Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
๓. อสฺสลายนสุตฺตํ
3. Assalāyanasuttaṃ
๔๐๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน นานาเวรชฺชกานํ พฺราหฺมณานํ ปญฺจมตฺตานิ พฺราหฺมณสตานิ สาวตฺถิยํ ปฎิวสนฺติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อถ โข เตสํ พฺราหฺมณานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข สมโณ โคตโม จาตุวณฺณิํ สุทฺธิํ ปญฺญเปติฯ โก นุ โข ปโหติ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฎิมเนฺตตุ’’นฺติ? เตน โข ปน สมเยน อสฺสลายโน นาม มาณโว สาวตฺถิยํ ปฎิวสติ ทหโร, วุตฺตสิโร, โสฬสวสฺสุเทฺทสิโก ชาติยา, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฎุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ, ปทโก, เวยฺยากรโณ, โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโยฯ อถ โข เตสํ พฺราหฺมณานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อสฺสลายโน มาณโว สาวตฺถิยํ ปฎิวสติ ทหโร, วุตฺตสิโร, โสฬสวสฺสุเทฺทสิโก ชาติยา, ติณฺณํ เวทานํ ปารคู…เป.… อนวโยฯ โส โข ปโหติ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฎิมเนฺตตุ’’นฺติฯ
401. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena nānāverajjakānaṃ brāhmaṇānaṃ pañcamattāni brāhmaṇasatāni sāvatthiyaṃ paṭivasanti kenacideva karaṇīyena. Atha kho tesaṃ brāhmaṇānaṃ etadahosi – ‘‘ayaṃ kho samaṇo gotamo cātuvaṇṇiṃ suddhiṃ paññapeti. Ko nu kho pahoti samaṇena gotamena saddhiṃ asmiṃ vacane paṭimantetu’’nti? Tena kho pana samayena assalāyano nāma māṇavo sāvatthiyaṃ paṭivasati daharo, vuttasiro, soḷasavassuddesiko jātiyā, tiṇṇaṃ vedānaṃ pāragū sanighaṇḍukeṭubhānaṃ sākkharappabhedānaṃ itihāsapañcamānaṃ, padako, veyyākaraṇo, lokāyatamahāpurisalakkhaṇesu anavayo. Atha kho tesaṃ brāhmaṇānaṃ etadahosi – ‘‘ayaṃ kho assalāyano māṇavo sāvatthiyaṃ paṭivasati daharo, vuttasiro, soḷasavassuddesiko jātiyā, tiṇṇaṃ vedānaṃ pāragū…pe… anavayo. So kho pahoti samaṇena gotamena saddhiṃ asmiṃ vacane paṭimantetu’’nti.
อถ โข เต พฺราหฺมณา เยน อสฺสลายโน มาณโว เตนุปงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อสฺสลายนํ มาณวํ เอตทโวจุํ – ‘‘อยํ, โภ อสฺสลายน , สมโณ โคตโม จาตุวณฺณิํ สุทฺธิํ ปญฺญเปติฯ เอตุ ภวํ อสฺสลายโน สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฎิมเนฺตตู’’ติ 1ฯ
Atha kho te brāhmaṇā yena assalāyano māṇavo tenupaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā assalāyanaṃ māṇavaṃ etadavocuṃ – ‘‘ayaṃ, bho assalāyana , samaṇo gotamo cātuvaṇṇiṃ suddhiṃ paññapeti. Etu bhavaṃ assalāyano samaṇena gotamena saddhiṃ asmiṃ vacane paṭimantetū’’ti 2.
เอวํ วุเตฺต, อสฺสลายโน มาณโว เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ธมฺมวาที; ธมฺมวาทิโน จ ปน ทุปฺปฎิมนฺติยา ภวนฺติฯ นาหํ สโกฺกมิ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฎิมเนฺตตุ’’นฺติฯ ทุติยมฺปิ โข เต พฺราหฺมณา อสฺสลายนํ มาณวํ เอตทโวจุํ – ‘‘อยํ, โภ อสฺสลายน, สมโณ โคตโม จาตุวณฺณิํ สุทฺธิํ ปญฺญเปติฯ เอตุ ภวํ อสฺสลายโน สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฎิมเนฺตตุ 3ฯ จริตํ โข ปน โภตา อสฺสลายเนน ปริพฺพาชก’’นฺติฯ ทุติยมฺปิ โข อสฺสลายโน มาณโว เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ธมฺมวาที; ธมฺมวาทิโน จ ปน ทุปฺปฎิมนฺติยา ภวนฺติ ฯ นาหํ สโกฺกมิ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฎิมเนฺตตุ’’นฺติฯ ตติยมฺปิ โข เต พฺราหฺมณา อสฺสลายนํ มาณวํ เอตทโวจุํ – ‘‘อยํ, โภ อสฺสลายน, สมโณ โคตโม จาตุวณฺณิํ สุทฺธิํ ปญฺญเปติฯ เอตุ ภวํ อสฺสลายโน สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฎิมเนฺตตุ 4ฯ จริตํ โข ปน โภตา อสฺสลายเนน ปริพฺพาชกํฯ มา ภวํ อสฺสลายโน อยุทฺธปราชิตํ ปราชยี’’ติฯ
Evaṃ vutte, assalāyano māṇavo te brāhmaṇe etadavoca – ‘‘samaṇo khalu, bho, gotamo dhammavādī; dhammavādino ca pana duppaṭimantiyā bhavanti. Nāhaṃ sakkomi samaṇena gotamena saddhiṃ asmiṃ vacane paṭimantetu’’nti. Dutiyampi kho te brāhmaṇā assalāyanaṃ māṇavaṃ etadavocuṃ – ‘‘ayaṃ, bho assalāyana, samaṇo gotamo cātuvaṇṇiṃ suddhiṃ paññapeti. Etu bhavaṃ assalāyano samaṇena gotamena saddhiṃ asmiṃ vacane paṭimantetu 5. Caritaṃ kho pana bhotā assalāyanena paribbājaka’’nti. Dutiyampi kho assalāyano māṇavo te brāhmaṇe etadavoca – ‘‘samaṇo khalu, bho, gotamo dhammavādī; dhammavādino ca pana duppaṭimantiyā bhavanti . Nāhaṃ sakkomi samaṇena gotamena saddhiṃ asmiṃ vacane paṭimantetu’’nti. Tatiyampi kho te brāhmaṇā assalāyanaṃ māṇavaṃ etadavocuṃ – ‘‘ayaṃ, bho assalāyana, samaṇo gotamo cātuvaṇṇiṃ suddhiṃ paññapeti. Etu bhavaṃ assalāyano samaṇena gotamena saddhiṃ asmiṃ vacane paṭimantetu 6. Caritaṃ kho pana bhotā assalāyanena paribbājakaṃ. Mā bhavaṃ assalāyano ayuddhaparājitaṃ parājayī’’ti.
เอวํ วุเตฺต, อสฺสลายโน มาณโว เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ – ‘‘อทฺธา โข อหํ ภวโนฺต น ลภามิฯ สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ธมฺมวาที; ธมฺมวาทิโน จ ปน ทุปฺปฎิมนฺติยา ภวนฺติฯ นาหํ สโกฺกมิ สมเณน โคตเมน สทฺธิํ อสฺมิํ วจเน ปฎิมเนฺตตุนฺติฯ อปิ จาหํ ภวนฺตานํ วจเนน คมิสฺสามี’’ติฯ
Evaṃ vutte, assalāyano māṇavo te brāhmaṇe etadavoca – ‘‘addhā kho ahaṃ bhavanto na labhāmi. Samaṇo khalu, bho, gotamo dhammavādī; dhammavādino ca pana duppaṭimantiyā bhavanti. Nāhaṃ sakkomi samaṇena gotamena saddhiṃ asmiṃ vacane paṭimantetunti. Api cāhaṃ bhavantānaṃ vacanena gamissāmī’’ti.
๔๐๒. อถ โข อสฺสลายโน มาณโว มหตา พฺราหฺมณคเณน สทฺธิํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อสฺสลายโน มาณโว ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘พฺราหฺมณา, โภ โคตม, เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ; พฺราหฺมโณว สุโกฺก วโณฺณ, กโณฺห อโญฺญ วโณฺณ; พฺราหฺมโณว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา’ติฯ อิธ ภวํ โคตโม กิมาหา’’ติ? ‘‘ทิสฺสนฺติ 7 โข ปน, อสฺสลายน, พฺราหฺมณานํ พฺราหฺมณิโย อุตุนิโยปิ คพฺภินิโยปิ วิชายมานาปิ ปายมานาปิฯ เต จ พฺราหฺมณิโยนิชาว สมานา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ; พฺราหฺมโณว สุโกฺก วโณฺณ, กโณฺห อโญฺญ วโณฺณ; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา’’’ติฯ ‘‘กิญฺจาปิ ภวํ โคตโม เอวมาห, อถ เขฺวตฺถ พฺราหฺมณา เอวเมตํ มญฺญนฺติ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติฯ
402. Atha kho assalāyano māṇavo mahatā brāhmaṇagaṇena saddhiṃ yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho assalāyano māṇavo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘brāhmaṇā, bho gotama, evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo; brāhmaṇova sukko vaṇṇo, kaṇho añño vaṇṇo; brāhmaṇova sujjhanti, no abrāhmaṇā; brāhmaṇāva brahmuno puttā orasā mukhato jātā brahmajā brahmanimmitā brahmadāyādā’ti. Idha bhavaṃ gotamo kimāhā’’ti? ‘‘Dissanti 8 kho pana, assalāyana, brāhmaṇānaṃ brāhmaṇiyo utuniyopi gabbhiniyopi vijāyamānāpi pāyamānāpi. Te ca brāhmaṇiyonijāva samānā evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo; brāhmaṇova sukko vaṇṇo, kaṇho añño vaṇṇo; brāhmaṇāva sujjhanti, no abrāhmaṇā; brāhmaṇāva brahmuno puttā orasā mukhato jātā brahmajā brahmanimmitā brahmadāyādā’’’ti. ‘‘Kiñcāpi bhavaṃ gotamo evamāha, atha khvettha brāhmaṇā evametaṃ maññanti – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti.
๔๐๓. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, สุตํ เต – ‘โยนกโมฺพเชสุ อเญฺญสุ จ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ เทฺวว วณฺณา – อโยฺย เจว ทาโส จ; อโยฺย หุตฺวา ทาโส โหติ, ทาโส หุตฺวา อโยฺย โหตี’’’ติ ? ‘‘เอวํ, โภ, สุตํ ตํ เม – ‘โยนกโมฺพเชสุ อเญฺญสุ จ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ เทฺวว วณฺณา – อโยฺย เจว ทาโส จ; อโยฺย หุตฺวา ทาโส โหติ, ทาโส หุตฺวา อโยฺย โหตี’’’ติฯ ‘‘เอตฺถ, อสฺสลายน, พฺราหฺมณานํ กิํ พลํ, โก อสฺสาโส ยเทตฺถ พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติ? ‘‘กิญฺจาปิ ภวํ โคตโม เอวมาห, อถ เขฺวตฺถ พฺราหฺมณา เอวเมตํ มญฺญนฺติ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติฯ
403. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, sutaṃ te – ‘yonakambojesu aññesu ca paccantimesu janapadesu dveva vaṇṇā – ayyo ceva dāso ca; ayyo hutvā dāso hoti, dāso hutvā ayyo hotī’’’ti ? ‘‘Evaṃ, bho, sutaṃ taṃ me – ‘yonakambojesu aññesu ca paccantimesu janapadesu dveva vaṇṇā – ayyo ceva dāso ca; ayyo hutvā dāso hoti, dāso hutvā ayyo hotī’’’ti. ‘‘Ettha, assalāyana, brāhmaṇānaṃ kiṃ balaṃ, ko assāso yadettha brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti? ‘‘Kiñcāpi bhavaṃ gotamo evamāha, atha khvettha brāhmaṇā evametaṃ maññanti – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti.
๔๐๔. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, ขตฺติโยว นุ โข ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิโตฺต มิจฺฉาทิฎฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปเชฺชยฺย, โน พฺราหฺมโณ? เวโสฺสว นุ โข…เป.… สุโทฺทว นุ โข ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิโตฺต มิจฺฉาทิฎฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปเชฺชยฺย, โน พฺราหฺมโณ’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตมฯ ขตฺติโยปิ หิ, โภ โคตม, ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิโตฺต มิจฺฉาทิฎฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปเชฺชยฺยฯ พฺราหฺมโณปิ หิ, โภ โคตม…เป.… เวโสฺสปิ หิ, โภ โคตม…เป.… สุโทฺทปิ หิ, โภ โคตม…เป.… สเพฺพปิ หิ, โภ โคตม, จตฺตาโร วณฺณา ปาณาติปาติโน อทินฺนาทายิโน กาเมสุมิจฺฉาจาริโน มุสาวาทิโน ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาปิโน อภิชฺฌาลู พฺยาปนฺนจิตฺตา มิจฺฉาทิฎฺฐี กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปเชฺชยฺยุ’’นฺติฯ ‘‘เอตฺถ, อสฺสลายน, พฺราหฺมณานํ กิํ พลํ, โก อสฺสาโส ยเทตฺถ พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติ? ‘‘กิญฺจาปิ ภวํ โคตโม เอวมาห, อถ เขฺวตฺถ พฺราหฺมณา เอวเมตํ มญฺญนฺติ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติฯ
404. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, khattiyova nu kho pāṇātipātī adinnādāyī kāmesumicchācārī musāvādī pisuṇavāco pharusavāco samphappalāpī abhijjhālu byāpannacitto micchādiṭṭhi kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjeyya, no brāhmaṇo? Vessova nu kho…pe… suddova nu kho pāṇātipātī adinnādāyī kāmesumicchācārī musāvādī pisuṇavāco pharusavāco samphappalāpī abhijjhālu byāpannacitto micchādiṭṭhi kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjeyya, no brāhmaṇo’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama. Khattiyopi hi, bho gotama, pāṇātipātī adinnādāyī kāmesumicchācārī musāvādī pisuṇavāco pharusavāco samphappalāpī abhijjhālu byāpannacitto micchādiṭṭhi kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjeyya. Brāhmaṇopi hi, bho gotama…pe… vessopi hi, bho gotama…pe… suddopi hi, bho gotama…pe… sabbepi hi, bho gotama, cattāro vaṇṇā pāṇātipātino adinnādāyino kāmesumicchācārino musāvādino pisuṇavācā pharusavācā samphappalāpino abhijjhālū byāpannacittā micchādiṭṭhī kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjeyyu’’nti. ‘‘Ettha, assalāyana, brāhmaṇānaṃ kiṃ balaṃ, ko assāso yadettha brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti? ‘‘Kiñcāpi bhavaṃ gotamo evamāha, atha khvettha brāhmaṇā evametaṃ maññanti – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti.
๔๐๕. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, พฺราหฺมโณว นุ โข ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรโต มุสาวาทา ปฎิวิรโต ปิสุณาย วาจาย ปฎิวิรโต ผรุสาย วาจาย ปฎิวิรโต สมฺผปฺปลาปา ปฎิวิรโต อนภิชฺฌาลุ อพฺยาปนฺนจิโตฺต สมฺมาทิฎฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปเชฺชยฺย, โน 9 ขตฺติโย โน เวโสฺส, โน สุโทฺท’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม! ขตฺติโยปิ หิ, โภ โคตม, ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรโต มุสาวาทา ปฎิวิรโต ปิสุณาย วาจาย ปฎิวิรโต ผรุสาย วาจาย ปฎิวิรโต สมฺผปฺปลาปา ปฎิวิรโต อนภิชฺฌาลุ อพฺยาปนฺนจิโตฺต สมฺมาทิฎฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปเชฺชยฺยฯ พฺราหฺมโณปิ หิ, โภ โคตม…เป.… เวโสฺสปิ หิ, โภ โคตม…เป.… สุโทฺทปิ หิ, โภ โคตม…เป.… สเพฺพปิ หิ, โภ โคตม, จตฺตาโร วณฺณา ปาณาติปาตา ปฎิวิรตา อทินฺนาทานา ปฎิวิรตา กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรตา มุสาวาทา ปฎิวิรตา ปิสุณาย วาจาย ปฎิวิรตา ผรุสาย วาจาย ปฎิวิรตา สมฺผปฺปลาปา ปฎิวิรตา อนภิชฺฌาลู อพฺยาปนฺนจิตฺตา สมฺมาทิฎฺฐี กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปเชฺชยฺยุ’’นฺติฯ ‘‘เอตฺถ, อสฺสลายน , พฺราหฺมณานํ กิํ พลํ, โก อสฺสาโส ยเทตฺถ พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติ? ‘‘กิญฺจาปิ ภวํ โคตโม เอวมาห, อถ เขฺวตฺถ พฺราหฺมณา เอวเมตํ มญฺญนฺติ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติฯ
405. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, brāhmaṇova nu kho pāṇātipātā paṭivirato adinnādānā paṭivirato kāmesumicchācārā paṭivirato musāvādā paṭivirato pisuṇāya vācāya paṭivirato pharusāya vācāya paṭivirato samphappalāpā paṭivirato anabhijjhālu abyāpannacitto sammādiṭṭhi kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjeyya, no 10 khattiyo no vesso, no suddo’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama! Khattiyopi hi, bho gotama, pāṇātipātā paṭivirato adinnādānā paṭivirato kāmesumicchācārā paṭivirato musāvādā paṭivirato pisuṇāya vācāya paṭivirato pharusāya vācāya paṭivirato samphappalāpā paṭivirato anabhijjhālu abyāpannacitto sammādiṭṭhi kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjeyya. Brāhmaṇopi hi, bho gotama…pe… vessopi hi, bho gotama…pe… suddopi hi, bho gotama…pe… sabbepi hi, bho gotama, cattāro vaṇṇā pāṇātipātā paṭiviratā adinnādānā paṭiviratā kāmesumicchācārā paṭiviratā musāvādā paṭiviratā pisuṇāya vācāya paṭiviratā pharusāya vācāya paṭiviratā samphappalāpā paṭiviratā anabhijjhālū abyāpannacittā sammādiṭṭhī kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjeyyu’’nti. ‘‘Ettha, assalāyana , brāhmaṇānaṃ kiṃ balaṃ, ko assāso yadettha brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti? ‘‘Kiñcāpi bhavaṃ gotamo evamāha, atha khvettha brāhmaṇā evametaṃ maññanti – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti.
๔๐๖. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, พฺราหฺมโณว นุ โข ปโหติ อสฺมิํ ปเทเส อเวรํ อพฺยาพชฺฌํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวตุํ, โน ขตฺติโย, โน เวโสฺส โน สุโทฺท’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม! ขตฺติโยปิ หิ, โภ โคตม, ปโหติ อสฺมิํ ปเทเส อเวรํ อพฺยาพชฺฌํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวตุํ; พฺราหฺมโณปิ หิ, โภ โคตม… เวโสฺสปิ หิ , โภ โคตม… สุโทฺทปิ หิ, โภ โคตม… สเพฺพปิ หิ, โภ โคตม, จตฺตาโร วณฺณา ปโหนฺติ อสฺมิํ ปเทเส อเวรํ อพฺยาพชฺฌํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวตุ’’นฺติฯ ‘‘เอตฺถ, อสฺสลายน, พฺราหฺมณานํ กิํ พลํ, โก อสฺสาโส ยเทตฺถ พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติ? ‘‘กิญฺจาปิ ภวํ โคตโม เอวมาห, อถ เขฺวตฺถ พฺราหฺมณา เอวเมตํ มญฺญนฺติ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติฯ
406. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, brāhmaṇova nu kho pahoti asmiṃ padese averaṃ abyābajjhaṃ mettacittaṃ bhāvetuṃ, no khattiyo, no vesso no suddo’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama! Khattiyopi hi, bho gotama, pahoti asmiṃ padese averaṃ abyābajjhaṃ mettacittaṃ bhāvetuṃ; brāhmaṇopi hi, bho gotama… vessopi hi , bho gotama… suddopi hi, bho gotama… sabbepi hi, bho gotama, cattāro vaṇṇā pahonti asmiṃ padese averaṃ abyābajjhaṃ mettacittaṃ bhāvetu’’nti. ‘‘Ettha, assalāyana, brāhmaṇānaṃ kiṃ balaṃ, ko assāso yadettha brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti? ‘‘Kiñcāpi bhavaṃ gotamo evamāha, atha khvettha brāhmaṇā evametaṃ maññanti – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti.
๔๐๗. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, พฺราหฺมโณว นุ โข ปโหติ โสตฺติสินานิํ อาทาย นทิํ คนฺตฺวา รโชชลฺลํ ปวาเหตุํ, โน ขตฺติโย, โน เวโสฺส, โน สุโทฺท’’ติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม! ขตฺติโยปิ หิ, โภ โคตม, ปโหติ โสตฺติสินานิํ อาทาย นทิํ คนฺตฺวา รโชชลฺลํ ปวาเหตุํ, พฺราหฺมโณปิ หิ, โภ โคตม… เวโสฺสปิ หิ, โภ โคตม… สุโทฺทปิ หิ, โภ โคตม… สเพฺพปิ หิ, โภ โคตม, จตฺตาโร วณฺณา ปโหนฺติ โสตฺติสินานิํ อาทาย นทิํ คนฺตฺวา รโชชลฺลํ ปวาเหตุ’’นฺติฯ ‘‘เอตฺถ, อสฺสลายน, พฺราหฺมณานํ กิํ พลํ, โก อสฺสาโส ยเทตฺถ พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติ? ‘‘กิญฺจาปิ ภวํ โคตโม เอวมาห, อถ เขฺวตฺถ พฺราหฺมณา เอวเมตํ มญฺญนฺติ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติฯ
407. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, brāhmaṇova nu kho pahoti sottisināniṃ ādāya nadiṃ gantvā rajojallaṃ pavāhetuṃ, no khattiyo, no vesso, no suddo’’ti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama! Khattiyopi hi, bho gotama, pahoti sottisināniṃ ādāya nadiṃ gantvā rajojallaṃ pavāhetuṃ, brāhmaṇopi hi, bho gotama… vessopi hi, bho gotama… suddopi hi, bho gotama… sabbepi hi, bho gotama, cattāro vaṇṇā pahonti sottisināniṃ ādāya nadiṃ gantvā rajojallaṃ pavāhetu’’nti. ‘‘Ettha, assalāyana, brāhmaṇānaṃ kiṃ balaṃ, ko assāso yadettha brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti? ‘‘Kiñcāpi bhavaṃ gotamo evamāha, atha khvettha brāhmaṇā evametaṃ maññanti – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti.
๔๐๘. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, อิธ ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิโตฺต นานาชจฺจานํ ปุริสานํ ปุริสสตํ สนฺนิปาเตยฺย – ‘อายนฺตุ โภโนฺต เย ตตฺถ ขตฺติยกุลา พฺราหฺมณกุลา ราชญฺญกุลา อุปฺปนฺนา, สากสฺส วา สาลสฺส วา 11 สลฬสฺส วา จนฺทนสฺส วา ปทุมกสฺส วา อุตฺตรารณิํ อาทาย, อคฺคิํ อภินิพฺพเตฺตนฺตุ, เตโช ปาตุกโรนฺตุฯ อายนฺตุ ปน โภโนฺต เย ตตฺถ จณฺฑาลกุลา เนสาทกุลา เวนกุลา 12 รถการกุลา ปุกฺกุสกุลา อุปฺปนฺนา, สาปานโทณิยา วา สูกรโทณิยา วา รชกโทณิยา วา เอรณฺฑกฎฺฐสฺส วา อุตฺตรารณิํ อาทาย, อคฺคิํ อภินิพฺพเตฺตนฺตุ, เตโช ปาตุกโรนฺตู’ติฯ
408. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, idha rājā khattiyo muddhāvasitto nānājaccānaṃ purisānaṃ purisasataṃ sannipāteyya – ‘āyantu bhonto ye tattha khattiyakulā brāhmaṇakulā rājaññakulā uppannā, sākassa vā sālassa vā 13 salaḷassa vā candanassa vā padumakassa vā uttarāraṇiṃ ādāya, aggiṃ abhinibbattentu, tejo pātukarontu. Āyantu pana bhonto ye tattha caṇḍālakulā nesādakulā venakulā 14 rathakārakulā pukkusakulā uppannā, sāpānadoṇiyā vā sūkaradoṇiyā vā rajakadoṇiyā vā eraṇḍakaṭṭhassa vā uttarāraṇiṃ ādāya, aggiṃ abhinibbattentu, tejo pātukarontū’ti.
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, โย เอวํ นุ โข โส 15 ขตฺติยกุลา พฺราหฺมณกุลา ราชญฺญกุลา อุปฺปเนฺนหิ สากสฺส วา สาลสฺส วา สลฬสฺส วา จนฺทนสฺส วา ปทุมกสฺส วา อุตฺตรารณิํ อาทาย อคฺคิ อภินิพฺพโตฺต, เตโช ปาตุกโต, โส เอว นุ ขฺวาสฺส อคฺคิ อจฺจิมา เจว 16 วณฺณวา 17 จ ปภสฺสโร จ, เตน จ สกฺกา อคฺคินา อคฺคิกรณียํ กาตุํ; โย ปน โส จณฺฑาลกุลา เนสาทกุลา เวนกุลา รถการกุลา ปุกฺกุสกุลา อุปฺปเนฺนหิ สาปานโทณิยา วา สูกรโทณิยา วา รชกโทณิยา วา เอรณฺฑกฎฺฐสฺส วา อุตฺตรารณิํ อาทาย อคฺคิ อภินิพฺพโตฺต, เตโช ปาตุกโต สฺวาสฺส อคฺคิ น เจว อจฺจิมา น จ วณฺณวา น จ ปภสฺสโร, น จ เตน สกฺกา อคฺคินา อคฺคิกรณียํ กาตุ’’นฺติ? ‘‘โน หิทํ, โภ โคตม! โยปิ หิ โส 18, โภ โคตม, ขตฺติยกุลา พฺราหฺมณกุลา ราชญฺญกุลา อุปฺปเนฺนหิ สากสฺส วา สาลสฺส วา สลฬสฺส วา จนฺทนสฺส วา ปทุมกสฺส วา อุตฺตรารณิํ อาทาย อคฺคิ อภินิพฺพโตฺต, เตโช ปาตุกโต สฺวาสฺส 19 อคฺคิ อจฺจิมา เจว วณฺณวา จ ปภสฺสโร จ, เตน จ สกฺกา อคฺคินา อคฺคิกรณียํ กาตุํ; โยปิ โส จณฺฑาลกุลา เนสาทกุลา เวนกุลา รถการกุลา ปุกฺกุสกุลา อุปฺปเนฺนหิ สาปานโทณิยา วา สูกรโทณิยา วา รชกโทณิยา วา เอรณฺฑกฎฺฐสฺส วา อุตฺตรารณิํ อาทาย อคฺคิ อภินิพฺพโตฺต, เตโช ปาตุกโต, สฺวาสฺส อคฺคิ อจฺจิมา เจว วณฺณวา จ ปภสฺสโร จ, เตน จ สกฺกา อคฺคินา อคฺคิกรณียํ กาตุํฯ สโพฺพปิ หิ, โภ โคตม, อคฺคิ อจฺจิมา เจว วณฺณวา จ ปภสฺสโร จ, สเพฺพนปิ สกฺกา อคฺคินา อคฺคิกรณียํ กาตุ’’นฺติฯ ‘‘เอตฺถ, อสฺสลายน, พฺราหฺมณานํ กิํ พลํ, โก อสฺสาโส ยเทตฺถ พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ; พฺราหฺมโณว สุโกฺก วโณฺณ, กโณฺห อโญฺญ วโณฺณ; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา’’’ติ? ‘‘กิญฺจาปิ ภวํ โคตโม เอวมาห, อถ เขฺวตฺถ พฺราหฺมณา เอวเมตํ มญฺญนฺติ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’’’ติฯ
‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, yo evaṃ nu kho so 20 khattiyakulā brāhmaṇakulā rājaññakulā uppannehi sākassa vā sālassa vā salaḷassa vā candanassa vā padumakassa vā uttarāraṇiṃ ādāya aggi abhinibbatto, tejo pātukato, so eva nu khvāssa aggi accimā ceva 21 vaṇṇavā 22 ca pabhassaro ca, tena ca sakkā agginā aggikaraṇīyaṃ kātuṃ; yo pana so caṇḍālakulā nesādakulā venakulā rathakārakulā pukkusakulā uppannehi sāpānadoṇiyā vā sūkaradoṇiyā vā rajakadoṇiyā vā eraṇḍakaṭṭhassa vā uttarāraṇiṃ ādāya aggi abhinibbatto, tejo pātukato svāssa aggi na ceva accimā na ca vaṇṇavā na ca pabhassaro, na ca tena sakkā agginā aggikaraṇīyaṃ kātu’’nti? ‘‘No hidaṃ, bho gotama! Yopi hi so 23, bho gotama, khattiyakulā brāhmaṇakulā rājaññakulā uppannehi sākassa vā sālassa vā salaḷassa vā candanassa vā padumakassa vā uttarāraṇiṃ ādāya aggi abhinibbatto, tejo pātukato svāssa 24 aggi accimā ceva vaṇṇavā ca pabhassaro ca, tena ca sakkā agginā aggikaraṇīyaṃ kātuṃ; yopi so caṇḍālakulā nesādakulā venakulā rathakārakulā pukkusakulā uppannehi sāpānadoṇiyā vā sūkaradoṇiyā vā rajakadoṇiyā vā eraṇḍakaṭṭhassa vā uttarāraṇiṃ ādāya aggi abhinibbatto, tejo pātukato, svāssa aggi accimā ceva vaṇṇavā ca pabhassaro ca, tena ca sakkā agginā aggikaraṇīyaṃ kātuṃ. Sabbopi hi, bho gotama, aggi accimā ceva vaṇṇavā ca pabhassaro ca, sabbenapi sakkā agginā aggikaraṇīyaṃ kātu’’nti. ‘‘Ettha, assalāyana, brāhmaṇānaṃ kiṃ balaṃ, ko assāso yadettha brāhmaṇā evamāhaṃsu – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo; brāhmaṇova sukko vaṇṇo, kaṇho añño vaṇṇo; brāhmaṇāva sujjhanti, no abrāhmaṇā; brāhmaṇāva brahmuno puttā orasā mukhato jātā brahmajā brahmanimmitā brahmadāyādā’’’ti? ‘‘Kiñcāpi bhavaṃ gotamo evamāha, atha khvettha brāhmaṇā evametaṃ maññanti – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’’’ti.
๔๐๙. ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, อิธ ขตฺติยกุมาโร พฺราหฺมณกญฺญาย สทฺธิํ สํวาสํ กเปฺปยฺย, เตสํ สํวาสมนฺวาย ปุโตฺต ชาเยถ; โย โส ขตฺติยกุมาเรน พฺราหฺมณกญฺญาย ปุโตฺต อุปฺปโนฺน, สิยา โส มาตุปิ สทิโส ปิตุปิ สทิโส, ‘ขตฺติโย’ติปิ วตฺตโพฺพ ‘พฺราหฺมโณ’ติปิ วตฺตโพฺพ’’ติ? ‘‘โย โส, โภ โคตม, ขตฺติยกุมาเรน พฺราหฺมณกญฺญาย ปุโตฺต อุปฺปโนฺน, สิยา โส มาตุปิ สทิโส ปิตุปิ สทิโส, ‘ขตฺติโย’ติปิ วตฺตโพฺพ ‘พฺราหฺมโณ’ติปิ วตฺตโพฺพ’’ติฯ
409. ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, idha khattiyakumāro brāhmaṇakaññāya saddhiṃ saṃvāsaṃ kappeyya, tesaṃ saṃvāsamanvāya putto jāyetha; yo so khattiyakumārena brāhmaṇakaññāya putto uppanno, siyā so mātupi sadiso pitupi sadiso, ‘khattiyo’tipi vattabbo ‘brāhmaṇo’tipi vattabbo’’ti? ‘‘Yo so, bho gotama, khattiyakumārena brāhmaṇakaññāya putto uppanno, siyā so mātupi sadiso pitupi sadiso, ‘khattiyo’tipi vattabbo ‘brāhmaṇo’tipi vattabbo’’ti.
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, อิธ พฺราหฺมณกุมาโร ขตฺติยกญฺญาย สทฺธิํ สํวาสํ กเปฺปยฺย, เตสํ สํวาสมนฺวาย ปุโตฺต ชาเยถ; โย โส พฺราหฺมณกุมาเรน ขตฺติยกญฺญาย ปุโตฺต อุปฺปโนฺน, สิยา โส มาตุปิ สทิโส ปิตุปิ สทิโส, ‘ขตฺติโย’ติปิ วตฺตโพฺพ ‘พฺราหฺมโณ’ติปิ วตฺตโพฺพ’’ติ? ‘‘โย โส, โภ โคตม, พฺราหฺมณกุมาเรน ขตฺติยกญฺญาย ปุโตฺต อุปฺปโนฺน, สิยา โส มาตุปิ สทิโส ปิตุปิ สทิโส, ‘ขตฺติโย’ติปิ วตฺตโพฺพ ‘พฺราหฺมโณ’ติปิ วตฺตโพฺพ’’ติฯ
‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, idha brāhmaṇakumāro khattiyakaññāya saddhiṃ saṃvāsaṃ kappeyya, tesaṃ saṃvāsamanvāya putto jāyetha; yo so brāhmaṇakumārena khattiyakaññāya putto uppanno, siyā so mātupi sadiso pitupi sadiso, ‘khattiyo’tipi vattabbo ‘brāhmaṇo’tipi vattabbo’’ti? ‘‘Yo so, bho gotama, brāhmaṇakumārena khattiyakaññāya putto uppanno, siyā so mātupi sadiso pitupi sadiso, ‘khattiyo’tipi vattabbo ‘brāhmaṇo’tipi vattabbo’’ti.
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน อิธ วฬวํ คทฺรเภน สมฺปโยเชยฺยุํ 25, เตสํ สมฺปโยคมนฺวาย กิโสโร ชาเยถ; โย โส วฬวาย คทฺรเภน กิโสโร อุปฺปโนฺน, สิยา โส มาตุปิ สทิโส ปิตุปิ สทิโส, ‘อโสฺส’ติปิ วตฺตโพฺพ ‘คทฺรโภ’ติปิ วตฺตโพฺพ’’ติ? ‘‘กุณฺฑญฺหิ โส 26, โภ โคตม, อสฺสตโร โหติฯ อิทํ หิสฺส , โภ โคตม, นานากรณํ ปสฺสามิ; อมุตฺร จ ปเนสานํ น กิญฺจิ นานากรณํ ปสฺสามี’’ติฯ
‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana idha vaḷavaṃ gadrabhena sampayojeyyuṃ 27, tesaṃ sampayogamanvāya kisoro jāyetha; yo so vaḷavāya gadrabhena kisoro uppanno, siyā so mātupi sadiso pitupi sadiso, ‘asso’tipi vattabbo ‘gadrabho’tipi vattabbo’’ti? ‘‘Kuṇḍañhi so 28, bho gotama, assataro hoti. Idaṃ hissa , bho gotama, nānākaraṇaṃ passāmi; amutra ca panesānaṃ na kiñci nānākaraṇaṃ passāmī’’ti.
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, อิธาสฺสุ เทฺว มาณวกา ภาตโร สอุทริยา, เอโก อชฺฌายโก อุปนีโต เอโก อนชฺฌายโก อนุปนีโตฯ กเมตฺถ พฺราหฺมณา ปฐมํ โภเชยฺยุํ สเทฺธ วา ถาลิปาเก วา ยเญฺญ วา ปาหุเน วา’’ติ? ‘‘โย โส, โภ โคตม, มาณวโก อชฺฌายโก อุปนีโต ตเมตฺถ พฺราหฺมณา ปฐมํ โภเชยฺยุํ สเทฺธ วา ถาลิปาเก วา ยเญฺญ วา ปาหุเน วาฯ กิญฺหิ, โภ โคตม, อนชฺฌายเก อนุปนีเต ทินฺนํ มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’’ติ?
‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, idhāssu dve māṇavakā bhātaro saudariyā, eko ajjhāyako upanīto eko anajjhāyako anupanīto. Kamettha brāhmaṇā paṭhamaṃ bhojeyyuṃ saddhe vā thālipāke vā yaññe vā pāhune vā’’ti? ‘‘Yo so, bho gotama, māṇavako ajjhāyako upanīto tamettha brāhmaṇā paṭhamaṃ bhojeyyuṃ saddhe vā thālipāke vā yaññe vā pāhune vā. Kiñhi, bho gotama, anajjhāyake anupanīte dinnaṃ mahapphalaṃ bhavissatī’’ti?
‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, อสฺสลายน, อิธาสฺสุ เทฺว มาณวกา ภาตโร สอุทริยา, เอโก อชฺฌายโก อุปนีโต ทุสฺสีโล ปาปธโมฺม, เอโก อนชฺฌายโก อนุปนีโต สีลวา กลฺยาณธโมฺมฯ กเมตฺถ พฺราหฺมณา ปฐมํ โภเชยฺยุํ สเทฺธ วา ถาลิปาเก วา ยเญฺญ วา ปาหุเน วา’’ติ? ‘‘โย โส, โภ โคตม, มาณวโก อนชฺฌายโก อนุปนีโต สีลวา กลฺยาณธโมฺม ตเมตฺถ พฺราหฺมณา ปฐมํ โภเชยฺยุํ สเทฺธ วา ถาลิปาเก วา ยเญฺญ วา ปาหุเน วาฯ กิญฺหิ, โภ โคตม, ทุสฺสีเล ปาปธเมฺม ทินฺนํ มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’’ติ?
‘‘Taṃ kiṃ maññasi, assalāyana, idhāssu dve māṇavakā bhātaro saudariyā, eko ajjhāyako upanīto dussīlo pāpadhammo, eko anajjhāyako anupanīto sīlavā kalyāṇadhammo. Kamettha brāhmaṇā paṭhamaṃ bhojeyyuṃ saddhe vā thālipāke vā yaññe vā pāhune vā’’ti? ‘‘Yo so, bho gotama, māṇavako anajjhāyako anupanīto sīlavā kalyāṇadhammo tamettha brāhmaṇā paṭhamaṃ bhojeyyuṃ saddhe vā thālipāke vā yaññe vā pāhune vā. Kiñhi, bho gotama, dussīle pāpadhamme dinnaṃ mahapphalaṃ bhavissatī’’ti?
‘‘ปุเพฺพ โข ตฺวํ, อสฺสลายน, ชาติํ อคมาสิ; ชาติํ คนฺตฺวา มเนฺต อคมาสิ; มเนฺต คนฺตฺวา ตเป อคมาสิ; ตเป คนฺตฺวา 29 จาตุวณฺณิํ สุทฺธิํ ปจฺจาคโต, ยมหํ ปญฺญเปมี’’ติฯ เอวํ วุเตฺต, อสฺสลายโน มาณโว ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขโนฺธ อโธมุโข ปชฺฌายโนฺต อปฺปฎิภาโน นิสีทิฯ
‘‘Pubbe kho tvaṃ, assalāyana, jātiṃ agamāsi; jātiṃ gantvā mante agamāsi; mante gantvā tape agamāsi; tape gantvā 30 cātuvaṇṇiṃ suddhiṃ paccāgato, yamahaṃ paññapemī’’ti. Evaṃ vutte, assalāyano māṇavo tuṇhībhūto maṅkubhūto pattakkhandho adhomukho pajjhāyanto appaṭibhāno nisīdi.
๔๑๐. อถ โข ภควา อสฺสลายนํ มาณวํ ตุณฺหีภูตํ มงฺกุภูตํ ปตฺตกฺขนฺธํ อโธมุขํ ปชฺฌายนฺตํ อปฺปฎิภานํ วิทิตฺวา อสฺสลายนํ มาณวํ เอตทโวจ – ‘‘ภูตปุพฺพํ, อสฺสลายน, สตฺตนฺนํ พฺราหฺมณิสีนํ อรญฺญายตเน ปณฺณกุฎีสุ สมฺมนฺตานํ 31 เอวรูปํ ปาปกํ ทิฎฺฐิคตํ อุปฺปนฺนํ โหติ – ‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’ติฯ อโสฺสสิ โข , อสฺสลายน, อสิโต เทวโล อิสิ – ‘สตฺตนฺนํ กิร พฺราหฺมณิสีนํ อรญฺญายตเน ปณฺณกุฎีสุ สมฺมนฺตานํ เอวรูปํ ปาปกํ ทิฎฺฐิคตํ อุปฺปนฺนํ – พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ…เป.… พฺรหฺมทายาทา’ติฯ อถ โข, อสฺสลายน, อสิโต เทวโล อิสิ เกสมสฺสุํ กเปฺปตฺวา มญฺชิฎฺฐวณฺณานิ ทุสฺสานิ นิวาเสตฺวา ปฎลิโย 32 อุปาหนา อารุหิตฺวา ชาตรูปมยํ ทณฺฑํ คเหตฺวา สตฺตนฺนํ พฺราหฺมณิสีนํ ปตฺถณฺฑิเล ปาตุรโหสิฯ อถ โข, อสฺสลายน, อสิโต เทวโล อิสิ สตฺตนฺนํ พฺราหฺมณิสีนํ ปตฺถณฺฑิเล จงฺกมมาโน เอวมาห – ‘หนฺท, โก นุ โข อิเม ภวโนฺต พฺราหฺมณิสโย คตา 33; หนฺท, โก นุ โข อิเม ภวโนฺต พฺราหฺมณิสโย คตา’ติ? อถ โข, อสฺสลายน, สตฺตนฺนํ พฺราหฺมณิสีนํ เอตทโหสิ – ‘โก นายํ คามณฺฑลรูโป วิย สตฺตนฺนํ พฺราหฺมณิสีนํ ปตฺถณฺฑิเล จงฺกมมาโน เอวมาห – ‘หนฺท, โก นุ โข อิเม ภวโนฺต พฺราหฺมณิสโย คตา; หนฺท, โก นุ โข อิเม ภวโนฺต พฺราหฺมณิสโย คตาติ? หนฺท, นํ อภิสปามา’ติฯ อถ โข, อสฺสลายน, สตฺต พฺราหฺมณิสโย อสิตํ เทวลํ อิสิํ อภิสปิํสุ – ‘ภสฺมา, วสล 34, โหหิ; ภสฺมา, วสล, โหหี’ติ 35ฯ ยถา ยถา โข, อสฺสลายน, สตฺต พฺราหฺมณิสโย อสิตํ เทวลํ อิสิํ อภิสปิํสุ ตถา ตถา อสิโต เทวโล อิสิ อภิรูปตโร เจว โหติ ทสฺสนียตโร จ ปาสาทิกตโร จฯ อถ โข, อสฺสลายน, สตฺตนฺนํ พฺราหฺมณิสีนํ เอตทโหสิ – ‘โมฆํ วต โน ตโป, อผลํ พฺรหฺมจริยํฯ มยญฺหิ ปุเพฺพ ยํ อภิสปาม – ภสฺมา, วสล, โหหิ; ภสฺมา, วสล, โหหีติ ภสฺมาว ภวติ เอกโจฺจฯ อิมํ ปน มยํ ยถา ยถา อภิสปาม ตถา ตถา อภิรูปตโร เจว โหติ ทสฺสนียตโร จ ปาสาทิกตโร จา’ติฯ ‘น ภวนฺตานํ โมฆํ ตโป, นาผลํ พฺรหฺมจริยํฯ อิงฺฆ ภวโนฺต, โย มยิ มโนปโทโส ตํ ปชหถา’ติฯ ‘โย ภวติ มโนปโทโส ตํ ปชหามฯ โก นุ ภวํ โหตี’ติ? ‘สุโต นุ ภวตํ – อสิโต เทวโล อิสี’ติ? ‘เอวํ, โภ’ฯ ‘โส ขฺวาหํ, โภ, โหมี’ติฯ อถ โข, อสฺสลายน, สตฺต พฺราหฺมณิสโย อสิตํ เทวลํ อิสิํ อภิวาเทตุํ อุปกฺกมิํสุฯ
410. Atha kho bhagavā assalāyanaṃ māṇavaṃ tuṇhībhūtaṃ maṅkubhūtaṃ pattakkhandhaṃ adhomukhaṃ pajjhāyantaṃ appaṭibhānaṃ viditvā assalāyanaṃ māṇavaṃ etadavoca – ‘‘bhūtapubbaṃ, assalāyana, sattannaṃ brāhmaṇisīnaṃ araññāyatane paṇṇakuṭīsu sammantānaṃ 36 evarūpaṃ pāpakaṃ diṭṭhigataṃ uppannaṃ hoti – ‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’ti. Assosi kho , assalāyana, asito devalo isi – ‘sattannaṃ kira brāhmaṇisīnaṃ araññāyatane paṇṇakuṭīsu sammantānaṃ evarūpaṃ pāpakaṃ diṭṭhigataṃ uppannaṃ – brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo…pe… brahmadāyādā’ti. Atha kho, assalāyana, asito devalo isi kesamassuṃ kappetvā mañjiṭṭhavaṇṇāni dussāni nivāsetvā paṭaliyo 37 upāhanā āruhitvā jātarūpamayaṃ daṇḍaṃ gahetvā sattannaṃ brāhmaṇisīnaṃ patthaṇḍile pāturahosi. Atha kho, assalāyana, asito devalo isi sattannaṃ brāhmaṇisīnaṃ patthaṇḍile caṅkamamāno evamāha – ‘handa, ko nu kho ime bhavanto brāhmaṇisayo gatā 38; handa, ko nu kho ime bhavanto brāhmaṇisayo gatā’ti? Atha kho, assalāyana, sattannaṃ brāhmaṇisīnaṃ etadahosi – ‘ko nāyaṃ gāmaṇḍalarūpo viya sattannaṃ brāhmaṇisīnaṃ patthaṇḍile caṅkamamāno evamāha – ‘handa, ko nu kho ime bhavanto brāhmaṇisayo gatā; handa, ko nu kho ime bhavanto brāhmaṇisayo gatāti? Handa, naṃ abhisapāmā’ti. Atha kho, assalāyana, satta brāhmaṇisayo asitaṃ devalaṃ isiṃ abhisapiṃsu – ‘bhasmā, vasala 39, hohi; bhasmā, vasala, hohī’ti 40. Yathā yathā kho, assalāyana, satta brāhmaṇisayo asitaṃ devalaṃ isiṃ abhisapiṃsu tathā tathā asito devalo isi abhirūpataro ceva hoti dassanīyataro ca pāsādikataro ca. Atha kho, assalāyana, sattannaṃ brāhmaṇisīnaṃ etadahosi – ‘moghaṃ vata no tapo, aphalaṃ brahmacariyaṃ. Mayañhi pubbe yaṃ abhisapāma – bhasmā, vasala, hohi; bhasmā, vasala, hohīti bhasmāva bhavati ekacco. Imaṃ pana mayaṃ yathā yathā abhisapāma tathā tathā abhirūpataro ceva hoti dassanīyataro ca pāsādikataro cā’ti. ‘Na bhavantānaṃ moghaṃ tapo, nāphalaṃ brahmacariyaṃ. Iṅgha bhavanto, yo mayi manopadoso taṃ pajahathā’ti. ‘Yo bhavati manopadoso taṃ pajahāma. Ko nu bhavaṃ hotī’ti? ‘Suto nu bhavataṃ – asito devalo isī’ti? ‘Evaṃ, bho’. ‘So khvāhaṃ, bho, homī’ti. Atha kho, assalāyana, satta brāhmaṇisayo asitaṃ devalaṃ isiṃ abhivādetuṃ upakkamiṃsu.
๔๑๑. ‘‘อถ โข, อสฺสลายน, อสิโต เทวโล อิสิ สตฺต พฺราหฺมณิสโย เอตทโวจ – ‘สุตํ เมตํ, โภ, สตฺตนฺนํ กิร พฺราหฺมณิสีนํ อรญฺญายตเน ปณฺณกุฎีสุ สมฺมนฺตานํ เอวรูปํ ปาปกํ ทิฎฺฐิคตํ อุปฺปนฺนํ – พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ, หีโน อโญฺญ วโณฺณ; พฺราหฺมโณว สุโกฺก วโณฺณ , กโณฺห อโญฺญ วโณฺณ; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา’ติฯ ‘เอวํ, โภ’ฯ
411. ‘‘Atha kho, assalāyana, asito devalo isi satta brāhmaṇisayo etadavoca – ‘sutaṃ metaṃ, bho, sattannaṃ kira brāhmaṇisīnaṃ araññāyatane paṇṇakuṭīsu sammantānaṃ evarūpaṃ pāpakaṃ diṭṭhigataṃ uppannaṃ – brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo, hīno añño vaṇṇo; brāhmaṇova sukko vaṇṇo , kaṇho añño vaṇṇo; brāhmaṇāva sujjhanti, no abrāhmaṇā; brāhmaṇāva brahmuno puttā orasā mukhato jātā brahmajā brahmanimmitā brahmadāyādā’ti. ‘Evaṃ, bho’.
‘‘‘ชานนฺติ ปน โภโนฺต – ยา ชนิกา มาตา 41 พฺราหฺมณํเยว อคมาสิ, โน อพฺราหฺมณ’นฺติ? ‘โน หิทํ, โภ’ฯ
‘‘‘Jānanti pana bhonto – yā janikā mātā 42 brāhmaṇaṃyeva agamāsi, no abrāhmaṇa’nti? ‘No hidaṃ, bho’.
‘‘‘ชานนฺติ ปน โภโนฺต – ยา ชนิกามาตุ 43 มาตา ยาว สตฺตมา มาตุมาตามหยุคา พฺราหฺมณํเยว อคมาสิ, โน อพฺราหฺมณ’นฺติ? ‘โน หิทํ, โภ’ฯ
‘‘‘Jānanti pana bhonto – yā janikāmātu 44 mātā yāva sattamā mātumātāmahayugā brāhmaṇaṃyeva agamāsi, no abrāhmaṇa’nti? ‘No hidaṃ, bho’.
‘‘‘ชานนฺติ ปน โภโนฺต – โย ชนโก ปิตา 45 พฺราหฺมณิํเยว อคมาสิ, โน อพฺราหฺมณิ’นฺติ? ‘โน หิทํ, โภ’ฯ
‘‘‘Jānanti pana bhonto – yo janako pitā 46 brāhmaṇiṃyeva agamāsi, no abrāhmaṇi’nti? ‘No hidaṃ, bho’.
‘‘‘ชานนฺติ ปน โภโนฺต – โย ชนกปิตุ 47 ปิตา ยาว สตฺตมา ปิตุปิตามหยุคา พฺราหฺมณิํเยว อคมาสิ, โน อพฺราหฺมณิ’นฺติ? ‘โน หิทํ, โภ’ฯ
‘‘‘Jānanti pana bhonto – yo janakapitu 48 pitā yāva sattamā pitupitāmahayugā brāhmaṇiṃyeva agamāsi, no abrāhmaṇi’nti? ‘No hidaṃ, bho’.
‘‘‘ชานนฺติ ปน โภโนฺต – ตคฺฆ 53, โส คนฺธโพฺพ ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา เวโสฺส วา สุโทฺท วา’ติ? ‘น มยํ, โภ, ชานาม – ตคฺฆ โส คนฺธโพฺพ ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา เวโสฺส วา สุโทฺท วา’ติฯ ‘เอวํ สเนฺต, โภ, ชานาถ – เก ตุเมฺห โหถา’ติ? ‘เอวํ สเนฺต, โภ , น มยํ ชานาม – เก มยํ โหมา’ติฯ เต หิ นาม, อสฺสลายน, สตฺต พฺราหฺมณิสโย อสิเตน เทวเลน อิสินา สเก ชาติวาเท สมนุยุญฺชียมานา สมนุคฺคาหียมานา สมนุภาสียมานา น สมฺปายิสฺสนฺติ; กิํ ปน ตฺวํ เอตรหิ มยา สกสฺมิํ ชาติวาเท สมนุยุญฺชียมาโน สมนุคฺคาหียมาโน สมนุภาสียมาโน สมฺปายิสฺสสิ, เยสํ ตฺวํ สาจริยโก น ปุโณฺณ ทพฺพิคาโห’’ติฯ
‘‘‘Jānanti pana bhonto – taggha 54, so gandhabbo khattiyo vā brāhmaṇo vā vesso vā suddo vā’ti? ‘Na mayaṃ, bho, jānāma – taggha so gandhabbo khattiyo vā brāhmaṇo vā vesso vā suddo vā’ti. ‘Evaṃ sante, bho, jānātha – ke tumhe hothā’ti? ‘Evaṃ sante, bho , na mayaṃ jānāma – ke mayaṃ homā’ti. Te hi nāma, assalāyana, satta brāhmaṇisayo asitena devalena isinā sake jātivāde samanuyuñjīyamānā samanuggāhīyamānā samanubhāsīyamānā na sampāyissanti; kiṃ pana tvaṃ etarahi mayā sakasmiṃ jātivāde samanuyuñjīyamāno samanuggāhīyamāno samanubhāsīyamāno sampāyissasi, yesaṃ tvaṃ sācariyako na puṇṇo dabbigāho’’ti.
เอวํ วุเตฺต, อสฺสลายโน มาณโว ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ
Evaṃ vutte, assalāyano māṇavo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ, bho gotama…pe… upāsakaṃ maṃ bhavaṃ gotamo dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’nti.
อสฺสลายนสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ตติยํฯ
Assalāyanasuttaṃ niṭṭhitaṃ tatiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. อสฺสลายนสุตฺตวณฺณนา • 3. Assalāyanasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๓. อสฺสลายนสุตฺตวณฺณนา • 3. Assalāyanasuttavaṇṇanā