Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi

    ๖๙. อาสยานุสยญาณนิเทฺทโส

    69. Āsayānusayañāṇaniddeso

    ๑๑๓. กตมํ ตถาคตสฺส สตฺตานํ อาสยานุสเย ญาณํ? อิธ ตถาคโต สตฺตานํ อาสยํ ชานาติ, อนุสยํ ชานาติ, จริตํ ชานาติ , อธิมุตฺติํ ชานาติ, ภพฺพาภเพฺพ สเตฺต ปชานาติฯ กตโม 1 สตฺตานํ อาสโย? ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ วา, ‘‘อสสฺสโต โลโก’’ติ วา, ‘‘อนฺตวา โลโก’’ติ วา, ‘‘อนนฺตวา โลโก’’ติ วา, ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ วา, ‘‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’’นฺติ วา, ‘‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา, ‘‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา, ‘‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา, ‘‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วาฯ อิติ ภวทิฎฺฐิสนฺนิสฺสิตา วา สตฺตา โหนฺติ วิภวทิฎฺฐิสนฺนิสฺสิตา วาฯ

    113. Katamaṃ tathāgatassa sattānaṃ āsayānusaye ñāṇaṃ? Idha tathāgato sattānaṃ āsayaṃ jānāti, anusayaṃ jānāti, caritaṃ jānāti , adhimuttiṃ jānāti, bhabbābhabbe satte pajānāti. Katamo 2 sattānaṃ āsayo? ‘‘Sassato loko’’ti vā, ‘‘asassato loko’’ti vā, ‘‘antavā loko’’ti vā, ‘‘anantavā loko’’ti vā, ‘‘taṃ jīvaṃ taṃ sarīra’’nti vā, ‘‘aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīra’’nti vā, ‘‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti vā, ‘‘na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti vā, ‘‘hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti vā, ‘‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti vā. Iti bhavadiṭṭhisannissitā vā sattā honti vibhavadiṭṭhisannissitā vā.

    เอเต วา ปน อุโภ อเนฺต อนุปคมฺม อิทปฺปจฺจยตาปฎิจฺจสมุปฺปเนฺนสุ ธเมฺมสุ อนุโลมิกา ขนฺติ ปฎิลทฺธา โหติ, ยถาภูตํ วา ญาณํฯ กามํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ – ‘‘อยํ ปุคฺคโล กามครุโก กามาสโย กามาธิมุโตฺต’’ติฯ กามํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ – ‘‘อยํ ปุคฺคโล เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาสโย เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต’’ติฯ เนกฺขมฺมํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ – ‘‘อยํ ปุคฺคโล (เนกฺขมฺมครุโก เนกฺขมฺมาสโย เนกฺขมฺมาธิมุโตฺต’’ติฯ เนกฺขมฺมํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ – ‘‘อยํ ปุคฺคโล กามครุโก กามาสโย กามาธิมุโตฺต’’ติฯ พฺยาปาทํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ) 3 – ‘‘อยํ ปุคฺคโล พฺยาปาทครุโก พฺยาปาทาสโย พฺยาปาทาธิมุโตฺต’’ติฯ พฺยาปาทํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ – ‘‘อยํ ปุคฺคโล (อพฺยาปาทครุโก อพฺยาปาทาสโย อพฺยาปาทาธิมุโตฺต’’ติฯ อพฺยาปาทํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ – ‘‘อยํ ปุคฺคโล อพฺยาปาทครุโก อพฺยาปาทาสโย อพฺยาปาทาธิมุโตฺต’’ติฯ อพฺยาปาทํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ – ‘‘อยํ ปุคฺคโล พฺยาปาทครุโก พฺยาปาทาสโย พฺยาปาทาธิมุโตฺต’’ติฯ ถินมิทฺธํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ) – ‘‘อยํ ปุคฺคโล ถินมิทฺธครุโก ถินมิทฺธาสโย ถินมิทฺธาธิมุโตฺต’’ติฯ ถินมิทฺธํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ – ‘‘อยํ ปุคฺคโล อาโลกสญฺญาครุโก อาโลกสญฺญาสโย อาโลกสญฺญาธิมุโตฺต’’ติฯ อาโลกสญฺญํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ – ‘‘อยํ ปุคฺคโล (อาโลกสญฺญาครุโก อาโลกสญฺญาสโย อาโลกสญฺญาธิมุโตฺต’’ติฯ อาโลกสญฺญํ เสวนฺตเญฺญว ชานาติ – ‘‘อยํ ปุคฺคโล ถินมิทฺธครุโก ถินมิทฺธาสโย ถินมิทฺธาธิมุโตฺต’’ติฯ) อยํ สตฺตานํ อาสโยฯ

    Ete vā pana ubho ante anupagamma idappaccayatāpaṭiccasamuppannesu dhammesu anulomikā khanti paṭiladdhā hoti, yathābhūtaṃ vā ñāṇaṃ. Kāmaṃ sevantaññeva jānāti – ‘‘ayaṃ puggalo kāmagaruko kāmāsayo kāmādhimutto’’ti. Kāmaṃ sevantaññeva jānāti – ‘‘ayaṃ puggalo nekkhammagaruko nekkhammāsayo nekkhammādhimutto’’ti. Nekkhammaṃ sevantaññeva jānāti – ‘‘ayaṃ puggalo (nekkhammagaruko nekkhammāsayo nekkhammādhimutto’’ti. Nekkhammaṃ sevantaññeva jānāti – ‘‘ayaṃ puggalo kāmagaruko kāmāsayo kāmādhimutto’’ti. Byāpādaṃ sevantaññeva jānāti) 4 – ‘‘ayaṃ puggalo byāpādagaruko byāpādāsayo byāpādādhimutto’’ti. Byāpādaṃ sevantaññeva jānāti – ‘‘ayaṃ puggalo (abyāpādagaruko abyāpādāsayo abyāpādādhimutto’’ti. Abyāpādaṃ sevantaññeva jānāti – ‘‘ayaṃ puggalo abyāpādagaruko abyāpādāsayo abyāpādādhimutto’’ti. Abyāpādaṃ sevantaññeva jānāti – ‘‘ayaṃ puggalo byāpādagaruko byāpādāsayo byāpādādhimutto’’ti. Thinamiddhaṃ sevantaññeva jānāti) – ‘‘ayaṃ puggalo thinamiddhagaruko thinamiddhāsayo thinamiddhādhimutto’’ti. Thinamiddhaṃ sevantaññeva jānāti – ‘‘ayaṃ puggalo ālokasaññāgaruko ālokasaññāsayo ālokasaññādhimutto’’ti. Ālokasaññaṃ sevantaññeva jānāti – ‘‘ayaṃ puggalo (ālokasaññāgaruko ālokasaññāsayo ālokasaññādhimutto’’ti. Ālokasaññaṃ sevantaññeva jānāti – ‘‘ayaṃ puggalo thinamiddhagaruko thinamiddhāsayo thinamiddhādhimutto’’ti.) Ayaṃ sattānaṃ āsayo.

    ๑๑๔. กตโม จ สตฺตานํ อนุสโย? สตฺตานุสยา – กามราคานุสโย, ปฎิฆานุสโย, มานานุสโย, ทิฎฺฐานุสโย, วิจิกิจฺฉานุสโย, ภวราคานุสโย , อวิชฺชานุสโยฯ ยํ โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺถ สตฺตานํ กามราคานุสโย อนุเสติฯ ยํ โลเก อปฺปิยรูปํ อสาตรูปํ , เอตฺถ สตฺตานํ ปฎิฆานุสโย อนุเสติฯ อิติ อิเมสุ ทฺวีสุ ธเมฺมสุ อวิชฺชา อนุปติตา, ตเทกโฎฺฐ มาโน จ ทิฎฺฐิ จ วิจิกิจฺฉา จ ทฎฺฐพฺพาฯ อยํ สตฺตานํ อนุสโยฯ

    114. Katamo ca sattānaṃ anusayo? Sattānusayā – kāmarāgānusayo, paṭighānusayo, mānānusayo, diṭṭhānusayo, vicikicchānusayo, bhavarāgānusayo , avijjānusayo. Yaṃ loke piyarūpaṃ sātarūpaṃ, ettha sattānaṃ kāmarāgānusayo anuseti. Yaṃ loke appiyarūpaṃ asātarūpaṃ , ettha sattānaṃ paṭighānusayo anuseti. Iti imesu dvīsu dhammesu avijjā anupatitā, tadekaṭṭho māno ca diṭṭhi ca vicikicchā ca daṭṭhabbā. Ayaṃ sattānaṃ anusayo.

    กตมญฺจ สตฺตานํ จริตํ? ปุญฺญาภิสงฺขาโร อปุญฺญาภิสงฺขาโร อาเนญฺชาภิสงฺขาโร ปริตฺตภูมโก วา มหาภูมโก วาฯ อิทํ สตฺตานํ จริตํฯ

    Katamañca sattānaṃ caritaṃ? Puññābhisaṅkhāro apuññābhisaṅkhāro āneñjābhisaṅkhāro parittabhūmako vā mahābhūmako vā. Idaṃ sattānaṃ caritaṃ.

    ๑๑๕. กตมา จ สตฺตานํ อธิมุตฺติ? สนฺติ สตฺตา หีนาธิมุตฺติกา, สนฺติ สตฺตา ปณีตาธิมุตฺติกาฯ หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเก สเตฺต เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺติฯ ปณีตาธิมุตฺติกา สตฺตา ปณีตาธิมุตฺติเก สเตฺต เสวนฺติ ภชนฺติ ปยิรุปาสนฺติฯ อตีตมฺปิ อทฺธานํ หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเก สเตฺต เสวิํสุ ภชิํสุ ปยิรุปาสิํสุ; ปณีตาธิมุตฺติกา สตฺตา ปณีตาธิมุตฺติเก สเตฺต เสวิํสุ ภชิํสุ ปยิรุปาสิํสุฯ อนาคตมฺปิ อทฺธานํ หีนาธิมุตฺติกา สตฺตา หีนาธิมุตฺติเก สเตฺต เสวิสฺสนฺติ ภชิสฺสนฺติ ปยิรุปาสิสฺสนฺติ; ปณีตาธิมุตฺติกา สตฺตา ปณีตาธิมุตฺติเก สเตฺต เสวิสฺสนฺติ ภชิสฺสนฺติ ปยิรุปาสิสฺสนฺติฯ อยํ สตฺตานํ อธิมุตฺติฯ

    115. Katamā ca sattānaṃ adhimutti? Santi sattā hīnādhimuttikā, santi sattā paṇītādhimuttikā. Hīnādhimuttikā sattā hīnādhimuttike satte sevanti bhajanti payirupāsanti. Paṇītādhimuttikā sattā paṇītādhimuttike satte sevanti bhajanti payirupāsanti. Atītampi addhānaṃ hīnādhimuttikā sattā hīnādhimuttike satte seviṃsu bhajiṃsu payirupāsiṃsu; paṇītādhimuttikā sattā paṇītādhimuttike satte seviṃsu bhajiṃsu payirupāsiṃsu. Anāgatampi addhānaṃ hīnādhimuttikā sattā hīnādhimuttike satte sevissanti bhajissanti payirupāsissanti; paṇītādhimuttikā sattā paṇītādhimuttike satte sevissanti bhajissanti payirupāsissanti. Ayaṃ sattānaṃ adhimutti.

    กตเม สตฺตา อภพฺพา? เย เต สตฺตา กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตา, กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา, วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา , อสฺสทฺธา อจฺฉนฺทิกา ทุปฺปญฺญา, อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธเมฺมสุ สมฺมตฺตํ – อิเม เต สตฺตา อภพฺพาฯ

    Katame sattā abhabbā? Ye te sattā kammāvaraṇena samannāgatā, kilesāvaraṇena samannāgatā, vipākāvaraṇena samannāgatā , assaddhā acchandikā duppaññā, abhabbā niyāmaṃ okkamituṃ kusalesu dhammesu sammattaṃ – ime te sattā abhabbā.

    กตเม สตฺตา ภพฺพา? เย เต สตฺตา น กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตา, น กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา, น วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา, สทฺธา ฉนฺทิกา ปญฺญวโนฺต, ภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธเมฺมสุ สมฺมตฺตํ – อิเม เต สตฺตา ภพฺพาฯ อิทํ ตถาคตสฺส สตฺตานํ อาสยานุสเย ญาณํฯ

    Katame sattā bhabbā? Ye te sattā na kammāvaraṇena samannāgatā, na kilesāvaraṇena samannāgatā, na vipākāvaraṇena samannāgatā, saddhā chandikā paññavanto, bhabbā niyāmaṃ okkamituṃ kusalesu dhammesu sammattaṃ – ime te sattā bhabbā. Idaṃ tathāgatassa sattānaṃ āsayānusaye ñāṇaṃ.

    อาสยานุสยญาณนิเทฺทโส นวสฎฺฐิโมฯ

    Āsayānusayañāṇaniddeso navasaṭṭhimo.







    Footnotes:
    1. กตโม จ (สฺยา. ก.)
    2. katamo ca (syā. ka.)
    3. ( ) เอตฺถนฺตเร ปาฐา นตฺถิ สฺยามโปตฺถเก, เอวมุปริปิ
    4. ( ) etthantare pāṭhā natthi syāmapotthake, evamuparipi



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā / ๖๙. อาสยานุสยญาณนิเทฺทสวณฺณนา • 69. Āsayānusayañāṇaniddesavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact