Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๘. ลกฺขณสํยุตฺตํ

    8. Lakkhaṇasaṃyuttaṃ

    ๑. ปฐมวโคฺค

    1. Paṭhamavaggo

    ๑. อฎฺฐิสุตฺตํ

    1. Aṭṭhisuttaṃ

    ๒๐๒. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ ลกฺขโณ อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน 1 คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเต วิหรนฺติฯ อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยนายสฺมา ลกฺขโณ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ลกฺขณํ เอตทโวจ – ‘‘อายามาวุโส 2 ลกฺขณ, ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสิสฺสามา’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา ลกฺขโณ อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน คิชฺฌกูฎา ปพฺพตา โอโรหโนฺต อญฺญตรสฺมิํ ปเทเส สิตํ ปาตฺวากาสิฯ อถ โข อายสฺมา ลกฺขโณ อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, เหตุ โก ปจฺจโย สิตสฺส ปาตุกมฺมายา’’ติ? ‘‘อกาโล โข, อาวุโส ลกฺขณ, เอตสฺส ปญฺหสฺสฯ ภควโต มํ สนฺติเก เอตํ ปญฺหํ ปุจฺฉา’’ติฯ

    202. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena āyasmā ca lakkhaṇo āyasmā ca mahāmoggallāno 3 gijjhakūṭe pabbate viharanti. Atha kho āyasmā mahāmoggallāno pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yenāyasmā lakkhaṇo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ lakkhaṇaṃ etadavoca – ‘‘āyāmāvuso 4 lakkhaṇa, rājagahaṃ piṇḍāya pavisissāmā’’ti. ‘‘Evamāvuso’’ti kho āyasmā lakkhaṇo āyasmato mahāmoggallānassa paccassosi. Atha kho āyasmā mahāmoggallāno gijjhakūṭā pabbatā orohanto aññatarasmiṃ padese sitaṃ pātvākāsi. Atha kho āyasmā lakkhaṇo āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ etadavoca – ‘‘ko nu kho, āvuso moggallāna, hetu ko paccayo sitassa pātukammāyā’’ti? ‘‘Akālo kho, āvuso lakkhaṇa, etassa pañhassa. Bhagavato maṃ santike etaṃ pañhaṃ pucchā’’ti.

    อถ โข อายสฺมา จ ลกฺขโณ อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา ลกฺขโณ อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘อิธายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน คิชฺฌกูฎา ปพฺพตา โอโรหโนฺต อญฺญตรสฺมิํ ปเทเส สิตํ ปาตฺวากาสิฯ โก นุ โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, เหตุ โก ปจฺจโย สิตสฺส ปาตุกมฺมายา’’ติ?

    Atha kho āyasmā ca lakkhaṇo āyasmā ca mahāmoggallāno rājagahe piṇḍāya caritvā pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkantā yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā lakkhaṇo āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ etadavoca – ‘‘idhāyasmā mahāmoggallāno gijjhakūṭā pabbatā orohanto aññatarasmiṃ padese sitaṃ pātvākāsi. Ko nu kho, āvuso moggallāna, hetu ko paccayo sitassa pātukammāyā’’ti?

    ‘‘อิธาหํ, อาวุโส, คิชฺฌกูฎา ปพฺพตา โอโรหโนฺต อทฺทสํ อฎฺฐิกสงฺขลิกํ เวหาสํ คจฺฉนฺติํฯ ตเมนํ คิชฺฌาปิ กากาปิ กุลลาปิ อนุปติตฺวา อนุปติตฺวา ผาสุฬนฺตริกาหิ วิตุเทนฺติ วิตเจฺฉนฺติ วิราเชนฺติ 5ฯ สา สุทํ อฎฺฎสฺสรํ กโรติฯ ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! เอวรูโปปิ นาม สโตฺต ภวิสฺสติ! เอวรูโปปิ นาม ยโกฺข ภวิสฺสติ! เอวรูโปปิ นาม อตฺตภาวปฎิลาโภ ภวิสฺสตี’’’ติ!!

    ‘‘Idhāhaṃ, āvuso, gijjhakūṭā pabbatā orohanto addasaṃ aṭṭhikasaṅkhalikaṃ vehāsaṃ gacchantiṃ. Tamenaṃ gijjhāpi kākāpi kulalāpi anupatitvā anupatitvā phāsuḷantarikāhi vitudenti vitacchenti virājenti 6. Sā sudaṃ aṭṭassaraṃ karoti. Tassa mayhaṃ, āvuso, etadahosi – ‘acchariyaṃ vata, bho, abbhutaṃ vata, bho! Evarūpopi nāma satto bhavissati! Evarūpopi nāma yakkho bhavissati! Evarūpopi nāma attabhāvapaṭilābho bhavissatī’’’ti!!

    อถ โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘จกฺขุภูตา วต, ภิกฺขเว, สาวกา วิหรนฺติ; ญาณภูตา วต, ภิกฺขเว, สาวกา วิหรนฺติ, ยตฺร หิ นาม สาวโก เอวรูปํ ญสฺสติ วา ทกฺขติ วา สกฺขิํ วา กริสฺสติฯ ปุเพฺพว เม โส, ภิกฺขเว, สโตฺต ทิโฎฺฐ อโหสิ, อปิ จาหํ น พฺยากาสิํฯ อหเญฺจตํ 7 พฺยากเรยฺยํ, ปเร จ เม 8 น สทฺทเหยฺยุํฯ เย เม น สทฺทเหยฺยุํ, เตสํ ตํ อสฺส ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายฯ เอโส, ภิกฺขเว, สโตฺต อิมสฺมิํเยว ราชคเห โคฆาตโก อโหสิฯ โส ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน พหูนิ วสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตานิ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจิตฺวา ตเสฺสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน เอวรูปํ อตฺตภาวปฎิลาภํ ปฎิสํเวทยตี’’ติฯ (สเพฺพสํ สุตฺตนฺตานํ เอเสว เปยฺยาโล)ฯ ปฐมํฯ

    Atha kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘cakkhubhūtā vata, bhikkhave, sāvakā viharanti; ñāṇabhūtā vata, bhikkhave, sāvakā viharanti, yatra hi nāma sāvako evarūpaṃ ñassati vā dakkhati vā sakkhiṃ vā karissati. Pubbeva me so, bhikkhave, satto diṭṭho ahosi, api cāhaṃ na byākāsiṃ. Ahañcetaṃ 9 byākareyyaṃ, pare ca me 10 na saddaheyyuṃ. Ye me na saddaheyyuṃ, tesaṃ taṃ assa dīgharattaṃ ahitāya dukkhāya. Eso, bhikkhave, satto imasmiṃyeva rājagahe goghātako ahosi. So tassa kammassa vipākena bahūni vassāni bahūni vassasatāni bahūni vassasahassāni bahūni vassasatasahassāni niraye paccitvā tasseva kammassa vipākāvasesena evarūpaṃ attabhāvapaṭilābhaṃ paṭisaṃvedayatī’’ti. (Sabbesaṃ suttantānaṃ eseva peyyālo). Paṭhamaṃ.







    Footnotes:
    1. มหาโมคฺคลาโน (ก.)
    2. เอหิ อาวุโส (สฺยา. กํ. ก.)
    3. mahāmoggalāno (ka.)
    4. ehi āvuso (syā. kaṃ. ka.)
    5. วิตุเทนฺติ (สี.), วิตเจฺฉนฺติ วิภเชนฺติ (ปี. ก.)
    6. vitudenti (sī.), vitacchenti vibhajenti (pī. ka.)
    7. อหเมเวตํ (สี.)
    8. ปเร เม (สี.)
    9. ahamevetaṃ (sī.)
    10. pare me (sī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. อฎฺฐิสุตฺตวณฺณนา • 1. Aṭṭhisuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. อฎฺฐิสุตฺตวณฺณนา • 1. Aṭṭhisuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact