Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๘. ลกฺขณสํยุตฺตํ

    8. Lakkhaṇasaṃyuttaṃ

    ๑. ปฐมวโคฺค

    1. Paṭhamavaggo

    ๑. อฎฺฐิสุตฺตวณฺณนา

    1. Aṭṭhisuttavaṇṇanā

    ๒๐๒. ลกฺขณสํยุเตฺต ยฺวายํ อายสฺมา จ ลกฺขโณติ ลกฺขณเตฺถโร วุโตฺต, เอส ชฎิลสหสฺสพฺภนฺตเร เอหิภิกฺขูปสมฺปทาย อุปสมฺปโนฺน อาทิตฺตปริยายาวสาเน อรหตฺตํ ปโตฺต เอโก มหาสาวโกติ เวทิตโพฺพฯ ยสฺมา ปเนส ลกฺขณสมฺปเนฺนน สพฺพาการปริปูเรน พฺรหฺมสเมน อตฺตภาเวน สมนฺนาคโต, ตสฺมา ‘‘ลกฺขโณ’’ติ สงฺขํ คโตฯ มหาโมคฺคลฺลาโน ปน ปพฺพชิตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส อรหตฺตํ ปโตฺต ทุติโย อคฺคสาวโกฯ

    202. Lakkhaṇasaṃyutte yvāyaṃ āyasmā ca lakkhaṇoti lakkhaṇatthero vutto, esa jaṭilasahassabbhantare ehibhikkhūpasampadāya upasampanno ādittapariyāyāvasāne arahattaṃ patto eko mahāsāvakoti veditabbo. Yasmā panesa lakkhaṇasampannena sabbākāraparipūrena brahmasamena attabhāvena samannāgato, tasmā ‘‘lakkhaṇo’’ti saṅkhaṃ gato. Mahāmoggallāno pana pabbajitadivasato sattame divase arahattaṃ patto dutiyo aggasāvako.

    สิตํ ปาตฺวากาสีติ มนฺทหสิตํ ปาตุอกาสิ, ปกาสยิ ทเสฺสสีติ วุตฺตํ โหติฯ กิํ ปน ทิสฺวา เถโร สิตํ ปาตฺวากาสีติ? อุปริ ปาฬิยํ อาคตํ อฎฺฐิกสงฺขลิกํ เอกํ เปตโลเก นิพฺพตฺตํ สตฺตํ ทิสฺวาฯ ตญฺจ โข ทิเพฺพน จกฺขุนา, น ปสาทจกฺขุนาฯ ปสาทจกฺขุสฺส หิ เอเต อตฺตภาวา น อาปาถํ อาคจฺฉนฺติฯ เอวรูปํ ปน อตฺตภาวํ ทิสฺวา การุเญฺญ กตฺตเพฺพ กสฺมา สิตํ ปาตฺวากาสีติ? อตฺตโน จ พุทฺธญาณสฺส จ สมฺปตฺติํ สมนุสฺสรณโตฯ ตญฺหิ ทิสฺวา เถโร ‘‘อทิฎฺฐสเจฺจน นาม ปุคฺคเลน ปฎิลภิตพฺพา เอวรูปา อตฺตภาวา มุโตฺต อหํ, ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม’’ติ อตฺตโน จ สมฺปตฺติํ อนุสฺสริตฺวา – ‘‘อโห พุทฺธสฺส ภควโต ญาณสมฺปตฺติ, ‘โย กมฺมวิปาโก, ภิกฺขเว, อจิเนฺตโยฺย น จิเนฺตตโพฺพ’ติ เทเสสิ, ปจฺจกฺขํ วต กตฺวา พุทฺธา เทเสนฺติ, สุปฺปฎิวิทฺธา พุทฺธานํ ธมฺมธาตู’’ติ เอวํ พุทฺธญาณสมฺปตฺติญฺจ อนุสฺสริตฺวา สิตํ ปาตฺวากาสีติฯ

    Sitaṃ pātvākāsīti mandahasitaṃ pātuakāsi, pakāsayi dassesīti vuttaṃ hoti. Kiṃ pana disvā thero sitaṃ pātvākāsīti? Upari pāḷiyaṃ āgataṃ aṭṭhikasaṅkhalikaṃ ekaṃ petaloke nibbattaṃ sattaṃ disvā. Tañca kho dibbena cakkhunā, na pasādacakkhunā. Pasādacakkhussa hi ete attabhāvā na āpāthaṃ āgacchanti. Evarūpaṃ pana attabhāvaṃ disvā kāruññe kattabbe kasmā sitaṃ pātvākāsīti? Attano ca buddhañāṇassa ca sampattiṃ samanussaraṇato. Tañhi disvā thero ‘‘adiṭṭhasaccena nāma puggalena paṭilabhitabbā evarūpā attabhāvā mutto ahaṃ, lābhā vata me, suladdhaṃ vata me’’ti attano ca sampattiṃ anussaritvā – ‘‘aho buddhassa bhagavato ñāṇasampatti, ‘yo kammavipāko, bhikkhave, acinteyyo na cintetabbo’ti desesi, paccakkhaṃ vata katvā buddhā desenti, suppaṭividdhā buddhānaṃ dhammadhātū’’ti evaṃ buddhañāṇasampattiñca anussaritvā sitaṃ pātvākāsīti.

    อถ ลกฺขณเตฺถโร กสฺมา น อทฺทส, กิมสฺส ทิพฺพจกฺขุ นตฺถีติ? โน นตฺถิ, มหาโมคฺคลฺลาโน ปน อาวเชฺชโนฺต อทฺทส, อิตโร ปน อนาวชฺชเนน น อทฺทสฯ ยสฺมา ปน ขีณาสวา นาม น อการณา สิตํ กโรนฺติ, ตสฺมา ตํ ลกฺขณเตฺถโร ปุจฺฉิ โก นุ โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, เหตุ, โก ปจฺจโย สิตสฺส ปาตุกมฺมายาติ? เถโร ปน ยสฺมา เยหิ อยํ อุปปตฺติ สามํ อทิฎฺฐา, เต ทุสฺสทฺธาปยา โหนฺติ, ตสฺมา ภควนฺตํ สกฺขิํ กตฺวา พฺยากาตุกามตาย อกาโล โข, อาวุโสติอาทิมาหฯ ตโต ภควโต สนฺติเก ปุโฎฺฐ อิธาหํ, อาวุโสติอาทินา นเยน พฺยากาสิฯ

    Atha lakkhaṇatthero kasmā na addasa, kimassa dibbacakkhu natthīti? No natthi, mahāmoggallāno pana āvajjento addasa, itaro pana anāvajjanena na addasa. Yasmā pana khīṇāsavā nāma na akāraṇā sitaṃ karonti, tasmā taṃ lakkhaṇatthero pucchi ko nu kho, āvuso moggallāna, hetu, ko paccayo sitassa pātukammāyāti? Thero pana yasmā yehi ayaṃ upapatti sāmaṃ adiṭṭhā, te dussaddhāpayā honti, tasmā bhagavantaṃ sakkhiṃ katvā byākātukāmatāya akālo kho, āvusotiādimāha. Tato bhagavato santike puṭṭho idhāhaṃ, āvusotiādinā nayena byākāsi.

    ตตฺถ อฎฺฐิกสงฺขลิกนฺติ เสตํ นิมฺมํสโลหิตํ อฎฺฐิสงฺฆาตํฯ คิชฺฌาปิ กากาปิ กุลลาปีติ เอเตปิ ยกฺขคิชฺฌา เจว ยกฺขกากา จ ยกฺขกุลลา จ ปเจฺจตพฺพาฯ ปากติกานํ ปน คิชฺฌาทีนํ อาปาถมฺปิ เอตํ รูปํ นาคจฺฉติฯ อนุปติตฺวา อนุปติตฺวาติ อนุพนฺธิตฺวา อนุพนฺธิตฺวาฯ วิตุเทนฺตีติ อสิธารูปเมหิ ติขิเณหิ โลหตุณฺฑเกหิ วิชฺฌิตฺวา วิชฺฌิตฺวา อิโต จิโต จ จรนฺติ คจฺฉนฺติฯ สา สุทํ อฎฺฎสฺสรํ กโรตีติ เอตฺถ สุทนฺติ นิปาโต, สา อฎฺฐิกสงฺขลิกา อฎฺฎสฺสรํ อาตุรสฺสรํ กโรตีติ อโตฺถฯ อกุสลวิปากานุภวนตฺถํ กิร โยชนปฺปมาณาปิ ตาทิสา อตฺตภาวา นิพฺพตฺตนฺติ, ปสาทุสฺสทา จ โหนฺติ ปกฺกคณฺฑสทิสาฯ ตสฺมา สา อฎฺฐิกสงฺขลิกา พลวเวทนาตุรา ตาทิสํ สทฺทมกาสีติฯ

    Tattha aṭṭhikasaṅkhalikanti setaṃ nimmaṃsalohitaṃ aṭṭhisaṅghātaṃ. Gijjhāpi kākāpi kulalāpīti etepi yakkhagijjhā ceva yakkhakākā ca yakkhakulalā ca paccetabbā. Pākatikānaṃ pana gijjhādīnaṃ āpāthampi etaṃ rūpaṃ nāgacchati. Anupatitvā anupatitvāti anubandhitvā anubandhitvā. Vitudentīti asidhārūpamehi tikhiṇehi lohatuṇḍakehi vijjhitvā vijjhitvā ito cito ca caranti gacchanti. Sā sudaṃ aṭṭassaraṃ karotīti ettha sudanti nipāto, sā aṭṭhikasaṅkhalikā aṭṭassaraṃ āturassaraṃ karotīti attho. Akusalavipākānubhavanatthaṃ kira yojanappamāṇāpi tādisā attabhāvā nibbattanti, pasādussadā ca honti pakkagaṇḍasadisā. Tasmā sā aṭṭhikasaṅkhalikā balavavedanāturā tādisaṃ saddamakāsīti.

    เอวญฺจ ปน วตฺวา ปุน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ‘‘วฎฺฎคามิสตฺตา นาม เอวรูปา อตฺตภาวา น มุจฺจนฺตี’’ติ สเตฺตสุ การุญฺญํ ปฎิจฺจ อุปฺปนฺนํ ธมฺมสํเวคํ ทเสฺสโนฺต ตสฺส มยฺหํ, อาวุโส, เอตทโหสิ อจฺฉริยํ วต โภติอาทิมาหฯ ตโต ภควา เถรสฺส อานุภาวํ ปกาเสโนฺต จกฺขุภูตา วต, ภิกฺขเว , สาวกา วิหรนฺตีติอาทิมาหฯ ตตฺถ จกฺขุ ภูตํ ชาตํ อุปฺปนฺนํ เอเตสนฺติ จกฺขุภูตา, ภูตจกฺขุกา อุปฺปนฺนจกฺขุกา จกฺขุํ อุปฺปาเทตฺวา วิหรนฺตีติ อโตฺถฯ ทุติยปเทปิ เอเสว นโยฯ ยตฺร หิ นามาติ เอตฺถ ยตฺราติ การณวจนํฯ ตตฺรายํ อตฺถโยชนา – ยสฺมา นาม สาวโกปิ เอวรูปํ ญสฺสติ วา ทกฺขติ วา สกฺขิํ วา กริสฺสติ, ตสฺมา อโวจุมฺห – ‘‘จกฺขุภูตา วต, ภิกฺขเว, สาวกา วิหรนฺติ, ญาณภูตา วต, ภิกฺขเว, สาวกา วิหรนฺตี’’ติฯ ปุเพฺพว เม โส, ภิกฺขเว, สโตฺต ทิโฎฺฐติ โพธิมเณฺฑ สพฺพญฺญุตญฺญาณปฎิเวเธน อปฺปมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปฺปมาเณ สตฺตนิกาเย ภวคติโยนิฐิตินิวาเส จ ปจฺจกฺขํ กโรเนฺตน มยา ปุเพฺพว โส สโตฺต ทิโฎฺฐติ วทติฯ

    Evañca pana vatvā puna āyasmā mahāmoggallāno ‘‘vaṭṭagāmisattā nāma evarūpā attabhāvā na muccantī’’ti sattesu kāruññaṃ paṭicca uppannaṃ dhammasaṃvegaṃ dassento tassa mayhaṃ, āvuso, etadahosi acchariyaṃ vata bhotiādimāha. Tato bhagavā therassa ānubhāvaṃ pakāsento cakkhubhūtā vata, bhikkhave, sāvakā viharantītiādimāha. Tattha cakkhu bhūtaṃ jātaṃ uppannaṃ etesanti cakkhubhūtā, bhūtacakkhukā uppannacakkhukā cakkhuṃ uppādetvā viharantīti attho. Dutiyapadepi eseva nayo. Yatra hi nāmāti ettha yatrāti kāraṇavacanaṃ. Tatrāyaṃ atthayojanā – yasmā nāma sāvakopi evarūpaṃ ñassati vā dakkhati vā sakkhiṃ vā karissati, tasmā avocumha – ‘‘cakkhubhūtā vata, bhikkhave, sāvakā viharanti, ñāṇabhūtā vata, bhikkhave, sāvakā viharantī’’ti. Pubbeva me so, bhikkhave, satto diṭṭhoti bodhimaṇḍe sabbaññutaññāṇapaṭivedhena appamāṇesu cakkavāḷesu appamāṇe sattanikāye bhavagatiyoniṭhitinivāse ca paccakkhaṃ karontena mayā pubbeva so satto diṭṭhoti vadati.

    โคฆาตโกติ คาโว วธิตฺวา อฎฺฐิโต มํสํ โมเจตฺวา วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกํ กปฺปนกสโตฺตฯ ตเสฺสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนาติ ตสฺส นานาเจตนาหิ อายูหิตสฺส อปราปริยกมฺมสฺสฯ ตตฺร หิ ยาย เจตนาย นรเก ปฎิสนฺธิ ชนิตา, ตสฺสา วิปาเก ปริกฺขีเณ อวเสสกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารมฺมณํ กตฺวา ปุน เปตาทีสุ ปฎิสนฺธิ นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา สา ปฎิสนฺธิ กมฺมสภาคตาย อารมฺมณสภาคตาย วา ‘‘ตเสฺสว กมฺมสฺส วิปากาวเสโส’’ติ วุจฺจติฯ อยญฺจ สโตฺต เอวํ อุปฺปโนฺนฯ เตนาห – ‘‘ตเสฺสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนา’’ติฯ ตสฺส กิร นรกา จวนกาเล นิมฺมํสกตานํ คุนฺนํ อฎฺฐิราสิเยว นิมิตฺตํ อโหสิฯ โส ปฎิจฺฉนฺนมฺปิ ตํ กมฺมํ วิญฺญูนํ ปากฎํ วิย กโรโนฺต อฎฺฐิสงฺขลิกเปโต ชาโตฯ ปฐมํฯ

    Goghātakoti gāvo vadhitvā aṭṭhito maṃsaṃ mocetvā vikkiṇitvā jīvikaṃ kappanakasatto. Tasseva kammassa vipākāvasesenāti tassa nānācetanāhi āyūhitassa aparāpariyakammassa. Tatra hi yāya cetanāya narake paṭisandhi janitā, tassā vipāke parikkhīṇe avasesakammaṃ vā kammanimittaṃ vā ārammaṇaṃ katvā puna petādīsu paṭisandhi nibbattati, tasmā sā paṭisandhi kammasabhāgatāya ārammaṇasabhāgatāya vā ‘‘tasseva kammassa vipākāvaseso’’ti vuccati. Ayañca satto evaṃ uppanno. Tenāha – ‘‘tasseva kammassa vipākāvasesenā’’ti. Tassa kira narakā cavanakāle nimmaṃsakatānaṃ gunnaṃ aṭṭhirāsiyeva nimittaṃ ahosi. So paṭicchannampi taṃ kammaṃ viññūnaṃ pākaṭaṃ viya karonto aṭṭhisaṅkhalikapeto jāto. Paṭhamaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑. อฎฺฐิสุตฺตํ • 1. Aṭṭhisuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. อฎฺฐิสุตฺตวณฺณนา • 1. Aṭṭhisuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact