Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณิ-อฎฺฐกถา • Dhammasaṅgaṇi-aṭṭhakathā |
อสุภกถา
Asubhakathā
๒๖๓. อิทานิ ราคจริตสตฺตานํ เอกนฺตหิตํ นานารมฺมเณสุ เอเกกชฺฌานวเสเนว ปวตฺตมานํ รูปาวจรกุสลํ ทเสฺสตุํ ปุน กตเม ธมฺมา กุสลาติอาทิ อารทฺธํฯ
263. Idāni rāgacaritasattānaṃ ekantahitaṃ nānārammaṇesu ekekajjhānavaseneva pavattamānaṃ rūpāvacarakusalaṃ dassetuṃ puna katame dhammā kusalātiādi āraddhaṃ.
ตตฺถ อุทฺธุมาตกสญฺญาสหคตนฺติอาทีสุ, ภสฺตา วิย วายุนา, อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา ยถานุกฺกมํ สมุคฺคเตน สูนภาเวน ธุมาตตฺตา อุทฺธุมาตํฯ อุทฺธุมาตเมว อุทฺธุมาตกํฯ ปฎิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ อุทฺธุมาตนฺติ อุทฺธุมาตกํฯ ตถารูปสฺส ฉวสรีรเสฺสตํ อธิวจนํฯ วินีลํ วุจฺจติ วิปริภินฺนนีลวณฺณํฯ วินีลเมว วินีลกํฯ ปฎิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วินีลนฺติ วินีลกํฯ มํสุสฺสทฎฺฐาเนสุ รตฺตวณฺณสฺส, ปุพฺพสนฺนิจยฎฺฐาเนสุ เสตวณฺณสฺส, เยภุเยฺยน จ นีลวณฺณสฺส , นีลฎฺฐาเน นีลสาฎกปารุตเสฺสว ฉวสรีรเสฺสตํ อธิวจนํฯ ปริภินฺนฎฺฐาเนสุ วิสฺสนฺทมานํ ปุพฺพํ วิปุพฺพํฯ วิปุพฺพเมว วิปุพฺพกํฯ ปฎิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิปุพฺพนฺติ วิปุพฺพกํฯ ตถารูปสฺส ฉวสรีรเสฺสตํ อธิวจนํฯ วิจฺฉิทฺทํ วุจฺจติ ทฺวิธา ฉินฺทเนน อปธาริตํ, วิจฺฉิทฺทเมว วิจฺฉิทฺทกํฯ ปฎิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิจฺฉิทฺทนฺติ วิจฺฉิทฺทกํฯ เวมเชฺฌ ฉินฺนสฺส ฉวสรีรเสฺสตํ อธิวจนํฯ อิโต จ เอโตฺต จ วิวิธากาเรน โสณสิงฺคาลาทีหิ ขายิตํ วิกฺขายิตํฯ วิกฺขายิตเมว วิกฺขายิตกํฯ ปฎิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิกฺขายิตนฺติ วิกฺขายิตกํฯ ตถารูปสฺส ฉวสรีรเสฺสตํ อธิวจนํฯ วิวิธา ขิตฺตํ วิกฺขิตฺตํฯ วิกฺขิตฺตเมว วิกฺขิตฺตกํฯ ปฎิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิกฺขิตฺตนฺติ วิกฺขิตฺตกํฯ ‘อเญฺญน หตฺถํ อเญฺญน ปาทํ อเญฺญน สีส’นฺติ เอวํ ตโต ตโต ขิตฺตสฺส ฉวสรีรเสฺสตํ อธิวจนํฯ หตญฺจ ตํ ปุริมนเยเนว วิกฺขิตฺตกญฺจาติ หตวิกฺขิตฺตกํฯ กากปทากาเรน องฺคปจฺจเงฺคสุ สเตฺถน หนิตฺวา วุตฺตนเยน วิกฺขิตฺตกสฺส ฉวสรีรเสฺสตํ อธิวจนํฯ โลหิตํ กิรติ, วิกฺขิปติ, อิโต จิโต จ ปคฺฆรตีติ โลหิตกํฯ ปคฺฆริตโลหิตมกฺขิตสฺส ฉวสรีรเสฺสตํ อธิวจนํฯ ปุฬวา วุจฺจนฺติ กิมโยฯ ปุฬเว วิกิรตีติ ปุฬวกํฯ กิมิปริปุณฺณสฺส ฉวสรีรเสฺสตํ อธิวจนํฯ อฎฺฐิเยว อฎฺฐิกํฯ ปฎิกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ อฎฺฐีติ อฎฺฐิกํฯ อฎฺฐิสงฺขลิกายปิ เอกฎฺฐิกสฺสปิ เอตํ อธิวจนํฯ อิมานิ จ ปน อุทฺธุมาตกาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนนิมิตฺตานมฺปิ นิมิเตฺตสุ ปฎิลทฺธชฺฌานานมฺปิ เอตาเนว นามานิฯ
Tattha uddhumātakasaññāsahagatantiādīsu, bhastā viya vāyunā, uddhaṃ jīvitapariyādānā yathānukkamaṃ samuggatena sūnabhāvena dhumātattā uddhumātaṃ. Uddhumātameva uddhumātakaṃ. Paṭikūlattā vā kucchitaṃ uddhumātanti uddhumātakaṃ. Tathārūpassa chavasarīrassetaṃ adhivacanaṃ. Vinīlaṃ vuccati viparibhinnanīlavaṇṇaṃ. Vinīlameva vinīlakaṃ. Paṭikūlattā vā kucchitaṃ vinīlanti vinīlakaṃ. Maṃsussadaṭṭhānesu rattavaṇṇassa, pubbasannicayaṭṭhānesu setavaṇṇassa, yebhuyyena ca nīlavaṇṇassa , nīlaṭṭhāne nīlasāṭakapārutasseva chavasarīrassetaṃ adhivacanaṃ. Paribhinnaṭṭhānesu vissandamānaṃ pubbaṃ vipubbaṃ. Vipubbameva vipubbakaṃ. Paṭikūlattā vā kucchitaṃ vipubbanti vipubbakaṃ. Tathārūpassa chavasarīrassetaṃ adhivacanaṃ. Vicchiddaṃ vuccati dvidhā chindanena apadhāritaṃ, vicchiddameva vicchiddakaṃ. Paṭikūlattā vā kucchitaṃ vicchiddanti vicchiddakaṃ. Vemajjhe chinnassa chavasarīrassetaṃ adhivacanaṃ. Ito ca etto ca vividhākārena soṇasiṅgālādīhi khāyitaṃ vikkhāyitaṃ. Vikkhāyitameva vikkhāyitakaṃ. Paṭikūlattā vā kucchitaṃ vikkhāyitanti vikkhāyitakaṃ. Tathārūpassa chavasarīrassetaṃ adhivacanaṃ. Vividhā khittaṃ vikkhittaṃ. Vikkhittameva vikkhittakaṃ. Paṭikūlattā vā kucchitaṃ vikkhittanti vikkhittakaṃ. ‘Aññena hatthaṃ aññena pādaṃ aññena sīsa’nti evaṃ tato tato khittassa chavasarīrassetaṃ adhivacanaṃ. Hatañca taṃ purimanayeneva vikkhittakañcāti hatavikkhittakaṃ. Kākapadākārena aṅgapaccaṅgesu satthena hanitvā vuttanayena vikkhittakassa chavasarīrassetaṃ adhivacanaṃ. Lohitaṃ kirati, vikkhipati, ito cito ca paggharatīti lohitakaṃ. Paggharitalohitamakkhitassa chavasarīrassetaṃ adhivacanaṃ. Puḷavā vuccanti kimayo. Puḷave vikiratīti puḷavakaṃ. Kimiparipuṇṇassa chavasarīrassetaṃ adhivacanaṃ. Aṭṭhiyeva aṭṭhikaṃ. Paṭikūlattā vā kucchitaṃ aṭṭhīti aṭṭhikaṃ. Aṭṭhisaṅkhalikāyapi ekaṭṭhikassapi etaṃ adhivacanaṃ. Imāni ca pana uddhumātakādīni nissāya uppannanimittānampi nimittesu paṭiladdhajjhānānampi etāneva nāmāni.
ตตฺถ อุทฺธุมาตกนิมิเตฺต อปฺปนาวเสน อุปฺปนฺนา สญฺญา อุทฺธุมาตกสญฺญาฯ ตาย อุทฺธุมาตกสญฺญาย สมฺปโยคเฎฺฐน สหคตํ อุทฺธุมาตกสญฺญาสหคตํฯ วินีลกสญฺญาสหคตาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ยํ ปเนตฺถ ภาวนาวิธานํ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, ตํ สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๐๓ อาทโย) วุตฺตเมวฯ อวเสสา ปาฬิวณฺณนา เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพาฯ เกวลญฺหิ อิธ, จตุตฺถชฺฌานวเสน อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาเร วิย, ปฐมชฺฌานวเสน เอเกกสฺมิํ ปญฺจวีสติ เอกกา โหนฺติฯ อสุภารมฺมณสฺส จ อวฑฺฒนียตฺตา, ปริเตฺต อุทฺธุมาตกฎฺฐาเน อุปฺปนฺนนิมิตฺตารมฺมณํ ปริตฺตารมฺมณํ, มหเนฺต อปฺปมาณารมฺมณํ เวทิตพฺพํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยติฯ
Tattha uddhumātakanimitte appanāvasena uppannā saññā uddhumātakasaññā. Tāya uddhumātakasaññāya sampayogaṭṭhena sahagataṃ uddhumātakasaññāsahagataṃ. Vinīlakasaññāsahagatādīsupi eseva nayo. Yaṃ panettha bhāvanāvidhānaṃ vattabbaṃ bhaveyya, taṃ sabbākārena visuddhimagge (visuddhi. 1.103 ādayo) vuttameva. Avasesā pāḷivaṇṇanā heṭṭhā vuttanayeneva veditabbā. Kevalañhi idha, catutthajjhānavasena upekkhābrahmavihāre viya, paṭhamajjhānavasena ekekasmiṃ pañcavīsati ekakā honti. Asubhārammaṇassa ca avaḍḍhanīyattā, paritte uddhumātakaṭṭhāne uppannanimittārammaṇaṃ parittārammaṇaṃ, mahante appamāṇārammaṇaṃ veditabbaṃ. Sesesupi eseva nayoti.
อิติ อสุภานิ สุภคุโณ,
Iti asubhāni subhaguṇo,
ทสสตโลจเนน ถุตกิตฺติ;
Dasasatalocanena thutakitti;
ยานิ อโวจ ทสพโล,
Yāni avoca dasabalo,
เอเกกชฺฌานเหตูนิฯ
Ekekajjhānahetūni.
เอวํ ปาฬินเยเนว, ตาว สพฺพานิ ตานิ ชานิตฺวา;
Evaṃ pāḷinayeneva, tāva sabbāni tāni jānitvā;
เตเสฺวว อยํ ภิโยฺย, ปกิณฺณกกถาปิ วิเญฺญยฺยาฯ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๐);
Tesveva ayaṃ bhiyyo, pakiṇṇakakathāpi viññeyyā. (visuddhi. 1.120);
เอเตสุ หิ ยตฺถ กตฺถจิ อธิคตชฺฌาโน สุวิกฺขมฺภิตราคตฺตา วีตราโค วิย นิโลฺลลุปฺปจาโร โหติฯ เอวํ สเนฺตปิ ยฺวายํ อสุภเภโท วุโตฺต, โส สรีรสภาวปฺปตฺติวเสน จ ราคจริตเภทวเสน จาติ เวทิตโพฺพฯ
Etesu hi yattha katthaci adhigatajjhāno suvikkhambhitarāgattā vītarāgo viya nilloluppacāro hoti. Evaṃ santepi yvāyaṃ asubhabhedo vutto, so sarīrasabhāvappattivasena ca rāgacaritabhedavasena cāti veditabbo.
ฉวสรีรญฺหิ ปฎิกูลภาวํ อาปชฺชมานํ อุทฺธุมาตกสภาวปฺปตฺตํ วา สิยา, วินีลกาทีนํ วา อญฺญตรสภาวปฺปตฺตํฯ อิติ ยาทิสํ ยาทิสํ สกฺกา โหติ ลทฺธุํ ตาทิเส ตาทิเส อุทฺธุมาตกปฎิกูลํ วินีลกปฎิกูลนฺติ เอวํ นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพเมวาติ สรีรสภาวปฺปตฺติวเสน ทสธา อสุภปฺปเภโท วุโตฺตติ เวทิตโพฺพฯ
Chavasarīrañhi paṭikūlabhāvaṃ āpajjamānaṃ uddhumātakasabhāvappattaṃ vā siyā, vinīlakādīnaṃ vā aññatarasabhāvappattaṃ. Iti yādisaṃ yādisaṃ sakkā hoti laddhuṃ tādise tādise uddhumātakapaṭikūlaṃ vinīlakapaṭikūlanti evaṃ nimittaṃ gaṇhitabbamevāti sarīrasabhāvappattivasena dasadhā asubhappabhedo vuttoti veditabbo.
วิเสสโต เจตฺถ อุทฺธุมาตกํ สรีรสณฺฐานวิปตฺติปฺปกาสนโต สรีรสณฺฐานราคิโน สปฺปายํฯ วินีลกํ ฉวิราควิปตฺติปฺปกาสนโต สรีรวณฺณราคิโน สปฺปายํฯ วิปุพฺพกํ กายวณปฎิพทฺธสฺส ทุคฺคนฺธภาวสฺส ปกาสนโต มาลาคนฺธาทิวเสน สมุฎฺฐาปิตสรีรคนฺธราคิโน สปฺปายํฯ วิจฺฉิทฺทกํ อโนฺตสุสิรภาวปฺปกาสนโต สรีเร ฆนภาวราคิโน สปฺปายํฯ วิกฺขายิตกํ มํสูปจยสมฺปตฺติวินาสปฺปกาสนโต ถนาทีสุ สรีรปฺปเทเสสุ มํสูปจยราคิโน สปฺปายํฯ วิกฺขิตฺตกํ องฺคปจฺจงฺคานํ วิเกฺขปปฺปกาสนโต องฺคปจฺจงฺคลีลาราคิโน สปฺปายํฯ หตวิกฺขิตฺตกํ สรีรสงฺฆาฎเภทวิการปฺปกาสนโต สรีรสงฺฆาฎสมฺปตฺติราคิโน สปฺปายํฯ โลหิตกํ โลหิตมกฺขิตปฎิกูลภาวปฺปกาสนโต อลงฺการชนิตโสภราคิโน สปฺปายํฯ ปุฬวกํ กายสฺส อเนกกิมิกุลสาธารณภาวปฺปกาสนโต กาเย มมตฺตราคิโน สปฺปายํฯ อฎฺฐิกํ สรีรฎฺฐีนํ ปฎิกูลภาวปฺปกาสนโต ทนฺตสมฺปตฺติราคิโน สปฺปายนฺติฯ เอวํ ราคจริตวเสนาปิ ทสธา อสุภปฺปเภโท วุโตฺตติ เวทิตโพฺพฯ
Visesato cettha uddhumātakaṃ sarīrasaṇṭhānavipattippakāsanato sarīrasaṇṭhānarāgino sappāyaṃ. Vinīlakaṃ chavirāgavipattippakāsanato sarīravaṇṇarāgino sappāyaṃ. Vipubbakaṃ kāyavaṇapaṭibaddhassa duggandhabhāvassa pakāsanato mālāgandhādivasena samuṭṭhāpitasarīragandharāgino sappāyaṃ. Vicchiddakaṃ antosusirabhāvappakāsanato sarīre ghanabhāvarāgino sappāyaṃ. Vikkhāyitakaṃ maṃsūpacayasampattivināsappakāsanato thanādīsu sarīrappadesesu maṃsūpacayarāgino sappāyaṃ. Vikkhittakaṃ aṅgapaccaṅgānaṃ vikkhepappakāsanato aṅgapaccaṅgalīlārāgino sappāyaṃ. Hatavikkhittakaṃ sarīrasaṅghāṭabhedavikārappakāsanato sarīrasaṅghāṭasampattirāgino sappāyaṃ. Lohitakaṃ lohitamakkhitapaṭikūlabhāvappakāsanato alaṅkārajanitasobharāgino sappāyaṃ. Puḷavakaṃ kāyassa anekakimikulasādhāraṇabhāvappakāsanato kāye mamattarāgino sappāyaṃ. Aṭṭhikaṃ sarīraṭṭhīnaṃ paṭikūlabhāvappakāsanato dantasampattirāgino sappāyanti. Evaṃ rāgacaritavasenāpi dasadhā asubhappabhedo vuttoti veditabbo.
ยสฺมา ปน ทสวิเธปิ เอตสฺมิํ อสุเภ เสยฺยถาปิ นาม อปริสณฺฐิตชลาย สีฆโสตาย นทิยา อริตฺตพเลเนว นาวา ติฎฺฐติ, วินา อริเตฺตน น สกฺกา ฐเปตุํ, เอวเมว ทุพฺพลตฺตา อารมฺมณสฺส วิตกฺกพเลเนว จิตฺตํ เอกคฺคํ หุตฺวา ติฎฺฐติ, วินา วิตเกฺกน น สกฺกา ฐเปตุํ, ตสฺมา ปฐมชฺฌานเมเวตฺถ โหติ, น ทุติยาทีนิฯ ปฎิกูเลปิ เจตสฺมิํ อารมฺมเณ ‘อทฺธา อิมาย ปฎิปทาย ชรามรณมฺหา ปริมุจฺจิสฺสามี’ติ เอวํ อานิสํสทสฺสาวิตาย เจว นีวรณสนฺตาปปฺปหาเนน จ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ‘พหุํ ทานิ เวตนํ ลภิสฺสามี’ติ อานิสํสทสฺสาวิโน ปุปฺผฉฑฺฑกสฺส คูถราสิมฺหิ วิย, อุสฺสนฺนพฺยาธิทุกฺขสฺส โรคิโน วมนวิเรจนปฺปวตฺติยํ วิย จฯ
Yasmā pana dasavidhepi etasmiṃ asubhe seyyathāpi nāma aparisaṇṭhitajalāya sīghasotāya nadiyā arittabaleneva nāvā tiṭṭhati, vinā arittena na sakkā ṭhapetuṃ, evameva dubbalattā ārammaṇassa vitakkabaleneva cittaṃ ekaggaṃ hutvā tiṭṭhati, vinā vitakkena na sakkā ṭhapetuṃ, tasmā paṭhamajjhānamevettha hoti, na dutiyādīni. Paṭikūlepi cetasmiṃ ārammaṇe ‘addhā imāya paṭipadāya jarāmaraṇamhā parimuccissāmī’ti evaṃ ānisaṃsadassāvitāya ceva nīvaraṇasantāpappahānena ca pītisomanassaṃ uppajjati, ‘bahuṃ dāni vetanaṃ labhissāmī’ti ānisaṃsadassāvino pupphachaḍḍakassa gūtharāsimhi viya, ussannabyādhidukkhassa rogino vamanavirecanappavattiyaṃ viya ca.
ทสวิธมฺปิ เจตํ อสุภํ ลกฺขณโต เอกเมว โหติฯ ทสวิธสฺสปิ หิ เอตสฺส อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฎิกูลภาโว เอว ลกฺขณํฯ ตเทตํ อิมินา ลกฺขเณน น เกวลํ มตสรีเรเยว ทนฺตฎฺฐิกทสฺสาวิโน ปน เจติยปพฺพตวาสิโน มหาติสฺสเตฺถรสฺส วิย, หตฺถิกฺขนฺธคตํ ราชานํ อุโลฺลเกนฺตสฺส สงฺฆรกฺขิตเตฺถรุปฎฺฐากสามเณรสฺส วิย จ, ชีวมานกสรีเรปิ อุปฎฺฐาติฯ ยเถว หิ มตสรีรํ เอวํ ชีวมานกมฺปิ อสุภเมวฯ อสุภลกฺขณํ ปเนตฺถ อาคนฺตุเกน อลงฺกาเรน ปฎิจฺฉนฺนตฺตา น ปญฺญายตีติฯ
Dasavidhampi cetaṃ asubhaṃ lakkhaṇato ekameva hoti. Dasavidhassapi hi etassa asuciduggandhajegucchapaṭikūlabhāvo eva lakkhaṇaṃ. Tadetaṃ iminā lakkhaṇena na kevalaṃ matasarīreyeva dantaṭṭhikadassāvino pana cetiyapabbatavāsino mahātissattherassa viya, hatthikkhandhagataṃ rājānaṃ ullokentassa saṅgharakkhitattherupaṭṭhākasāmaṇerassa viya ca, jīvamānakasarīrepi upaṭṭhāti. Yatheva hi matasarīraṃ evaṃ jīvamānakampi asubhameva. Asubhalakkhaṇaṃ panettha āgantukena alaṅkārena paṭicchannattā na paññāyatīti.
อสุภกถาฯ
Asubhakathā.
กิํ ปน ปถวีกสิณํ อาทิํ กตฺวา อฎฺฐิกสญฺญาปริโยสานาเวสา รูปาวจรปฺปนา, อุทาหุ อญฺญาปิ อตฺถีติ? อตฺถิ; อานาปานชฺฌานญฺหิ กายคตาสติภาวนา จ อิธ น กถิตาฯ กิญฺจาปิ น กถิตา วาโยกสิเณ ปน คหิเต อานาปานชฺฌานํ คหิตเมว; วณฺณกสิเณสุ จ คหิเตสุ เกสาทีสุ จตุกฺกปญฺจกชฺฌานวเสน อุปฺปนฺนา กายคตาสติ, ทสสุ อสุเภสุ คหิเตสุ ทฺวตฺติํสากาเร ปฎิกูลมนสิการชฺฌานวเสน เจว นวสิวถิกาวณฺณชฺฌานวเสน จ ปวตฺตา กายคตาสติ คหิตาวาติฯ สพฺพาปิ รูปาวจรปฺปนา อิธ กถิตาว โหตีติฯ
Kiṃ pana pathavīkasiṇaṃ ādiṃ katvā aṭṭhikasaññāpariyosānāvesā rūpāvacarappanā, udāhu aññāpi atthīti? Atthi; ānāpānajjhānañhi kāyagatāsatibhāvanā ca idha na kathitā. Kiñcāpi na kathitā vāyokasiṇe pana gahite ānāpānajjhānaṃ gahitameva; vaṇṇakasiṇesu ca gahitesu kesādīsu catukkapañcakajjhānavasena uppannā kāyagatāsati, dasasu asubhesu gahitesu dvattiṃsākāre paṭikūlamanasikārajjhānavasena ceva navasivathikāvaṇṇajjhānavasena ca pavattā kāyagatāsati gahitāvāti. Sabbāpi rūpāvacarappanā idha kathitāva hotīti.
รูปาวจรกุสลกถา นิฎฺฐิตาฯ
Rūpāvacarakusalakathā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธมฺมสงฺคณีปาฬิ • Dhammasaṅgaṇīpāḷi / รูปาวจรกุสลํ • Rūpāvacarakusalaṃ
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-มูลฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-mūlaṭīkā / อสุภกถาวณฺณนา • Asubhakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-อนุฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-anuṭīkā / อสุภกถาวณฺณนา • Asubhakathāvaṇṇanā