Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๘. อฎฺฐวตฺถุกาสิกฺขาปทวณฺณนา
8. Aṭṭhavatthukāsikkhāpadavaṇṇanā
โลกสฺสาทมิตฺตสนฺถววเสนาติ (สารตฺถ. ฎี. ปาจิตฺติย ๓.๖๗๕) โลกสฺสาทสงฺขาตสฺส มิตฺตสนฺถวสฺส วเสนฯ กิํ ตนฺติ อาห ‘‘กายสํสคฺคราเคนา’’ติฯ กายสํสคฺคราเคเนว ตินฺตา อิธ อวสฺสุตา นาม, น เมถุนราเคนาติฯ กถเมตํ วิญฺญายตีติ อาห ‘‘อยเมว หี’’ติอาทิฯ กิํ ปเนตฺถ การณนฺติ อาห ‘‘สมนฺตปาสาทิกายํ ปนสฺส วิจารณา กตา’’ติฯ ตตฺถายํ วิจารณา – เอตฺถ จ อสทฺธโมฺมติ กายสํสโคฺคว เวทิตโพฺพ, น เมถุนธโมฺมฯ น หิ เมถุนสฺส สามนฺตา ถุลฺลจฺจยํ โหติฯ ‘‘วิญฺญู ปฎิพโล กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิตุ’’นฺติ (ปาจิ. ๖๗๖) วจนมฺปิ เจตฺถ สาธกนฺติฯ ยํ เยน กตํ, ตํ ตเสฺสว โหตีติฯ ปุริสปุคฺคลสฺสาติ สามิวจนนฺติ ทเสฺสตุํ ‘‘ยํ ปุริสปุคฺคเลนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ หโตฺถติ อตฺตโน หโตฺถฯ น เกวลเญฺจตฺถ หตฺถคฺคหณนฺติ ‘‘หโตฺถ นาม กปฺปรํ อุปาทาย ยาว อคฺคนขา’’ติ (ปาจิ. ๖๗๖) วุตฺตสฺส หตฺถเสฺสว คหณํ, อถ โข ตสฺส จ อญฺญสฺสปิ อปาราชิกเขตฺตสฺส คหณํ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘‘หตฺถคฺคหณ’’นฺติ วุตฺตํฯ ตถา สงฺฆาฎิกณฺณคฺคหณนฺติ น เกวลํ สงฺฆาฎิกณฺณเสฺสว คหณํ, อถ โข ตสฺส จ อญฺญสฺสปิ ยสฺส กสฺสจิ จีวรปฺปเทสสฺส คหณํ วุตฺตนฺติ ทเสฺสตุํ ‘‘เอตฺถ จ ยสฺส กสฺสจี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อิตฺถนฺนามํ ฐานนฺติ เอวํนามกํ ฐานํฯ ‘‘ปฎิปาฎิยา วา อุปฺปฎิปาฎิยา วา ปูเรตฺวา’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํฯ ตสฺมา ปฎิปาฎิยา วา อุปฺปฎิปาฎิยา วา เอกนฺตริกาย วา เยน เตน นเยน ปูเรตฺวาติ อโตฺถฯ
Lokassādamittasanthavavasenāti (sārattha. ṭī. pācittiya 3.675) lokassādasaṅkhātassa mittasanthavassa vasena. Kiṃ tanti āha ‘‘kāyasaṃsaggarāgenā’’ti. Kāyasaṃsaggarāgeneva tintā idha avassutā nāma, na methunarāgenāti. Kathametaṃ viññāyatīti āha ‘‘ayameva hī’’tiādi. Kiṃ panettha kāraṇanti āha ‘‘samantapāsādikāyaṃ panassa vicāraṇā katā’’ti. Tatthāyaṃ vicāraṇā – ettha ca asaddhammoti kāyasaṃsaggova veditabbo, na methunadhammo. Na hi methunassa sāmantā thullaccayaṃ hoti. ‘‘Viññū paṭibalo kāyasaṃsaggaṃ samāpajjitu’’nti (pāci. 676) vacanampi cettha sādhakanti. Yaṃ yena kataṃ, taṃ tasseva hotīti. Purisapuggalassāti sāmivacananti dassetuṃ ‘‘yaṃ purisapuggalenā’’tiādi vuttaṃ. Tattha hatthoti attano hattho. Na kevalañcettha hatthaggahaṇanti ‘‘hattho nāma kapparaṃ upādāya yāva agganakhā’’ti (pāci. 676) vuttassa hatthasseva gahaṇaṃ, atha kho tassa ca aññassapi apārājikakhettassa gahaṇaṃ ekajjhaṃ katvā ‘‘hatthaggahaṇa’’nti vuttaṃ. Tathā saṅghāṭikaṇṇaggahaṇanti na kevalaṃ saṅghāṭikaṇṇasseva gahaṇaṃ, atha kho tassa ca aññassapi yassa kassaci cīvarappadesassa gahaṇaṃ vuttanti dassetuṃ ‘‘ettha ca yassa kassacī’’tiādi vuttaṃ. Itthannāmaṃ ṭhānanti evaṃnāmakaṃ ṭhānaṃ. ‘‘Paṭipāṭiyā vā uppaṭipāṭiyā vā pūretvā’’ti idaṃ nidassanamattaṃ. Tasmā paṭipāṭiyā vā uppaṭipāṭiyā vā ekantarikāya vā yena tena nayena pūretvāti attho.
ตา อาปตฺติโยติ ตา อาปนฺนา อาปตฺติโยฯ ยถา เจเกกสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ เอวํ วิสุํ วิสุํ สตฺตสุ วตฺถูสุ สตกฺขตฺตุมฺปิ วีติกฺกเนฺตสุ ตา อาปตฺติโย เทเสตฺวา มุจฺจติฯ คณนูปิกาติ เทสิตคณนํ อุปคจฺฉติฯ ธุรนิเกฺขปํ กตฺวาติ ‘‘อญฺญํ วตฺถุํ อาปชฺชิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหํ ฐเปตฺวาฯ
Tā āpattiyoti tā āpannā āpattiyo. Yathā cekekasmiṃ vatthusmiṃ evaṃ visuṃ visuṃ sattasu vatthūsu satakkhattumpi vītikkantesu tā āpattiyo desetvā muccati. Gaṇanūpikāti desitagaṇanaṃ upagacchati. Dhuranikkhepaṃ katvāti ‘‘aññaṃ vatthuṃ āpajjissāmī’’ti ussāhaṃ ṭhapetvā.
อฎฺฐวตฺถุกาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Aṭṭhavatthukāsikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
อิติ กงฺขาวิตรณิยา ปาติโมกฺขวณฺณนาย
Iti kaṅkhāvitaraṇiyā pātimokkhavaṇṇanāya
วินยตฺถมญฺชูสายํ ลีนตฺถปฺปกาสนิยํ
Vinayatthamañjūsāyaṃ līnatthappakāsaniyaṃ
ภิกฺขุนิปาติโมเกฺข ปาราชิกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bhikkhunipātimokkhe pārājikavaṇṇanā niṭṭhitā.