Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā |
(๘.) อฎฺฐกนิเทฺทสวณฺณนา
(8.) Aṭṭhakaniddesavaṇṇanā
๙๕๒. อฎฺฐกนิเทฺทเส กิเลสาเยว กิเลสวตฺถูนิฯ กุสีตวตฺถูนีติ กุสีตสฺส อลสสฺส วตฺถูนิ, ปติฎฺฐา, โกสชฺชการณานีติ อโตฺถฯ กมฺมํ กาตพฺพํ โหตีติ จีวรวิจารณาทิกมฺมํ กาตพฺพํ โหติฯ น วีริยํ อารภตีติ ทุวิธมฺปิ วีริยํ นารภติฯ อปฺปตฺตสฺสาติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลธมฺมสฺส อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยาฯ อนธิคตสฺสาติ ตเสฺสว อนธิคตสฺส อธิคมตฺถายฯ อสจฺฉิกตสฺสาติ ตเสฺสว อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกรณตฺถายฯ อิทํ ปฐมนฺติ ‘อิทํ หนฺทาหํ นิปชฺชามี’ติ เอวํ โอสีทนํ ปฐมํ กุสีตวตฺถุฯ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
952. Aṭṭhakaniddese kilesāyeva kilesavatthūni. Kusītavatthūnīti kusītassa alasassa vatthūni, patiṭṭhā, kosajjakāraṇānīti attho. Kammaṃ kātabbaṃ hotīti cīvaravicāraṇādikammaṃ kātabbaṃ hoti. Na vīriyaṃ ārabhatīti duvidhampi vīriyaṃ nārabhati. Appattassāti jhānavipassanāmaggaphaladhammassa appattassa pattiyā. Anadhigatassāti tasseva anadhigatassa adhigamatthāya. Asacchikatassāti tasseva asacchikatassa sacchikaraṇatthāya. Idaṃ paṭhamanti ‘idaṃ handāhaṃ nipajjāmī’ti evaṃ osīdanaṃ paṭhamaṃ kusītavatthu. Iminā nayena sabbattha attho veditabbo.
มาสาจิตํ มเญฺญติ เอตฺถ ปน มาสาจิตํ นาม ตินฺตมาโส; ยถา ตินฺตมาโส ครุโก โหติ, เอวํ ครุโกติ อธิปฺปาโยฯ คิลานา วุฎฺฐิโต โหตีติ คิลาโน หุตฺวา ปจฺฉา วุฎฺฐิโต โหติฯ
Māsācitaṃ maññeti ettha pana māsācitaṃ nāma tintamāso; yathā tintamāso garuko hoti, evaṃ garukoti adhippāyo. Gilānā vuṭṭhito hotīti gilāno hutvā pacchā vuṭṭhito hoti.
๙๕๔. อฎฺฐสุ โลกธเมฺมสูติ เอตฺถ โลกสฺส ธมฺมาติ โลกธมฺมาฯ เอเตหิ วิมุโตฺต นาม นตฺถิ, พุทฺธานมฺปิ โหนฺติ เอวฯ ตสฺมา ‘โลกธมฺมา’ติ วุจฺจนฺติฯ ปฎิฆาโตติ ปฎิหญฺญนากาโรฯ ลาเภ สาราโคติ ‘อหํ ลาภํ ลภามี’ติ เอวํ เคหสิตโสมนสฺสวเสน อุปฺปโนฺน สาราโค; โส จิตฺตํ ปฎิหนติฯ อลาเภ ปฎิวิโรโธติ ‘อหํ ลาภํ น ลภามี’ติ โทมนสฺสวเสน อุปฺปนฺนวิโรโธ; โสปิ จิตฺตํ ปฎิหนติฯ ตสฺมา ‘ปฎิฆาโต’ติ วุโตฺตฯ ยสาทีสุปิ ‘อหํ มหาปริวาโร, อหํ อปฺปปริวาโร, อหํ ปสํสปฺปโตฺต, อหํ ครหปฺปโตฺต, อหํ สุขปฺปโตฺต, อหํ ทุกฺขปฺปโต’ติ เอวเมเตสํ อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพาฯ อนริยโวหาราติ อนริยานํ โวหาราฯ
954. Aṭṭhasu lokadhammesūti ettha lokassa dhammāti lokadhammā. Etehi vimutto nāma natthi, buddhānampi honti eva. Tasmā ‘lokadhammā’ti vuccanti. Paṭighātoti paṭihaññanākāro. Lābhe sārāgoti ‘ahaṃ lābhaṃ labhāmī’ti evaṃ gehasitasomanassavasena uppanno sārāgo; so cittaṃ paṭihanati. Alābhe paṭivirodhoti ‘ahaṃ lābhaṃ na labhāmī’ti domanassavasena uppannavirodho; sopi cittaṃ paṭihanati. Tasmā ‘paṭighāto’ti vutto. Yasādīsupi ‘ahaṃ mahāparivāro, ahaṃ appaparivāro, ahaṃ pasaṃsappatto, ahaṃ garahappatto, ahaṃ sukhappatto, ahaṃ dukkhappato’ti evametesaṃ uppatti veditabbā. Anariyavohārāti anariyānaṃ vohārā.
๙๕๗. ปุริสโทสาติ ปุริสานํ โทสาฯ น สรามีติ ‘มยา เอตสฺส กมฺมสฺส กตฎฺฐานํ น สรามิ น สลฺลเกฺขมี’ติ เอวํ อสฺสติภาเวน นิเพฺพเฐติ โมเจติฯ โจทกํเยว ปฎิปฺผรตีติ ปฎิวิรุโทฺธ หุตฺวา ผรติ, ปฎิภาณิตภาเวน ติฎฺฐติฯ กิํ นุ โข ตุยฺหนฺติ ‘ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน นาม กิํ’ โย ตฺวํ เนว วตฺถุนา อาปตฺติํ, น โจทนํ ชานาสี’ติ ทีเปติ; ‘ตฺวํ ปิ นาม เอวํ กิญฺจิ อชานโนฺต ภณิตพฺพํ มญฺญิสฺสสี’ติ อโชฺฌตฺถรติฯ ปจฺจาโรเปตีติ ‘ตฺวํ ปิ โขสี’ติอาทีนิ วทโนฺต ปฎิอาโรเปติฯ ปฎิกโรหีติ เทสนาคามินิํ เทเสหิ, วุฎฺฐานคามินิโต วุฎฺฐาหิ ตโต สุทฺธเนฺต ปติฎฺฐิโต อญฺญํ โจเทสฺสสี’ติ ทีเปติฯ
957. Purisadosāti purisānaṃ dosā. Na sarāmīti ‘mayā etassa kammassa kataṭṭhānaṃ na sarāmi na sallakkhemī’ti evaṃ assatibhāvena nibbeṭheti moceti. Codakaṃyeva paṭippharatīti paṭiviruddho hutvā pharati, paṭibhāṇitabhāvena tiṭṭhati. Kiṃ nu kho tuyhanti ‘tuyhaṃ bālassa abyattassa bhaṇitena nāma kiṃ’ yo tvaṃ neva vatthunā āpattiṃ, na codanaṃ jānāsī’ti dīpeti; ‘tvaṃ pi nāma evaṃ kiñci ajānanto bhaṇitabbaṃ maññissasī’ti ajjhottharati. Paccāropetīti ‘tvaṃ pi khosī’tiādīni vadanto paṭiāropeti. Paṭikarohīti desanāgāminiṃ desehi, vuṭṭhānagāminito vuṭṭhāhi tato suddhante patiṭṭhito aññaṃ codessasī’ti dīpeti.
อเญฺญนาญฺญํ ปฎิจรตีติ อเญฺญน การเณน วจเนน วา อญฺญํ การณํ วจนํ วา ปฎิจฺฉาเทติฯ ‘อาปตฺติํ อาปโนฺนสี’ติ วุโตฺต ‘โก อาปโนฺน? กิํ อาปโนฺน? กถํ อาปโนฺน? กิสฺมิํ อาปโนฺน? กํ ภณถ? กิํ ภณถา’ติ วทติฯ ‘เอวรูปํ กิญฺจิ ตยา ทิฎฺฐ’นฺติ วุเตฺต ‘น สุณามี’ติ โสตํ วา อุปเนติฯ พหิทฺธา กถํ อปนาเมตีติ ‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺติํ อาปโนฺนสี’ติ ปุโฎฺฐ ‘ปาฎลิปุตฺตํ คโตมฺหี’ติ วตฺวา ปุน ‘ตว ปาฎลิปุตฺตคมนํ น ปุจฺฉามา’ติ วุเตฺต ‘ตโต ราชคหํ คโตมฺหี’ติ ‘ราชคหํ วา ยาหิ, พฺราหฺมณเคหํ วา; อาปตฺติํ อาปโนฺนสี’ติ? ‘ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’นฺติอาทีนิ วทโนฺต กถํ พหิทฺธา วิกฺขิปติฯ โกปนฺติ กุปิตภาวํฯ โทสนฺติ ทุฎฺฐภาวํฯ อุภยเมฺปตํ โกธเสฺสว นามํฯ อปฺปจฺจยนฺติ อสนฺตุฎฺฐาการํ; โทมนสฺสเสฺสตํ นามํฯ ปาตุกโรตีติ ทเสฺสติ ปกาเสติฯ พาหาวิเกฺขปกํ ภณตีติ พาหา วิกฺขิปิตฺวา อลชฺชิวจนํ วทติฯ วิเหเสตีติ วิเหเฐติ พาธติฯ อนาทิยิตฺวาติ จิตฺตีกาเรน อคฺคเหตฺวา อวชานิตฺวา; อนาทโร หุตฺวาติ อโตฺถฯ
Aññenāññaṃ paṭicaratīti aññena kāraṇena vacanena vā aññaṃ kāraṇaṃ vacanaṃ vā paṭicchādeti. ‘Āpattiṃ āpannosī’ti vutto ‘ko āpanno? Kiṃ āpanno? Kathaṃ āpanno? Kismiṃ āpanno? Kaṃ bhaṇatha? Kiṃ bhaṇathā’ti vadati. ‘Evarūpaṃ kiñci tayā diṭṭha’nti vutte ‘na suṇāmī’ti sotaṃ vā upaneti. Bahiddhā kathaṃ apanāmetīti ‘itthannāmaṃ āpattiṃ āpannosī’ti puṭṭho ‘pāṭaliputtaṃ gatomhī’ti vatvā puna ‘tava pāṭaliputtagamanaṃ na pucchāmā’ti vutte ‘tato rājagahaṃ gatomhī’ti ‘rājagahaṃ vā yāhi, brāhmaṇagehaṃ vā; āpattiṃ āpannosī’ti? ‘Tattha me sūkaramaṃsaṃ laddha’ntiādīni vadanto kathaṃ bahiddhā vikkhipati. Kopanti kupitabhāvaṃ. Dosanti duṭṭhabhāvaṃ. Ubhayampetaṃ kodhasseva nāmaṃ. Appaccayanti asantuṭṭhākāraṃ; domanassassetaṃ nāmaṃ. Pātukarotīti dasseti pakāseti. Bāhāvikkhepakaṃ bhaṇatīti bāhā vikkhipitvā alajjivacanaṃ vadati. Vihesetīti viheṭheti bādhati. Anādiyitvāti cittīkārena aggahetvā avajānitvā; anādaro hutvāti attho.
อติพาฬฺหนฺติ อติทฬฺหํ อติปฺปมาณํฯ มยิ พฺยาวฎาติ มยิ พฺยาปารํ อาปนฺนาฯ หีนายาวตฺติตฺวาติ หีนสฺส คิหิภาวสฺส อตฺถาย อาวตฺติตฺวา; คิหี หุตฺวาติ อโตฺถฯ อตฺตมนา โหถาติ ตุฎฺฐจิตฺตา โหถ, ‘มยา ลภิตพฺพํ ลภถ, มยา วสิตพฺพฎฺฐาเน วสถ, ผาสุวิหาโร โว มยา กโต’ติ อธิปฺปาเยน วทติฯ
Atibāḷhanti atidaḷhaṃ atippamāṇaṃ. Mayi byāvaṭāti mayi byāpāraṃ āpannā. Hīnāyāvattitvāti hīnassa gihibhāvassa atthāya āvattitvā; gihī hutvāti attho. Attamanā hothāti tuṭṭhacittā hotha, ‘mayā labhitabbaṃ labhatha, mayā vasitabbaṭṭhāne vasatha, phāsuvihāro vo mayā kato’ti adhippāyena vadati.
๙๕๘. อสญฺญีติ ปวโตฺต วาโท อสญฺญีวาโท; โส เตสํ อตฺถีติ อสญฺญีวาทาฯ รูปี อตฺตาติอาทีสุ ลาภิโน กสิณรูปํ อตฺตาติ คเหตฺวา รูปีติ ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติ; อลาภิโน ตกฺกมเตฺตเนว , อาชีวกานํ วิยฯ ลาภิโนเยว จ ปน อรูปสมาปตฺตินิมิตฺตํ อตฺตาติ คเหตฺวา อรูปีติ ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติ; อลาภิโน ตกฺกมเตฺตเนว, นิคณฺฐานํ วิยฯ อสญฺญีภาเว ปเนตฺถ เอกเนฺตเนว การณํ น ปริเยสิตพฺพํฯ ทิฎฺฐิคติโก หิ อุมฺมตฺตโก วิย ยํ วา ตํ วา คณฺหาติฯ รูปี จ อรูปี จาติ รูปารูปมิสฺสกคาหวเสน วุตฺตํฯ อยํ ทิฎฺฐิ รูปาวจรารูปาวจรสมาปตฺติลาภิโนปิ ตกฺกิกสฺสาปิ อุปฺปชฺชติฯ เนว รูปี นารูปีติ ปน เอกนฺตโต ตกฺกิกทิฎฺฐิเยวฯ อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณํ อตฺตโต คณฺหนฺตสฺส ทิฎฺฐิฯ อนนฺตวาติ อปฺปมาณกสิณํฯ อนฺตวา จ อนนฺตวา จาติ อุทฺธมโธ สปริยนฺตํ ติริยํ อปริยนฺตํ กสิณํ อตฺตาติ คเหตฺวา อุปฺปนฺนทิฎฺฐิฯ เนวนฺตวา นานนฺตวาติ ตกฺกิกทิฎฺฐิเยวฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
958. Asaññīti pavatto vādo asaññīvādo; so tesaṃ atthīti asaññīvādā. Rūpī attātiādīsu lābhino kasiṇarūpaṃ attāti gahetvā rūpīti diṭṭhi uppajjati; alābhino takkamatteneva , ājīvakānaṃ viya. Lābhinoyeva ca pana arūpasamāpattinimittaṃ attāti gahetvā arūpīti diṭṭhi uppajjati; alābhino takkamatteneva, nigaṇṭhānaṃ viya. Asaññībhāve panettha ekanteneva kāraṇaṃ na pariyesitabbaṃ. Diṭṭhigatiko hi ummattako viya yaṃ vā taṃ vā gaṇhāti. Rūpī ca arūpī cāti rūpārūpamissakagāhavasena vuttaṃ. Ayaṃ diṭṭhi rūpāvacarārūpāvacarasamāpattilābhinopi takkikassāpi uppajjati. Neva rūpī nārūpīti pana ekantato takkikadiṭṭhiyeva. Antavāti parittakasiṇaṃ attato gaṇhantassa diṭṭhi. Anantavāti appamāṇakasiṇaṃ. Antavā ca anantavā cāti uddhamadho sapariyantaṃ tiriyaṃ apariyantaṃ kasiṇaṃ attāti gahetvā uppannadiṭṭhi. Nevantavā nānantavāti takkikadiṭṭhiyeva. Sesaṃ sabbattha uttānatthamevāti.
อฎฺฐกนิเทฺทสวณฺณนาฯ
Aṭṭhakaniddesavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo