Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā

    อฎฺฐจีวรมาติกากถาวณฺณนา

    Aṭṭhacīvaramātikākathāvaṇṇanā

    ๓๗๙. ยสฺมา อปริกฺขิตฺตสฺส ปริเกฺขปารหฎฺฐานํ ทุพฺพิชานํ, ตสฺมา ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ธุวสนฺนิปาตฎฺฐานมฺปิ ปริยนฺตคตเมว คเหตพฺพํฯ ‘‘มหาปจฺจริยํ ปน ภิกฺขูสุปิ…เป.… ปาปุณาตีติ ‘อุปจารสีมาย เทมา’ติ เอวํ ทินฺนเมว สนฺธายา’’ติ ลิขิตํ ฯ ‘‘สมานสํวาสกสีมายา’’ติ วุเตฺต ขณฺฑสีมาทีสุ ฐิตานํ น ปาปุณาติ ตาสํ วิสุํ สมานสํวาสกสีมตฺตาฯ สมานสํวาสกอวิปฺปวาสสีมานํ อิทํ นานตฺตํ – ‘‘อวิปฺปวาสสีมาย ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ คามฎฺฐานํ น ปาปุณาติฯ กสฺมา? ‘‘ฐเปตฺวา คามญฺจ คามูปจารญฺจา’’ติ วุตฺตตฺตาฯ ‘‘สมานสํวาสกสีมายา’’ติ ทินฺนํ ปน ยสฺมิํ ฐาเน อวิปฺปวาสสีมา อตฺถิ, ตตฺถ ฐิตานํ, อิตรตฺร ฐิตานญฺจ ปาปุณาติฯ ‘‘ขณฺฑสีมายํ ฐตฺวา ‘สีมฎฺฐกสงฺฆสฺส ทมฺมี’ติ วุเตฺต อุปจารสีมาย เอว ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ ‘‘อวิปฺปวาสสีมาย เทมา’’ติ ขณฺฑสีมายํ ฐตฺวา ทิเนฺน ตเตฺถว ปาปุณาตีติ เกจิฯ โยชนสตมฺปิ ปูเรตฺวา นิสีทนฺตีติ เอตฺถ วิหารูปจาเร หตฺถปาเสน, พหิคามาทีสุ ทฺวาทสหเตฺถน อุปจาโรติ เอเกฯ ‘‘อิมสฺมิํ วิหาเร สงฺฆสฺสา’’ติ วุเตฺต เอกาพทฺธา หุตฺวาปิ ปริเกฺขปปริเกฺขปารหฎฺฐานํ อติกฺกมิตฺวา ฐิตานํ น ปาปุณาตีติ เอเกฯ ‘‘ภิกฺขุนิวิหารโต พหิ ยตฺถ กตฺถจิ ฐตฺวา ‘สงฺฆสฺสา’ติ วุเตฺต ภิกฺขุสโงฺฆว สามี’’ติ วทนฺติฯ เอโกปิ คนฺตฺวาติ เอตฺถ สเพฺพสํ วา ปาเปตฺวา คนฺตพฺพํ, อาเนตฺวา วา ปาเปตพฺพํ, อิตรถา คตสฺส น ปาปุณาติฯ สมานลาภกติกา มูลาวาเส สติ สิยา, มูลาวาสวินาเสน กติกาปิ วินสฺสติฯ สมานลาภวจนํ สติ ทฺวีสุ, พหูสุ วา ยุชฺชติฯ เตเนว เอกสฺมิํ อวสิเฎฺฐ ยุชฺชตีติ โน มติฯ

    379. Yasmā aparikkhittassa parikkhepārahaṭṭhānaṃ dubbijānaṃ, tasmā ‘‘apicā’’tiādi vuttaṃ. Tattha dhuvasannipātaṭṭhānampi pariyantagatameva gahetabbaṃ. ‘‘Mahāpaccariyaṃ pana bhikkhūsupi…pe… pāpuṇātīti ‘upacārasīmāya demā’ti evaṃ dinnameva sandhāyā’’ti likhitaṃ . ‘‘Samānasaṃvāsakasīmāyā’’ti vutte khaṇḍasīmādīsu ṭhitānaṃ na pāpuṇāti tāsaṃ visuṃ samānasaṃvāsakasīmattā. Samānasaṃvāsakaavippavāsasīmānaṃ idaṃ nānattaṃ – ‘‘avippavāsasīmāya dammī’’ti dinnaṃ gāmaṭṭhānaṃ na pāpuṇāti. Kasmā? ‘‘Ṭhapetvā gāmañca gāmūpacārañcā’’ti vuttattā. ‘‘Samānasaṃvāsakasīmāyā’’ti dinnaṃ pana yasmiṃ ṭhāne avippavāsasīmā atthi, tattha ṭhitānaṃ, itaratra ṭhitānañca pāpuṇāti. ‘‘Khaṇḍasīmāyaṃ ṭhatvā ‘sīmaṭṭhakasaṅghassa dammī’ti vutte upacārasīmāya eva paricchinditvā dātabba’’nti vuttaṃ. ‘‘Avippavāsasīmāya demā’’ti khaṇḍasīmāyaṃ ṭhatvā dinne tattheva pāpuṇātīti keci. Yojanasatampi pūretvā nisīdantīti ettha vihārūpacāre hatthapāsena, bahigāmādīsu dvādasahatthena upacāroti eke. ‘‘Imasmiṃ vihāre saṅghassā’’ti vutte ekābaddhā hutvāpi parikkhepaparikkhepārahaṭṭhānaṃ atikkamitvā ṭhitānaṃ na pāpuṇātīti eke. ‘‘Bhikkhunivihārato bahi yattha katthaci ṭhatvā ‘saṅghassā’ti vutte bhikkhusaṅghova sāmī’’ti vadanti. Ekopi gantvāti ettha sabbesaṃ vā pāpetvā gantabbaṃ, ānetvā vā pāpetabbaṃ, itarathā gatassa na pāpuṇāti. Samānalābhakatikā mūlāvāse sati siyā, mūlāvāsavināsena katikāpi vinassati. Samānalābhavacanaṃ sati dvīsu, bahūsu vā yujjati. Teneva ekasmiṃ avasiṭṭhe yujjatīti no mati.

    ‘‘ตาวกาลิกกาเลน, มูลเจฺฉทวเสน วา;

    ‘‘Tāvakālikakālena, mūlacchedavasena vā;

    อเญฺญสํ กมฺมํ อญฺญสฺส, สิยา นาวาสสงฺคโม’’ติฯ –

    Aññesaṃ kammaṃ aññassa, siyā nāvāsasaṅgamo’’ti. –

    อาจริโยฯ

    Ācariyo.

    สพฺพตฺถ ทินฺนเมวาติ ‘‘สมานภาโคว โหตี’’ติ วทนฺติฯ ‘‘เอกเมกํ อมฺหากํ ปาปุณาตีติ เจ วทติ, วฎฺฎตี’’ติ วทนฺติ วิภาคสฺส กตตฺตาฯ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จีวเร ทิเนฺน ปํสุกูลิกานํ น วฎฺฎตี’’ติ วทนฺติฯ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺสา’’ติ วุเตฺต ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’’ติ อวุตฺตตฺตา ภิกฺขุนิสเงฺฆน มิสฺสิตตฺตา, ตตฺถ อปริยาปนฺนตฺตา จ ปุคฺคโล วิสุํ ลภติฯ เอวํ สเนฺต ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส จ ทมฺมี’’ติ วุเตฺตปิ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนเมว โหตี’’ติ อิมินา วิรุชฺฌตีติ เจ? น วิรุชฺฌติ, ตํ ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ ทินฺนภาวเมว ทีเปติ, น อุภโตสงฺฆปญฺญตฺติํ, ตสฺมา เอว ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส จ ตุยฺหญฺจา’’ติ วาโร น วุโตฺตฯ อถ วา อฎฺฐกถาวจนเมว ปมาณํ, น วิจารณาติ เอเกฯ ยสฺมา เอโก อทฺธานาทิยโก วิย ทุวิโธ น โหติ, ตสฺมา อุภโตสงฺฆคฺคหเณน เอโก ภิกฺขุ น คหิโตติ ฯ ‘‘สพฺพาวาสสฺส จ เจติยสฺส จ ธมฺมสฺส จา’ติ วุเตฺต สพฺพวิหาเรสุ เจติยธมฺมานํ เอเกกสฺส ภิกฺขุโน ภาโค ทาตโพฺพ’’ติ วทนฺติฯ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จา’’ติ วุเตฺต น วิรุชฺฌตีติ เจ? น, ตตฺถ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา, อิธ วิหาเรน ฆฎิตตฺตา จ ตมฺหิ ตมฺหิ วิหาเร เอกภาคํ ลภิตพฺพเมวาติ ปริหรนฺติฯ อตฺตโน ปาเปตฺวาติ วิกาเล อปริโภคตฺตา สกโลปิ วเฎฺฎยฺยาติ เจ? ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส หรา’’ติ วุตฺตตฺตา, เตน ‘‘หรามี’’ติ คหิตตฺตา จ น วฎฺฎติฯ ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานมฺปีติ เอตฺถ อปิ-สโทฺท อวธารณโตฺถ, ปจฺฉิมวสฺสํวุตฺถานเมวาติ อโตฺถ, อิตรถา สมุจฺจยเตฺถ คหิเต ‘‘ลกฺขณญฺญู วทนฺตี’’ติ วจนํ นิรตฺถกํ สิยาฯ กสฺมาติ อารภิตฺวา ปปญฺจํ กโรนฺติฯ กิํ เตน, ปรโต ‘‘จีวรมาสโต ปฎฺฐาย…เป.… อตีตวสฺสํวุตฺถานเมว ปาปุณาตี’’ติ อิมินา สิทฺธตฺตา น วิจาริตํ, เตน วุตฺตํ ‘‘ลกฺขณญฺญู’’ติ อจลวเสนฯ สเจ ปน พหิอุปจารสีมาย ฐิโต…เป.… สมฺปตฺตานํ สเพฺพสํ ปาปุณาตีติ ยตฺถ กตฺถจิ วุตฺถวสฺสานนฺติ อธิปฺปาโย ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ วุตฺถวสฺสานํ สเพฺพสํ สมฺปตฺตานํ ปาปุณาตี’’ติ (กงฺขา. อฎฺฐ. อกาลจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) กงฺขาวิตรณิยํ วุตฺตตฺตาฯ คิมฺหานํ ปฐมทิวสโต ปฎฺฐาย วุเตฺต ปน ยสฺมา อนนฺตราตีตํ เหมนฺตํ เอว วุตฺถา นาม โหนฺติ, น วสฺสํ, ตสฺมา ‘‘มาติกา อาโรเปตพฺพา’’ติ วุตฺตํฯ เย วา เถเรหิ เปสิตา, เตสํ ปาปุณาตีติ กิร อโตฺถฯ

    Sabbattha dinnamevāti ‘‘samānabhāgova hotī’’ti vadanti. ‘‘Ekamekaṃ amhākaṃ pāpuṇātīti ce vadati, vaṭṭatī’’ti vadanti vibhāgassa katattā. ‘‘Bhikkhusaṅghassa cīvare dinne paṃsukūlikānaṃ na vaṭṭatī’’ti vadanti. ‘‘Ubhatosaṅghassā’’ti vutte ‘‘bhikkhusaṅghassā’’ti avuttattā bhikkhunisaṅghena missitattā, tattha apariyāpannattā ca puggalo visuṃ labhati. Evaṃ sante ‘‘bhikkhusaṅghassa ca bhikkhunisaṅghassa ca dammī’’ti vuttepi ‘‘ubhatosaṅghassa dinnameva hotī’’ti iminā virujjhatīti ce? Na virujjhati, taṃ dvinnaṃ saṅghānaṃ dinnabhāvameva dīpeti, na ubhatosaṅghapaññattiṃ, tasmā eva ‘‘bhikkhusaṅghassa ca bhikkhunisaṅghassa ca tuyhañcā’’ti vāro na vutto. Atha vā aṭṭhakathāvacanameva pamāṇaṃ, na vicāraṇāti eke. Yasmā eko addhānādiyako viya duvidho na hoti, tasmā ubhatosaṅghaggahaṇena eko bhikkhu na gahitoti . ‘‘Sabbāvāsassa ca cetiyassa ca dhammassa cā’ti vutte sabbavihāresu cetiyadhammānaṃ ekekassa bhikkhuno bhāgo dātabbo’’ti vadanti. ‘‘Bhikkhusaṅghassa ca cetiyassa cā’’ti vutte na virujjhatīti ce? Na, tattha ‘‘bhikkhusaṅghassā’’ti vuttattā, idha vihārena ghaṭitattā ca tamhi tamhi vihāre ekabhāgaṃ labhitabbamevāti pariharanti. Attano pāpetvāti vikāle aparibhogattā sakalopi vaṭṭeyyāti ce? ‘‘Bhikkhusaṅghassa harā’’ti vuttattā, tena ‘‘harāmī’’ti gahitattā ca na vaṭṭati. Pacchimavassaṃvutthānampīti ettha api-saddo avadhāraṇattho, pacchimavassaṃvutthānamevāti attho, itarathā samuccayatthe gahite ‘‘lakkhaṇaññū vadantī’’ti vacanaṃ niratthakaṃ siyā. Kasmāti ārabhitvā papañcaṃ karonti. Kiṃ tena, parato ‘‘cīvaramāsato paṭṭhāya…pe… atītavassaṃvutthānameva pāpuṇātī’’ti iminā siddhattā na vicāritaṃ, tena vuttaṃ ‘‘lakkhaṇaññū’’ti acalavasena. Sace pana bahiupacārasīmāya ṭhito…pe… sampattānaṃ sabbesaṃ pāpuṇātīti yattha katthaci vutthavassānanti adhippāyo ‘‘yattha katthaci vutthavassānaṃ sabbesaṃ sampattānaṃ pāpuṇātī’’ti (kaṅkhā. aṭṭha. akālacīvarasikkhāpadavaṇṇanā) kaṅkhāvitaraṇiyaṃ vuttattā. Gimhānaṃ paṭhamadivasato paṭṭhāya vutte pana yasmā anantarātītaṃ hemantaṃ eva vutthā nāma honti, na vassaṃ, tasmā ‘‘mātikā āropetabbā’’ti vuttaṃ. Ye vā therehi pesitā, tesaṃ pāpuṇātīti kira attho.

    จีวรกฺขนฺธกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Cīvarakkhandhakavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๒๓๒. อฎฺฐจีวรมาติกา • 232. Aṭṭhacīvaramātikā

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อฎฺฐจีวรมาติกากถา • Aṭṭhacīvaramātikākathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อฎฺฐจีวรมาติกากถาวณฺณนา • Aṭṭhacīvaramātikākathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อฎฺฐจีวรมาติกากถาวณฺณนา • Aṭṭhacīvaramātikākathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๓๒. อฎฺฐจีวรมาติกากถา • 232. Aṭṭhacīvaramātikākathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact