Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā

    อตฺถวสปกรณวณฺณนา

    Atthavasapakaraṇavaṇṇanā

    ๓๓๔. ทส อตฺถวเส ปฎิจฺจาติ เอตฺถ ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส ปญฺญาปเน คุณวิเสสทีปนโต, อปญฺญาปเน อาทีนวทสฺสนโต จ สงฺฆสุฎฺฐุตา โหติฯ ตตฺถ ยถาสมฺภวํ โลกวชฺชสฺส อปณฺณตฺติสมฺภวสฺส ปญฺญาปเน ปโยควิสุทฺธิ คุโณฯ ปณฺณตฺติสมฺภวสฺส ปน เสขิยสฺส โลกวชฺชสฺส ปญฺญาปเน ปฎิปตฺติวิสุทฺธิ คุโณ, ปณฺณตฺติวชฺชสฺส อาสยวิสุทฺธิ คุโณ อปฺปิจฺฉาทิคุณาวหนโต, เตเนวาห ‘‘สุภรตาย สุโปสตาย อปฺปิจฺฉตาย อปฺปิจฺฉสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวา’’ติฯ สมณาจารวิสุทฺธิ จสฺส คุโณติ เวทิตพฺพํฯ อถ วา โลกวชฺชสฺส ปญฺญาปเน สงฺฆสุฎฺฐุตา โหติ ปากฎาทีนวโต, ปณฺณตฺติวชฺชสฺส ปญฺญาปเน สงฺฆผาสุตา โหติ ปากฎานิสํสตฺตาฯ ตถา ปฐเมน ทุมฺมงฺกูนํ นิคฺคโห, ทุติเยน เปสลานํ ผาสุวิหาโร, ปฐเมน สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฎิฆาโต, ทุติเยน ทิฎฺฐธมฺมิกานํ, ตถา ปฐเมน อปฺปสนฺนานํ ปสาโท, ทุติเยน ปสนฺนานํ ภิโยฺยภาโว, ตถา ปฐเมน สทฺธมฺมฎฺฐิติ, ทุติเยน วินยานุคฺคโห โหตีติ เวทิตโพฺพฯ ปริวารนเยน วา ปฐเมน ปาปิจฺฉานํ ภิกฺขูนํ ปกฺขุปเจฺฉโท, ทุติเยน คิหีนํ อนุกมฺปา โหติฯ วุตฺตเญฺหตํ ‘‘เทฺว อตฺถวเส ปฎิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ คิหีนํ อนุกมฺปาย ปาปิจฺฉานํ ปกฺขุปเจฺฉทายา’’ติ (ปริ. ๔๙๘)ฯ ตถา ทิฎฺฐธมฺมิกสมฺปรายิกานํ เวรานํ วชฺชานํ อกุสลานํ วเสนปิ โยชนา กาตพฺพาฯ วุตฺตเญฺหตํ ‘‘เทฺว อตฺถวเส…เป.… ปญฺญตฺตํ ทิฎฺฐธมฺมิกานํ เวรานํ สมฺปรายิกานํ เวรานํ ปฎิฆาตายา’’ติอาทิ (ปริ. ๔๙๘)ฯ อปิเจตฺถ สพฺพมฺปิ อกตวิญฺญตฺติปฎิสํยุตฺตํ, คิหีนํ ปีฬาปฎิสํยุตฺตํ, เตสํ ปสาทโภคกฺขยรกฺขาปฎิสํยุตฺตญฺจ คิหีนํ อนุกมฺปาย ปญฺญตฺตํ นาม, กุลทูสกคณโภชนานิ ปาปิจฺฉานํ ปกฺขุปเจฺฉทาย ปญฺญตฺตํฯ สพฺพํ โลกวชฺชํ ทิฎฺฐธมฺมิกสมฺปรายิกเวราทิปฎิฆาตาย , มาตุคาเมน สํวิธานํ ทิฎฺฐธมฺมิกเวราทิสํวราย ปญฺญตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ อปิเจตฺถ อาทิโต ปฎฺฐาย ทสอตฺถวสปกรณเมว นิสฺสาย วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพฯ

    334.Dasa atthavase paṭiccāti ettha tassa tassa sikkhāpadassa paññāpane guṇavisesadīpanato, apaññāpane ādīnavadassanato ca saṅghasuṭṭhutā hoti. Tattha yathāsambhavaṃ lokavajjassa apaṇṇattisambhavassa paññāpane payogavisuddhi guṇo. Paṇṇattisambhavassa pana sekhiyassa lokavajjassa paññāpane paṭipattivisuddhi guṇo, paṇṇattivajjassa āsayavisuddhi guṇo appicchādiguṇāvahanato, tenevāha ‘‘subharatāya suposatāya appicchatāya appicchassa vaṇṇaṃ bhāsitvā’’ti. Samaṇācāravisuddhi cassa guṇoti veditabbaṃ. Atha vā lokavajjassa paññāpane saṅghasuṭṭhutā hoti pākaṭādīnavato, paṇṇattivajjassa paññāpane saṅghaphāsutā hoti pākaṭānisaṃsattā. Tathā paṭhamena dummaṅkūnaṃ niggaho, dutiyena pesalānaṃ phāsuvihāro, paṭhamena samparāyikānaṃ āsavānaṃ paṭighāto, dutiyena diṭṭhadhammikānaṃ, tathā paṭhamena appasannānaṃ pasādo, dutiyena pasannānaṃ bhiyyobhāvo, tathā paṭhamena saddhammaṭṭhiti, dutiyena vinayānuggaho hotīti veditabbo. Parivāranayena vā paṭhamena pāpicchānaṃ bhikkhūnaṃ pakkhupacchedo, dutiyena gihīnaṃ anukampā hoti. Vuttañhetaṃ ‘‘dve atthavase paṭicca tathāgatena sāvakānaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ gihīnaṃ anukampāya pāpicchānaṃ pakkhupacchedāyā’’ti (pari. 498). Tathā diṭṭhadhammikasamparāyikānaṃ verānaṃ vajjānaṃ akusalānaṃ vasenapi yojanā kātabbā. Vuttañhetaṃ ‘‘dve atthavase…pe… paññattaṃ diṭṭhadhammikānaṃ verānaṃ samparāyikānaṃ verānaṃ paṭighātāyā’’tiādi (pari. 498). Apicettha sabbampi akataviññattipaṭisaṃyuttaṃ, gihīnaṃ pīḷāpaṭisaṃyuttaṃ, tesaṃ pasādabhogakkhayarakkhāpaṭisaṃyuttañca gihīnaṃ anukampāya paññattaṃ nāma, kuladūsakagaṇabhojanāni pāpicchānaṃ pakkhupacchedāya paññattaṃ. Sabbaṃ lokavajjaṃ diṭṭhadhammikasamparāyikaverādipaṭighātāya , mātugāmena saṃvidhānaṃ diṭṭhadhammikaverādisaṃvarāya paññattanti veditabbaṃ. Apicettha ādito paṭṭhāya dasaatthavasapakaraṇameva nissāya vinicchayo veditabbo.

    วตฺถุวีติกฺกเมน ยํ, เอกนฺตากุสลํ ภเว;

    Vatthuvītikkamena yaṃ, ekantākusalaṃ bhave;

    ตํ สงฺฆสุฎฺฐุภาวาย, ปญฺญตฺตํ โลกวชฺชโตฯ

    Taṃ saṅghasuṭṭhubhāvāya, paññattaṃ lokavajjato.

    ปาราชิกาทิํ,

    Pārājikādiṃ,

    ปญฺญตฺติชานเนเนว, ยตฺถาปตฺติ น อญฺญถา;

    Paññattijānaneneva, yatthāpatti na aññathā;

    ตํ ธมฺมฎฺฐิติยา วาปิ, ปสาทุปฺปาทพุทฺธิยาฯ

    Taṃ dhammaṭṭhitiyā vāpi, pasāduppādabuddhiyā.

    ธมฺมเทสนาปฎิสํยุตฺตํ อิตรญฺจ เสขิยํ, อิทํ ปณฺณตฺติสมฺภวํ โลกวชฺชํ นามฯ วตฺถุโน, ปญฺญตฺติยา วา วีติกฺกมเจตนายาภาเวปิ ปฎิกฺขิตฺตสฺส กรเณ, กตฺตพฺพสฺส อกรเณ วา สติ ยตฺถ อาปตฺติ ปโหติ, ตํ สพฺพํ ฐเปตฺวา สุราปานํ ปณฺณตฺติวชฺชนฺติ เวทิตพฺพํฯ ตตฺถ อุโกฺกฎนเก ปาจิตฺติยํ, ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ธมฺมิกานํ กมฺมานํ ฉนฺทํ ทตฺวา ปจฺฉา ขียนธมฺมํ อาปเชฺชยฺย, ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๔๗๕), โย ปน ภิกฺขุ สเงฺฆ วินิจฺฉยกถาย วตฺตมานาย ฉนฺทํ อทตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกเมยฺย, ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๔๘๐), โย ปน ภิกฺขุ สมเคฺคน สเงฺฆน จีวรํ ทตฺวา ปจฺฉา ขียนธมฺมํ อาปเชฺชยฺย…เป.… ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๔๘๕) เอวมาทิ สงฺฆผาสุตาย ปญฺญตฺตํฯ ‘‘อญฺญวาทเก วิเหสเก ปาจิตฺติยํ (ปาจิ. ๑๐๑), ปาราชิกาทีหิ อนุทฺธํสเน สงฺฆาทิเสสาทิ จ ทุมฺมงฺกูนํ นิคฺคหาย, อนุปขชฺชนิกฺกฑฺฒนอุปสฺสูติสิกฺขาปทาทิ เปสลานํ ผาสุวิหาราย, สพฺพํ โลกวชฺชํ ทิฎฺฐธมฺมิกสมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฎิฆาตาย, สพฺพํ ปณฺณตฺติวชฺชํ ทิฎฺฐธมฺมิกานเมว สํวรายฯ สพฺพํ คิหิปฎิสํยุตฺตํ อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย ปสนฺนานํ วา ภิโยฺยภาวาย จฯ วิเสเสน อริฎฺฐสมณุเทฺทสสิกฺขาปทํ, สามเญฺญน ปจฺจเยสุ มริยาทปฎิสํยุตฺตญฺจ สทฺธมฺมฎฺฐิติยา, ‘‘อปฺปิจฺฉสฺสายํ ธโมฺม, นายํ ธโมฺม มหิจฺฉสฺสา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๘; อ. นิ. ๘.๓๐) อาทิสุตฺตเมตฺถ สาธกํฯ ‘‘สิกฺขาปทวิวณฺณเก (ปาจิ. ๔๓๙) โมหนเก ปาจิตฺติย’’นฺติอาทิ (ปาจิ. ๔๔๔) วินยานุคฺคหาย ปญฺญตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ‘‘ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปาจิ. ๙๐) อิทํ กิมตฺถนฺติ เจ? อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ปสนฺนานํ ภิโยฺยภาวาย จฯ กถํ?

    Dhammadesanāpaṭisaṃyuttaṃ itarañca sekhiyaṃ, idaṃ paṇṇattisambhavaṃ lokavajjaṃ nāma. Vatthuno, paññattiyā vā vītikkamacetanāyābhāvepi paṭikkhittassa karaṇe, kattabbassa akaraṇe vā sati yattha āpatti pahoti, taṃ sabbaṃ ṭhapetvā surāpānaṃ paṇṇattivajjanti veditabbaṃ. Tattha ukkoṭanake pācittiyaṃ, ‘‘yo pana bhikkhu dhammikānaṃ kammānaṃ chandaṃ datvā pacchā khīyanadhammaṃ āpajjeyya, pācittiyaṃ (pāci. 475), yo pana bhikkhu saṅghe vinicchayakathāya vattamānāya chandaṃ adatvā uṭṭhāyāsanā pakkameyya, pācittiyaṃ (pāci. 480), yo pana bhikkhu samaggena saṅghena cīvaraṃ datvā pacchā khīyanadhammaṃ āpajjeyya…pe… pācittiya’’nti (pāci. 485) evamādi saṅghaphāsutāya paññattaṃ. ‘‘Aññavādake vihesake pācittiyaṃ (pāci. 101), pārājikādīhi anuddhaṃsane saṅghādisesādi ca dummaṅkūnaṃ niggahāya, anupakhajjanikkaḍḍhanaupassūtisikkhāpadādi pesalānaṃ phāsuvihārāya, sabbaṃ lokavajjaṃ diṭṭhadhammikasamparāyikānaṃ āsavānaṃ paṭighātāya, sabbaṃ paṇṇattivajjaṃ diṭṭhadhammikānameva saṃvarāya. Sabbaṃ gihipaṭisaṃyuttaṃ appasannānaṃ vā pasādāya pasannānaṃ vā bhiyyobhāvāya ca. Visesena ariṭṭhasamaṇuddesasikkhāpadaṃ, sāmaññena paccayesu mariyādapaṭisaṃyuttañca saddhammaṭṭhitiyā, ‘‘appicchassāyaṃ dhammo, nāyaṃ dhammo mahicchassā’’ti (dī. ni. 3.358; a. ni. 8.30) ādisuttamettha sādhakaṃ. ‘‘Sikkhāpadavivaṇṇake (pāci. 439) mohanake pācittiya’’ntiādi (pāci. 444) vinayānuggahāya paññattanti veditabbaṃ. ‘‘Bhūtagāmapātabyatāya pācittiya’’nti (pāci. 90) idaṃ kimatthanti ce? Appasannānaṃ pasādāya, pasannānaṃ bhiyyobhāvāya ca. Kathaṃ?

    ‘‘ภูตคาโม สชีโวติ, อวิปลฺลตฺตทิฎฺฐิโน;

    ‘‘Bhūtagāmo sajīvoti, avipallattadiṭṭhino;

    ตสฺส โกปนสญฺญาย, ปสาโท พุทฺธสาวเกฯ

    Tassa kopanasaññāya, pasādo buddhasāvake.

    ‘‘นิชฺชีวสญฺญิตํเปตํ, อโกเปโนฺต กถํ มุนิ;

    ‘‘Nijjīvasaññitaṃpetaṃ, akopento kathaṃ muni;

    ชีวํ โกเปยฺย นิโทฺทโส, มจฺฉมํสานุชานเนฯ

    Jīvaṃ kopeyya niddoso, macchamaṃsānujānane.

    เอวมฺปิ –

    Evampi –

    ‘‘ตสฺส โกปนสญฺญาย, ปสาโท พุทฺธสาวเก;

    ‘‘Tassa kopanasaññāya, pasādo buddhasāvake;

    ยโต ติตฺถกราวิเม, วิรตา ภูตคามโต;

    Yato titthakarāvime, viratā bhūtagāmato;

    โลกสฺส จิตฺตรกฺขตฺถํ, ตโตปิ วิรโต มุนี’’ติฯ –

    Lokassa cittarakkhatthaṃ, tatopi virato munī’’ti. –

    ปสนฺนานํ ภิโยฺยภาโว โหติฯ

    Pasannānaṃ bhiyyobhāvo hoti.

    วิวิตฺตเสนาสนโภคตณฺหาวเสนนิชฺชีวมิตารกฺขํ;

    Vivittasenāsanabhogataṇhāvasenanijjīvamitārakkhaṃ;

    พุโทฺธภินินฺนญฺจ วิวชฺชยโนฺต;

    Buddhobhininnañca vivajjayanto;

    สิกฺขาปทํ ตตฺถ จ ปญฺญเปสิฯ

    Sikkhāpadaṃ tattha ca paññapesi.

    นิชฺชีวสฺสาปิ มํสสฺส, ขาทนกํ ยติํ ปติ;

    Nijjīvassāpi maṃsassa, khādanakaṃ yatiṃ pati;

    นินฺทมานํ ชนํ ทิสฺวา, ภูตคามํ ปริจฺจชิฯ

    Nindamānaṃ janaṃ disvā, bhūtagāmaṃ pariccaji.

    ติโกฎิปริสุทฺธตฺตา, มจฺฉมํสานุชานเน;

    Tikoṭiparisuddhattā, macchamaṃsānujānane;

    ปฎิจฺจ มํสานุชานนํ, กเมฺม ทิฎฺฐิปฺปสงฺคภยาฯ

    Paṭicca maṃsānujānanaṃ, kamme diṭṭhippasaṅgabhayā.

    อปริกฺขกสฺส โลกสฺส, ปรานุทฺทยตาย จ;

    Aparikkhakassa lokassa, parānuddayatāya ca;

    ภูตคามปาตพฺยตาย, ปาณาติปาตปฺปสงฺคภยาฯ

    Bhūtagāmapātabyatāya, pāṇātipātappasaṅgabhayā.

    ตตฺถ ปริยายวจนํ อนุชานิ ภควา, อุทฺทิสฺส กตํ ปฎิกฺขิปิ ปรสฺส วา ปาปปฺปสงฺคภเยนฯ อิธ ปน ภูตคามปาตพฺยตาย ปาปาภาวญาปนตฺถํ อตฺตุเทฺทสิกํ วิหารํ, กุฎิญฺจ อนุชานีติ เวทิตพฺพํฯ ปกิริยนฺติ เอตฺถ เต เต ปโยชนวิเสสสงฺขาตา อตฺถวสาติ อตฺถวสปกรณนฺติฯ

    Tattha pariyāyavacanaṃ anujāni bhagavā, uddissa kataṃ paṭikkhipi parassa vā pāpappasaṅgabhayena. Idha pana bhūtagāmapātabyatāya pāpābhāvañāpanatthaṃ attuddesikaṃ vihāraṃ, kuṭiñca anujānīti veditabbaṃ. Pakiriyanti ettha te te payojanavisesasaṅkhātā atthavasāti atthavasapakaraṇanti.

    มหาวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Mahāvaggavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / อตฺถวสปกรณํ • Atthavasapakaraṇaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā / อตฺถวสปกรณาวณฺณนา • Atthavasapakaraṇāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / อตฺถวสปกรณวณฺณนา • Atthavasapakaraṇavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / อตฺถวสปกรณวณฺณนา • Atthavasapakaraṇavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact