Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā

    อาสวกฺขยญาณกถา

    Āsavakkhayañāṇakathā

    ๑๔. วิปสฺสนาปาทกนฺติ วิปสฺสนาย ปทฎฺฐานภูตํฯ วิปสฺสนา จ ติวิธา วิปสฺสกปุคฺคลเภเทนฯ มหาโพธิสตฺตานญฺหิ ปเจฺจกโพธิสตฺตานญฺจ จินฺตามยญาณสํวทฺธิตตฺตา สยมฺภูญาณภูตา, อิตเรสํ สุตมยญาณสํวทฺธิตตฺตา ปโรปเทสสมฺภูตาฯ สา ‘‘ฐเปตฺวา เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อวเสสรูปารูปชฺฌานานํ อญฺญตรโต วุฎฺฐายา’’ติอาทินา อเนกธา อรูปมุขวเสน จตุธาตุววตฺถาเน วุตฺตานํ เตสํ เตสํ ธาตุปริคฺคหมุขานํ อญฺญตรมุขวเสน อเนกธาว วิสุทฺธิมเคฺค นานานยโต วิภาวิตาฯ มหาโพธิสตฺตานํ ปน จตุวีสติโกฎิสตสหสฺสมุเขน ปเภทคมนโต นานานยํ สพฺพญฺญุตญฺญาณสนฺนิสฺสยสฺส อริยมคฺคญาณสฺส อธิฎฺฐานภูตํ ปุพฺพภาคญาณคพฺภํ คณฺหาเปนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ปรมคมฺภีรํ สณฺหสุขุมตรํ อนญฺญสาธารณํ วิปสฺสนาญาณํ โหติฯ ยํ อฎฺฐกถาสุ มหาวชิรญฺญาณนฺติ วุจฺจติฯ ยสฺส จ ปวตฺติวิภาเคน จตุวีสติโกฎิสตสหสฺสปเภทสฺส ปาทกภาเวน สมาปชฺชิยมานา จตุวีสติโกฎิสตสหสฺสสงฺขฺยา เทวสิกํ สตฺถุ วฬญฺชนกสมาปตฺติโย วุจฺจนฺติ, สฺวายํ พุทฺธานํ วิปสฺสนาจาโร ปรมตฺถมญฺชุสายํ วิสุทฺธิมคฺควณฺณนายํ อุเทฺทสโต ทสฺสิโต, อตฺถิเกหิ ตโต คเหตโพฺพฯ

    14.Vipassanāpādakanti vipassanāya padaṭṭhānabhūtaṃ. Vipassanā ca tividhā vipassakapuggalabhedena. Mahābodhisattānañhi paccekabodhisattānañca cintāmayañāṇasaṃvaddhitattā sayambhūñāṇabhūtā, itaresaṃ sutamayañāṇasaṃvaddhitattā paropadesasambhūtā. Sā ‘‘ṭhapetvā nevasaññānāsaññāyatanaṃ avasesarūpārūpajjhānānaṃ aññatarato vuṭṭhāyā’’tiādinā anekadhā arūpamukhavasena catudhātuvavatthāne vuttānaṃ tesaṃ tesaṃ dhātupariggahamukhānaṃ aññataramukhavasena anekadhāva visuddhimagge nānānayato vibhāvitā. Mahābodhisattānaṃ pana catuvīsatikoṭisatasahassamukhena pabhedagamanato nānānayaṃ sabbaññutaññāṇasannissayassa ariyamaggañāṇassa adhiṭṭhānabhūtaṃ pubbabhāgañāṇagabbhaṃ gaṇhāpentaṃ paripākaṃ gacchantaṃ paramagambhīraṃ saṇhasukhumataraṃ anaññasādhāraṇaṃ vipassanāñāṇaṃ hoti. Yaṃ aṭṭhakathāsu mahāvajiraññāṇanti vuccati. Yassa ca pavattivibhāgena catuvīsatikoṭisatasahassapabhedassa pādakabhāvena samāpajjiyamānā catuvīsatikoṭisatasahassasaṅkhyā devasikaṃ satthu vaḷañjanakasamāpattiyo vuccanti, svāyaṃ buddhānaṃ vipassanācāro paramatthamañjusāyaṃ visuddhimaggavaṇṇanāyaṃ uddesato dassito, atthikehi tato gahetabbo.

    อาสวานํ เขปนโต สมุจฺฉินฺทนโต อาสวกฺขโย อริยมโคฺค, อุกฺกฎฺฐนิเทฺทสวเสน อรหตฺตมคฺคคฺคหณํฯ อาสวานํ ขเย ญาณํ อาสวกฺขยญาณนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตตฺร เจตํ ญาณ’’นฺติ วตฺวา ขเยติ จ อาธาเร ภุมฺมํ, น วิสเยติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตปฺปริยาปนฺนตฺตา’’ติ อาหฯ อิทํ ทุกฺขนฺติ ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส ตทา ปจฺจกฺขโต คหิตภาวทสฺสนํฯ เอตฺตกํ ทุกฺขนฺติ ตสฺส ปริจฺฉิชฺช คหิตภาวทสฺสนํฯ น อิโต ภิโยฺยติ อนวเสเสตฺวา คหิตภาวทสฺสนํฯ เตนาห ‘‘สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจ’’นฺติอาทิฯ สรสลกฺขณปฎิเวเธนาติ สภาวสงฺขาตสฺส ลกฺขณสฺส อสโมฺมหโต ปฎิวิชฺฌเนนฯ อสโมฺมหปฎิเวโธติ จ ยถา ตสฺมิํ ญาเณ ปวเตฺต ปจฺฉา ทุกฺขสฺส สรูปาทิปริเจฺฉเท สโมฺมโห น โหติ, ตถา ปวตฺติฯ เตนาห ‘‘ยถาภูตํ อพฺภญฺญาสิ’’นฺติฯ นิพฺพตฺติกนฺติ นิปฺผาเทนฺตํฯ ยํ ฐานํ ปตฺวาติ ยํ นิพฺพานํ มคฺคสฺส อารมฺมณปจฺจยเฎฺฐน การณภูตํ อาคมฺมฯ ตทุภยวโต หิ ปุคฺคลสฺส ปตฺติ ตทุภยสฺส ปตฺตีติ วุตฺตํฯ ปตฺวาติ วา ปาปุณนเหตุฯ อปฺปวตฺตินฺติ อปฺปวตฺตินิมิตฺตํฯ เต วา น ปวตฺตนฺติ เอตฺถาติ อปฺปวตฺติ, นิพฺพานํฯ ตสฺสาติ ทุกฺขนิโรธสฺสฯ สมฺปาปกนฺติ สจฺฉิกิริยาวเสน สมฺมเทว ปาปกํฯ

    Āsavānaṃ khepanato samucchindanato āsavakkhayo ariyamaggo, ukkaṭṭhaniddesavasena arahattamaggaggahaṇaṃ. Āsavānaṃ khaye ñāṇaṃ āsavakkhayañāṇanti dassento ‘‘tatra cetaṃ ñāṇa’’nti vatvā khayeti ca ādhāre bhummaṃ, na visayeti dassento ‘‘tappariyāpannattā’’ti āha. Idaṃ dukkhanti dukkhassa ariyasaccassa tadā paccakkhato gahitabhāvadassanaṃ. Ettakaṃ dukkhanti tassa paricchijja gahitabhāvadassanaṃ. Na ito bhiyyoti anavasesetvā gahitabhāvadassanaṃ. Tenāha ‘‘sabbampi dukkhasacca’’ntiādi. Sarasalakkhaṇapaṭivedhenāti sabhāvasaṅkhātassa lakkhaṇassa asammohato paṭivijjhanena. Asammohapaṭivedhoti ca yathā tasmiṃ ñāṇe pavatte pacchā dukkhassa sarūpādiparicchede sammoho na hoti, tathā pavatti. Tenāha ‘‘yathābhūtaṃ abbhaññāsi’’nti. Nibbattikanti nipphādentaṃ. Yaṃ ṭhānaṃ patvāti yaṃ nibbānaṃ maggassa ārammaṇapaccayaṭṭhena kāraṇabhūtaṃ āgamma. Tadubhayavato hi puggalassa patti tadubhayassa pattīti vuttaṃ. Patvāti vā pāpuṇanahetu. Appavattinti appavattinimittaṃ. Te vā na pavattanti etthāti appavatti, nibbānaṃ. Tassāti dukkhanirodhassa. Sampāpakanti sacchikiriyāvasena sammadeva pāpakaṃ.

    กิเลสวเสนาติ อาสวสงฺขาตกิเลสวเสนฯ ยสฺมา อาสวานํ ทุกฺขสจฺจปริยาโย, ตปฺปริยาปนฺนตฺตา, เสสสจฺจานญฺจ ตํสมุทยาทิปริยาโย อตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปริยายโต’’ติฯ ทเสฺสโนฺต สจฺจานีติ โยชนาฯ อาสวานํเยว เจตฺถ คหณํ ‘‘อาสวานํ ขยญาณายา’’ติ อารทฺธตฺตาฯ ตถา หิ อาสววิมุตฺติสีเสเนว สพฺพสํกิเลสวิมุตฺติ วุตฺตาฯ อิทํ ทุกฺขนฺติ ยถาภูตํ อพฺภญฺญาสินฺติอาทินา มิสฺสกมโคฺค อิธ กถิโตติ ‘‘สห วิปสฺสนาย โกฎิปฺปตฺตํ มคฺคํ กเถตี’’ติ วุตฺตํฯ เอตฺถ จ สจฺจปฺปฎิเวธสฺส ตทา อตีตกาลิกตฺตา ‘‘ยถาภูตํ อพฺภญฺญาสิ’’นฺติ วตฺวาปิ อภิสมยกาเล ตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนตํ อุปาทาย ‘‘เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต’’ติ วตฺตมานกาเลน นิเทฺทโส กโตฯ โส จ กามํ มคฺคกฺขณโต ปรํ ยาวชฺชตนา อตีตกาลิโก เอว, สพฺพปฐมํ ปนสฺส อตีตกาลิกตฺตํ ผลกฺขเณเนว เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘วิมุจฺจิตฺถาติ อิมินา ผลกฺขณํ ทเสฺสตี’’ติฯ ชานโต ปสฺสโตติ วา เหตุนิเทฺทโสยํฯ ชานนเหตุ ทสฺสนเหตุ กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถาติ โยชนาฯ ภวาสวคฺคหเณเนว เจตฺถ ภวราคสฺส วิย ภวทิฎฺฐิยาปิ สมวโรโธติ ทิฎฺฐาสวสฺสปิ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ

    Kilesavasenāti āsavasaṅkhātakilesavasena. Yasmā āsavānaṃ dukkhasaccapariyāyo, tappariyāpannattā, sesasaccānañca taṃsamudayādipariyāyo atthi, tasmā vuttaṃ ‘‘pariyāyato’’ti. Dassento saccānīti yojanā. Āsavānaṃyeva cettha gahaṇaṃ ‘‘āsavānaṃ khayañāṇāyā’’ti āraddhattā. Tathā hi āsavavimuttisīseneva sabbasaṃkilesavimutti vuttā. Idaṃ dukkhanti yathābhūtaṃ abbhaññāsintiādinā missakamaggo idha kathitoti ‘‘saha vipassanāya koṭippattaṃ maggaṃ kathetī’’ti vuttaṃ. Ettha ca saccappaṭivedhassa tadā atītakālikattā ‘‘yathābhūtaṃ abbhaññāsi’’nti vatvāpi abhisamayakāle tassa paccuppannataṃ upādāya ‘‘evaṃ jānato evaṃ passato’’ti vattamānakālena niddeso kato. So ca kāmaṃ maggakkhaṇato paraṃ yāvajjatanā atītakāliko eva, sabbapaṭhamaṃ panassa atītakālikattaṃ phalakkhaṇeneva veditabbanti āha ‘‘vimuccitthāti iminā phalakkhaṇaṃ dassetī’’ti. Jānato passatoti vā hetuniddesoyaṃ. Jānanahetu dassanahetu kāmāsavāpi cittaṃ vimuccitthāti yojanā. Bhavāsavaggahaṇeneva cettha bhavarāgassa viya bhavadiṭṭhiyāpi samavarodhoti diṭṭhāsavassapi saṅgaho daṭṭhabbo.

    ยสฺมา ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขเณน วิชฺชมานสฺสปิ กมฺมสฺส อายติํ อปฺปฎิสนฺธิกภาวโต ‘‘ขีณา ชาตี’’ติ ชานาติ, ยสฺมา จ มคฺคปจฺจเวกฺขณาทีหิ วุสิตํ พฺรหฺมจริยนฺติอาทิํ ปชานาติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ขีณา ชาตีติ อาทีหิ ตสฺส ภูมิ’’นฺติฯ ตตฺถ ตสฺสาติ ปจฺจเวกฺขณญาณสฺสฯ ภูมินฺติ ปวตฺติฎฺฐานํฯ เยนาธิปฺปาเยน ‘‘กตมา ปนา’’ติอาทินา โจทนา กตา, ตํ ปกาเสตฺวา ปริหารํ วตฺตุกาโม อาห ‘‘น ตาวสฺสา’’ติอาทิฯ น ตาวสฺส อตีตา ชาติ ขีณาติ มคฺคภาวนาย น ขีณาติ อธิปฺปาโยฯ ตตฺถ การณมาห ‘‘ปุเพฺพว ขีณตฺตา’’ติฯ น อนาคตา อสฺส ชาติ ขีณาติ โยชนาฯ น อนาคตาติ จ อนาคตตฺตสามญฺญํ คเหตฺวา เลเสน วทติฯ เตนาห ‘‘อนาคเต วายามาภาวโต’’ติฯ วิชฺชมาเนเยว หิ ปโยโค สมฺภวติ, นาวิชฺชมาเนติ อธิปฺปาโยฯ อนาคตวิเสโส ปเนตฺถ อธิเปฺปโต, ตสฺส จ เขปเน วายาโมปิ ลพฺภเตวฯ เตนาห ‘‘ยา ปน มคฺคสฺสา’’ติอาทิฯ ‘‘ยา ปนา’’ติ หิ อาทินา มคฺคภาวนาย อนาคตชาติยา เอว เหตุวินาสนทฺวาเรน ขีณภาโว ปกาสียติฯ เอกจตุปญฺจโวการภเวสูติ ภวตฺตยคฺคหณํ วุตฺตนเยน อนวเสสโต ชาติยา ขีณภาวทสฺสนตฺถํฯ นฺติ ยถาวุตฺตชาติํฯ โสติ ภควาฯ

    Yasmā pahīnakilesapaccavekkhaṇena vijjamānassapi kammassa āyatiṃ appaṭisandhikabhāvato ‘‘khīṇā jātī’’ti jānāti, yasmā ca maggapaccavekkhaṇādīhi vusitaṃ brahmacariyantiādiṃ pajānāti, tasmā vuttaṃ ‘‘khīṇā jātīti ādīhi tassa bhūmi’’nti. Tattha tassāti paccavekkhaṇañāṇassa. Bhūminti pavattiṭṭhānaṃ. Yenādhippāyena ‘‘katamā panā’’tiādinā codanā katā, taṃ pakāsetvā parihāraṃ vattukāmo āha ‘‘na tāvassā’’tiādi. Na tāvassa atītā jāti khīṇāti maggabhāvanāya na khīṇāti adhippāyo. Tattha kāraṇamāha ‘‘pubbeva khīṇattā’’ti. Na anāgatā assa jāti khīṇāti yojanā. Na anāgatāti ca anāgatattasāmaññaṃ gahetvā lesena vadati. Tenāha ‘‘anāgate vāyāmābhāvato’’ti. Vijjamāneyeva hi payogo sambhavati, nāvijjamāneti adhippāyo. Anāgataviseso panettha adhippeto, tassa ca khepane vāyāmopi labbhateva. Tenāha ‘‘yā pana maggassā’’tiādi. ‘‘Yā panā’’ti hi ādinā maggabhāvanāya anāgatajātiyā eva hetuvināsanadvārena khīṇabhāvo pakāsīyati. Ekacatupañcavokārabhavesūti bhavattayaggahaṇaṃ vuttanayena anavasesato jātiyā khīṇabhāvadassanatthaṃ. Tanti yathāvuttajātiṃ. Soti bhagavā.

    พฺรหฺมจริยวาโส นาม อิธ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส นิพฺพตฺตนเมวาติ อาห ‘‘นิฎฺฐิต’’นฺติฯ สมฺมาทิฎฺฐิยา จตูสุ สเจฺจสุ ปริญฺญาทิกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตมานาย สมฺมาสงฺกปฺปาทีนมฺปิ ทุกฺขสเจฺจ ปริญฺญาภิสมยานุคุณา ปวตฺติ, อิตรสเจฺจสุ จ เนสํ ปหานาภิสมยาทิวเสน ปวตฺติ ปากฎา เอวฯ เตน วุตฺตํ ‘‘จตูหิ มเคฺคหิ ปริญฺญาปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยวเสนา’’ติฯ นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อิเม ปการา อิตฺถํ, ตพฺภาโว อิตฺถตฺตํ, ตทตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติฯ เต ปน ปการา อริยมคฺคพฺยาปารภูตา ปริญฺญาทโย อิธาธิเปฺปตาติ อาห ‘‘เอวํโสฬสกิจฺจภาวายา’’ติฯ เต หิ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขโต มคฺคานุภาเวน ปากฎา หุตฺวา อุปฎฺฐหนฺติ , ปริญฺญาทีสุ จ ปหานเมว ปธานํ, ตทตฺถตฺตาย อิตเรสนฺติ อาห ‘‘กิเลสกฺขยาย วา’’ติฯ ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณวเสน วา เอตํ วุตฺตํฯ ‘‘นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ อพฺภญฺญาสิ’’นฺติ เอตฺถายมปโร นโย – อิตฺถตฺตายาติ นิสฺสเกฺก สมฺปทานวจนํฯ เตนายมโตฺถ – อิตฺถตฺตาย อิตฺถมฺภาวโต อิมสฺมา เอวํปการา อิทานิ วตฺตมานกฺขนฺธสนฺตานา อปรํ อนาคตกฺขนฺธสนฺตานํ มยฺหํ นตฺถิ, อิเม ปน จริมตฺตภาวสงฺขาตา ปญฺจกฺขนฺธา ปริญฺญาตา อปฺปติฎฺฐา ติฎฺฐนฺติ ฉินฺนมูลกา รุกฺขา วิยฯ อปริญฺญาตมูลกา หิ ปติฎฺฐาฯ ยถาห ‘‘กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค อตฺถิ นนฺที อตฺถิ ตณฺหา, ปติฎฺฐิตํ ตตฺถ วิญฺญาณํ วิรุฬฺห’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๖๔; กถา. ๒๙๖; มหานิ. ๗)ฯ เต ปน ปญฺจกฺขนฺธา จริมกวิญฺญาณนิโรเธน อนุปาทาโน วิย ชาตเวโท นิพฺพายิสฺสนฺตีติ อพฺภญฺญาสินฺติฯ

    Brahmacariyavāso nāma idha maggabrahmacariyassa nibbattanamevāti āha ‘‘niṭṭhita’’nti. Sammādiṭṭhiyā catūsu saccesu pariññādikiccasādhanavasena pavattamānāya sammāsaṅkappādīnampi dukkhasacce pariññābhisamayānuguṇā pavatti, itarasaccesu ca nesaṃ pahānābhisamayādivasena pavatti pākaṭā eva. Tena vuttaṃ ‘‘catūhi maggehi pariññāpahānasacchikiriyābhāvanābhisamayavasenā’’ti. Nāparaṃ itthattāyāti ime pakārā itthaṃ, tabbhāvo itthattaṃ, tadatthanti vuttaṃ hoti. Te pana pakārā ariyamaggabyāpārabhūtā pariññādayo idhādhippetāti āha ‘‘evaṃsoḷasakiccabhāvāyā’’ti. Te hi maggaṃ paccavekkhato maggānubhāvena pākaṭā hutvā upaṭṭhahanti , pariññādīsu ca pahānameva padhānaṃ, tadatthattāya itaresanti āha ‘‘kilesakkhayāya vā’’ti. Pahīnakilesapaccavekkhaṇavasena vā etaṃ vuttaṃ. ‘‘Nāparaṃ itthattāyāti abbhaññāsi’’nti etthāyamaparo nayo – itthattāyāti nissakke sampadānavacanaṃ. Tenāyamattho – itthattāya itthambhāvato imasmā evaṃpakārā idāni vattamānakkhandhasantānā aparaṃ anāgatakkhandhasantānaṃ mayhaṃ natthi, ime pana carimattabhāvasaṅkhātā pañcakkhandhā pariññātā appatiṭṭhā tiṭṭhanti chinnamūlakā rukkhā viya. Apariññātamūlakā hi patiṭṭhā. Yathāha ‘‘kabaḷīkāre ce, bhikkhave, āhāre atthi rāgo atthi nandī atthi taṇhā, patiṭṭhitaṃ tattha viññāṇaṃ viruḷha’’ntiādi (saṃ. ni. 2.64; kathā. 296; mahāni. 7). Te pana pañcakkhandhā carimakaviññāṇanirodhena anupādāno viya jātavedo nibbāyissantīti abbhaññāsinti.

    ปจฺจเวกฺขณญาณปริคฺคหิตนฺติ น ปฐมทุติยญาณทฺวยาธิคมํ วิย เกวลนฺติ อธิปฺปาโยฯ ทเสฺสโนฺตติ นิคมนวเสน ทเสฺสโนฺตฯ สรูปโต หิ ปุเพฺพ ทสฺสิตเมวาติฯ เสสเมตฺถ วุตฺตนยตฺตา สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    Paccavekkhaṇañāṇapariggahitanti na paṭhamadutiyañāṇadvayādhigamaṃ viya kevalanti adhippāyo. Dassentoti nigamanavasena dassento. Sarūpato hi pubbe dassitamevāti. Sesamettha vuttanayattā suviññeyyameva.

    ติกฺขตฺตุํ ชาโตติ อิมินา ปน อิทํ ทเสฺสติ ‘‘อหํ, พฺราหฺมณ, ปฐมวิชฺชาย ชาโตเยว ปุเรชาตสฺส สหชาตสฺส วา อภาวโต สเพฺพสํ วุโฑฺฒ มหลฺลโก, กิมงฺคํ ปน ตีหิ วิชฺชาหิ ติกฺขตฺตุํ ชาโตติฯ ปุเพฺพนิวาสญาเณน อตีตํสญาณนฺติ อตีตารมฺมณสภาคตาย ตพฺภาวีภาวโต จ ปุเพฺพนิวาสญาเณน อตีตํสญาณํ ปกาเสตฺวาติ โยเชตพฺพํฯ ตตฺถ อตีตํสญาณนฺติ อตีตกฺขนฺธายตนธาตุสงฺขาเต อตีตโกฎฺฐาเส อปฺปฎิหตญาณํฯ ทิพฺพจกฺขุญาณสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตา ยถากมฺมูปคญาณสฺส อนาคตํสญาณสฺส จ ทิพฺพจกฺขุวเสเนว อิชฺฌนโต ทิพฺพจกฺขุโน ปริภณฺฑญาณตฺตา ทิพฺพจกฺขุมฺหิเยว จ ฐิตสฺส เจโตปริยญาณสิทฺธิโต วุตฺตํ ‘‘ทิพฺพจกฺขุนา ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสญาณ’’นฺติฯ ตตฺถ ทิพฺพจกฺขุนาติ สปริภเณฺฑน ทิพฺพจกฺขุญาเณนฯ ปจฺจุปฺปนฺนํโส จ อนาคตํโส จ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสํ, ตตฺถ ญาณํ ปจฺจุปฺปนฺนานาคตํสญาณํฯ อาสวกฺขยญาณาธิคเมเนว สพฺพญฺญุตญฺญาณสฺส วิย เสสาสาธารณญาณทสพลญาณอาเวณิกพุทฺธธมฺมาทีนมฺปิ อนญฺญสาธารณานํ พุทฺธคุณานํ อิชฺฌนโต วุตฺตํ ‘‘อาสวกฺขเยน สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณ’’นฺติฯ เตนาห ‘‘สเพฺพปิ สพฺพญฺญุคุเณ ปกาเสตฺวา’’ติฯ

    Tikkhattuṃ jātoti iminā pana idaṃ dasseti ‘‘ahaṃ, brāhmaṇa, paṭhamavijjāya jātoyeva purejātassa sahajātassa vā abhāvato sabbesaṃ vuḍḍho mahallako, kimaṅgaṃ pana tīhi vijjāhi tikkhattuṃ jātoti. Pubbenivāsañāṇena atītaṃsañāṇanti atītārammaṇasabhāgatāya tabbhāvībhāvato ca pubbenivāsañāṇena atītaṃsañāṇaṃ pakāsetvāti yojetabbaṃ. Tattha atītaṃsañāṇanti atītakkhandhāyatanadhātusaṅkhāte atītakoṭṭhāse appaṭihatañāṇaṃ. Dibbacakkhuñāṇassa paccuppannārammaṇattā yathākammūpagañāṇassa anāgataṃsañāṇassa ca dibbacakkhuvaseneva ijjhanato dibbacakkhuno paribhaṇḍañāṇattā dibbacakkhumhiyeva ca ṭhitassa cetopariyañāṇasiddhito vuttaṃ ‘‘dibbacakkhunā paccuppannānāgataṃsañāṇa’’nti. Tattha dibbacakkhunāti saparibhaṇḍena dibbacakkhuñāṇena. Paccuppannaṃso ca anāgataṃso ca paccuppannānāgataṃsaṃ, tattha ñāṇaṃ paccuppannānāgataṃsañāṇaṃ. Āsavakkhayañāṇādhigameneva sabbaññutaññāṇassa viya sesāsādhāraṇañāṇadasabalañāṇaāveṇikabuddhadhammādīnampi anaññasādhāraṇānaṃ buddhaguṇānaṃ ijjhanato vuttaṃ ‘‘āsavakkhayena sakalalokiyalokuttaraguṇa’’nti. Tenāha ‘‘sabbepi sabbaññuguṇe pakāsetvā’’ti.

    อาสวกฺขยญาณกถา นิฎฺฐิตาฯ

    Āsavakkhayañāṇakathā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / เวรญฺชกณฺฑํ • Verañjakaṇḍaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / อาสวกฺขยญาณกถา • Āsavakkhayañāṇakathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อาสวกฺขยญาณกถาวณฺณนา • Āsavakkhayañāṇakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อาสวกฺขยญาณกถาวณฺณนา • Āsavakkhayañāṇakathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact