Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา
2. Atthaṅgatasikkhāpadavaṇṇanā
๑๕๓. ทุติเย กุสลานํ ธมฺมานํ สาตจฺจกิริยายาติ ปุพฺพภาคปฺปฎิปตฺติวเสน วุตฺตํฯ มุนาตีติ ชานาติฯ เตน ญาเณนาติ เตน อรหตฺตผลปญฺญาสงฺขาเตน ญาเณนฯ ปเถสูติ อุปายมเคฺคสุฯ อรหโต ปรินิฎฺฐิตสิกฺขตฺตา อาห ‘‘อิทญฺจ…เป.… วุตฺต’’นฺติฯ อถ วา ‘‘อปฺปมชฺชโต สิกฺขโต’’ติ อิเมสํ ปทานํ เหตุอตฺถตา ทฎฺฐพฺพา, ตสฺมา อปฺปมชฺชนเหตุ สิกฺขนเหตุ จ อธิเจตโสติ อโตฺถฯ โสกาติ จิตฺตสนฺตาปาฯ เอตฺถ จ อธิเจตโสติ อิมินา อธิจิตฺตสิกฺขา, อปฺปมชฺชโตติ อิมินา อธิสีลสิกฺขา, มุนิโน โมนปเถสุ สิกฺขโตติ เอเตหิ อธิปญฺญาสิกฺขา, มุนิโนติ วา เอเตน อธิปญฺญาสิกฺขา, โมนปเถสุ สิกฺขโตติ เอเตน ตาสํ โลกุตฺตรสิกฺขานํ ปุพฺพภาคปฺปฎิปทา, โสกา น ภวนฺตีติอาทีหิ สิกฺขาปาริปูริยา อานิสํสา ปกาสิตาติ เวทิตพฺพํฯ
153. Dutiye kusalānaṃ dhammānaṃ sātaccakiriyāyāti pubbabhāgappaṭipattivasena vuttaṃ. Munātīti jānāti. Tena ñāṇenāti tena arahattaphalapaññāsaṅkhātena ñāṇena. Pathesūti upāyamaggesu. Arahato pariniṭṭhitasikkhattā āha ‘‘idañca…pe… vutta’’nti. Atha vā ‘‘appamajjato sikkhato’’ti imesaṃ padānaṃ hetuatthatā daṭṭhabbā, tasmā appamajjanahetu sikkhanahetu ca adhicetasoti attho. Sokāti cittasantāpā. Ettha ca adhicetasoti iminā adhicittasikkhā, appamajjatoti iminā adhisīlasikkhā, munino monapathesu sikkhatoti etehi adhipaññāsikkhā, muninoti vā etena adhipaññāsikkhā, monapathesu sikkhatoti etena tāsaṃ lokuttarasikkhānaṃ pubbabhāgappaṭipadā, sokā na bhavantītiādīhi sikkhāpāripūriyā ānisaṃsā pakāsitāti veditabbaṃ.
โกกนุทนฺติ ปทุมวิเสสนํ ยถา ‘‘โกกาสย’’นฺติ, ตํ กิร พหุปตฺตํ วณฺณสมฺปนฺนํ อติวิย สุคนฺธญฺจ โหติฯ ‘‘โกกนุทํ นาม เสตปทุม’’นฺติปิ วทนฺติฯ ปาโตติ ปเควฯ อยเญฺหตฺถ อโตฺถ – ยถา โกกนุทสงฺขาตํ ปทุมํ ปาโต สูริยุคฺคมนเวลายํ ผุลฺลํ วิกสิตํ อวีตคนฺธํ สิยา วิโรจมานํ, เอวํ สรีรคเนฺธน คุณคเนฺธน จ สุคนฺธํ สรทกาเล อนฺตลิเกฺข อาทิจฺจมิว อตฺตโน เตชสา ตปนฺตํ อเงฺคหิ นิจฺฉรณชุติตาย องฺคีรสํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปสฺสาติฯ
Kokanudanti padumavisesanaṃ yathā ‘‘kokāsaya’’nti, taṃ kira bahupattaṃ vaṇṇasampannaṃ ativiya sugandhañca hoti. ‘‘Kokanudaṃ nāma setapaduma’’ntipi vadanti. Pātoti pageva. Ayañhettha attho – yathā kokanudasaṅkhātaṃ padumaṃ pāto sūriyuggamanavelāyaṃ phullaṃ vikasitaṃ avītagandhaṃ siyā virocamānaṃ, evaṃ sarīragandhena guṇagandhena ca sugandhaṃ saradakāle antalikkhe ādiccamiva attano tejasā tapantaṃ aṅgehi niccharaṇajutitāya aṅgīrasaṃ sammāsambuddhaṃ passāti.
อภโพฺพติ ปฎิปตฺติสารมิทํ สาสนํ, ปฎิปตฺติ จ ปริยตฺติมูลิกา, ตฺวญฺจ ปริยตฺติํ อุคฺคเหตุํ อสมโตฺถ, ตสฺมา อภโพฺพติ อธิปฺปาโยฯ สุทฺธํ ปิโลติกขณฺฑนฺติ อิทฺธิยา อภิสงฺขตํ ปริสุทฺธํ โจฬขณฺฑํฯ ตทา กิร ภควา ‘‘น สชฺฌายํ กาตุํ อสโกฺกโนฺต มม สาสเน อภโพฺพ นาม โหติ, มา โสจิ ภิกฺขู’’ติ ตํ พาหายํ คเหตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา อิทฺธิยา ปิโลติกขณฺฑํ อภินิมฺมินิตฺวา ‘‘หนฺท, ภิกฺขุ, อิมํ ปริมชฺชโนฺต ‘รโชหรณํ รโชหรณ’นฺติ ปุนปฺปุนํ สชฺฌายํ กโรหี’’ติ วตฺวา อทาสิ ตตฺถ ปุเพฺพกตาธิการตฺตาฯ
Abhabboti paṭipattisāramidaṃ sāsanaṃ, paṭipatti ca pariyattimūlikā, tvañca pariyattiṃ uggahetuṃ asamattho, tasmā abhabboti adhippāyo. Suddhaṃ pilotikakhaṇḍanti iddhiyā abhisaṅkhataṃ parisuddhaṃ coḷakhaṇḍaṃ. Tadā kira bhagavā ‘‘na sajjhāyaṃ kātuṃ asakkonto mama sāsane abhabbo nāma hoti, mā soci bhikkhū’’ti taṃ bāhāyaṃ gahetvā vihāraṃ pavisitvā iddhiyā pilotikakhaṇḍaṃ abhinimminitvā ‘‘handa, bhikkhu, imaṃ parimajjanto ‘rajoharaṇaṃ rajoharaṇa’nti punappunaṃ sajjhāyaṃ karohī’’ti vatvā adāsi tattha pubbekatādhikārattā.
โส กิร ปุเพฺพ ราชา หุตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กโรโนฺต นลาฎโต เสเท มุจฺจเนฺต ปริสุเทฺธน สาฎเกน นลาฎํ ปุญฺฉิ, สาฎโก กิลิโฎฺฐ อโหสิ ฯ โส ‘‘อิมํ สรีรํ นิสฺสาย เอวรูโป ปริสุทฺธสาฎโก ปกติํ ชหิตฺวา กิลิโฎฺฐ ชาโต, อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติ อนิจฺจสญฺญํ ปฎิลภติ, เตน การเณนสฺส รโชหรณเมว ปจฺจโย ชาโตฯ รชํ หรตีติ รโชหรณํฯ สํเวคํ ปฎิลภิตฺวาติ อสุภสญฺญํ อนิจฺจสญฺญญฺจ อุปฎฺฐเปโนฺต สํเวคํ ปฎิลภิตฺวาฯ โส หิ โยนิโส อุมฺมชฺชโนฺต ‘‘ปริสุทฺธํ วตฺถํ, นเตฺถตฺถ โทโส, อตฺตภาวสฺส ปนายํ โทโส’’ติ อสุภสญฺญํ อนิจฺจสญฺญญฺจ ปฎิลภิตฺวา นามรูปปริคฺคหาทินา ปญฺจสุ ขเนฺธสุ ญาณํ โอตาเรตฺวา กลาปสมฺมสนาทิกฺกเมน วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อุทยพฺพยญาณาทิปอปาฎิยา วิปสฺสนํ อนุโลมโคตฺรภุสมีปํ ปาเปสิฯ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘วิปสฺสนํ อารภี’’ติฯ โอภาสคาถํ อภาสีติ โอภาสวิสฺสชฺชนปุพฺพกภาสิตคาถา โอภาสคาถา, ตํ อภาสีติ อโตฺถฯ
So kira pubbe rājā hutvā nagaraṃ padakkhiṇaṃ karonto nalāṭato sede muccante parisuddhena sāṭakena nalāṭaṃ puñchi, sāṭako kiliṭṭho ahosi . So ‘‘imaṃ sarīraṃ nissāya evarūpo parisuddhasāṭako pakatiṃ jahitvā kiliṭṭho jāto, aniccā vata saṅkhārā’’ti aniccasaññaṃ paṭilabhati, tena kāraṇenassa rajoharaṇameva paccayo jāto. Rajaṃ haratīti rajoharaṇaṃ. Saṃvegaṃ paṭilabhitvāti asubhasaññaṃ aniccasaññañca upaṭṭhapento saṃvegaṃ paṭilabhitvā. So hi yoniso ummajjanto ‘‘parisuddhaṃ vatthaṃ, natthettha doso, attabhāvassa panāyaṃ doso’’ti asubhasaññaṃ aniccasaññañca paṭilabhitvā nāmarūpapariggahādinā pañcasu khandhesu ñāṇaṃ otāretvā kalāpasammasanādikkamena vipassanaṃ vaḍḍhetvā udayabbayañāṇādipaapāṭiyā vipassanaṃ anulomagotrabhusamīpaṃ pāpesi. Taṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘vipassanaṃ ārabhī’’ti. Obhāsagāthaṃ abhāsīti obhāsavissajjanapubbakabhāsitagāthā obhāsagāthā, taṃ abhāsīti attho.
เอตฺถ จ ‘‘อธิเจตโสติ อิมํ โอภาสคาถํ อภาสี’’ติ อิเธว วุตฺตํฯ วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๒.๓๘๖) ปน ธมฺมปทฎฺฐกถายํ (ธ. ป. อฎฺฐ. ๑.จูฬปนฺถกเตฺถรวตฺถุ) เถรคาถาสํวณฺณนายญฺจ (เถรคา. อฎฺฐ. ๒.๕๖๖) –
Ettha ca ‘‘adhicetasoti imaṃ obhāsagāthaṃ abhāsī’’ti idheva vuttaṃ. Visuddhimagge (visuddhi. 2.386) pana dhammapadaṭṭhakathāyaṃ (dha. pa. aṭṭha. 1.cūḷapanthakattheravatthu) theragāthāsaṃvaṇṇanāyañca (theragā. aṭṭha. 2.566) –
‘‘ราโค รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ;
‘‘Rāgo rajo na ca pana reṇu vuccati;
ราคเสฺสตํ อธิวจนํ รโชติ;
Rāgassetaṃ adhivacanaṃ rajoti;
เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺวา ปณฺฑิตา;
Etaṃ rajaṃ vippajahitvā paṇḍitā;
วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเนฯ
Viharanti te vigatarajassa sāsane.
‘‘โทโส…เป.… สาสเนฯ
‘‘Doso…pe… sāsane.
‘‘โมโห รโช น จ ปน เรณุ วุจฺจติ;
‘‘Moho rajo na ca pana reṇu vuccati;
โมหเสฺสตํ อธิวจนํ รโชติ;
Mohassetaṃ adhivacanaṃ rajoti;
เอตํ รชํ วิปฺปชหิตฺวา ปณฺฑิตา;
Etaṃ rajaṃ vippajahitvā paṇḍitā;
วิหรนฺติ เต วิคตรชสฺส สาสเนติฯ –
Viharanti te vigatarajassa sāsaneti. –
อิมา ติโสฺส โอภาสคาถา อภาสี’’ติ วุตฺตํฯ อธิเจตโสติ จ อยํ จูฬปนฺถกเตฺถรสฺส อุทานคาถาติ อิมิสฺสาเยว ปาฬิยา อาคตํฯ เถรคาถายํ ปน จูฬปนฺถกเตฺถรสฺส อุทานคาถาสุ อยํ อนารุฬฺหา, ‘‘เอกุทานิยเตฺถรสฺส ปน อยํ อุทานคาถา’’ติ (เถรคา. อฎฺฐ. ๑.เอกุทานิยเตฺถรคาถาวณฺณนา) ตตฺถ วุตฺตํฯ เอวํ สเนฺตปิ อิมิสฺสา ปาฬิยา อฎฺฐกถาย จ เอวมาคตตฺตา จูฬปนฺถกเตฺถรสฺสปิ อยํ อุทานคาถา โอภาสคาถาวเสน จ ภควตา ภาสิตาติ คเหตพฺพํฯ อรหตฺตํ ปาปุณีติ อภิญฺญาปฎิสมฺภิทาปริวารํ อรหตฺตํ ปาปุณิฯ อภโพฺพ ตฺวนฺติอาทิวจนโต อนุกมฺปาวเสน สทฺธิวิหาริกาทิํ สงฺฆิกวิหารา นิกฺกฑฺฒาเปนฺตสฺส อนาปตฺติ วิย ทิสฺสติฯ อภโพฺพ หิ เถโร สญฺจิจฺจ ตํ กาตุํ, นิกฺกฑฺฒนสิกฺขาปเท วา อปญฺญเตฺต เถเรน เอวํ กตนฺติ คเหตพฺพํฯ
Imā tisso obhāsagāthā abhāsī’’ti vuttaṃ. Adhicetasoti ca ayaṃ cūḷapanthakattherassa udānagāthāti imissāyeva pāḷiyā āgataṃ. Theragāthāyaṃ pana cūḷapanthakattherassa udānagāthāsu ayaṃ anāruḷhā, ‘‘ekudāniyattherassa pana ayaṃ udānagāthā’’ti (theragā. aṭṭha. 1.ekudāniyattheragāthāvaṇṇanā) tattha vuttaṃ. Evaṃ santepi imissā pāḷiyā aṭṭhakathāya ca evamāgatattā cūḷapanthakattherassapi ayaṃ udānagāthā obhāsagāthāvasena ca bhagavatā bhāsitāti gahetabbaṃ. Arahattaṃ pāpuṇīti abhiññāpaṭisambhidāparivāraṃ arahattaṃ pāpuṇi. Abhabbo tvantiādivacanato anukampāvasena saddhivihārikādiṃ saṅghikavihārā nikkaḍḍhāpentassa anāpatti viya dissati. Abhabbo hi thero sañcicca taṃ kātuṃ, nikkaḍḍhanasikkhāpade vā apaññatte therena evaṃ katanti gahetabbaṃ.
๑๕๖. โอวทนฺตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ อตฺถงฺคเต สูริเย ครุธเมฺมหิ วา อเญฺญน วา ธเมฺมเนว โอวทนฺตสฺส สมฺมตสฺสปิ ปาจิตฺติยํฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ อตฺถงฺคตสูริยตา, ปริปุณฺณูปสมฺปนฺนตา, โอวทนนฺติ อิมานิ ปเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ
156.Ovadantassa pācittiyanti atthaṅgate sūriye garudhammehi vā aññena vā dhammeneva ovadantassa sammatassapi pācittiyaṃ. Sesamettha uttānameva. Atthaṅgatasūriyatā, paripuṇṇūpasampannatā, ovadananti imāni panettha tīṇi aṅgāni.
อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Atthaṅgatasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๓. โอวาทวโคฺค • 3. Ovādavaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Atthaṅgatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Atthaṅgatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทวณฺณนา • 2. Atthaṅgatasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒. อตฺถงฺคตสิกฺขาปทํ • 2. Atthaṅgatasikkhāpadaṃ