Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
อาสวกฺขยญาณกถา
Āsavakkhayañāṇakathā
๑๔. โส เอวํ สมาหิเต จิเตฺตติ อิธ วิปสฺสนาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ เวทิตพฺพํฯ อาสวานํ ขยญาณายาติ อรหตฺตมคฺคญาณตฺถายฯ อรหตฺตมโคฺค หิ อาสววินาสนโต อาสวานํ ขโยติ วุจฺจติฯ ตตฺร เจตํ ญาณํ ตปฺปริยาปนฺนตฺตาติ ฯ จิตฺตํ อภินินฺนาเมสินฺติ วิปสฺสนาจิตฺตํ อภินีหริํฯ โส อิทํ ทุกฺขนฺติ เอวมาทีสุ ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิโยฺย’’ติ สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจํ สรสลกฺขณปฎิเวเธน ยถาภูตํ อพฺภญฺญาสิํ ชานิํ ปฎิวิชฺฌิํฯ ตสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติกํ ตณฺหํ ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ, ตทุภยมฺปิ ยํ ฐานํ ปตฺวา นิรุชฺฌติ ตํ เตสํ อปฺปวตฺติํ นิพฺพานํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ, ตสฺส จ สมฺปาปกํ อริยมคฺคํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ สรสลกฺขณปฎิเวเธน ยถาภูตํ อพฺภญฺญาสิํ ชานิํ ปฎิวิชฺฌินฺติ เอวมโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
14.Soevaṃ samāhite citteti idha vipassanāpādakaṃ catutthajjhānacittaṃ veditabbaṃ. Āsavānaṃ khayañāṇāyāti arahattamaggañāṇatthāya. Arahattamaggo hi āsavavināsanato āsavānaṃ khayoti vuccati. Tatra cetaṃ ñāṇaṃ tappariyāpannattāti . Cittaṃ abhininnāmesinti vipassanācittaṃ abhinīhariṃ. So idaṃ dukkhanti evamādīsu ‘‘ettakaṃ dukkhaṃ, na ito bhiyyo’’ti sabbampi dukkhasaccaṃ sarasalakkhaṇapaṭivedhena yathābhūtaṃ abbhaññāsiṃ jāniṃ paṭivijjhiṃ. Tassa ca dukkhassa nibbattikaṃ taṇhaṃ ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti, tadubhayampi yaṃ ṭhānaṃ patvā nirujjhati taṃ tesaṃ appavattiṃ nibbānaṃ ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti, tassa ca sampāpakaṃ ariyamaggaṃ ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti sarasalakkhaṇapaṭivedhena yathābhūtaṃ abbhaññāsiṃ jāniṃ paṭivijjhinti evamattho veditabbo.
เอวํ สรูปโต สจฺจานิ ทเสฺสตฺวา อิทานิ กิเลสวเสน ปริยายโต ทเสฺสโนฺต ‘‘อิเม อาสวา’’ติอาทิมาหฯ ตสฺส เม เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโตติ ตสฺส มยฺหํ เอวํ ชานนฺตสฺส เอวํ ปสฺสนฺตสฺส สห วิปสฺสนาย โกฎิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถติฯ กามาสวาติ กามาสวโตฯ วิมุจฺจิตฺถาติ อิมินา ผลกฺขณํ ทเสฺสติฯ มคฺคกฺขเณ หิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ผลกฺขเณ วิมุตฺตํ โหติฯ วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณนฺติ อิมินา ปจฺจเวกฺขณญาณํ ทเสฺสติฯ ขีณา ชาตีติอาทีหิ ตสฺส ภูมิํฯ เตน หิ ญาเณน ภควา ปจฺจเวกฺขโนฺต ‘‘ขีณา ชาตี’’ติอาทีนิ อพฺภญฺญาสิํฯ กตมา ปน ภควโต ชาติ ขีณา, กถญฺจ นํ อพฺภญฺญาสีติ? วุจฺจเต – น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณา, ปุเพฺพว ขีณตฺตา; น อนาคตา, อนาคเต วายามาภาวโต; น ปจฺจุปฺปนฺนา, วิชฺชมานตฺตาฯ ยา ปน มคฺคสฺส อภาวิตตฺตา อุปฺปเชฺชยฺย เอกจตุปญฺจโวการภเวสุ เอกจตุปญฺจกฺขนฺธปฺปเภทา ชาติ, สา มคฺคสฺส ภาวิตตฺตา อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปชฺชเนน ขีณา; ตํ โส มคฺคภาวนาย ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘‘กิเลสาภาเว วิชฺชมานมฺปิ กมฺมํ อายติํ อปฺปฎิสนฺธิกํ โหตี’’ติ ชานโนฺต อพฺภญฺญาสิํฯ
Evaṃ sarūpato saccāni dassetvā idāni kilesavasena pariyāyato dassento ‘‘ime āsavā’’tiādimāha. Tassa me evaṃ jānato evaṃ passatoti tassa mayhaṃ evaṃ jānantassa evaṃ passantassa saha vipassanāya koṭippattaṃ maggaṃ katheti. Kāmāsavāti kāmāsavato. Vimuccitthāti iminā phalakkhaṇaṃ dasseti. Maggakkhaṇe hi cittaṃ vimuccati, phalakkhaṇe vimuttaṃ hoti. Vimuttasmiṃ vimuttamiti ñāṇanti iminā paccavekkhaṇañāṇaṃ dasseti. Khīṇā jātītiādīhi tassa bhūmiṃ. Tena hi ñāṇena bhagavā paccavekkhanto ‘‘khīṇā jātī’’tiādīni abbhaññāsiṃ. Katamā pana bhagavato jāti khīṇā, kathañca naṃ abbhaññāsīti? Vuccate – na tāvassa atītā jāti khīṇā, pubbeva khīṇattā; na anāgatā, anāgate vāyāmābhāvato; na paccuppannā, vijjamānattā. Yā pana maggassa abhāvitattā uppajjeyya ekacatupañcavokārabhavesu ekacatupañcakkhandhappabhedā jāti, sā maggassa bhāvitattā anuppādadhammataṃ āpajjanena khīṇā; taṃ so maggabhāvanāya pahīnakilese paccavekkhitvā ‘‘kilesābhāve vijjamānampi kammaṃ āyatiṃ appaṭisandhikaṃ hotī’’ti jānanto abbhaññāsiṃ.
วุสิตนฺติ วุตฺถํ ปริวุตฺถํ, กตํ จริตํ นิฎฺฐิตนฺติ อโตฺถฯ พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ, ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน หิ สทฺธิํ สตฺต เสกฺขา พฺรหฺมจริยวาสํ วสนฺติ นาม, ขีณาสโว วุตฺถวาโสฯ ตสฺมา ภควา อตฺตโน พฺรหฺมจริยวาสํ ปจฺจเวกฺขโนฺต ‘‘วุสิตํ พฺรหฺมจริย’’นฺติ อพฺภญฺญาสิํฯ กตํ กรณียนฺติ จตูสุ สเจฺจสุ จตูหิ มเคฺคหิ ปริญฺญาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยวเสน โสฬสวิธมฺปิ กิจฺจํ นิฎฺฐาปิตนฺติ อโตฺถ ฯ ปุถุชฺชนกลฺยาณกาทโย หิ เอตํ กิจฺจํ กโรนฺติ, ขีณาสโว กตกรณีโยฯ ตสฺมา ภควา อตฺตโน กรณียํ ปจฺจเวกฺขโนฺต ‘‘กตํ กรณีย’’นฺติ อพฺภญฺญาสิํฯ นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อิทานิ ปุน อิตฺถภาวาย เอวํ โสฬสกิจฺจภาวาย กิเลสกฺขยาย วา มคฺคภาวนากิจฺจํ เม นตฺถีติ อพฺภญฺญาสิํฯ
Vusitanti vutthaṃ parivutthaṃ, kataṃ caritaṃ niṭṭhitanti attho. Brahmacariyanti maggabrahmacariyaṃ, puthujjanakalyāṇakena hi saddhiṃ satta sekkhā brahmacariyavāsaṃ vasanti nāma, khīṇāsavo vutthavāso. Tasmā bhagavā attano brahmacariyavāsaṃ paccavekkhanto ‘‘vusitaṃ brahmacariya’’nti abbhaññāsiṃ. Kataṃ karaṇīyanti catūsu saccesu catūhi maggehi pariññāpahānasacchikiriyābhāvanābhisamayavasena soḷasavidhampi kiccaṃ niṭṭhāpitanti attho . Puthujjanakalyāṇakādayo hi etaṃ kiccaṃ karonti, khīṇāsavo katakaraṇīyo. Tasmā bhagavā attano karaṇīyaṃ paccavekkhanto ‘‘kataṃ karaṇīya’’nti abbhaññāsiṃ. Nāparaṃ itthattāyāti idāni puna itthabhāvāya evaṃ soḷasakiccabhāvāya kilesakkhayāya vā maggabhāvanākiccaṃ me natthīti abbhaññāsiṃ.
อิทานิ เอวํ ปจฺจเวกฺขณญาณปริคฺคหิตํ ตํ อาสวานํ ขยญาณาธิคมํ พฺราหฺมณสฺส ทเสฺสโนฺต อยํ โข เม พฺราหฺมณาติอาทิมาหฯ ตตฺถ วิชฺชาติ อรหตฺตมคฺคญาณวิชฺชาฯ อวิชฺชาติ จตุสจฺจปฎิจฺฉาทิกา อวิชฺชาฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ อยํ ปน วิเสโส – อยํ โข เม พฺราหฺมณ ตติยา อภินิพฺภิทา อโหสีติ เอตฺถ อยํ โข มม พฺราหฺมณ อาสวานํ ขยญาณมุขตุณฺฑเกน จตุสจฺจปฎิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตติยา อภินิพฺภิทา ตติยา นิกฺขนฺติ ตติยา อริยชาติ อโหสิ, กุกฺกุฎจฺฉาปกเสฺสว มุขตุณฺฑเกน วา ปาทนขสิขาย วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตมฺหา อณฺฑโกสมฺหา อภินิพฺภิทา นิกฺขนฺติ กุกฺกุฎนิกาเย ปจฺจาชาตีติฯ
Idāni evaṃ paccavekkhaṇañāṇapariggahitaṃ taṃ āsavānaṃ khayañāṇādhigamaṃ brāhmaṇassa dassento ayaṃ kho me brāhmaṇātiādimāha. Tattha vijjāti arahattamaggañāṇavijjā. Avijjāti catusaccapaṭicchādikā avijjā. Sesaṃ vuttanayameva. Ayaṃ pana viseso – ayaṃ kho me brāhmaṇa tatiyā abhinibbhidā ahosīti ettha ayaṃ kho mama brāhmaṇa āsavānaṃ khayañāṇamukhatuṇḍakena catusaccapaṭicchādakaṃ avijjaṇḍakosaṃ padāletvā tatiyā abhinibbhidā tatiyā nikkhanti tatiyā ariyajāti ahosi, kukkuṭacchāpakasseva mukhatuṇḍakena vā pādanakhasikhāya vā aṇḍakosaṃ padāletvā tamhā aṇḍakosamhā abhinibbhidā nikkhanti kukkuṭanikāye paccājātīti.
เอตฺตาวตา กิํ ทเสฺสตีติ? โส หิ พฺราหฺมณ กุกฺกุฎจฺฉาปโก อณฺฑโกสํ
Ettāvatā kiṃ dassetīti? So hi brāhmaṇa kukkuṭacchāpako aṇḍakosaṃ
ปทาเลตฺวา ตโต นิกฺขมโนฺต สกิเมว ชายติ, อหํ ปน ปุเพฺพ-นิวุตฺถกฺขนฺธปฎิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ภินฺทิตฺวา ปฐมํ ตาว ปุเพฺพนิวาสานุสฺสติญาณวิชฺชาย ชาโต, ตโต สตฺตานํ จุติปฎิสนฺธิปฎิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ทุติยํ ทิพฺพจกฺขุญาณวิชฺชาย ชาโต, ปุน จตุสจฺจปฎิจฺฉาทกํ อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา ตติยํ อาสวานํ ขยญาณวิชฺชาย ชาโต; เอวํ ตีหิ วิชฺชาหิ ติกฺขตฺตุํ ชาโตฯ สา จ เม ชาติ อริยา สุปริสุทฺธาติ อิทํ ทเสฺสสิฯ เอวํ ทเสฺสโนฺต จ ปุเพฺพนิวาสญาเณน อตีตํสญาณํ, ทิพฺพจกฺขุนา ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสญาณํ, อาสวกฺขเยน สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณนฺติ เอวํ ตีหิ วิชฺชาหิ สเพฺพปิ สพฺพญฺญุคุเณ ปกาเสตฺวา อตฺตโน อริยาย ชาติยา เชฎฺฐเสฎฺฐภาวํ พฺราหฺมณสฺส ทเสฺสสีติฯ
Padāletvā tato nikkhamanto sakimeva jāyati, ahaṃ pana pubbe-nivutthakkhandhapaṭicchādakaṃ avijjaṇḍakosaṃ bhinditvā paṭhamaṃ tāva pubbenivāsānussatiñāṇavijjāya jāto, tato sattānaṃ cutipaṭisandhipaṭicchādakaṃ avijjaṇḍakosaṃ padāletvā dutiyaṃ dibbacakkhuñāṇavijjāya jāto, puna catusaccapaṭicchādakaṃ avijjaṇḍakosaṃ padāletvā tatiyaṃ āsavānaṃ khayañāṇavijjāya jāto; evaṃ tīhi vijjāhi tikkhattuṃ jāto. Sā ca me jāti ariyā suparisuddhāti idaṃ dassesi. Evaṃ dassento ca pubbenivāsañāṇena atītaṃsañāṇaṃ, dibbacakkhunā paccuppannānāgataṃsañāṇaṃ, āsavakkhayena sakalalokiyalokuttaraguṇanti evaṃ tīhi vijjāhi sabbepi sabbaññuguṇe pakāsetvā attano ariyāya jātiyā jeṭṭhaseṭṭhabhāvaṃ brāhmaṇassa dassesīti.
อาสวกฺขยญาณกถา นิฎฺฐิตาฯ
Āsavakkhayañāṇakathā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / เวรญฺชกณฺฑํ • Verañjakaṇḍaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อาสวกฺขยญาณกถาวณฺณนา • Āsavakkhayañāṇakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อาสวกฺขยญาณกถาวณฺณนา • Āsavakkhayañāṇakathāvaṇṇanā