Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā)

    ๓. อาสํสสุตฺตวณฺณนา

    3. Āsaṃsasuttavaṇṇanā

    ๑๓. ตติเย สโนฺตติ เอตฺถ สนฺต-สโทฺท ‘‘ทีฆํ สนฺตสฺส โยชน’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๖๐) กิลนฺตภาเว อาคโตฯ ‘‘อยญฺจ วิตโกฺก, อยญฺจ วิจาโร สโนฺต โหนฺติ สมิตา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๕๗๖) นิรุทฺธภาเวฯ ‘‘อธิคโต โข มฺยายํ ธโมฺม, คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สโนฺต ปณีโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗-๘) สนฺตญาณโคจรตายํฯ ‘‘อุปสนฺตสฺส สทา สติมโต’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๗) กิเลสวูปสเมฯ ‘‘สโนฺต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๕๑) สาธูสุฯ ‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, มหาโจรา สโนฺต สํวิชฺชมานา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๙๕) อตฺถิภาเวฯ อิธาปิ อตฺถิภาเวเยวาติ อาห ‘‘สโนฺตติ อตฺถิ อุปลพฺภนฺตี’’ติฯ ตตฺถ อตฺถีติ โลกสเงฺกตวเสน สํวิชฺชนฺติฯ อตฺถิภาโว เหตฺถ ปุคฺคลสมฺพเนฺธน วุตฺตตฺตา โลกสมญฺญาวเสเนว เวทิตโพฺพ, น ปรมตฺถวเสนฯ อตฺถีติ เจตํ นิปาตปทํ ทฎฺฐพฺพํ ‘‘อตฺถิ อิมสฺมิํ กาเย เกสา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๑๐) วิยฯ

    13. Tatiye santoti ettha santa-saddo ‘‘dīghaṃ santassa yojana’’ntiādīsu (dha. pa. 60) kilantabhāve āgato. ‘‘Ayañca vitakko, ayañca vicāro santo honti samitā’’tiādīsu (vibha. 576) niruddhabhāve. ‘‘Adhigato kho myāyaṃ dhammo, gambhīro duddaso duranubodho santo paṇīto’’tiādīsu (dī. ni. 2.67; ma. ni. 1.281; saṃ. ni. 1.172; mahāva. 7-8) santañāṇagocaratāyaṃ. ‘‘Upasantassa sadā satimato’’tiādīsu (udā. 27) kilesavūpasame. ‘‘Santo have sabbhi pavedayantī’’tiādīsu (dha. pa. 151) sādhūsu. ‘‘Pañcime, bhikkhave, mahācorā santo saṃvijjamānā’’tiādīsu (pārā. 195) atthibhāve. Idhāpi atthibhāveyevāti āha ‘‘santoti atthi upalabbhantī’’ti. Tattha atthīti lokasaṅketavasena saṃvijjanti. Atthibhāvo hettha puggalasambandhena vuttattā lokasamaññāvaseneva veditabbo, na paramatthavasena. Atthīti cetaṃ nipātapadaṃ daṭṭhabbaṃ ‘‘atthi imasmiṃ kāye kesā’’tiādīsu (ma. ni. 1.110) viya.

    สํวิชฺชมานาติ อุปลพฺภมานาฯ ยญฺหิ สํวิชฺชติ, ตํ อุปลพฺภติฯ เตนาห ‘‘สํวิชฺชมานาติ ตเสฺสว เววจน’’นฺติฯ อนาโสติ ปตฺถนารหิโตฯ เตนาห ‘‘อปตฺถโน’’ติฯ อาสํสติ ปเตฺถตีติ อาสํโสฯ เวณุเวตฺตาทิวิลีเวหิ สุปฺปาทิภาชนการกา วิลีวการกาฯ มิคมจฺฉาทีนํ นิสาทนโต เนสาทา, มาควิกมจฺฉพนฺธาทโยฯ รเถสุ จเมฺมน นหนกรณโต รถการา , ธมฺมการาฯ ปุอิติ กรีสสฺส นามํ, ตํ กุเสนฺติ อปเนนฺตีติ ปุกฺกุสา, ปุปฺผจฺฉฑฺฑกาฯ

    Saṃvijjamānāti upalabbhamānā. Yañhi saṃvijjati, taṃ upalabbhati. Tenāha ‘‘saṃvijjamānāti tasseva vevacana’’nti. Anāsoti patthanārahito. Tenāha ‘‘apatthano’’ti. Āsaṃsati patthetīti āsaṃso. Veṇuvettādivilīvehi suppādibhājanakārakā vilīvakārakā. Migamacchādīnaṃ nisādanato nesādā, māgavikamacchabandhādayo. Rathesu cammena nahanakaraṇato rathakārā, dhammakārā. Puiti karīsassa nāmaṃ, taṃ kusenti apanentīti pukkusā, pupphacchaḍḍakā.

    ทุพฺพโณฺณติ วิรูโปฯ โอโกฎิมโกติ อาโรหาภาเวน เหฎฺฐิมโก, รสฺสกาโยติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ลกุณฺฑโก’’ติฯ ลกุ วิย ฆฎิกา วิย เฑติ ปวตฺตตีติ หิ ลกุณฺฑโก, รโสฺสฯ กณติ นิมีลตีติ กาโณฯ ตํ ปนสฺส นิมีลนํ เอเกน อกฺขินา ทฺวีหิปิ จาติ อาห ‘‘เอกกฺขิกาโณ วา อุภยกฺขิกาโณ วา’’ติฯ กุณนํ กุโณ, หตฺถเวกลฺลํฯ ตํ เอตสฺส อตฺถีติ กุณีฯ ขโญฺช วุจฺจติ ปาทวิกโลฯ เหฎฺฐิมกายสงฺขาโต สรีรสฺส ปโกฺข ปเทโส หโต อสฺสาติ ปกฺขหโตฯ เตนาห ‘‘ปีฐสปฺปี’’ติฯ ปทีเป ปทีปเน เอตพฺพํ เนตพฺพนฺติ ปทีเปยฺยํ, เตลาทิอุปกรณํฯ

    Dubbaṇṇoti virūpo. Okoṭimakoti ārohābhāvena heṭṭhimako, rassakāyoti attho. Tenāha ‘‘lakuṇḍako’’ti. Laku viya ghaṭikā viya ḍeti pavattatīti hi lakuṇḍako, rasso. Kaṇati nimīlatīti kāṇo. Taṃ panassa nimīlanaṃ ekena akkhinā dvīhipi cāti āha ‘‘ekakkhikāṇo vā ubhayakkhikāṇo vā’’ti. Kuṇanaṃ kuṇo, hatthavekallaṃ. Taṃ etassa atthīti kuṇī. Khañjo vuccati pādavikalo. Heṭṭhimakāyasaṅkhāto sarīrassa pakkho padeso hato assāti pakkhahato. Tenāha ‘‘pīṭhasappī’’ti. Padīpe padīpane etabbaṃ netabbanti padīpeyyaṃ, telādiupakaraṇaṃ.

    อาสํ น กโรตีติ รชฺชาภิเสเก กนิโฎฺฐ ปตฺถนํ น กโรติ เชเฎฺฐ สติ กนิฎฺฐสฺส อนธิการตฺตาฯ อภิเสกํ อรหตีติ อภิเสการโห, น อภิเสการโห กาณกุณิอาทิโทสสมนฺนาคโตฯ

    Āsaṃ na karotīti rajjābhiseke kaniṭṭho patthanaṃ na karoti jeṭṭhe sati kaniṭṭhassa anadhikārattā. Abhisekaṃ arahatīti abhisekāraho, na abhisekāraho kāṇakuṇiādidosasamannāgato.

    สีลสฺส ทุฎฺฐุ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อภาวโตฺถ อิธ ทุ-สโทฺทติ อาห ‘‘นิสฺสีโล’’ติฯ ‘‘ปาปํ ปาเปน สุกร’’นฺติอาทีสุ (อุทา. ๔๘; จูฬว. ๓๔๓) วิย ปาป-สโทฺท นิหีนปริยาโยติ อาห ‘‘ลามกธโมฺม’’ติฯ สีลวิปตฺติยา วา ทุสฺสีโลฯ ทิฎฺฐิวิปตฺติยา ปาปธโมฺมฯ กายวาจาสํวรเภเทน วา ทุสฺสีโล, มโนสํวรเภเทน, สติสํวราทิเภเทน วา ปาปธโมฺมฯ อสุทฺธปฺปโยคตาย ทุสฺสีโล, อสุทฺธาสยตาย ปาปธโมฺมฯ กุสลสีลวิรเหน ทุสฺสีโล, อกุสลสีลสมนฺนาคเมน ปาปธโมฺมฯ อสุจีหีติ อปริสุเทฺธหิฯ สงฺกาหิ สริตพฺพสมาจาโรติ ‘‘อิมสฺส มเญฺญ อิทํ กมฺม’’นฺติ เอวํ ปเรหิ สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโรฯ เตนาห ‘‘กิญฺจิเทวา’’ติอาทิฯ อตฺตนาเยว วา สงฺกาหิ สริตพฺพสมาจาโรติ เอเตนปิ กมฺมสาธนตํเยว สงฺกสฺสรสทฺทสฺส ทเสฺสติฯ อตฺตโน สงฺกาย ปเรสํ สมาจารกิริยํ สรติ อาสงฺกติ วิธาวตีติปิ สงฺกสฺสรสมาจาโรติ เอวเมตฺถ กตฺตุสาธนตาปิ ทฎฺฐพฺพาฯ ตสฺส หิ เทฺว ตโย ชเน กเถเนฺต ทิสฺวา ‘‘มม โทสํ มเญฺญ กเถนฺตี’’ติ เตสํ สมาจารํ สงฺกาย สรติ ธาวติฯ

    Sīlassa duṭṭhu nāma natthi, tasmā abhāvattho idha du-saddoti āha ‘‘nissīlo’’ti. ‘‘Pāpaṃ pāpena sukara’’ntiādīsu (udā. 48; cūḷava. 343) viya pāpa-saddo nihīnapariyāyoti āha ‘‘lāmakadhammo’’ti. Sīlavipattiyā vā dussīlo. Diṭṭhivipattiyā pāpadhammo. Kāyavācāsaṃvarabhedena vā dussīlo, manosaṃvarabhedena, satisaṃvarādibhedena vā pāpadhammo. Asuddhappayogatāya dussīlo, asuddhāsayatāya pāpadhammo. Kusalasīlavirahena dussīlo, akusalasīlasamannāgamena pāpadhammo. Asucīhīti aparisuddhehi. Saṅkāhi saritabbasamācāroti ‘‘imassa maññe idaṃ kamma’’nti evaṃ parehi saṅkāya saritabbasamācāro. Tenāha ‘‘kiñcidevā’’tiādi. Attanāyeva vā saṅkāhi saritabbasamācāroti etenapi kammasādhanataṃyeva saṅkassarasaddassa dasseti. Attano saṅkāya paresaṃ samācārakiriyaṃ sarati āsaṅkati vidhāvatītipi saṅkassarasamācāroti evamettha kattusādhanatāpi daṭṭhabbā. Tassa hi dve tayo jane kathente disvā ‘‘mama dosaṃ maññe kathentī’’ti tesaṃ samācāraṃ saṅkāya sarati dhāvati.

    เอวํปฎิโญฺญติ สลากคฺคหณาทีสุ ‘‘กิตฺตกา วิหาเร สมณา’’ติ คณนาย อารทฺธาย ‘‘อหมฺปิ สมโณ, อหมฺปิ สมโณ’’ติ ปฎิญฺญํ ทตฺวา สลากคฺคหณาทีนิ กโรตีติ สมโณ อหนฺติ เอวํสมณปฺปฎิโญฺญฯ สุมฺภกปตฺตธเรติ มตฺติกาปตฺตธเรฯ ปูตินา กเมฺมนาติ สํกิลิฎฺฐกเมฺมน, นิคฺคุณตาย วา คุณสารวิรหิตตฺตา อโนฺตปูติฯ กสมฺพุกจวโร ชาโต สญฺชาโต อสฺสาติ กสมฺพุชาโตติ อาห ‘‘สญฺชาตราคาทิกจวโร’’ติฯ อถ วา กสมฺพุ วุจฺจติ ตินฺตกุณปกสฎํ อุทกํ, อิมสฺมิญฺจ สาสเน ทุสฺสีโล นาม ชิคุจฺฉนียตฺตา ตินฺตกุณปอุทกสทิโส, ตสฺมา กสมฺพุ วิย ชาโตติ กสมฺพุชาโตฯ โลกุตฺตรธมฺมอุปนิสฺสยสฺส นตฺถิตายาติ ยตฺถ ปติฎฺฐิเตน สกฺกา ภเวยฺย อรหตฺตํ ลทฺธุํ, ตสฺสา ปติฎฺฐาย ภินฺนตฺตา วุตฺตํฯ มหาสีลสฺมิํ ปริปูรการิตายาติ ยตฺถ ปติฎฺฐิเตน สกฺกา ภเวยฺย อรหตฺตํ ปาปุณิตุํ, ตสฺมิํ ปริปูรการิตายฯ

    Evaṃpaṭiññoti salākaggahaṇādīsu ‘‘kittakā vihāre samaṇā’’ti gaṇanāya āraddhāya ‘‘ahampi samaṇo, ahampi samaṇo’’ti paṭiññaṃ datvā salākaggahaṇādīni karotīti samaṇo ahanti evaṃsamaṇappaṭiñño. Sumbhakapattadhareti mattikāpattadhare. Pūtinā kammenāti saṃkiliṭṭhakammena, nigguṇatāya vā guṇasāravirahitattā antopūti. Kasambukacavaro jāto sañjāto assāti kasambujātoti āha ‘‘sañjātarāgādikacavaro’’ti. Atha vā kasambu vuccati tintakuṇapakasaṭaṃ udakaṃ, imasmiñca sāsane dussīlo nāma jigucchanīyattā tintakuṇapaudakasadiso, tasmā kasambu viya jātoti kasambujāto. Lokuttaradhammaupanissayassa natthitāyāti yattha patiṭṭhitena sakkā bhaveyya arahattaṃ laddhuṃ, tassā patiṭṭhāya bhinnattā vuttaṃ. Mahāsīlasmiṃ paripūrakāritāyāti yattha patiṭṭhitena sakkā bhaveyya arahattaṃ pāpuṇituṃ, tasmiṃ paripūrakāritāya.

    อาสํสสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Āsaṃsasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๓. อาสํสสุตฺตํ • 3. Āsaṃsasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. อาสํสสุตฺตวณฺณนา • 3. Āsaṃsasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact