Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā |
อฎฺฐารสวตฺถุกถา
Aṭṭhārasavatthukathā
๔๖๘. อธมฺมํ ธโมฺมติอาทีนิ อฎฺฐารส เภทกรวตฺถูนิ สงฺฆเภทกกฺขนฺธเก วณฺณยิสฺสามฯ
468.Adhammaṃ dhammotiādīni aṭṭhārasa bhedakaravatthūni saṅghabhedakakkhandhake vaṇṇayissāma.
๔๗๕. ตํ อุกฺขิตฺตกํ ภิกฺขุํ โอสาเรตฺวาติ ตํ คเหตฺวา สีมํ คนฺตฺวา อาปตฺติํ เทสาเปตฺวา กมฺมวาจาย โอสาเรตฺวาฯ ตาวเทว อุโปสโถติ ตํทิวสเมว อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺตนเยเนว สามคฺคีอุโปสโถ กาตโพฺพฯ
475.Taṃukkhittakaṃ bhikkhuṃ osāretvāti taṃ gahetvā sīmaṃ gantvā āpattiṃ desāpetvā kammavācāya osāretvā. Tāvadeva uposathoti taṃdivasameva uposathakkhandhake vuttanayeneva sāmaggīuposatho kātabbo.
๔๗๖. อมูลา มูลํ คนฺตฺวาติ น มูลา มูลํ คนฺตฺวา; ตํ วตฺถุํ อวินิจฺฉินิตฺวาติ อโตฺถฯ อยํ วุจฺจติ อุปาลิ สงฺฆสามคฺคี อตฺถาเปตา พฺยญฺชนูเปตาติ อตฺถโต อปคตา, ‘‘สงฺฆสามคฺคี’’ติ อิมํ ปน พฺยญฺชนมตฺตํ อุเปตาฯ
476.Amūlā mūlaṃ gantvāti na mūlā mūlaṃ gantvā; taṃ vatthuṃ avinicchinitvāti attho. Ayaṃ vuccati upāli saṅghasāmaggī atthāpetā byañjanūpetāti atthato apagatā, ‘‘saṅghasāmaggī’’ti imaṃ pana byañjanamattaṃ upetā.
๔๗๗. สงฺฆสฺส กิเจฺจสูติ สงฺฆสฺส กรณีเยสุ อุปฺปเนฺนสุฯ มนฺตนาสูติ วินยมนฺตนาสุฯ อเตฺถสุ ชาเตสูติ วินยอเตฺถสุ อุปฺปเนฺนสุฯ วินิจฺฉเยสูติ เตสํเยว อตฺถานํ วินิจฺฉเยสุฯ มหตฺถิโกติ มหาอุปกาโรฯ ปคฺคหารโหติ ปคฺคณฺหิตุํ วุโตฺตฯ
477.Saṅghassa kiccesūti saṅghassa karaṇīyesu uppannesu. Mantanāsūti vinayamantanāsu. Atthesu jātesūti vinayaatthesu uppannesu. Vinicchayesūti tesaṃyeva atthānaṃ vinicchayesu. Mahatthikoti mahāupakāro. Paggahārahoti paggaṇhituṃ vutto.
อนานุวโชฺช ปฐเมน สีลโตติอาทิมฺหิเยว ตาว สีลโต น อุปวโชฺชฯ อเวกฺขิตาจาโรติ อเปกฺขิตาจาโร; อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการีติอาทินา นเยน อุปปริกฺขิตาจาโรฯ อฎฺฐกถาสุ ปน ‘‘อปฺปฎิจฺฉนฺนาจาโร’’ติ วุตฺตํฯ
Anānuvajjo paṭhamena sīlatotiādimhiyeva tāva sīlato na upavajjo. Avekkhitācāroti apekkhitācāro; ālokite vilokite sampajānakārītiādinā nayena upaparikkhitācāro. Aṭṭhakathāsu pana ‘‘appaṭicchannācāro’’ti vuttaṃ.
วิสยฺหาติ อภิภวิตฺวาฯ อนุยฺยุตํ ภณนฺติ อนุญฺญาตํ อนปคตํ ภณโนฺตฯ ยสฺมา หิ โส อนุยฺยุตํ ภณติ, อุสูยาย วา อคติคมนวเสน วา การณาปคตํ น ภณติ, ตสฺมา อตฺถํ น หาเปติฯ อุสูยาย ปน อคติคมนวเสน วา ภณโนฺต อตฺถํ หาเปติ, การณํ น เทติ, ตสฺมา โส ปริสคโต ฉมฺภติ เจว เวธติ จฯ โย อีทิโส น โหติ, อยํ ‘‘ปคฺคหารโห’’ติ ทเสฺสติฯ
Visayhāti abhibhavitvā. Anuyyutaṃ bhaṇanti anuññātaṃ anapagataṃ bhaṇanto. Yasmā hi so anuyyutaṃ bhaṇati, usūyāya vā agatigamanavasena vā kāraṇāpagataṃ na bhaṇati, tasmā atthaṃ na hāpeti. Usūyāya pana agatigamanavasena vā bhaṇanto atthaṃ hāpeti, kāraṇaṃ na deti, tasmā so parisagato chambhati ceva vedhati ca. Yo īdiso na hoti, ayaṃ ‘‘paggahāraho’’ti dasseti.
กิญฺจ ภิโยฺย ‘‘ตเถว ปญฺห’’นฺติ คาถา, ตสฺสโตฺถ – ยถา จ อนุยฺยุตํ ภณโนฺต อตฺถํ น หาเปติ, ตเถว ปริสาย มเชฺฌ ปญฺหํ ปุจฺฉิโต สมาโน น เจว ปชฺฌายติ, น จ มงฺกุ โหติฯ โย หิ อตฺถํ น ชานาติ, โส ปชฺฌายติฯ โย วตฺตุํ น สโกฺกติ, โส มงฺกุ โหติฯ โย ปน อตฺถญฺจ ชานาติ, วตฺตุญฺจ สโกฺกติ; โส น ปชฺฌายติ, น มงฺกุ โหติฯ กาลาคตนฺติ กเถตพฺพยุตฺตกาเล อาคตํฯ พฺยากรณารหนฺติ ปญฺหสฺส อตฺถานุโลมตาย พฺยากรณานุจฺฉวิกํฯ วโจติ วทโนฺต; เอวรูปํ วจนํ ภณโนฺตติ อโตฺถฯ รเญฺชตีติ โตเสติฯ วิญฺญูปริสนฺติ วิญฺญูนํ ปริสํฯ
Kiñca bhiyyo ‘‘tatheva pañha’’nti gāthā, tassattho – yathā ca anuyyutaṃ bhaṇanto atthaṃ na hāpeti, tatheva parisāya majjhe pañhaṃ pucchito samāno na ceva pajjhāyati, na ca maṅku hoti. Yo hi atthaṃ na jānāti, so pajjhāyati. Yo vattuṃ na sakkoti, so maṅku hoti. Yo pana atthañca jānāti, vattuñca sakkoti; so na pajjhāyati, na maṅku hoti. Kālāgatanti kathetabbayuttakāle āgataṃ. Byākaraṇārahanti pañhassa atthānulomatāya byākaraṇānucchavikaṃ. Vacoti vadanto; evarūpaṃ vacanaṃ bhaṇantoti attho. Rañjetīti toseti. Viññūparisanti viññūnaṃ parisaṃ.
อาเจรกมฺหิ จ สเกติ อตฺตโน อาจริยวาเทฯ อลํ ปเมตุนฺติ วีมํสิตุํ ตํ ตํ การณํ ปญฺญาย ตุลยิตุํ สมโตฺถฯ ปคุโณติ กตปริจโย ลทฺธาเสวโนฯ กเถตเวติ กเถตเพฺพฯ วิรทฺธิโกวิโทติ วิรทฺธฎฺฐานกุสโลฯ
Ācerakamhica saketi attano ācariyavāde. Alaṃ pametunti vīmaṃsituṃ taṃ taṃ kāraṇaṃ paññāya tulayituṃ samattho. Paguṇoti kataparicayo laddhāsevano. Kathetaveti kathetabbe. Viraddhikovidoti viraddhaṭṭhānakusalo.
ปจฺจตฺถิกา เยน วชนฺตีติ อยํ คาถา ยาทิเส กเถตเพฺพ ปคุโณ, ตํ ทเสฺสตุํ วุตฺตาฯ อยเญฺหตฺถ อโตฺถ – ยาทิเสน กถิเตน ปจฺจตฺถิกา จ นิคฺคหํ คจฺฉนฺติ, มหาชโน จ สญฺญปนํ คจฺฉติ; สญฺญตฺติํ อวโพธนํ คจฺฉตีติ อโตฺถฯ ยญฺจ กเถโนฺต สกํ อาทายํ อตฺตโน อาจริยวาทํ น หาเปติ, ยสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ อธิกรณํ อุปฺปนฺนํ, ตทนุรูปํ อนุปฆาตกรํ ปญฺหํ พฺยากรมาโน ตาทิเส กเถตเพฺพ ปคุโณ โหตีติฯ
Paccatthikā yena vajantīti ayaṃ gāthā yādise kathetabbe paguṇo, taṃ dassetuṃ vuttā. Ayañhettha attho – yādisena kathitena paccatthikā ca niggahaṃ gacchanti, mahājano ca saññapanaṃ gacchati; saññattiṃ avabodhanaṃ gacchatīti attho. Yañca kathento sakaṃ ādāyaṃ attano ācariyavādaṃ na hāpeti, yasmiṃ vatthusmiṃ adhikaraṇaṃ uppannaṃ, tadanurūpaṃ anupaghātakaraṃ pañhaṃ byākaramāno tādise kathetabbe paguṇo hotīti.
ทูเตยฺยกเมฺมสุ อลนฺติ อฎฺฐหิ ทูตเงฺคหิ สมนฺนาคตตฺตา สงฺฆสฺส ทูเตยฺยกเมฺมสุ สมโตฺถฯ สุฎฺฐุ อุคฺคณฺหาตีติ สมุคฺคโหฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา นาม อาหุนํ อาหุติปิณฺฑํ สมุคฺคณฺหนฺติ, เอวํ ปีติโสมนสฺสชาเตเนว เจตสา สงฺฆสฺส กิเจฺจสุ สมุคฺคโห, สงฺฆสฺสกิเจฺจสุ ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส ปฎิคฺคาหโกติ อโตฺถฯ กรํ วโจติ วจนํ กโรโนฺตฯ น เตน มญฺญตีติ เตน วจนกรเณน ‘‘อหํ กโรมิ, สงฺฆภารํ นิตฺถรามี’’ติ น มานาติมานํ ชเปฺปติฯ
Dūteyyakammesu alanti aṭṭhahi dūtaṅgehi samannāgatattā saṅghassa dūteyyakammesu samattho. Suṭṭhu uggaṇhātīti samuggaho. Idaṃ vuttaṃ hoti – yathā nāma āhunaṃ āhutipiṇḍaṃ samuggaṇhanti, evaṃ pītisomanassajāteneva cetasā saṅghassa kiccesu samuggaho, saṅghassakiccesu tassa tassa kiccassa paṭiggāhakoti attho. Karaṃ vacoti vacanaṃ karonto. Na tena maññatīti tena vacanakaraṇena ‘‘ahaṃ karomi, saṅghabhāraṃ nittharāmī’’ti na mānātimānaṃ jappeti.
อาปชฺชติ ยาวตเกสุ วตฺถูสูติ ยตฺตเกสุ วตฺถูสุ อาปตฺติํ อาปชฺชมาโน อาปชฺชติฯ โหติ ยถา จ วุฎฺฐิตีติ ตสฺสา จ อาปตฺติยา ยถา วุฎฺฐานํ โหติฯ เอเต วิภงฺคาติ เยสุ วตฺถูสุ อาปชฺชติ, ยถา จ วุฎฺฐานํ โหติ, อิเมสํ อตฺถานํ โชตกา เอเต วิภงฺคาฯ อุภยสฺสาติ อุภเย อสฺสฯ สฺวาคตาติ สุฎฺฐุ อาคตาฯ อาปตฺติวุฎฺฐานปทสฺส โกวิโทติ อาปตฺติวุฎฺฐานการณกุสโลฯ
Āpajjati yāvatakesu vatthūsūti yattakesu vatthūsu āpattiṃ āpajjamāno āpajjati. Hoti yathā ca vuṭṭhitīti tassā ca āpattiyā yathā vuṭṭhānaṃ hoti. Ete vibhaṅgāti yesu vatthūsu āpajjati, yathā ca vuṭṭhānaṃ hoti, imesaṃ atthānaṃ jotakā ete vibhaṅgā. Ubhayassāti ubhaye assa. Svāgatāti suṭṭhu āgatā. Āpattivuṭṭhānapadassa kovidoti āpattivuṭṭhānakāraṇakusalo.
ยานิ จาจรนฺติ ยานิ จ ภณฺฑนการณาทีนิ อาจรโนฺต ตชฺชนียกมฺมาทิวเสน นิสฺสารณํ คจฺฉติฯ โอสารณํ ตํวุสิตสฺส ชนฺตุโนติ ตํ วตฺตํ วุสิตสฺส ชนฺตุโน, ยา โอสารณา กาตพฺพา, เอตมฺปิ ชานาติฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ
Yāni cācaranti yāni ca bhaṇḍanakāraṇādīni ācaranto tajjanīyakammādivasena nissāraṇaṃ gacchati. Osāraṇaṃ taṃvusitassa jantunoti taṃ vattaṃ vusitassa jantuno, yā osāraṇā kātabbā, etampi jānāti. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.
โกสมฺพกกฺขนฺธกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kosambakakkhandhakavaṇṇanā niṭṭhitā.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
Samantapāsādikāya vinayasaṃvaṇṇanāya
มหาวคฺควณฺณนา สมตฺตาฯ
Mahāvaggavaṇṇanā samattā.
มหาวคฺค-อฎฺฐกถา นิฎฺฐิตาฯ
Mahāvagga-aṭṭhakathā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi
๒๗๖. อฎฺฐารสวตฺถุกถา • 276. Aṭṭhārasavatthukathā
๒๗๘. สงฺฆสามคฺคีกถา • 278. Saṅghasāmaggīkathā
๒๗๙. อุปาลิสงฺฆสามคฺคีปุจฺฉา • 279. Upālisaṅghasāmaggīpucchā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อุปาลิสงฺฆสามคฺคีปุจฺฉาวณฺณนา • Upālisaṅghasāmaggīpucchāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / สงฺฆสามคฺคีกถาวณฺณนา • Saṅghasāmaggīkathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อฎฺฐารสวตฺถุกถาวณฺณนา • Aṭṭhārasavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๗๖. อฎฺฐารสวตฺถุกถา • 276. Aṭṭhārasavatthukathā