Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๑๙. อาสีวิสวโคฺค
19. Āsīvisavaggo
๑. อาสีวิโสปมสุตฺตวณฺณนา
1. Āsīvisopamasuttavaṇṇanā
๒๓๘. เย ภิกฺขู ตทา ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา, เตสุ เกจิ เอกวิหาริโน, เกจิ อตฺตทุติยา, เกจิ อตฺตตติยา, เกจิ อตฺตจตุตฺถา, เกจิ อตฺตปญฺจมา หุตฺวา อรญฺญายตเนสุ วิหรนฺตีติ วุตฺตํ – ‘‘เอกจาริก…เป.… ปญฺจจาริเก’’ติฯ สมานชฺฌาสยตา สภาควุตฺติโนฯ กมฺมฎฺฐานานุยุญฺชนสฺส การเกฯ ตโต เอว ตตฺถ ยุตฺตปยุเตฺตฯ ปุคฺคลชฺฌาสเยน การณภูเตนฯ ปจฺจยภูตนฺติ อปสฺสยภูตํฯ ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว’’ติ อารภิตฺวา ยาว ‘‘ติโณฺณ ปารงฺคโต ถเล ติฎฺฐติ พฺราหฺมโณ’’ติ อยํ มาติกานิเกฺขโปฯ เตสํ มาติกาย วิตฺถารภาชนํฯ วาสนา ภวิสฺสตีติ วาสนาวหํ ภวิสฺสติฯ สิเนรุํ อุกฺขิปโนฺต วิยาติอาทิ อิมิสฺสา เทสนาย อนญฺญสาธารณตาย สุทุกฺกรภาวทสฺสนํฯ
238. Ye bhikkhū tadā bhagavantaṃ parivāretvā nisinnā, tesu keci ekavihārino, keci attadutiyā, keci attatatiyā, keci attacatutthā, keci attapañcamā hutvā araññāyatanesu viharantīti vuttaṃ – ‘‘ekacārika…pe… pañcacārike’’ti. Samānajjhāsayatā sabhāgavuttino. Kammaṭṭhānānuyuñjanassa kārake. Tato eva tattha yuttapayutte. Puggalajjhāsayena kāraṇabhūtena. Paccayabhūtanti apassayabhūtaṃ. ‘‘Seyyathāpi, bhikkhave’’ti ārabhitvā yāva ‘‘tiṇṇo pāraṅgato thale tiṭṭhati brāhmaṇo’’ti ayaṃ mātikānikkhepo. Tesaṃ mātikāya vitthārabhājanaṃ. Vāsanā bhavissatīti vāsanāvahaṃ bhavissati. Sineruṃ ukkhipanto viyātiādi imissā desanāya anaññasādhāraṇatāya sudukkarabhāvadassanaṃ.
มญฺจเฎฺฐสุ มญฺจสมญฺญา วิย มุขฎฺฐํ วิสํ ‘‘มุข’’นฺติ อธิเปฺปตํฯ สุกฺขกฎฺฐสทิสภาวาปาทนโต ‘‘กฎฺฐ’’นฺติ วุจฺจตีติ กฎฺฐํ มุขํ เอตสฺสาติ กฎฺฐมุโข, ทํสนาทินา กฎฺฐสทิสภาวกโร สโปฺปฯ อถ วา กฎฺฐสทิสภาวาปาทนโต กฎฺฐํ วิสํ วา มุเข เอตสฺสาติ กฎฺฐมุโขฯ อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อิเม จตฺตาโรติ อิเม วิสกิจฺจเภเทน จตฺตาโรฯ อิทานิ ตํ เนสํ วิสกิจฺจเภทํ ทเสฺสตุํ ‘‘เตสู’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อยสูลสมปฺปิตํ วิยาติ อพฺภนฺตเร อยสูลํ อนุปฺปเวสิตํ วิยฯ ปกฺกปูติปนสํ วิยาติ ปจฺจิตฺวา กาลาติกฺกเม กุถิตปนสผลํ วิยฯ จงฺควาเรติ รชกานํ ขารปริสฺสาวเน สุราปริสฺสาวเน วาฯ อนวเสสํ ฉิชฺชเนน อสนิปาตฎฺฐานํ วิยฯ มหานิขาทเนนาติ มหเนฺตน นิขาทเนนฯ
Mañcaṭṭhesu mañcasamaññā viya mukhaṭṭhaṃ visaṃ ‘‘mukha’’nti adhippetaṃ. Sukkhakaṭṭhasadisabhāvāpādanato ‘‘kaṭṭha’’nti vuccatīti kaṭṭhaṃ mukhaṃ etassāti kaṭṭhamukho, daṃsanādinā kaṭṭhasadisabhāvakaro sappo. Atha vā kaṭṭhasadisabhāvāpādanato kaṭṭhaṃ visaṃ vā mukhe etassāti kaṭṭhamukho. Iminā nayena sesapadesupi attho veditabbo. Ime cattāroti ime visakiccabhedena cattāro. Idāni taṃ nesaṃ visakiccabhedaṃ dassetuṃ ‘‘tesū’’tiādi vuttaṃ. Ayasūlasamappitaṃ viyāti abbhantare ayasūlaṃ anuppavesitaṃ viya. Pakkapūtipanasaṃ viyāti paccitvā kālātikkame kuthitapanasaphalaṃ viya. Caṅgavāreti rajakānaṃ khāraparissāvane surāparissāvane vā. Anavasesaṃ chijjanena asanipātaṭṭhānaṃ viya. Mahānikhādanenāti mahantena nikhādanena.
วิสเวควิกาเรนาติ วิสเวคคเตน วิกาเรนฯ วาเตนาติ ตสฺส สปฺปสฺส สรีรํ ผุสิตฺวา อุคฺคตวาเตนฯ นาสวาเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ ปุคฺคลปณฺณตฺติวเสนาติ เตสํเยว โสฬสนฺนํ สปฺปานํ อาคตวิโสติอาทิปุคฺคลนามสฺส วเสน จตุสฎฺฐิ โหนฺติ ปเจฺจกํ จตุพฺพิธภาวโตฯ อาคตวิโสติ อาคจฺฉวิโส, สีฆตรํ อภิรุหนวิโสติ อโตฺถฯ โฆรวิโสติ กกฺขฬวิโส, ทุตฺติกิจฺฉวิโสฯ อยํ สีตอุทกํ วิย โหติ คาฬฺหทุพฺพินิโมฺมจยภาเวนฯ อุทกสโปฺป หิ โฆรวิโส โหติ เยวาติ วุตฺตํ – ‘‘อุทกสปฺปาทีนํ วิสํ วิยา’’ติฯ ปญฺญายตีติ คณฺฑปิฬกาทิวเสน ปญฺญายติฯ อเนฬกสโปฺป นาม มหาอาสีวิโสฯ นีลสโปฺป นาม สาขวโณฺณ รุกฺขคฺคาทีสุ วิจรณกสโปฺปฯ อิมินา อุปาเยนาติ โยยํ กฎฺฐมุเขสุ ทฎฺฐวิสานํเยว ‘‘อาคตวิโส โน โฆรวิโส’’ติอาทินา จตุพฺพิธภาโว วุโตฺต, อิมินา อุปาเยนฯ กฎฺฐมุเข ทฎฺฐวิสาทโยติ กฎฺฐมุเขสุ ทฎฺฐวิโส, ผุฎฺฐวิโส, วาตวิโภติ ตโย, ปูติมุขาทีสุ จ ทฎฺฐวิสาทโย จตฺตาโร จตฺตาโร เวทิตโพฺพฯ
Visavegavikārenāti visavegagatena vikārena. Vātenāti tassa sappassa sarīraṃ phusitvā uggatavātena. Nāsavāte pana vattabbameva natthi. Puggalapaṇṇattivasenāti tesaṃyeva soḷasannaṃ sappānaṃ āgatavisotiādipuggalanāmassa vasena catusaṭṭhi honti paccekaṃ catubbidhabhāvato. Āgatavisoti āgacchaviso, sīghataraṃ abhiruhanavisoti attho. Ghoravisoti kakkhaḷaviso, duttikicchaviso. Ayaṃ sītaudakaṃ viya hoti gāḷhadubbinimmocayabhāvena. Udakasappo hi ghoraviso hoti yevāti vuttaṃ – ‘‘udakasappādīnaṃ visaṃ viyā’’ti. Paññāyatīti gaṇḍapiḷakādivasena paññāyati. Aneḷakasappo nāma mahāāsīviso. Nīlasappo nāma sākhavaṇṇo rukkhaggādīsu vicaraṇakasappo. Iminā upāyenāti yoyaṃ kaṭṭhamukhesu daṭṭhavisānaṃyeva ‘‘āgataviso no ghoraviso’’tiādinā catubbidhabhāvo vutto, iminā upāyena. Kaṭṭhamukhe daṭṭhavisādayoti kaṭṭhamukhesu daṭṭhaviso, phuṭṭhaviso, vātavibhoti tayo, pūtimukhādīsu ca daṭṭhavisādayo cattāro cattāro veditabbo.
เอเกกนฺติ จตุสฎฺฐิโย เอเกกํฯ จตุธาติ อณฺฑชาทิวิภาเคน จตุธา วิภชิตฺวาฯ ฉปณฺณาสานีติ ฉปณฺณาสาธิกานิฯ คตมคฺคสฺสาติ ยถาวุตฺตสงฺขฺยาคตมคฺคสฺส ปฎิโลมโต สํขิปฺปมานา อนุกฺกเมน จตฺตาโรว โหนฺติฯ กุลวเสนาติ กฎฺฐมุขาทิชาติวเสนฯ
Ekekanti catusaṭṭhiyo ekekaṃ. Catudhāti aṇḍajādivibhāgena catudhā vibhajitvā. Chapaṇṇāsānīti chapaṇṇāsādhikāni. Gatamaggassāti yathāvuttasaṅkhyāgatamaggassa paṭilomato saṃkhippamānā anukkamena cattārova honti. Kulavasenāti kaṭṭhamukhādijātivasena.
สกลกาเย อาสิญฺจิตฺวา วิย ฐปิตวิสาติ หิ เตสํ ผุฎฺฐวิสตา, วาตวิสตา วุจฺจติฯ เอวนฺติ ‘‘อาสิตฺตวิสา’’ติอาทินาฯ เอตฺถาติ อาสีวิสสเทฺท วจนโตฺถ นิรุตฺตินเยน เวทิตโพฺพฯ อุคฺคตเตชาติ อุทคฺคเตชา, อตฺตโน วิสเตเชน เนสํ กุรูรทพฺพตา วาฯ ทุนฺนิมฺมทฺทนวิสาติ มนฺตาคเทหิ อนิมฺมทฺทนียวิสาฯ จตฺตาโร อาสีวิสาติ เอตฺถ อิติ-สโทฺท อาทิอโตฺถฯ เตเนตฺถ อวเสสปาฬิํ สงฺคณฺหาติฯ
Sakalakāye āsiñcitvā viya ṭhapitavisāti hi tesaṃ phuṭṭhavisatā, vātavisatā vuccati. Evanti ‘‘āsittavisā’’tiādinā. Etthāti āsīvisasadde vacanattho niruttinayena veditabbo. Uggatatejāti udaggatejā, attano visatejena nesaṃ kurūradabbatā vā. Dunnimmaddanavisāti mantāgadehi animmaddanīyavisā. Cattāro āsīvisāti ettha iti-saddo ādiattho. Tenettha avasesapāḷiṃ saṅgaṇhāti.
อาสีวิเสสูติ อิเม อาสีวิสา ทฎฺฐวิสา เอวาติ เวทิตพฺพาฯ สรีรฎฺฐเกสุเยวาติ เตน ปุริเสน เตสํ กสฺสจิ อนิฎฺฐสฺส อกตตฺตา อายุเสสสฺส จ วิชฺชมานตฺตา นํ น ทํสิํสูติ ทฎฺฐพฺพํฯ ปุจฺฉิ ยถาภูตํ ปเวเทตุกาโมฯ ทุรุปฎฺฐาหาติ ทุรุปฎฺฐานาฯ โสตฺถิมโคฺคติ โสตฺถิภาวสฺส อุปาโยฯ
Āsīvisesūti ime āsīvisā daṭṭhavisā evāti veditabbā. Sarīraṭṭhakesuyevāti tena purisena tesaṃ kassaci aniṭṭhassa akatattā āyusesassa ca vijjamānattā naṃ na daṃsiṃsūti daṭṭhabbaṃ. Pucchi yathābhūtaṃ pavedetukāmo. Durupaṭṭhāhāti durupaṭṭhānā. Sotthimaggoti sotthibhāvassa upāyo.
อนฺตรจโรติ อนฺตรํ จโร สุขสตฺตุ วิสฺสาสฆาตีฯ เตนาห ‘‘วธโก’’ติฯ อิทานิ ตาสํ เปสเน การณํ ทเสฺสตุํ ‘‘ปฐม’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ อภิมุขคตํ วิย อภิมุขคตํฯ อีทิสีปิ หิ วโจยุตฺติ โลเก นิรูปียติ สนฺติยํ ปุริสํ ฐเปตีติ วิยฯ ตสฺมา อภิมุขคตนฺติ อภิมุขํ เตน สมฺปตฺตนฺติ อโตฺถฯ วงฺกสณฺฐานํ ผลกํ รุกฺขมูเล อาคตาคตานํ นิสีทนตฺถาย อตฺถตํฯ
Antaracaroti antaraṃ caro sukhasattu vissāsaghātī. Tenāha ‘‘vadhako’’ti. Idāni tāsaṃ pesane kāraṇaṃ dassetuṃ ‘‘paṭhama’’ntiādi vuttaṃ. Abhimukhagataṃ viya abhimukhagataṃ. Īdisīpi hi vacoyutti loke nirūpīyati santiyaṃ purisaṃ ṭhapetīti viya. Tasmā abhimukhagatanti abhimukhaṃ tena sampattanti attho. Vaṅkasaṇṭhānaṃ phalakaṃ rukkhamūle āgatāgatānaṃ nisīdanatthāya atthataṃ.
อริตฺตหโตฺถ ปุริโส สนฺตาเรติ เอตายาติ สนฺตารณีฯ โอริมตีรโต อุตฺตรณาย เสตุ อุตฺตรเสตุฯ เอเกน ทฺวีหิ วา คนฺตโพฺพ รุกฺขมโย เสตุ รุกฺขเสตุฯ ชงฺฆสเตฺถน คมนโยโคฺค เสตุ ชงฺฆเสตุฯ สกเฎน คนฺตุํ สกฺกุเณโยฺย สกฎเสตุฯ น โข เอส พฺราหฺมโณ ปรมตฺถโตฯ ตทโตฺถ ปน เอกเทเสน สมฺภวตีติ ตถา วุตฺตนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘เอตฺตกานํ ปจฺจตฺถิกานํ พาหิตตฺตา’’ติ อาหฯ เทสนนฺติ อุเทฺทสเทสนํฯ วินิวเตฺตโนฺตติ ปฎิสํหรโนฺตฯ น ลโทฺธ วตาสีติ น ลโทฺธ วต อาสิฯ
Arittahattho puriso santāreti etāyāti santāraṇī. Orimatīrato uttaraṇāya setu uttarasetu. Ekena dvīhi vā gantabbo rukkhamayo setu rukkhasetu. Jaṅghasatthena gamanayoggo setu jaṅghasetu. Sakaṭena gantuṃ sakkuṇeyyo sakaṭasetu. Na kho esa brāhmaṇo paramatthato. Tadattho pana ekadesena sambhavatīti tathā vuttanti dassento ‘‘ettakānaṃ paccatthikānaṃ bāhitattā’’ti āha. Desananti uddesadesanaṃ. Vinivattentoti paṭisaṃharanto. Na laddho vatāsīti na laddho vata āsi.
ราชา วิย กมฺมํ สเตฺตสุ อิสฺสริยสฺส วตฺตาปนโตฯ ราชา…เป.… ปุถุชฺชโน วฎฺฎทุกฺขสงฺขาตาปราธตายฯ ญาณปลายเนนาติ มหาภูเตหิ นิพฺพินฺทิตฺวา วิรชฺชิตฺวา วิมุจฺจิตุกามตาวเสน อุปฺปนฺนญาณปลายเน มคฺคาธิคมสิเทฺธเนว ญาณปลายเนนฯ เอวเญฺหตฺถ อุปมาสํสนฺทนํ มตฺถกํ ปาปิตเมว โหติฯ
Rājā viya kammaṃ sattesu issariyassa vattāpanato. Rājā…pe… puthujjano vaṭṭadukkhasaṅkhātāparādhatāya. Ñāṇapalāyanenāti mahābhūtehi nibbinditvā virajjitvā vimuccitukāmatāvasena uppannañāṇapalāyane maggādhigamasiddheneva ñāṇapalāyanena. Evañhettha upamāsaṃsandanaṃ matthakaṃ pāpitameva hoti.
ยเถว หีติอาทินา เอกเทสนาสมุทายสฺส นิทสฺสนํ อารทฺธํฯ ยถาวุตฺตวจนํ อฎฺฐกถาจริยานํ วจเนน สมเตฺถติ ‘‘ปตฺถโทฺธ ภวตี’’ติอาทินาฯ ตตฺถ กฎฺฐมุเขน วาติ วา-สโทฺท อุปมโตฺถฯ ยถา กฎฺฐมุเขน สเปฺปน ทโฎฺฐ ปตฺถโทฺธ โหติ, เอวํ ปถวีธาตุปฺปโกเปน โส กาโย กฎฺฐมุเขว โหติ, กฎฺฐมุขคโต วิย ปตฺถโทฺธ โหตีติ อโตฺถฯ อถ วา วา-สโทฺท อวธารณโตฺถฯ โส ‘‘ปถวีธาตุปโกเปน วา’’ติ เอวํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตโพฺพฯ อยเญฺหตฺถ อโตฺถ – กฎฺฐมุเขน ทโฎฺฐปิ กาโย ปถวีธาตุปฺปโกเปเนว ปตฺถโทฺธ โหติ, ตสฺมา ปถวีธาตุยา อวิยุโตฺต โส กาโย สพฺพทา กฎฺฐมุขคโต วิย โหตีติฯ วา-สโทฺท วา อนิยมโตฺถฯ ตตฺรายมโตฺถ – กฎฺฐมุเขน ทโฎฺฐ กาโย ปตฺถโทฺธ โหติ วา, น วา มนฺตาคทวเสนฯ ปถวีธาตุปฺปโกเปน ปน มนฺตาคทรหิโต โส กาโย กฎฺฐมุขคโต วิย โหติ เอกนฺตปตฺถโทฺธติฯ ตตฺถ กาโยติ ปกติกาโยฯ ปูติโกติ กุถิโตฯ สนฺตโตฺตติ สพฺพโส ตโตฺต มหาทาหปฺปโตฺตฯ สญฺฉิโนฺนติ สพฺพโส ฉิโนฺน จุณฺณวิจุณฺณภูโตฯ ยทา กาโย ปตฺถทฺธาทิภาวปฺปโตฺต โหติ, ตทา ปุริโส กฎฺฐมุขาทิสปฺปสฺส มุเข วตฺตมาโน วิย โหตีติ อโตฺถฯ
Yatheva hītiādinā ekadesanāsamudāyassa nidassanaṃ āraddhaṃ. Yathāvuttavacanaṃ aṭṭhakathācariyānaṃ vacanena samattheti ‘‘patthaddho bhavatī’’tiādinā. Tattha kaṭṭhamukhena vāti vā-saddo upamattho. Yathā kaṭṭhamukhena sappena daṭṭho patthaddho hoti, evaṃ pathavīdhātuppakopena so kāyo kaṭṭhamukheva hoti, kaṭṭhamukhagato viya patthaddho hotīti attho. Atha vā vā-saddo avadhāraṇattho. So ‘‘pathavīdhātupakopena vā’’ti evaṃ ānetvā sambandhitabbo. Ayañhettha attho – kaṭṭhamukhena daṭṭhopi kāyo pathavīdhātuppakopeneva patthaddho hoti, tasmā pathavīdhātuyā aviyutto so kāyo sabbadā kaṭṭhamukhagato viya hotīti. Vā-saddo vā aniyamattho. Tatrāyamattho – kaṭṭhamukhena daṭṭho kāyo patthaddho hoti vā, na vā mantāgadavasena. Pathavīdhātuppakopena pana mantāgadarahito so kāyo kaṭṭhamukhagato viya hoti ekantapatthaddhoti. Tattha kāyoti pakatikāyo. Pūtikoti kuthito. Santattoti sabbaso tatto mahādāhappatto. Sañchinnoti sabbaso chinno cuṇṇavicuṇṇabhūto. Yadā kāyo patthaddhādibhāvappatto hoti, tadā puriso kaṭṭhamukhādisappassa mukhe vattamāno viya hotīti attho.
วิเสสโตติ กฎฺฐมุขาทิวิเสสโต จ ปถวีอาทิวิเสสโต จฯ อนตฺถคฺคหณโตติอาทิ อเจตเนสุปิ ภูเตสุ สเจตเนสุ วิย อนตฺถาทีนํ ปจฺจกฺขตาย นิเพฺพทชนนตฺถํ อารทฺธํฯ ตตฺถ อาสยโตติ ปวตฺติฎฺฐานโตฯ เอเตสนฺติ มหาภูตานํฯ สทิสตาติ วมฺมิกาสยสุสิรคหนสงฺการฎฺฐานาสยตาย จ สทิสตาฯ
Visesatoti kaṭṭhamukhādivisesato ca pathavīādivisesato ca. Anatthaggahaṇatotiādi acetanesupi bhūtesu sacetanesu viya anatthādīnaṃ paccakkhatāya nibbedajananatthaṃ āraddhaṃ. Tattha āsayatoti pavattiṭṭhānato. Etesanti mahābhūtānaṃ. Sadisatāti vammikāsayasusiragahanasaṅkāraṭṭhānāsayatāya ca sadisatā.
ปจฺจตฺตลกฺขณวเสนาติ วิสุํ วิสุํ ลกฺขณวเสนฯ ปถวีอาทีนํ กกฺขฬภาวาทิ, ตํสมงฺคิโน ปุคฺคลสฺส กกฺขฬภาวาปาทนาทินา วิการุปฺปาทนโต วิสเวควิการโต สทิสตา เวทิตพฺพาฯ
Paccattalakkhaṇavasenāti visuṃ visuṃ lakkhaṇavasena. Pathavīādīnaṃ kakkhaḷabhāvādi, taṃsamaṅgino puggalassa kakkhaḷabhāvāpādanādinā vikāruppādanato visavegavikārato sadisatā veditabbā.
อนตฺถาติ พฺยสนาฯ พฺยาธินฺติ กุฎฺฐาทิพฺยาธิํฯ ภเว ชาตาภินนฺทิโนติ ภเวสุ ชาติยา อภินนฺทนสีลาฯ ปญฺจโวกาเร หิ ชาติยา อภินนฺทนา นาม มหาภูตาภินนฺทนา เอวฯ
Anatthāti byasanā. Byādhinti kuṭṭhādibyādhiṃ. Bhave jātābhinandinoti bhavesu jātiyā abhinandanasīlā. Pañcavokāre hi jātiyā abhinandanā nāma mahābhūtābhinandanā eva.
ทุรุปฎฺฐานตรานีติ ทุปฺปฎิการตรานิฯ ทุราสทาติ ทุรุปสงฺกมนาฯ ‘‘อุปฎฺฐามี’’ติ อุปสงฺกมิตุํ น สโกฺกนฺติฯ ปริชานาม กมฺมนามานิ, อุปการา นาม นตฺถิฯ อนนฺตโทสูปทฺทวโตติ อปริมาณโทสูปทฺทวเหตุโตฯ เอกปกฺขลนฺติ เอกทุกฺขํฯ
Durupaṭṭhānatarānīti duppaṭikāratarāni. Durāsadāti durupasaṅkamanā. ‘‘Upaṭṭhāmī’’ti upasaṅkamituṃ na sakkonti. Parijānāma kammanāmāni, upakārā nāma natthi. Anantadosūpaddavatoti aparimāṇadosūpaddavahetuto. Ekapakkhalanti ekadukkhaṃ.
รูปกฺขโนฺธ ภิชฺชมาโน จตฺตาโร อรูปกฺขเนฺธ คเหตฺวาว ภิชฺชติ อรูปกฺขนฺธานํ เอกนิโรธตฺตาฯ วตฺถุรูปมฺปิ คเหตฺวาว ภิชฺชนฺติ ปญฺจโวกาเร อรูปกฺขเนฺธสุ ภิเนฺนสุ รูปกฺขนฺธสฺส อวฎฺฐานาภาวโตฯ เอตฺตาวตาติ โลภุปฺปาทนมเตฺตนฯ ปญฺญา นาม อตฺตภาเว อุตฺตมงฺคํ ปญฺญุตฺตรตฺตา กุสลธมฺมานํ, สติ จ กิเลสุปฺปตฺติยํ ปญฺญาย อนุปฺปชฺชนโต วุตฺตํ – ‘‘เอตฺตาวตา ปญฺญาสีสํ ปติตํ นาม โหตี’’ติฯ โยนิโย อุปเนติ ตทุปคสฺส กมฺมปจฺจยสฺส ภาเวฯ ‘‘ชาติภยํ, ชราภยํ, มรณภยํ, โจรภย’’นฺติอาทินา อาคตานิ ปญฺจวีสติ มหาภยานิ, ‘‘หตฺถมฺปิ ฉินฺทตี’’ติอาทินา อาคตานิ ทฺวตฺติํส กมฺมการณานิ อาคตาเนว โหนฺติ การณสฺส สมวฎฺฐิตตฺตาฯ นนฺทีราโค สงฺขารกฺขโนฺธติ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา วุตฺตํฯ
Rūpakkhandhobhijjamāno cattāro arūpakkhandhe gahetvāva bhijjati arūpakkhandhānaṃ ekanirodhattā. Vatthurūpampi gahetvāva bhijjanti pañcavokāre arūpakkhandhesu bhinnesu rūpakkhandhassa avaṭṭhānābhāvato. Ettāvatāti lobhuppādanamattena. Paññā nāma attabhāve uttamaṅgaṃ paññuttarattā kusaladhammānaṃ, sati ca kilesuppattiyaṃ paññāya anuppajjanato vuttaṃ – ‘‘ettāvatā paññāsīsaṃ patitaṃ nāma hotī’’ti. Yoniyo upaneti tadupagassa kammapaccayassa bhāve. ‘‘Jātibhayaṃ, jarābhayaṃ, maraṇabhayaṃ, corabhaya’’ntiādinā āgatāni pañcavīsati mahābhayāni, ‘‘hatthampi chindatī’’tiādinā āgatāni dvattiṃsa kammakāraṇāni āgatāneva honti kāraṇassa samavaṭṭhitattā. Nandīrāgo saṅkhārakkhandhoti saṅkhārakkhandhapariyāpannattā vuttaṃ.
ปาฬิยํเยว อาคตา ‘‘จกฺขุโต เจปิ นํ, ภิกฺขเว’’ติอาทินาฯ กิญฺจิ อลภิตฺวาติ ตสฺมิํ สุญฺญคาเม โจรานํ คยฺหูปคสฺส อลาภวจเนเนว ตสฺส ปุริสสฺส อตฺตโน ปฎิสรณสฺส อลาโภ วุโตฺต เอว โหตีติ น อุทฺธโฎ, ปุริสฎฺฐานิโย ภิกฺขุ, โจรา ปน พาหิรายตนฎฺฐานิยาฯ อภินิวิสิตฺวาติ วิปสฺสนาภินิเวสํ กตฺวาฯ อชฺฌตฺติกายตนวเสน เทสนาย อาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อุปาทารูปกมฺมฎฺฐานวเสนา’’ติฯ
Pāḷiyaṃyeva āgatā ‘‘cakkhuto cepi naṃ, bhikkhave’’tiādinā. Kiñci alabhitvāti tasmiṃ suññagāme corānaṃ gayhūpagassa alābhavacaneneva tassa purisassa attano paṭisaraṇassa alābho vutto eva hotīti na uddhaṭo, purisaṭṭhāniyo bhikkhu, corā pana bāhirāyatanaṭṭhāniyā. Abhinivisitvāti vipassanābhinivesaṃ katvā. Ajjhattikāyatanavasena desanāya āgatattā vuttaṃ ‘‘upādārūpakammaṭṭhānavasenā’’ti.
พาหิรานนฺติ พาหิรายตนานํฯ ปญฺจ กิจฺจานีติ โจเรหิ ตทา กาตพฺพานิ ปญฺจ กิจฺจานิฯ หตฺถสารนฺติ อตฺตโน สนฺตเก หเตฺถหิ คเหตพฺพสารภณฺฑํฯ ปาตนาทิวเสน หตฺถปรามาสํ กโรนฺติฯ ปหารฐาเนติ ปหฎฎฺฐาเนฯ ฐานโส ตสฺมิํ เอว ขเณติ วทนฺติฯ อตฺตโน สุขาวหํ กุสลธมฺมํ ปหาย ทุกฺขาวเหน อกุสเลน สมงฺคิตา สุขาวหํ ภณฺฑํ ปหาย พหิ นิกฺขมนํ วิยาติ วุตฺตํ สุขนิสฺสยตฺตา ตสฺสฯ หตฺถปรา…เป.… อาปชฺชนกาโล คุณสรีรสฺส ตทา ปมาเทน พาธิตตฺตาฯ ปหาร…เป.… กาโล ตโต ทฬฺหตรํ คุณสรีรสฺส พาธิตตฺตาฯ ปหารํ…เป.… อสฺสมณกาโล คุณสรีรสฺส มรณปฺปตฺติสทิสตฺตาฯ อวเสสชนสฺส ทาสปริโภเคน ปริภุญฺชิตพฺพตา อญฺญถตฺตปฺปตฺติคิหิภาวาปตฺติยา นิทสฺสนภาเวน วุตฺตาฯ ยํ ‘‘ฉสุ ทฺวาเรสุ อารมฺมเณ อาปาถคเต’’ติ วุตฺตํ, ตเมว อารมฺมณํ นิสฺสาย สมฺปรายิโก ทุกฺขกฺขโนฺธ เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ
Bāhirānanti bāhirāyatanānaṃ. Pañca kiccānīti corehi tadā kātabbāni pañca kiccāni. Hatthasāranti attano santake hatthehi gahetabbasārabhaṇḍaṃ. Pātanādivasena hatthaparāmāsaṃ karonti. Pahāraṭhāneti pahaṭaṭṭhāne. Ṭhānaso tasmiṃ eva khaṇeti vadanti. Attano sukhāvahaṃ kusaladhammaṃ pahāya dukkhāvahena akusalena samaṅgitā sukhāvahaṃ bhaṇḍaṃ pahāya bahi nikkhamanaṃ viyāti vuttaṃ sukhanissayattā tassa. Hatthaparā…pe… āpajjanakālo guṇasarīrassa tadā pamādena bādhitattā. Pahāra…pe… kālo tato daḷhataraṃ guṇasarīrassa bādhitattā. Pahāraṃ…pe… assamaṇakālo guṇasarīrassa maraṇappattisadisattā. Avasesajanassa dāsaparibhogena paribhuñjitabbatā aññathattappattigihibhāvāpattiyā nidassanabhāvena vuttā. Yaṃ ‘‘chasu dvāresu ārammaṇe āpāthagate’’ti vuttaṃ, tameva ārammaṇaṃ nissāya samparāyiko dukkhakkhandho veditabboti yojanā.
รูปาทีนีติ รูปสทฺทคนฺธรสานิฯ เตสนฺติ ยถาวุตฺตภูตุปาทารูปานํฯ ลหุตาทิวเสนาติ เตสํ ลหุตาทิวเสนฯ ทุรุตฺตรณโฎฺฐติ อุตฺตริตุํ อสกฺกุเณยฺยภาโว โอฆโฎฺฐฯ วุตฺตนเยนาติ ‘‘สมฺปยุตฺตา เวทนา เวทนากฺขโนฺธ’’ติอาทินา วุตฺตนเยนฯ จตุมหาภูตาทีหีติ อาทิสเทฺทน อุปาทานกฺขนฺธาทีนํ คหณํฯ จิตฺตกิริยทสฺสนตฺถนฺติ จิตฺตปโยคทสฺสนตฺถํฯ วุตฺตวายามเมวาติ ‘‘สมฺมาวายาโม’’ติ โย อริยมเคฺค วุโตฺตฯ ภเทฺทกรตฺตาทีนีติ ‘‘อเชฺชว กิจฺจํ อาตปฺป’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๒๗๒, ๒๗๕, ๒๗๖) วุตฺตานิ ภเทฺทกรตฺตสุตฺตาทีนิฯ
Rūpādīnīti rūpasaddagandharasāni. Tesanti yathāvuttabhūtupādārūpānaṃ. Lahutādivasenāti tesaṃ lahutādivasena. Duruttaraṇaṭṭhoti uttarituṃ asakkuṇeyyabhāvo oghaṭṭho. Vuttanayenāti ‘‘sampayuttā vedanā vedanākkhandho’’tiādinā vuttanayena. Catumahābhūtādīhīti ādisaddena upādānakkhandhādīnaṃ gahaṇaṃ. Cittakiriyadassanatthanti cittapayogadassanatthaṃ. Vuttavāyāmamevāti ‘‘sammāvāyāmo’’ti yo ariyamagge vutto. Bhaddekarattādīnīti ‘‘ajjeva kiccaṃ ātappa’’ntiādinā (ma. ni. 3.272, 275, 276) vuttāni bhaddekarattasuttādīni.
กุณฺฐปาโทติ ฉินฺนปาโทว หุตฺวา คติวิกโลฯ มานสํ พนฺธตีติ ตสฺมิํ จิเตฺต กิจฺจํ นิพนฺธติฯ ‘‘อยํ อริยมโคฺค มยฺหํ โอฆุตฺตรนุปาโย’’ติ ตตฺถ จิตฺตสฺส สนฺนิฎฺฐานํ ปุน ตตฺถ ปวตฺตนํ วีริยารโมฺภ จิตฺตพนฺธนํฯ
Kuṇṭhapādoti chinnapādova hutvā gativikalo. Mānasaṃ bandhatīti tasmiṃ citte kiccaṃ nibandhati. ‘‘Ayaṃ ariyamaggo mayhaṃ oghuttaranupāyo’’ti tattha cittassa sanniṭṭhānaṃ puna tattha pavattanaṃ vīriyārambho cittabandhanaṃ.
ตสฺส นามรูปสฺส อิเม นนฺทีราคาทโย ตณฺหาวิชฺชาทโยติ กตฺวา ปจฺจโย ธมฺมายตเนกเทโสฯ อริยมคฺคนิพฺพานตณฺหาวโชฺช อิธ ธมฺมายตเนกเทโสติ จฯ โสฬสหากาเรหีติ ปีฬนาทีหิ โสฬสหิ อากาเรหิฯ สติปฎฺฐานวิภเงฺค อาคตนเยน สฎฺฐินยสหเสฺสหิฯ เทสนาปริโยสาเน…เป.… ปติฎฺฐหิํสูติ วิปญฺจิตญฺญู เอเวตฺถ คหณวเสน อธิคตวิเสสา ปริจฺฉินฺทิตาฯ เต หิ ตทา ธมฺมปฎิคฺคาหกภาเวน สตฺถุ สนฺติเก สนฺนิสินฺนาฯ อุคฺฆฎิตญฺญูนํ ปน เนยฺยานญฺจ วิเสสาธิคโม อฎฺฐกถายํ น รุโฬฺหติ อิธ น คหิโตติฯ
Tassa nāmarūpassa ime nandīrāgādayo taṇhāvijjādayoti katvā paccayo dhammāyatanekadeso. Ariyamagganibbānataṇhāvajjo idha dhammāyatanekadesoti ca. Soḷasahākārehīti pīḷanādīhi soḷasahi ākārehi. Satipaṭṭhānavibhaṅge āgatanayena saṭṭhinayasahassehi. Desanāpariyosāne…pe… patiṭṭhahiṃsūti vipañcitaññū evettha gahaṇavasena adhigatavisesā paricchinditā. Te hi tadā dhammapaṭiggāhakabhāvena satthu santike sannisinnā. Ugghaṭitaññūnaṃ pana neyyānañca visesādhigamo aṭṭhakathāyaṃ na ruḷhoti idha na gahitoti.
อาสีวิโสปมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Āsīvisopamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑. อาสีวิโสปมสุตฺตํ • 1. Āsīvisopamasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. อาสีวิโสปมสุตฺตวณฺณนา • 1. Āsīvisopamasuttavaṇṇanā