Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi

    ๒๗๖. อฎฺฐารสวตฺถุกถา

    276. Aṭṭhārasavatthukathā

    ๔๖๘. อถ โข โกสมฺพกา ภิกฺขู เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สาวตฺถิ เตนุปสงฺกมิํสุฯ อโสฺสสิ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต – ‘‘เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภเนฺต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติฯ กถาหํ, ภเนฺต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฎิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, ยถา ธโมฺม ตถา ติฎฺฐาหี’’ติฯ ‘‘กถาหํ, ภเนฺต, ชาเนยฺยํ ธมฺมํ วา อธมฺมํ วา’’ติ?

    468. Atha kho kosambakā bhikkhū senāsanaṃ saṃsāmetvā pattacīvaramādāya yena sāvatthi tenupasaṅkamiṃsu. Assosi kho āyasmā sāriputto – ‘‘te kira kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ āgacchantī’’ti. Atha kho āyasmā sāriputto yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā sāriputto bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘te kira, bhante, kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ āgacchanti. Kathāhaṃ, bhante, tesu bhikkhūsu paṭipajjāmī’’ti? ‘‘Tena hi tvaṃ, sāriputta, yathā dhammo tathā tiṭṭhāhī’’ti. ‘‘Kathāhaṃ, bhante, jāneyyaṃ dhammaṃ vā adhammaṃ vā’’ti?

    อฎฺฐารสหิ โข, สาริปุตฺต, วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตโพฺพฯ อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ; อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฎฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฎฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ – อิเมหิ โข, สาริปุตฺต, อฎฺฐารสหิ วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตโพฺพฯ

    Aṭṭhārasahi kho, sāriputta, vatthūhi adhammavādī jānitabbo. Idha, sāriputta, bhikkhu adhammaṃ dhammoti dīpeti, dhammaṃ adhammoti dīpeti; avinayaṃ vinayoti dīpeti, vinayaṃ avinayoti dīpeti; abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatena bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatenāti dīpeti, bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatena abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatenāti dīpeti; anāciṇṇaṃ tathāgatena āciṇṇaṃ tathāgatenāti dīpeti, āciṇṇaṃ tathāgatena anāciṇṇaṃ tathāgatenāti dīpeti; apaññattaṃ tathāgatena paññattaṃ tathāgatenāti dīpeti, paññattaṃ tathāgatena apaññattaṃ tathāgatenāti dīpeti; anāpattiṃ āpattīti dīpeti, āpattiṃ anāpattīti dīpeti; lahukaṃ āpattiṃ garukā āpattīti dīpeti, garukaṃ āpattiṃ lahukā āpattīti dīpeti; sāvasesaṃ āpattiṃ anavasesā āpattīti dīpeti, anavasesaṃ āpattiṃ sāvasesā āpattīti dīpeti; duṭṭhullaṃ āpattiṃ aduṭṭhullā āpattīti dīpeti, aduṭṭhullaṃ āpattiṃ duṭṭhullā āpattīti dīpeti – imehi kho, sāriputta, aṭṭhārasahi vatthūhi adhammavādī jānitabbo.

    อฎฺฐารสหิ จ โข, สาริปุตฺต, วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตโพฺพฯ อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ; อวินยํ อวินโยติ ทีเปติ, วินยํ วินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ ; อนาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฎฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฎฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ – อิเมหิ โข, สาริปุตฺต, อฎฺฐารสหิ วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตโพฺพติฯ

    Aṭṭhārasahi ca kho, sāriputta, vatthūhi dhammavādī jānitabbo. Idha, sāriputta, bhikkhu adhammaṃ adhammoti dīpeti, dhammaṃ dhammoti dīpeti; avinayaṃ avinayoti dīpeti, vinayaṃ vinayoti dīpeti; abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatena abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatenāti dīpeti, bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatena bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatenāti dīpeti; anāciṇṇaṃ tathāgatena anāciṇṇaṃ tathāgatenāti dīpeti, āciṇṇaṃ tathāgatena āciṇṇaṃ tathāgatenāti dīpeti; apaññattaṃ tathāgatena apaññattaṃ tathāgatenāti dīpeti, paññattaṃ tathāgatena paññattaṃ tathāgatenāti dīpeti ; anāpattiṃ anāpattīti dīpeti, āpattiṃ āpattīti dīpeti; lahukaṃ āpattiṃ lahukā āpattīti dīpeti, garukaṃ āpattiṃ garukā āpattīti dīpeti; sāvasesaṃ āpattiṃ sāvasesā āpattīti dīpeti, anavasesaṃ āpattiṃ anavasesā āpattīti dīpeti; duṭṭhullaṃ āpattiṃ duṭṭhullā āpattīti dīpeti, aduṭṭhullaṃ āpattiṃ aduṭṭhullā āpattīti dīpeti – imehi kho, sāriputta, aṭṭhārasahi vatthūhi dhammavādī jānitabboti.

    ๔๖๙. อโสฺสสิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน…เป.… อโสฺสสิ โข อายสฺมา มหากสฺสโป… อโสฺสสิ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน… อโสฺสสิ โข อายสฺมา มหาโกฎฺฐิโก … อโสฺสสิ โข อายสฺมา มหากปฺปิโน… อโสฺสสิ โข อายสฺมา มหาจุโนฺท… อโสฺสสิ โข อายสฺมา อนุรุโทฺธ… อโสฺสสิ โข อายสฺมา เรวโต … อโสฺสสิ โข อายสฺมา อุปาลิ… อโสฺสสิ โข อายสฺมา อานโนฺท… อโสฺสสิ โข อายสฺมา ราหุโล – ‘‘เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา ราหุโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา ราหุโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภเนฺต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติฯ กถาหํ, ภเนฺต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฎิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, ราหุล, ยถา ธโมฺม ตถา ติฎฺฐาหี’’ติฯ ‘‘กถาหํ, ภเนฺต, ชาเนยฺยํ ธมฺมํ วา อธมฺมํ วา’’ติ?

    469. Assosi kho āyasmā mahāmoggallāno…pe… assosi kho āyasmā mahākassapo… assosi kho āyasmā mahākaccāno… assosi kho āyasmā mahākoṭṭhiko … assosi kho āyasmā mahākappino… assosi kho āyasmā mahācundo… assosi kho āyasmā anuruddho… assosi kho āyasmā revato … assosi kho āyasmā upāli… assosi kho āyasmā ānando… assosi kho āyasmā rāhulo – ‘‘te kira kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ āgacchantī’’ti. Atha kho āyasmā rāhulo yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā rāhulo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘te kira, bhante, kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ āgacchanti. Kathāhaṃ, bhante, tesu bhikkhūsu paṭipajjāmī’’ti? ‘‘Tena hi tvaṃ, rāhula, yathā dhammo tathā tiṭṭhāhī’’ti. ‘‘Kathāhaṃ, bhante, jāneyyaṃ dhammaṃ vā adhammaṃ vā’’ti?

    อฎฺฐารสหิ โข, ราหุล, วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตโพฺพฯ อิธ, ราหุล, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ; อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฎฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฎฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ – อิเมหิ โข, ราหุล, อฎฺฐารสหิ วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตโพฺพฯ

    Aṭṭhārasahi kho, rāhula, vatthūhi adhammavādī jānitabbo. Idha, rāhula, bhikkhu adhammaṃ dhammoti dīpeti, dhammaṃ adhammoti dīpeti; avinayaṃ vinayoti dīpeti, vinayaṃ avinayoti dīpeti; abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatena bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatenāti dīpeti, bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatena abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatenāti dīpeti; anāciṇṇaṃ tathāgatena āciṇṇaṃ tathāgatenāti dīpeti, āciṇṇaṃ tathāgatena anāciṇṇaṃ tathāgatenāti dīpeti; apaññattaṃ tathāgatena paññattaṃ tathāgatenāti dīpeti, paññattaṃ tathāgatena apaññattaṃ tathāgatenāti dīpeti; anāpattiṃ āpattīti dīpeti, āpattiṃ anāpattīti dīpeti; lahukaṃ āpattiṃ garukā āpattīti dīpeti, garukaṃ āpattiṃ lahukā āpattīti dīpeti; sāvasesaṃ āpattiṃ anavasesā āpattīti dīpeti, anavasesaṃ āpattiṃ sāvasesā āpattīti dīpeti; duṭṭhullaṃ āpattiṃ aduṭṭhullā āpattīti dīpeti, aduṭṭhullaṃ āpattiṃ duṭṭhullā āpattīti dīpeti – imehi kho, rāhula, aṭṭhārasahi vatthūhi adhammavādī jānitabbo.

    อฎฺฐารสหิ จ โข, ราหุล, วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตโพฺพฯ อิธ, ราหุล, ภิกฺขุ อธมฺมํ อธโมฺมติ ทีเปติ, ธมฺมํ ธโมฺมติ ทีเปติ; อวินยํ อวินโยติ ทีเปติ, วินยํ วินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฎฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฎฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ – อิเมหิ โข, ราหุล, อฎฺฐารสหิ วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตโพฺพติฯ

    Aṭṭhārasahi ca kho, rāhula, vatthūhi dhammavādī jānitabbo. Idha, rāhula, bhikkhu adhammaṃ adhammoti dīpeti, dhammaṃ dhammoti dīpeti; avinayaṃ avinayoti dīpeti, vinayaṃ vinayoti dīpeti; abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatena abhāsitaṃ alapitaṃ tathāgatenāti dīpeti, bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatena bhāsitaṃ lapitaṃ tathāgatenāti dīpeti; anāciṇṇaṃ tathāgatena anāciṇṇaṃ tathāgatenāti dīpeti, āciṇṇaṃ tathāgatena āciṇṇaṃ tathāgatenāti dīpeti; apaññattaṃ tathāgatena apaññattaṃ tathāgatenāti dīpeti, paññattaṃ tathāgatena paññattaṃ tathāgatenāti dīpeti; anāpattiṃ anāpattīti dīpeti, āpattiṃ āpattīti dīpeti; lahukaṃ āpattiṃ lahukā āpattīti dīpeti, garukaṃ āpattiṃ garukā āpattīti dīpeti; sāvasesaṃ āpattiṃ sāvasesā āpattīti dīpeti, anavasesaṃ āpattiṃ anavasesā āpattīti dīpeti; duṭṭhullaṃ āpattiṃ duṭṭhullā āpattīti dīpeti, aduṭṭhullaṃ āpattiṃ aduṭṭhullā āpattīti dīpeti – imehi kho, rāhula, aṭṭhārasahi vatthūhi dhammavādī jānitabboti.

    ๔๗๐. อโสฺสสิ โข มหาปชาปติ 1 โคตมี – ‘‘เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี’’ติฯ อถ โข มหาปชาปติ โคตมี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข มหาปชาปติ โคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภเนฺต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติฯ กถาหํ, ภเนฺต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฎิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, โคตมิ, อุภยตฺถ ธมฺมํ สุณฯ อุภยตฺถ ธมฺมํ สุตฺวา เย ตตฺถ ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน เตสํ ทิฎฺฐิญฺจ ขนฺติญฺจ รุจิญฺจ อาทายญฺจ โรเจหิฯ ยญฺจ กิญฺจิ ภิกฺขุนิสเงฺฆน ภิกฺขุสงฺฆโต ปจฺจาสีสิตพฺพํ สพฺพํ ตํ ธมฺมวาทิโตว ปจฺจาสีสิตพฺพ’’นฺติฯ

    470. Assosi kho mahāpajāpati 2 gotamī – ‘‘te kira kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ āgacchantī’’ti. Atha kho mahāpajāpati gotamī yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhitā kho mahāpajāpati gotamī bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘te kira, bhante, kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ āgacchanti. Kathāhaṃ, bhante, tesu bhikkhūsu paṭipajjāmī’’ti? ‘‘Tena hi tvaṃ, gotami, ubhayattha dhammaṃ suṇa. Ubhayattha dhammaṃ sutvā ye tattha bhikkhū dhammavādino tesaṃ diṭṭhiñca khantiñca ruciñca ādāyañca rocehi. Yañca kiñci bhikkhunisaṅghena bhikkhusaṅghato paccāsīsitabbaṃ sabbaṃ taṃ dhammavāditova paccāsīsitabba’’nti.

    ๔๗๑. อโสฺสสิ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ – ‘‘เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี’’ติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภเนฺต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติฯ กถาหํ, ภเนฺต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฎิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, คหปติ, อุภยตฺถ ทานํ เทหิฯ อุภยตฺถ ทานํ ทตฺวา อุภยตฺถ ธมฺมํ สุณฯ อุภยตฺถ ธมฺมํ สุตฺวา เย ตตฺถ ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน เตสํ ทิฎฺฐิญฺจ ขนฺติญฺจ รุจิญฺจ อาทายญฺจ โรเจหี’’ติฯ

    471. Assosi kho anāthapiṇḍiko gahapati – ‘‘te kira kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ āgacchantī’’ti. Atha kho anāthapiṇḍiko gahapati yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho anāthapiṇḍiko gahapati bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘te kira, bhante, kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ āgacchanti. Kathāhaṃ, bhante, tesu bhikkhūsu paṭipajjāmī’’ti? ‘‘Tena hi tvaṃ, gahapati, ubhayattha dānaṃ dehi. Ubhayattha dānaṃ datvā ubhayattha dhammaṃ suṇa. Ubhayattha dhammaṃ sutvā ye tattha bhikkhū dhammavādino tesaṃ diṭṭhiñca khantiñca ruciñca ādāyañca rocehī’’ti.

    ๔๗๒. อโสฺสสิ โข วิสาขา มิคารมาตา – ‘‘เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี’’ติ ฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข วิสาขา มิคารมาตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภเนฺต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติฯ กถาหํ, ภเนฺต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฎิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, วิสาเข, อุภยตฺถ ทานํ เทหิฯ อุภยตฺถ ทานํ ทตฺวา อุภยตฺถ ธมฺมํ สุณฯ อุภยตฺถ ธมฺมํ สุตฺวา เย ตตฺถ ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน เตสํ ทิฎฺฐิญฺจ ขนฺติญฺจ รุจิญฺจ อาทายญฺจ โรเจหี’’ติฯ

    472. Assosi kho visākhā migāramātā – ‘‘te kira kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ āgacchantī’’ti . Atha kho visākhā migāramātā yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnā kho visākhā migāramātā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘te kira, bhante, kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ āgacchanti. Kathāhaṃ, bhante, tesu bhikkhūsu paṭipajjāmī’’ti? ‘‘Tena hi tvaṃ, visākhe, ubhayattha dānaṃ dehi. Ubhayattha dānaṃ datvā ubhayattha dhammaṃ suṇa. Ubhayattha dhammaṃ sutvā ye tattha bhikkhū dhammavādino tesaṃ diṭṭhiñca khantiñca ruciñca ādāyañca rocehī’’ti.

    ๔๗๓. อถ โข โกสมฺพกา ภิกฺขู อนุปุเพฺพน เยน สาวตฺถิ ตทวสรุํฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภเนฺต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สเงฺฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อนุปฺปตฺตาฯ กถํ นุ โข, ภเนฺต, เตสุ ภิกฺขูสุ เสนาสเน 3 ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘เตน หิ, สาริปุตฺต, วิวิตฺตํ เสนาสนํ ทาตพฺพ’’นฺติฯ ‘‘สเจ ปน, ภเนฺต, วิวิตฺตํ น โหติ, กถํ ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘เตน หิ, สาริปุตฺต, วิวิตฺตํ กตฺวาปิ ทาตพฺพํ, น เตฺววาหํ, สาริปุตฺต, เกนจิ ปริยาเยน วุฑฺฒตรสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนํ ปฎิพาหิตพฺพนฺติ วทามิฯ โย ปฎิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    473. Atha kho kosambakā bhikkhū anupubbena yena sāvatthi tadavasaruṃ. Atha kho āyasmā sāriputto yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā sāriputto bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘te kira, bhante, kosambakā bhikkhū bhaṇḍanakārakā kalahakārakā vivādakārakā bhassakārakā saṅghe adhikaraṇakārakā sāvatthiṃ anuppattā. Kathaṃ nu kho, bhante, tesu bhikkhūsu senāsane 4 paṭipajjitabba’’nti? ‘‘Tena hi, sāriputta, vivittaṃ senāsanaṃ dātabba’’nti. ‘‘Sace pana, bhante, vivittaṃ na hoti, kathaṃ paṭipajjitabba’’nti? ‘‘Tena hi, sāriputta, vivittaṃ katvāpi dātabbaṃ, na tvevāhaṃ, sāriputta, kenaci pariyāyena vuḍḍhatarassa bhikkhuno senāsanaṃ paṭibāhitabbanti vadāmi. Yo paṭibāheyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ‘‘อามิเส ปน, ภเนฺต, กถํ ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อามิสํ โข, สาริปุตฺต, สเพฺพสํ สมกํ ภาเชตพฺพ’’นฺติฯ

    ‘‘Āmise pana, bhante, kathaṃ paṭipajjitabba’’nti? ‘‘Āmisaṃ kho, sāriputta, sabbesaṃ samakaṃ bhājetabba’’nti.

    อฎฺฐารสวตฺถุกถา นิฎฺฐิตาฯ

    Aṭṭhārasavatthukathā niṭṭhitā.







    Footnotes:
    1. มหาปชาปตี (สี. สฺยา.)
    2. mahāpajāpatī (sī. syā.)
    3. เสนาสเนสุ (ก.), เสนาสนํ (สฺยา.)
    4. senāsanesu (ka.), senāsanaṃ (syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / อฎฺฐารสวตฺถุกถา • Aṭṭhārasavatthukathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อฎฺฐารสวตฺถุกถาวณฺณนา • Aṭṭhārasavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อฎฺฐารสวตฺถุกถาวณฺณนา • Aṭṭhārasavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อฎฺฐารสวตฺถุกถาวณฺณนา • Aṭṭhārasavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๗๖. อฎฺฐารสวตฺถุกถา • 276. Aṭṭhārasavatthukathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact