Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๗. มหาวโคฺค
7. Mahāvaggo
๑. อสฺสุตวาสุตฺตวณฺณนา
1. Assutavāsuttavaṇṇanā
๖๑. ‘‘อสฺสุตวา’’ติ โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริตํ, อุปธารณํ วา สุตํ อสฺส อตฺถีติ สุตวา, ตปฺปฎิเกฺขเปน น สุตวาติ อสฺสุตวาฯ วา-สโทฺท จายํ ปสํสายํ, อติสยสฺส วา โพธนโก, ตสฺมา ยสฺส ปสํสิตํ, อติสเยน วา สุตํ อตฺถิ, โส ‘‘สุตวา’’ติ สํกิเลสวิทฺธํสนสมโตฺถ ปริยตฺติธมฺมปริจโย ‘‘ตํ สุตฺวา ตถตฺตาย ปฎิปตฺติ จ สุตวา’’ติ อิมินา ปเทน ปกาสิโตฯ อถ วา โสตพฺพยุตฺตํ สุตฺวา กตฺตพฺพนิปฺผตฺติํ สุณีติ สุตวาฯ ตปฺปฎิเกฺขเปน น สุตวาติ อสฺสุตวาฯ เตนาหุ โปราณา ‘‘อาคมาธิคมาภาวา, เญโยฺย อสฺสุตวา อิตี’’ติฯ ตถา จาห ‘‘ขนฺธธาตุ…เป.… วินิจฺฉยรหิโต’’ติฯ ตตฺถ วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห, ตตฺถ ปริปุจฺฉนํ ปริปุจฺฉา, กุสเลหิ สห โจทนาปริหรณวเสน วินิจฺฉยสฺส การณํ วินิจฺฉโยฯ ปุถูนนฺติ พหูนํฯ กิเลสาทีนํ กิเลสาภิสงฺขารานํ วิตฺถาเรตพฺพํ ปฎิสมฺภิทามคฺคนิเทฺทเสสุ (มหานิ. ๕๑, ๙๔) อาคตนเยนฯ อนฺธปุถุชฺชโน คหิโต ‘‘นาลํ นิพฺพินฺทิตุ’’นฺติอาทิวจนโตฯ อาสนฺนปจฺจกฺขวาจี อิทํ-สโทฺทติ อาห ‘‘อิมสฺมินฺติ ปจฺจุปฺปนฺนปจฺจกฺขกายํ ทเสฺสตี’’ติฯ จตูสุ มหาภูเตสุ นิยุโตฺตติ จาตุมหาภูติโกฯ ยถา ปน มหามตฺติกาย นิพฺพตฺตํ มตฺติกามยํ, เอวมยํ จตูหิ มหาภูเตหิ นิพฺพโตฺต ‘‘จตุมหาภูตมโย’’ติ วุตฺตํฯ นิพฺพิเนฺทยฺยาติ นิพฺพินฺทนมฺปิ อาปเชฺชยฺยฯ นิพฺพินฺทนา นาม อุกฺกณฺฐนา อนภิรติภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘อุกฺกเณฺฐยฺยา’’ติฯ วิรเชฺชยฺยาติ วีตราโค ภเวยฺยฯ เตนาห ‘‘น รเชฺชยฺยา’’ติฯ วิมุเจฺจยฺยาติ อิธ ปน อจฺจนฺตาย วิมุจฺจนํ อธิเปฺปตนฺติ อาห ‘‘มุจฺจิตุกาโม ภเวยฺยา’’ติฯ จตูหิ จ รูปชนกปจฺจเยหิ อาคโต จโยติ, อาจโย, วุทฺธิฯ จยโต อปกฺกโมติ อปจโย, ปริหานิฯ อาทานนฺติ คหณํ, ปฎิสนฺธิยา นิพฺพตฺติฯ เภโทติ ขนฺธานํ เภโทฯ โส หิ กเฬวรสฺส นิเกฺขโปติ วุโตฺตติ อาห ‘‘นิเกฺขปนนฺติ เภโท’’ติฯ
61.‘‘Assutavā’’ti sotadvārānusārena upadhāritaṃ, upadhāraṇaṃ vā sutaṃ assa atthīti sutavā, tappaṭikkhepena na sutavāti assutavā. Vā-saddo cāyaṃ pasaṃsāyaṃ, atisayassa vā bodhanako, tasmā yassa pasaṃsitaṃ, atisayena vā sutaṃ atthi, so ‘‘sutavā’’ti saṃkilesaviddhaṃsanasamattho pariyattidhammaparicayo ‘‘taṃ sutvā tathattāya paṭipatti ca sutavā’’ti iminā padena pakāsito. Atha vā sotabbayuttaṃ sutvā kattabbanipphattiṃ suṇīti sutavā. Tappaṭikkhepena na sutavāti assutavā. Tenāhu porāṇā ‘‘āgamādhigamābhāvā, ñeyyo assutavā itī’’ti. Tathā cāha ‘‘khandhadhātu…pe… vinicchayarahito’’ti. Tattha vācuggatakaraṇaṃ uggaho, tattha paripucchanaṃ paripucchā, kusalehi saha codanāpariharaṇavasena vinicchayassa kāraṇaṃ vinicchayo. Puthūnanti bahūnaṃ. Kilesādīnaṃ kilesābhisaṅkhārānaṃ vitthāretabbaṃ paṭisambhidāmagganiddesesu (mahāni. 51, 94) āgatanayena. Andhaputhujjano gahito ‘‘nālaṃ nibbinditu’’ntiādivacanato. Āsannapaccakkhavācī idaṃ-saddoti āha ‘‘imasminti paccuppannapaccakkhakāyaṃ dassetī’’ti. Catūsu mahābhūtesu niyuttoti cātumahābhūtiko. Yathā pana mahāmattikāya nibbattaṃ mattikāmayaṃ, evamayaṃ catūhi mahābhūtehi nibbatto ‘‘catumahābhūtamayo’’ti vuttaṃ. Nibbindeyyāti nibbindanampi āpajjeyya. Nibbindanā nāma ukkaṇṭhanā anabhiratibhāvatoti vuttaṃ ‘‘ukkaṇṭheyyā’’ti. Virajjeyyāti vītarāgo bhaveyya. Tenāha ‘‘na rajjeyyā’’ti. Vimucceyyāti idha pana accantāya vimuccanaṃ adhippetanti āha ‘‘muccitukāmo bhaveyyā’’ti. Catūhi ca rūpajanakapaccayehi āgato cayoti, ācayo, vuddhi. Cayato apakkamoti apacayo, parihāni. Ādānanti gahaṇaṃ, paṭisandhiyā nibbatti. Bhedoti khandhānaṃ bhedo. So hi kaḷevarassa nikkhepoti vuttoti āha ‘‘nikkhepananti bhedo’’ti.
ปญฺญายนฺตีติ ปการโต ญายนฺติฯ รูปํ ปริคฺคเหตุํ ปริคฺคณฺหนวเสนปิ รูปํ อาลมฺพิตุํฯ อยุตฺตรูปํ กตฺวา ตณฺหาทีหิ ปริคฺคเหตุํ อรูปํ ปริคฺคณฺหิตุํ ยุตฺตรูปํ กโรติ เตสํ ภิกฺขูนํ สปฺปายภาวโตฯ เตนาห ‘‘กสฺมา’’ติอาทิฯ นิกฺกฑฺฒโนฺตติ ตโต คาหโต นีหรโนฺตฯ
Paññāyantīti pakārato ñāyanti. Rūpaṃ pariggahetuṃ pariggaṇhanavasenapi rūpaṃ ālambituṃ. Ayuttarūpaṃ katvā taṇhādīhi pariggahetuṃ arūpaṃ pariggaṇhituṃ yuttarūpaṃ karoti tesaṃ bhikkhūnaṃ sappāyabhāvato. Tenāha ‘‘kasmā’’tiādi. Nikkaḍḍhantoti tato gāhato nīharanto.
มนายตนเสฺสว นามํ, น สมาธิปญฺญตฺตีนํ ‘‘จิตฺตํ ปญฺญญฺจ ภาวยํ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒; เปฎโก. ๒๒; มิ. ป. ๑.๙.๙), จิโตฺต คหปตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. อฎฺฐ. ๗๔) วิยฯ จิตฺตีกาตพฺพภูตํ วตฺถุ เอตสฺสาติ จิตฺตวตฺถุ, ตสฺส ภาโว จิตฺตวตฺถุตา, เตน การเณน จิตฺตภาวมาหฯ จิตฺตโคจรตายาติ จิตฺตวิจิตฺตวิสยตายฯ สมฺปยุตฺตธมฺมจิตฺตตายาติ ราคาทิสทฺธาทิสมฺปยุตฺตธมฺมวเสน จิตฺตสภาวตฺตาฯ เตน จิตฺตตาย จิตฺตตฺตมาหฯ วิชานนเฎฺฐนาติ พุชฺฌนเฎฺฐนฯ อโชฺฌสิตนฺติ อโชฺฌสาภูตาย ตณฺหาย คหิตํฯ เตนาห ‘‘ตณฺหายา’’ติอาทิฯ ปรามสิตฺวาติ ธมฺมสภาวํ อนิจฺจตาทิํ อติกฺกมิตฺวา ปรโต นิจฺจาทิโต อามสิตฺวาฯ อฎฺฐสตนฺติ อฎฺฐาธิกํ สตํฯ นว มานาติ เสยฺยสฺส ‘‘เสโยฺยหมสฺมี’’ติอาทินา อาคตา นววิธมานาฯ พฺรหฺมชาเล อาคตา สสฺสตวาทาทโย ทฺวาสฎฺฐิทิฎฺฐิโยฯ เอวนฺติ วุตฺตากาเรนฯ ยสฺมา ตณฺหามานทิฎฺฐิคฺคาหวเสน ปุถุชฺชเนน ทฬฺหคฺคาหํ คหิตํ, ตสฺมา โส ตตฺถ นิพฺพินฺทิตุํ นิพฺพิทาญาณํ อุปฺปาเทตุํ น สมโตฺถฯ
Manāyatanassevanāmaṃ, na samādhipaññattīnaṃ ‘‘cittaṃ paññañca bhāvayaṃ (saṃ. ni. 1.23, 192; peṭako. 22; mi. pa. 1.9.9), citto gahapatī’’tiādīsu (dha. pa. aṭṭha. 74) viya. Cittīkātabbabhūtaṃ vatthu etassāti cittavatthu, tassa bhāvo cittavatthutā, tena kāraṇena cittabhāvamāha. Cittagocaratāyāti cittavicittavisayatāya. Sampayuttadhammacittatāyāti rāgādisaddhādisampayuttadhammavasena cittasabhāvattā. Tena cittatāya cittattamāha. Vijānanaṭṭhenāti bujjhanaṭṭhena. Ajjhositanti ajjhosābhūtāya taṇhāya gahitaṃ. Tenāha ‘‘taṇhāyā’’tiādi. Parāmasitvāti dhammasabhāvaṃ aniccatādiṃ atikkamitvā parato niccādito āmasitvā. Aṭṭhasatanti aṭṭhādhikaṃ sataṃ. Nava mānāti seyyassa ‘‘seyyohamasmī’’tiādinā āgatā navavidhamānā. Brahmajāle āgatā sassatavādādayo dvāsaṭṭhidiṭṭhiyo. Evanti vuttākārena. Yasmā taṇhāmānadiṭṭhiggāhavasena puthujjanena daḷhaggāhaṃ gahitaṃ, tasmā so tattha nibbindituṃ nibbidāñāṇaṃ uppādetuṃ na samattho.
ภิกฺขเวติ เอตฺถ อิติ-สโทฺท อาทิอโตฺถ, เตน ‘‘วร’’นฺติ เอวมาทิกํ สงฺคณฺหาติฯ อิทํ อนุสนฺธิวจนํ ‘‘กสฺมา อาหา’’ติ กเถตุกามตาย การณํ ปุจฺฉติฯ เตนาห ‘‘ปฐมํ หี’’ติอาทิฯ อสฺสุตวตา ปุถุชฺชเนนฯ เตนาติ ภควตาฯ อยุตฺตรูปํ กตํ ‘‘นิพฺพิเนฺทยฺยา’’ติอาทินา อาทีนวสฺส วิภาวิตตฺตาฯ อรูเป ปน ตถา อาทีนวสฺส อวิภาวิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อรูปํ ปริคฺคเหตุํ ยุตฺตรูป’’นฺติ, ยุตฺตรูปํ วิย กตนฺติ อธิปฺปาโยฯ คาโหติ ตณฺหามานทิฎฺฐิคฺคาโหฯ ‘‘นิกฺขมิตฺวา อรูปํ คโต’’ติ อิทํ ภควตา อาทีนวํ ทเสฺสตฺวา รูเป คาโห ปฎิกฺขิโตฺต, น อรูเป, ตสฺมา ‘‘กาตโพฺพ นุ โข โส ตตฺถา’’ติ มิจฺฉาคณฺหนฺตานํ โส ตโต รูปโต นิกฺขมิตฺวา อรูปํ คโต วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํฯ ติฎฺฐมานนฺติ ติฎฺฐนฺตํฯ ‘‘อาปชฺชิตฺวา วิย โหตี’’ติ สภาเวน ปวตฺตมานํ ‘‘ปฐมวเย’’ติอาทินา รูปสฺส เภทํ วยาทีหิ วิภชิตฺวา ทเสฺสติฯ
Bhikkhaveti ettha iti-saddo ādiattho, tena ‘‘vara’’nti evamādikaṃ saṅgaṇhāti. Idaṃ anusandhivacanaṃ ‘‘kasmā āhā’’ti kathetukāmatāya kāraṇaṃ pucchati. Tenāha ‘‘paṭhamaṃ hī’’tiādi. Assutavatā puthujjanena. Tenāti bhagavatā. Ayuttarūpaṃ kataṃ ‘‘nibbindeyyā’’tiādinā ādīnavassa vibhāvitattā. Arūpe pana tathā ādīnavassa avibhāvitattā vuttaṃ ‘‘arūpaṃ pariggahetuṃ yuttarūpa’’nti, yuttarūpaṃ viya katanti adhippāyo. Gāhoti taṇhāmānadiṭṭhiggāho. ‘‘Nikkhamitvā arūpaṃ gato’’ti idaṃ bhagavatā ādīnavaṃ dassetvā rūpe gāho paṭikkhitto, na arūpe, tasmā ‘‘kātabbo nu kho so tatthā’’ti micchāgaṇhantānaṃ so tato rūpato nikkhamitvā arūpaṃ gato viya hotīti katvā vuttaṃ. Tiṭṭhamānanti tiṭṭhantaṃ. ‘‘Āpajjitvā viya hotī’’ti sabhāvena pavattamānaṃ ‘‘paṭhamavaye’’tiādinā rūpassa bhedaṃ vayādīhi vibhajitvā dasseti.
ปาทสฺส อุทฺธรเณติ ยถา ฐปิตสฺส ปาทสฺส อุกฺขิปเนฯ อติหรณนฺติ ยถาอุทฺธตํ ยถาฎฺฐิตฎฺฐานํ อติกฺกมิตฺวา หรณํฯ วีติหรณนฺติ อุทฺธโต ปาโท ยถาฎฺฐิตํ ปาทํ ยถา น ฆเฎฺฎติ, เอวํ โถกํ ปสฺสโต ปริณาเมตฺวา หรณํฯ โวสฺสชฺชนนฺติ ตถา ปรปาทํ วีติสาเรตฺวา ภูมิยํ นิกฺขิปนตฺถํ อโวสฺสชฺชนํฯ สนฺนิเกฺขปนนฺติ โวสฺสเชฺชตฺวา ภูมิยํ สมํ นิกฺขิปนํ ฐปนํฯ สนฺนิรุชฺฌนนฺติ นิกฺขิตฺตสฺส สพฺพโส นิรุชฺฌนํ อุปฺปีฬนํฯ ตตฺถ ตเตฺถวาติ ตสฺมิํ ตสฺมิํ ปฐมวยาทิเก เอวฯ อวธารเณน เตสํ โกฎฺฐาสนฺตรสงฺกมนาภาวมาหฯ โอธีติ ภาโว, ปพฺพนฺติ สนฺธิฯ ปฐมวยาทโย เอว เหตฺถ โอธิ ปพฺพนฺติ จ อธิเปฺปตาฯ ปฎปฎายนฺตาติ ‘‘ปฎปฎา’’อิติ กโรนฺตา วิย, เตน เนสํ ปวตฺติกฺขณสฺส อิตฺตรตํ ทเสฺสติฯ เอตนฺติ เอตํ รูปธมฺมานํ ยถาวุตฺตํ ตตฺถ ตเตฺถว ภิชฺชนํ เอวํ วุตฺตปฺปการเมวฯ วฎฺฎิปฺปเทสนฺติ วฎฺฎิยา ปุลกํ พรหํฯ ตญฺหิ วฎฺฎิยา ปุลกํ อนติกฺกมิตฺวาว สา ทีปชาลา ภิชฺชติฯ ปเวณิสมฺพนฺธวเสนาติ สนฺตติวเสนฯ
Pādassa uddharaṇeti yathā ṭhapitassa pādassa ukkhipane. Atiharaṇanti yathāuddhataṃ yathāṭṭhitaṭṭhānaṃ atikkamitvā haraṇaṃ. Vītiharaṇanti uddhato pādo yathāṭṭhitaṃ pādaṃ yathā na ghaṭṭeti, evaṃ thokaṃ passato pariṇāmetvā haraṇaṃ. Vossajjananti tathā parapādaṃ vītisāretvā bhūmiyaṃ nikkhipanatthaṃ avossajjanaṃ. Sannikkhepananti vossajjetvā bhūmiyaṃ samaṃ nikkhipanaṃ ṭhapanaṃ. Sannirujjhananti nikkhittassa sabbaso nirujjhanaṃ uppīḷanaṃ. Tattha tatthevāti tasmiṃ tasmiṃ paṭhamavayādike eva. Avadhāraṇena tesaṃ koṭṭhāsantarasaṅkamanābhāvamāha. Odhīti bhāvo, pabbanti sandhi. Paṭhamavayādayo eva hettha odhi pabbanti ca adhippetā. Paṭapaṭāyantāti ‘‘paṭapaṭā’’iti karontā viya, tena nesaṃ pavattikkhaṇassa ittarataṃ dasseti. Etanti etaṃ rūpadhammānaṃ yathāvuttaṃ tattha tattheva bhijjanaṃ evaṃ vuttappakārameva. Vaṭṭippadesanti vaṭṭiyā pulakaṃ barahaṃ. Tañhi vaṭṭiyā pulakaṃ anatikkamitvāva sā dīpajālā bhijjati. Paveṇisambandhavasenāti santativasena.
รตฺตินฺติ รตฺติยํฯ ภุมฺมเตฺถ เหตํ อุปโยควจนํฯ เอวํ ปน อโตฺถ น คเหตโพฺพ อนุปฺปนฺนสฺส นิโรธาภาวโตฯ ปุริมปเวณิโตติ รูเป วุตฺตปเวณิโตฯ อเนกานิ จิตฺตโกฎิสตสหสฺสานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ วุตฺตมตฺถํ เถรวาเทน ทีเปตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ อฑฺฒจูฬนฺติ โถเกน อูนํ อุปฑฺฒํ, ตสฺส ปน อุปฑฺฒํ อธิการโต วาหสตสฺสาติ วิญฺญายติฯ ‘‘อฑฺฒจุทฺทส’’นฺติ เกจิ, ‘‘อฑฺฒจตุตฺถ’’นฺติ อปเรฯ ‘‘สาธิกํ ทิยฑฺฒสตํ วาหา’’ติ ทฬฺหํ กตฺวา วทนฺตีติ วีมํสิตพฺพํฯ จตุนาฬิโก ตุโมฺพฯ มหารญฺญตาย ปวทฺธํ วนํ ปวนนฺติ อาห ‘‘ปวเนติ มหาวเน’’ติฯ ตนฺติ ปฐมํ คหิตสาขํฯ อยมโตฺถติ อยํ ภูมิํ อโนตริตฺวา ฐิตสาขาย เอว คหณสงฺขาโต อโตฺถฯ เอตทตฺถเมว หิ ภควา ‘‘อรเญฺญ’’ติ วตฺวาปิ ‘‘ปวเน’’ติ อาหฯ
Rattinti rattiyaṃ. Bhummatthe hetaṃ upayogavacanaṃ. Evaṃ pana attho na gahetabbo anuppannassa nirodhābhāvato. Purimapaveṇitoti rūpe vuttapaveṇito. Anekāni cittakoṭisatasahassāni uppajjantīti vuttamatthaṃ theravādena dīpetuṃ ‘‘vuttampi ceta’’ntiādi vuttaṃ. Aḍḍhacūḷanti thokena ūnaṃ upaḍḍhaṃ, tassa pana upaḍḍhaṃ adhikārato vāhasatassāti viññāyati. ‘‘Aḍḍhacuddasa’’nti keci, ‘‘aḍḍhacatuttha’’nti apare. ‘‘Sādhikaṃ diyaḍḍhasataṃ vāhā’’ti daḷhaṃ katvā vadantīti vīmaṃsitabbaṃ. Catunāḷiko tumbo. Mahāraññatāya pavaddhaṃ vanaṃ pavananti āha ‘‘pavaneti mahāvane’’ti. Tanti paṭhamaṃ gahitasākhaṃ. Ayamatthoti ayaṃ bhūmiṃ anotaritvā ṭhitasākhāya eva gahaṇasaṅkhāto attho. Etadatthameva hi bhagavā ‘‘araññe’’ti vatvāpi ‘‘pavane’’ti āha.
อรญฺญมหาวนํ วิยาติ อรญฺญฎฺฐาเน พฺรหารเญฺญ วิยฯ อารมฺมโณลมฺพนนฺติ อารมฺมณสฺส อวลมฺพนํฯ น วตฺตพฺพํ อารมฺมณปจฺจเยน วินา อนุปฺปชฺชนโตฯ เอกชาติยนฺติ รูปาทินีลาทิเอกสภาวํฯ ‘‘ทิสฺสติ, ภิกฺขเว, อิมสฺส จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺส อาจโยปิ อปจโยปี’’ติ วทเนฺตน รูปโต นีหริตฺวา อรูเป คาโห ปติฎฺฐาปิโต นาม, ‘‘วรํ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน’’ติอาทิํ วทเนฺตน อรูปโต นีหริตฺวา รูเป คาโห ปติฎฺฐาปิโต นามฯ
Araññamahāvanaṃ viyāti araññaṭṭhāne brahāraññe viya. Ārammaṇolambananti ārammaṇassa avalambanaṃ. Na vattabbaṃ ārammaṇapaccayena vinā anuppajjanato. Ekajātiyanti rūpādinīlādiekasabhāvaṃ. ‘‘Dissati, bhikkhave, imassa cātumahābhūtikassa kāyassa ācayopi apacayopī’’ti vadantena rūpato nīharitvā arūpe gāho patiṭṭhāpito nāma, ‘‘varaṃ, bhikkhave, assutavā puthujjano’’tiādiṃ vadantena arūpato nīharitvā rūpe gāho patiṭṭhāpito nāma.
นนฺติ คาหํฯ อุภยโตติ รูปโต จ อรูปโต จฯ หริสฺสามีติ นีหริสฺสามิฯ ปริวเตฺตตฺวาติ มนฺตํ ชปฺปิตฺวาฯ กเณฺณ ธุเมตฺวาติ กเณฺณ ธเมตฺวาฯ อสฺสาติ วิสสฺสฯ นิมฺมเถตฺวาติ นิมฺมทฺทิตฺวา, นีหริตฺวาติ อธิปฺปาโยฯ
Nanti gāhaṃ. Ubhayatoti rūpato ca arūpato ca. Harissāmīti nīharissāmi. Parivattetvāti mantaṃ jappitvā. Kaṇṇe dhumetvāti kaṇṇe dhametvā. Assāti visassa. Nimmathetvāti nimmadditvā, nīharitvāti adhippāyo.
มโคฺคติ โลกุตฺตรมโคฺคฯ ‘‘นิพฺพินฺท’’นฺติ อิมินา พลววิปสฺสนา กถิตาฯ
Maggoti lokuttaramaggo. ‘‘Nibbinda’’nti iminā balavavipassanā kathitā.
อสฺสุตวาสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Assutavāsuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑. อสฺสุตวาสุตฺตํ • 1. Assutavāsuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. อสฺสุตวาสุตฺตวณฺณนา • 1. Assutavāsuttavaṇṇanā