Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā

    ๒๑. อตฺถิปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนา

    21. Atthipaccayaniddesavaṇṇanā

    ๒๑. อตฺถิปจฺจยนิเทฺทเส จตฺตาโร ขนฺธาติอาทีหิ สหชาตวเสน อตฺถิปจฺจโย นิทฺทิโฎฺฐฯ จกฺขายตนนฺติอาทีหิ ปุเรชาตวเสนฯ ยํ รูปํ นิสฺสายาติ เอตฺถ สหชาตปุเรชาตวเสน อตฺถิปจฺจโย นิทฺทิโฎฺฐฯ เอวมยํ ปาฬิ สหชาตปุเรชาตานเญฺญว อตฺถิปจฺจยานํ วเสน อาคตาฯ ปญฺหาวาเร ปน สหชาตํ, ปุเรชาตํ, ปจฺฉาชาตํ, อาหารํ, อินฺทฺริยนฺติ อิเมสํ วเสน อาคตตฺตา ปจฺฉาชาตอาหารินฺทฺริยวเสนาปิ อตฺถิปจฺจโย ลพฺภติฯ อิธ ปน สาวเสสวเสน เทสนา กตาติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวณฺณนาฯ

    21. Atthipaccayaniddese cattāro khandhātiādīhi sahajātavasena atthipaccayo niddiṭṭho. Cakkhāyatanantiādīhi purejātavasena. Yaṃ rūpaṃ nissāyāti ettha sahajātapurejātavasena atthipaccayo niddiṭṭho. Evamayaṃ pāḷi sahajātapurejātānaññeva atthipaccayānaṃ vasena āgatā. Pañhāvāre pana sahajātaṃ, purejātaṃ, pacchājātaṃ, āhāraṃ, indriyanti imesaṃ vasena āgatattā pacchājātaāhārindriyavasenāpi atthipaccayo labbhati. Idha pana sāvasesavasena desanā katāti ayaṃ tāvettha pāḷivaṇṇanā.

    อยํ ปน อตฺถิปจฺจโย นาม ทุวิโธ – อญฺญมญฺญโต, น อญฺญมญฺญโตฯ ตตฺถ อญฺญมญฺญํ ติวิธํ – อรูปํ อรูเปน, รูปํ รูเปน, รูปารูปํ รูปารูเปนฯ ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน’’ติ เอตฺถ หิ สพฺพจิตฺตุปฺปตฺติวเสน อรูปํ อรูเปน วุตฺตํฯ ‘‘จตฺตาโร มหาภูตา’’ติ เอตฺถ สพฺพสนฺตติวเสน รูปํ รูเปนฯ ‘‘โอกฺกนฺติกฺขเณ นามรูป’’นฺติ เอตฺถ ปฎิสนฺธิขนฺธานเญฺจว วตฺถุโน จ วเสน รูปารูปํ รูปารูเปน วุตฺตํฯ น อญฺญมญฺญมฺปิ ติวิธํ – ‘‘อรูปํ รูปสฺส, รูปํ รูปสฺส, รูปํ อรูปสฺส จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา’’ติ เอตฺถ หิ ปญฺจโวการวเสน อรูปํ รูปสฺส วุตฺตํฯ ‘‘มหาภูตา อุปาทารูปาน’’นฺติ เอตฺถ สพฺพสนฺตติวเสน รูปํ รูปสฺสฯ ‘‘จกฺขายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา’’ติอาทีสุ วตฺถารมฺมณวเสน รูปํ อรูปสฺส อตฺถิปจฺจโยติ วุตฺตํฯ

    Ayaṃ pana atthipaccayo nāma duvidho – aññamaññato, na aññamaññato. Tattha aññamaññaṃ tividhaṃ – arūpaṃ arūpena, rūpaṃ rūpena, rūpārūpaṃ rūpārūpena. ‘‘Cattāro khandhā arūpino’’ti ettha hi sabbacittuppattivasena arūpaṃ arūpena vuttaṃ. ‘‘Cattāro mahābhūtā’’ti ettha sabbasantativasena rūpaṃ rūpena. ‘‘Okkantikkhaṇe nāmarūpa’’nti ettha paṭisandhikhandhānañceva vatthuno ca vasena rūpārūpaṃ rūpārūpena vuttaṃ. Na aññamaññampi tividhaṃ – ‘‘arūpaṃ rūpassa, rūpaṃ rūpassa, rūpaṃ arūpassa cittacetasikā dhammā’’ti ettha hi pañcavokāravasena arūpaṃ rūpassa vuttaṃ. ‘‘Mahābhūtā upādārūpāna’’nti ettha sabbasantativasena rūpaṃ rūpassa. ‘‘Cakkhāyatanaṃ cakkhuviññāṇadhātuyā’’tiādīsu vatthārammaṇavasena rūpaṃ arūpassa atthipaccayoti vuttaṃ.

    อปิเจส อตฺถิปจฺจโย นาม สเงฺขปโต ขณตฺตยปฺปตฺตํ นามเญฺจว รูปญฺจ, วตฺตมานา ปญฺจกฺขนฺธาติปิ วตฺตุํ วฎฺฎติฯ โส ชาติเภทโต กุสลากุสลวิปากกิริยรูปวเสน ปญฺจธา ภิชฺชติ ฯ ตตฺถ กุสโล สหชาตปจฺฉาชาตวเสน ทุวิโธ โหติ, ตถา อกุสโล วิปากกิริยสงฺขาโต จฯ เตสุ กุสโล กามาวจราทิเภเทน จตุธา ภิชฺชติ, อกุสโล กามาวจโรว วิปาโก จตุภูมโก, กิริยาสงฺขาโต ติภูมโกฯ รูปสงฺขาโต อตฺถิปจฺจโย กามาวจโรวฯ โส ปน สหชาตปุเรชาตวเสน ทุวิโธฯ ตตฺถ ปญฺจ วตฺถูนิ อารมฺมณานิ จ ปุเรชาตาเนว, หทยวตฺถุ สหชาตํ วา โหติ ปุเรชาตํ วาฯ ปญฺหาวาเร ปน อาคโต อาหาโร อินฺทฺริยญฺจ สหชาตาทิเภทํ น ลภตีติ เอวเมตฺถ นานปฺปการเภทโต วิญฺญาตโพฺพ วินิจฺฉโยฯ

    Apicesa atthipaccayo nāma saṅkhepato khaṇattayappattaṃ nāmañceva rūpañca, vattamānā pañcakkhandhātipi vattuṃ vaṭṭati. So jātibhedato kusalākusalavipākakiriyarūpavasena pañcadhā bhijjati . Tattha kusalo sahajātapacchājātavasena duvidho hoti, tathā akusalo vipākakiriyasaṅkhāto ca. Tesu kusalo kāmāvacarādibhedena catudhā bhijjati, akusalo kāmāvacarova vipāko catubhūmako, kiriyāsaṅkhāto tibhūmako. Rūpasaṅkhāto atthipaccayo kāmāvacarova. So pana sahajātapurejātavasena duvidho. Tattha pañca vatthūni ārammaṇāni ca purejātāneva, hadayavatthu sahajātaṃ vā hoti purejātaṃ vā. Pañhāvāre pana āgato āhāro indriyañca sahajātādibhedaṃ na labhatīti evamettha nānappakārabhedato viññātabbo vinicchayo.

    เอวํ ภิเนฺน ปเนตฺถ จตุภูมกกุสโลปิ สหชาโต อตฺถิปจฺจโย ปญฺจโวกาเร ‘‘เอโก ขโนฺธ ติณฺณนฺนํ ขนฺธาน’’นฺติอาทินา นเยน อญฺญมญฺญํ ขนฺธานเญฺจว จิตฺตสมุฎฺฐานรูปสฺส จ ฐเปตฺวา ปน รูปาวจรกุสลํ อวเสโส อารุเปฺป สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานเญฺญว สหชาตกุสโล อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย โหติฯ จตุภูมโก ปเนส ปญฺจโวกาเร จตุสมุฎฺฐานิกติสมุฎฺฐานิกกายสฺส ปจฺฉาชาโต กุสโล อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย โหติฯ อกุสเลปิ เอเสว นโยฯ โสปิ หิ ปญฺจโวกาเร สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานเญฺจว จิตฺตสมุฎฺฐานรูปสฺส จ, จตุโวกาเร สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานเญฺญว สหชาตากุสโล อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยฯ ปญฺจโวกาเร จตุสมุฎฺฐานิกติสมุฎฺฐานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตากุสโล อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยฯ

    Evaṃ bhinne panettha catubhūmakakusalopi sahajāto atthipaccayo pañcavokāre ‘‘eko khandho tiṇṇannaṃ khandhāna’’ntiādinā nayena aññamaññaṃ khandhānañceva cittasamuṭṭhānarūpassa ca ṭhapetvā pana rūpāvacarakusalaṃ avaseso āruppe sampayuttakkhandhānaññeva sahajātakusalo atthipaccayena paccayo hoti. Catubhūmako panesa pañcavokāre catusamuṭṭhānikatisamuṭṭhānikakāyassa pacchājāto kusalo atthipaccayena paccayo hoti. Akusalepi eseva nayo. Sopi hi pañcavokāre sampayuttakkhandhānañceva cittasamuṭṭhānarūpassa ca, catuvokāre sampayuttakkhandhānaññeva sahajātākusalo atthipaccayena paccayo. Pañcavokāre catusamuṭṭhānikatisamuṭṭhānikakāyassa pacchājātākusalo atthipaccayena paccayo.

    วิปากโต ปน กามาวจรรูปาวจโร อตฺถิปจฺจโย นิยเมเนว ปฎิสนฺธิกฺขเณ ขนฺธานเญฺจว กฎตฺตารูปสฺส จ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยฯ ปวเตฺต ปน สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานเญฺจว จิตฺตสมุฎฺฐานรูปสฺส จ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย, ฐิติปฺปตฺตสฺส จตุสมุฎฺฐานิกติสมุฎฺฐานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยฯ อรูปาวจรวิปาโก ปน อารุเปฺป อุปฺปนฺนโลกุตฺตรวิปาโก จ อตฺตนา สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานเญฺญว สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยฯ ปญฺจโวกาเร โลกุตฺตรวิปาโก สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานเญฺจว จิตฺตสมุฎฺฐานรูปสฺส จ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย, จตุสมุฎฺฐานิกติสมุฎฺฐานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยฯ กิริยโต รูปาวจโร อตฺถิปจฺจโย สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานเญฺจว จิตฺตสมุฎฺฐานรูปสฺส จ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย, จตุสมุฎฺฐานิกติสมุฎฺฐานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโยฯ กามาวจรารูปาวจโร ปน อารุเปฺป สมฺปยุตฺตกฺขนฺธานเญฺญว, ปญฺจโวกาเร จิตฺตสมุฎฺฐานรูปสฺสาปิ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย, จตุสมุฎฺฐานิกติสมุฎฺฐานิกกายสฺส ปจฺฉาชาตตฺถิ ปจฺจเยน ปจฺจโยฯ

    Vipākato pana kāmāvacararūpāvacaro atthipaccayo niyameneva paṭisandhikkhaṇe khandhānañceva kaṭattārūpassa ca sahajātatthipaccayena paccayo. Pavatte pana sampayuttakkhandhānañceva cittasamuṭṭhānarūpassa ca sahajātatthipaccayena paccayo, ṭhitippattassa catusamuṭṭhānikatisamuṭṭhānikakāyassa pacchājātatthipaccayena paccayo. Arūpāvacaravipāko pana āruppe uppannalokuttaravipāko ca attanā sampayuttakkhandhānaññeva sahajātatthipaccayena paccayo. Pañcavokāre lokuttaravipāko sampayuttakkhandhānañceva cittasamuṭṭhānarūpassa ca sahajātatthipaccayena paccayo, catusamuṭṭhānikatisamuṭṭhānikakāyassa pacchājātatthipaccayena paccayo. Kiriyato rūpāvacaro atthipaccayo sampayuttakkhandhānañceva cittasamuṭṭhānarūpassa ca sahajātatthipaccayena paccayo, catusamuṭṭhānikatisamuṭṭhānikakāyassa pacchājātatthipaccayena paccayo. Kāmāvacarārūpāvacaro pana āruppe sampayuttakkhandhānaññeva, pañcavokāre cittasamuṭṭhānarūpassāpi sahajātatthipaccayena paccayo, catusamuṭṭhānikatisamuṭṭhānikakāyassa pacchājātatthi paccayena paccayo.

    รูปสงฺขาโต ปน อตฺถิปจฺจโย สหชาโต, ปุเรชาโต, อาหาโร, อินฺทฺริยนฺติ จตุพฺพิโธฯ ตตฺถ สหชาตรูปตฺถิปจฺจโย จตุสมุฎฺฐานวเสน จตุธา ฐิโตฯ ตตฺถ กมฺมสมุฎฺฐาโน เอกํ มหาภูตํ ติณฺณนฺนํ มหาภูตานํ, ตีณิ เอกสฺส, เทฺว ทฺวินฺนํ, มหาภูตา อุปาทารูปานนฺติ เอวํ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย โหติฯ ปฎิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุรูปํ กามาวจรรูปาวจรวิปากกฺขนฺธานํ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย โหติฯ เตสมฺปิ ติสมุฎฺฐานิกรูปํ เอกํ มหาภูตํ ติณฺณนฺนํ มหาภูตานํ, ตีณิ เอกสฺส, เทฺว ทฺวินฺนํ, มหาภูตา อุปาทารูปานนฺติ เอวํ สหชาตตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย โหติฯ ปุเรชาตตฺถิปจฺจโย ปน วตฺถุปุเรชาตอารมฺมณปุเรชาตวเสน ทุวิโธ โหติฯ โส ทุวิโธปิ เหฎฺฐา ปุเรชาตปจฺจเย วุตฺตนเยเนว โยเชตฺวา คเหตโพฺพฯ อาหารตฺถิปจฺจโยปิ เหฎฺฐา กพฬีการาหารปจฺจเย โยชิตนเยเนว โยเชตโพฺพฯ อิธ ปเนส อตฺตโน อนิรุทฺธกฺขเณ ปจฺจยภาเวน อตฺถิปจฺจโยติ วุโตฺตฯ รูปชีวิตินฺทฺริยมฺปิ เหฎฺฐา อินฺทฺริยปจฺจเย รูปชีวิตินฺทฺริยโยชนายํ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํฯ อิธ ปเนตมฺปิ อตฺตโน อนิรุทฺธกฺขเณเยว ปจฺจยภาเวน อตฺถิปจฺจโยติ วุตฺตนฺติ เอวเมตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนโตปิ วิญฺญาตโพฺพ วินิจฺฉโยติฯ

    Rūpasaṅkhāto pana atthipaccayo sahajāto, purejāto, āhāro, indriyanti catubbidho. Tattha sahajātarūpatthipaccayo catusamuṭṭhānavasena catudhā ṭhito. Tattha kammasamuṭṭhāno ekaṃ mahābhūtaṃ tiṇṇannaṃ mahābhūtānaṃ, tīṇi ekassa, dve dvinnaṃ, mahābhūtā upādārūpānanti evaṃ sahajātatthipaccayena paccayo hoti. Paṭisandhikkhaṇe vatthurūpaṃ kāmāvacararūpāvacaravipākakkhandhānaṃ sahajātatthipaccayena paccayo hoti. Tesampi tisamuṭṭhānikarūpaṃ ekaṃ mahābhūtaṃ tiṇṇannaṃ mahābhūtānaṃ, tīṇi ekassa, dve dvinnaṃ, mahābhūtā upādārūpānanti evaṃ sahajātatthipaccayena paccayo hoti. Purejātatthipaccayo pana vatthupurejātaārammaṇapurejātavasena duvidho hoti. So duvidhopi heṭṭhā purejātapaccaye vuttanayeneva yojetvā gahetabbo. Āhāratthipaccayopi heṭṭhā kabaḷīkārāhārapaccaye yojitanayeneva yojetabbo. Idha panesa attano aniruddhakkhaṇe paccayabhāvena atthipaccayoti vutto. Rūpajīvitindriyampi heṭṭhā indriyapaccaye rūpajīvitindriyayojanāyaṃ vuttanayeneva yojetabbaṃ. Idha panetampi attano aniruddhakkhaṇeyeva paccayabhāvena atthipaccayoti vuttanti evamettha paccayuppannatopi viññātabbo vinicchayoti.

    อตฺถิปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนาฯ

    Atthipaccayaniddesavaṇṇanā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ปฎฺฐานปาฬิ • Paṭṭhānapāḷi / (๒) ปจฺจยนิเทฺทโส • (2) Paccayaniddeso


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact