassento āha ‘‘athavā’’tiādi, ‘‘imāpi vibhattiyo’’ti padaṃ ‘‘nissāyā’’ti pade avuttakammaṃ . Nissāya āpajjantīti sambandho. Tāti āpattiyo. Vuttappakārehevāti tīhi samathehīti vuttapakāreheva. Taṃmūlikānanti te eva uposathādayo mūlametāsanti taṃmūlikā, tāsaṃ. Iminā kāriyūpacārena vuttanayaṃ dasseti. Tā vibhattiyoti uposathādivibhattiyo.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๔. อสาธารณาทิ • 4. Asādhāraṇādi
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā / อสาธารณาทิวณฺณนา • Asādhāraṇādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อสาธารณาทิวณฺณนา • Asādhāraṇādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อสาธารณาทิวณฺณนา • Asādhāraṇādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / สตฺตนคเรสุ ปญฺญตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา • Sattanagaresu paññattasikkhāpadavaṇṇanā