Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๓. อาสํสสุตฺตวณฺณนา
3. Āsaṃsasuttavaṇṇanā
๑๓. ตติเย สโนฺตติ อตฺถิ อุปลพฺภนฺติฯ สํวิชฺชมานาติ ตเสฺสว เววจนํฯ โลกสฺมินฺติ สตฺตโลเกฯ นิราโสติ อนาโส อปตฺถโนฯ อาสํโสติ อาสํสมาโน ปตฺถยมาโนฯ วิคตาโสติ อปคตาโสฯ จณฺฑาลกุเลติ จณฺฑาลานํ กุเลฯ เวนกุเลติ วิลีวการกุเลฯ เนสาทกุเลติ มิคลุทฺทกานํ กุเลฯ รถการกุเลติ จมฺมการกุเลฯ ปุกฺกุสกุเลติ ปุปฺผจฺฉฑฺฑกกุเลฯ
13. Tatiye santoti atthi upalabbhanti. Saṃvijjamānāti tasseva vevacanaṃ. Lokasminti sattaloke. Nirāsoti anāso apatthano. Āsaṃsoti āsaṃsamāno patthayamāno. Vigatāsoti apagatāso. Caṇḍālakuleti caṇḍālānaṃ kule. Venakuleti vilīvakārakule. Nesādakuleti migaluddakānaṃ kule. Rathakārakuleti cammakārakule. Pukkusakuleti pupphacchaḍḍakakule.
เอตฺตาวตา กุลวิปตฺติํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ยสฺมา นีจกุเล ชาโตปิ เอกโจฺจ อโฑฺฒ โหติ มหทฺธโน, อยํ ปน น ตาทิโส, ตสฺมาสฺส โภควิปตฺติํ ทเสฺสตุํ ทลิเทฺทติอาทิมาหฯ ตตฺถ ทลิเทฺทติ ทาลิทฺทิเยน สมนฺนาคเตฯ อปฺปนฺนปานโภชเนติ ปริตฺตกอนฺนปานโภชเนฯ กสิรวุตฺติเกติ ทุกฺขชีวิเก, ยตฺถ วายาเมน ปโยเคน ชีวิตวุตฺติํ สาเธนฺติ, ตถารูเปติ อโตฺถฯ ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภตีติ ยสฺมิํ กุเล ทุเกฺขน ยาคุภตฺตฆาโส จ โกปีนมตฺตํ อจฺฉาทนญฺจ ลพฺภติฯ
Ettāvatā kulavipattiṃ dassetvā idāni yasmā nīcakule jātopi ekacco aḍḍho hoti mahaddhano, ayaṃ pana na tādiso, tasmāssa bhogavipattiṃ dassetuṃ daliddetiādimāha. Tattha daliddeti dāliddiyena samannāgate. Appannapānabhojaneti parittakaannapānabhojane. Kasiravuttiketi dukkhajīvike, yattha vāyāmena payogena jīvitavuttiṃ sādhenti, tathārūpeti attho. Yattha kasirena ghāsacchādo labbhatīti yasmiṃ kule dukkhena yāgubhattaghāso ca kopīnamattaṃ acchādanañca labbhati.
อิทานิ ยสฺมา เอกโจฺจ นีจกุเล ชาโตปิ อุปธิสมฺปโนฺน โหติ อตฺตภาวสมิทฺธิยํ ฐิโต , อยญฺจ น ตาทิโส, ตสฺมาสฺส สรีรวิปตฺติมฺปิ ทเสฺสตุํ โส จ โหติ ทุพฺพโณฺณติอาทิมาหฯ ตตฺถ ทุพฺพโณฺณติ ปํสุปิสาจโก วิย ฌามขาณุวโณฺณฯ ทุทฺทสิโกติ วิชาตมาตุยาปิ อมนาปทสฺสโนฯ โอโกฎิมโกติ ลกุณฺฑโกฯ กาโณติ เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วาฯ กุณีติ เอกหตฺถกุณี วา อุภยหตฺถกุณี วาฯ ขโญฺชติ เอกปาทขโญฺช วา อุภยปาทขโญฺช วาฯ ปกฺขหโตติ หตปโกฺข ปีฐสปฺปีฯ ปทีเปยฺยสฺสาติ วฎฺฎิเตลกปลฺลกาทิโน ปทีปอุปกรณสฺสฯ ตสฺส น เอวํ โหตีติฯ กสฺมา น โหติ? นีจกุเล ชาตตฺตาฯ
Idāni yasmā ekacco nīcakule jātopi upadhisampanno hoti attabhāvasamiddhiyaṃ ṭhito , ayañca na tādiso, tasmāssa sarīravipattimpi dassetuṃ so ca hoti dubbaṇṇotiādimāha. Tattha dubbaṇṇoti paṃsupisācako viya jhāmakhāṇuvaṇṇo. Duddasikoti vijātamātuyāpi amanāpadassano. Okoṭimakoti lakuṇḍako. Kāṇoti ekakkhikāṇo vā ubhayakkhikāṇo vā. Kuṇīti ekahatthakuṇī vā ubhayahatthakuṇī vā. Khañjoti ekapādakhañjo vā ubhayapādakhañjo vā. Pakkhahatoti hatapakkho pīṭhasappī. Padīpeyyassāti vaṭṭitelakapallakādino padīpaupakaraṇassa. Tassa na evaṃ hotīti. Kasmā na hoti? Nīcakule jātattā.
เชโฎฺฐติ อญฺญสฺมิํ เชเฎฺฐ สติ กนิโฎฺฐ อาสํ น กโรติ, ตสฺมา เชโฎฺฐติ อาหฯ อาภิเสโกติ เชโฎฺฐปิ น อภิเสการโห อาสํ น กโรติ, ตสฺมา อาภิเสโกติ อาหฯ อนภิสิโตฺตติ อภิเสการโหปิ กาณกุณิอาทิโทสรหิโต สกิํ อภิสิโตฺต ปุน อภิเสเก อาสํ น กโรติ, ตสฺมา อนภิสิโตฺตติ อาห ฯ อจลปฺปโตฺตติ เชโฎฺฐปิ อาภิเสโก อนภิสิโตฺต มโนฺท อุตฺตานเสยฺยโก, โสปิ อภิเสเก อาสํ น กโรติฯ โสฬสวสฺสุเทฺทสิโก ปน ปญฺญายมานมสฺสุเภโท อจลปฺปโตฺต นาม โหติ, มหนฺตมฺปิ รชฺชํ วิจาเรตุํ สมโตฺถ, ตสฺมา ‘‘อจลปฺปโตฺต’’ติ อาหฯ ตสฺส เอวํ โหตีติ กสฺมา โหติ? มหาชาติตายฯ
Jeṭṭhoti aññasmiṃ jeṭṭhe sati kaniṭṭho āsaṃ na karoti, tasmā jeṭṭhoti āha. Ābhisekoti jeṭṭhopi na abhisekāraho āsaṃ na karoti, tasmā ābhisekoti āha. Anabhisittoti abhisekārahopi kāṇakuṇiādidosarahito sakiṃ abhisitto puna abhiseke āsaṃ na karoti, tasmā anabhisittoti āha . Acalappattoti jeṭṭhopi ābhiseko anabhisitto mando uttānaseyyako, sopi abhiseke āsaṃ na karoti. Soḷasavassuddesiko pana paññāyamānamassubhedo acalappatto nāma hoti, mahantampi rajjaṃ vicāretuṃ samattho, tasmā ‘‘acalappatto’’ti āha. Tassa evaṃ hotīti kasmā hoti? Mahājātitāya.
ทุสฺสีโลติ นิสฺสีโลฯ ปาปธโมฺมติ ลามกธโมฺมฯ อสุจีติ อสุจีหิ กายกมฺมาทีหิ สมนฺนาคโตฯ สงฺกสฺสรสมาจาโรติ สงฺกาหิ สริตพฺพสมาจาโร, กิญฺจิเทว อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ อิมินา กตํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปเรสํ อาสงฺกนียสมาจาโร, อตฺตนาเยว วา สงฺกาหิ สริตพฺพสมาจาโร, สาสงฺกสมาจาโรติ อโตฺถฯ ตสฺส หิ ทิวาฎฺฐานาทีสุ สนฺนิปติตฺวา กิญฺจิเทว มนฺตยเนฺต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘อิเม เอกโต หุตฺวา มเนฺตนฺติ, กจฺจิ นุ โข มยา กตกมฺมํ ชานิตฺวา มเนฺตนฺตี’’ติ เอวํ สาสงฺกสมาจาโร โหติฯ ปฎิจฺฉนฺนกมฺมโนฺตติ ปฎิจฺฉาเทตพฺพยุตฺตเกน ปาปกเมฺมน สมนฺนาคโตฯ อสฺสมโณ สมณปฎิโญฺญติ อสฺสมโณ หุตฺวาว สมณปติรูปกตาย ‘‘สมโณ อห’’นฺติ เอวํ ปฎิโญฺญฯ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฎิโญฺญติ อเญฺญ พฺรหฺมจาริโน สุนิวเตฺถ สุปารุเต สุมฺภกปตฺตธเร คามนิคมราชธานีสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ชีวิกํ กเปฺปเนฺต ทิสฺวา สยมฺปิ ตาทิเสน อากาเรน ตถา ปฎิปชฺชนโต ‘‘อหํ พฺรหฺมจารี’’ติ ปฎิญฺญํ เทโนฺต วิย โหติฯ ‘‘อหํ ภิกฺขู’’ติ วตฺวา อุโปสถคฺคาทีนิ ปวิสโนฺต ปน พฺรหฺมจาริปฎิโญฺญ โหติเยว, ตถา สงฺฆิกํ ลาภํ คณฺหโนฺตฯ อโนฺตปูตีติ ปูตินา กเมฺมน อโนฺต อนุปวิโฎฺฐฯ อวสฺสุโตติ ราคาทีหิ ติโนฺตฯ กสมฺพุชาโตติ สญฺชาตราคาทิกจวโรฯ ตสฺส น เอวํ โหตีติฯ กสฺมา น โหติ? โลกุตฺตรธมฺมอุปนิสฺสยสฺส นตฺถิตายฯ ตสฺส เอวํ โหตีติฯ กสฺมา โหติ? มหาสีลสฺมิํ ปริปูรการิตายฯ
Dussīloti nissīlo. Pāpadhammoti lāmakadhammo. Asucīti asucīhi kāyakammādīhi samannāgato. Saṅkassarasamācāroti saṅkāhi saritabbasamācāro, kiñcideva asāruppaṃ disvā ‘‘idaṃ iminā kataṃ bhavissatī’’ti evaṃ paresaṃ āsaṅkanīyasamācāro, attanāyeva vā saṅkāhi saritabbasamācāro, sāsaṅkasamācāroti attho. Tassa hi divāṭṭhānādīsu sannipatitvā kiñcideva mantayante bhikkhū disvā ‘‘ime ekato hutvā mantenti, kacci nu kho mayā katakammaṃ jānitvā mantentī’’ti evaṃ sāsaṅkasamācāro hoti. Paṭicchannakammantoti paṭicchādetabbayuttakena pāpakammena samannāgato. Assamaṇo samaṇapaṭiññoti assamaṇo hutvāva samaṇapatirūpakatāya ‘‘samaṇo aha’’nti evaṃ paṭiñño. Abrahmacārī brahmacāripaṭiññoti aññe brahmacārino sunivatthe supārute sumbhakapattadhare gāmanigamarājadhānīsu piṇḍāya caritvā jīvikaṃ kappente disvā sayampi tādisena ākārena tathā paṭipajjanato ‘‘ahaṃ brahmacārī’’ti paṭiññaṃ dento viya hoti. ‘‘Ahaṃ bhikkhū’’ti vatvā uposathaggādīni pavisanto pana brahmacāripaṭiñño hotiyeva, tathā saṅghikaṃ lābhaṃ gaṇhanto. Antopūtīti pūtinā kammena anto anupaviṭṭho. Avassutoti rāgādīhi tinto. Kasambujātoti sañjātarāgādikacavaro. Tassa na evaṃ hotīti. Kasmā na hoti? Lokuttaradhammaupanissayassa natthitāya. Tassaevaṃ hotīti. Kasmā hoti? Mahāsīlasmiṃ paripūrakāritāya.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๓. อาสํสสุตฺตํ • 3. Āsaṃsasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๓. อาสํสสุตฺตวณฺณนา • 3. Āsaṃsasuttavaṇṇanā