Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๒๑๘. อติเรกจีวรกถา
218. Atirekacīvarakathā
๓๔๗. 1 เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ภควตา ติจีวรํ อนุญฺญาตนฺติ อเญฺญเนว ติจีวเรน คามํ ปวิสนฺติ, อเญฺญน ติจีวเรน อาราเม อจฺฉนฺติ, อเญฺญน ติจีวเรน นหานํ โอตรนฺติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อติเรกจีวรํ ธาเรสฺสนฺตี’’ติฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพํฯ โย ธาเรยฺย, ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพ’’ติฯ
347.2 Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū bhagavatā ticīvaraṃ anuññātanti aññeneva ticīvarena gāmaṃ pavisanti, aññena ticīvarena ārāme acchanti, aññena ticīvarena nahānaṃ otaranti. Ye te bhikkhū appicchā te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū atirekacīvaraṃ dhāressantī’’ti. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, atirekacīvaraṃ dhāretabbaṃ. Yo dhāreyya, yathādhammo kāretabbo’’ti.
3 เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อานนฺทสฺส อติเรกจีวรํ อุปฺปนฺนํ โหติฯ อายสฺมา จ อานโนฺท ตํ จีวรํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโม โหติฯ อายสฺมา จ สาริปุโตฺต สาเกเต วิหรติฯ อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ ‘น อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติฯ อิทญฺจ เม อติเรกจีวรํ อุปฺปนฺนํ ฯ อหญฺจิมํ จีวรํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโมฯ อายสฺมา จ สาริปุโตฺต สาเกเต วิหรติฯ กถํ นุ โข มยา ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘กีวจิรํ ปนานนฺท, สาริปุโตฺต อาคจฺฉิสฺสตี’’ติ? ‘‘นวมํ วา, ภควา, ทิวสํ, ทสมํ วา’’ติฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตุ’’นฺติฯ
4 Tena kho pana samayena āyasmato ānandassa atirekacīvaraṃ uppannaṃ hoti. Āyasmā ca ānando taṃ cīvaraṃ āyasmato sāriputtassa dātukāmo hoti. Āyasmā ca sāriputto sākete viharati. Atha kho āyasmato ānandassa etadahosi – ‘‘bhagavatā sikkhāpadaṃ paññattaṃ ‘na atirekacīvaraṃ dhāretabba’nti. Idañca me atirekacīvaraṃ uppannaṃ . Ahañcimaṃ cīvaraṃ āyasmato sāriputtassa dātukāmo. Āyasmā ca sāriputto sākete viharati. Kathaṃ nu kho mayā paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Kīvaciraṃ panānanda, sāriputto āgacchissatī’’ti? ‘‘Navamaṃ vā, bhagavā, divasaṃ, dasamaṃ vā’’ti. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, dasāhaparamaṃ atirekacīvaraṃ dhāretu’’nti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ อติเรกจีวรํ อุปฺปนฺนํ โหติฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข อเมฺหหิ อติเรกจีวเร ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อติเรกจีวรํ วิกเปฺปตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhūnaṃ atirekacīvaraṃ uppannaṃ hoti. Atha kho bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘kathaṃ nu kho amhehi atirekacīvare paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, atirekacīvaraṃ vikappetunti.
๓๔๘. อถ โข ภควา เวสาลิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน พาราณสี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน พาราณสี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเยฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน อนฺตรวาสโก ฉิโทฺท โหติฯ อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ – ‘‘ภควตา ติจีวรํ อนุญฺญาตํ – ทิคุณา สงฺฆาฎิ, เอกจฺจิโย อุตฺตราสโงฺค , เอกจฺจิโย อนฺตรวาสโกฯ อยญฺจ เม อนฺตรวาสโก ฉิโทฺทฯ ยํนูนาหํ อคฺคฬํ อจฺฉุเปยฺยํ, สมนฺตโต ทุปฎฺฎํ ภวิสฺสติ, มเชฺฌ เอกจฺจิย’’นฺติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อคฺคฬํ อจฺฉุเปสิฯ อทฺทสา โข ภควา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑโนฺต ตํ ภิกฺขุํ อคฺคฬํ อจฺฉุเปนฺตํ 5, ทิสฺวาน เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ ตฺวํ, ภิกฺขุ, กโรสี’’ติ? ‘‘อคฺคฬํ, ภควา, อจฺฉุเปมี’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ; สาธุ โข ตฺวํ, ภิกฺขุ, อคฺคฬํ อจฺฉุเปสี’’ติ ฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อหตานํ ทุสฺสานํ อหตกปฺปานํ ทิคุณํ สงฺฆาฎิํ, เอกจฺจิยํ อุตฺตราสงฺคํ, เอกจฺจิยํ อนฺตรวาสกํ; อุตุทฺธฎานํ ทุสฺสานํ จตุคฺคุณํ สงฺฆาฎิํ, ทิคุณํ อุตฺตราสงฺคํ, ทิคุณํ อนฺตรวาสกํ; ปํสุกูเล ยาวทตฺถํ; ปาปณิเก อุสฺสาโห กรณีโยฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อคฺคฬํ ตุนฺนํ โอวฎฺฎิกํ กณฺฑุสกํ ทฬฺหีกมฺม’’นฺติฯ
348. Atha kho bhagavā vesāliyaṃ yathābhirantaṃ viharitvā yena bārāṇasī tena cārikaṃ pakkāmi. Anupubbena cārikaṃ caramāno yena bārāṇasī tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā bārāṇasiyaṃ viharati isipatane migadāye. Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno antaravāsako chiddo hoti. Atha kho tassa bhikkhuno etadahosi – ‘‘bhagavatā ticīvaraṃ anuññātaṃ – diguṇā saṅghāṭi, ekacciyo uttarāsaṅgo , ekacciyo antaravāsako. Ayañca me antaravāsako chiddo. Yaṃnūnāhaṃ aggaḷaṃ acchupeyyaṃ, samantato dupaṭṭaṃ bhavissati, majjhe ekacciya’’nti. Atha kho so bhikkhu aggaḷaṃ acchupesi. Addasā kho bhagavā senāsanacārikaṃ āhiṇḍanto taṃ bhikkhuṃ aggaḷaṃ acchupentaṃ 6, disvāna yena so bhikkhu tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘kiṃ tvaṃ, bhikkhu, karosī’’ti? ‘‘Aggaḷaṃ, bhagavā, acchupemī’’ti. ‘‘Sādhu sādhu, bhikkhu; sādhu kho tvaṃ, bhikkhu, aggaḷaṃ acchupesī’’ti . Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ahatānaṃ dussānaṃ ahatakappānaṃ diguṇaṃ saṅghāṭiṃ, ekacciyaṃ uttarāsaṅgaṃ, ekacciyaṃ antaravāsakaṃ; utuddhaṭānaṃ dussānaṃ catugguṇaṃ saṅghāṭiṃ, diguṇaṃ uttarāsaṅgaṃ, diguṇaṃ antaravāsakaṃ; paṃsukūle yāvadatthaṃ; pāpaṇike ussāho karaṇīyo. Anujānāmi, bhikkhave, aggaḷaṃ tunnaṃ ovaṭṭikaṃ kaṇḍusakaṃ daḷhīkamma’’nti.
อติเรกจีวรกถา นิฎฺฐิตาฯ
Atirekacīvarakathā niṭṭhitā.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อติเรกจีวราทิกถา • Atirekacīvarādikathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อติเรกจีวราทิกถาวณฺณนา • Atirekacīvarādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / จีวรรชนกถาทิวณฺณนา • Cīvararajanakathādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๑๘. อติเรกจีวราทิกถา • 218. Atirekacīvarādikathā